หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1471 ศึกชิงอำนาจ

ทวีปเทียนหลัว เมืองเทียนหลัว

เมืองใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของทวีป ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวง เนื่องจากเมืองนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ดังนั้นจึงไม่เคยถูกควบคุมโดยกองกำลังใด ซึ่งเป็นสิ่งที่จัดการร่วมกันโดยขั้วอำนาจสูงสุดทั้งหมดในทวีปเทียนหลัว

แต่ตอนนี้พันธมิตรเทียนหลัวได้ก่อตั้งขึ้น รวบรวมพลังของห้าขั้วอำนาจสูงสุด ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิทธิ์ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงกำหนดให้ที่นี่เป็นสำนักงานใหญ่ในวันที่สองของการจัดตั้ง

ไม่มีใครกล้าออกความเห็นเกี่ยวกับการประกาศเผด็จการของพันธมิตรเทียนหลัว เนื่องจากการรวมกลุ่มของขั้วอำนาจสูงสุดทั้งห้านั้นสร้างความตกตะลึงให้กับพวกเขามากเกินตั้งรับแล้ว

ในอดีตขั้วอำนาจทั้งห้ามองว่าต่างเป็นคู่แข่งกัน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่มีกองทัพทรราชในทวีปเทียนหลัว แต่ด้วยการเติบโตของตำหนักมู่ พวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคาม ดังนั้นพวกเขาจึงจับมือกันเป็นพันธมิตรใหญ่ในทวีป…

ตราบใดที่พวกเขาถือไพ่เหนือกว่าในงานเลี้ยงเทียนหลัว ก็จะไม่มีใครสงสัยว่าพวกเขาจะเป็นผู้ปกครองของทั้งทวีปนี้

ดังนั้นทุกความสนใจจึงพุ่งไป สองวันผ่านไปในพริบตา

เมื่อแสงแดดส่องผ่านชั้นเมฆลงมายังเมืองนี้ ทั้งเมืองก็คึกคักไปด้วยความมีชีวิตชีวา

ร่างแสงนับไม่ถ้วนเคลื่อนผ่าน ดูเหมือนฝูงตั๊กแตนกำลังบุกตัวเมือง

ตอนนี้เมืองเทียนหลัวกลายเป็นจุดสนใจของทั้งทวีปไปแล้ว ดังนั้นเกือบทุกคนจึงมารวมตัวกันที่นี่ เนื่องจากพวกเขารู้ว่างานเลี้ยงนี้อาจจะเป็นการกำหนดตัวเจ้าเหนือหัวแท้จริง…

หลายปีที่ผ่านมาตำหนักมู่ขยายตัวและสร้างชื่อเสียงมากมายภายใต้การนำของมู่เฉินที่สร้างปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนพันธมิตรเทียนหลัวก็มีภูมิหลังที่ทรงพลังเนื่องจากมีขั้วอำนาจสูงสุดทั้งห้าเข้าร่วม ซึ่งดึงดูดความสนใจของทุกคนในมหาพันภพเลยทีเดียว

เมื่อสองขั้วอำนาจที่เป็นอิทธิพลหลักในทวีปเทียนหลัวปะทะกัน จะเกิดผลในการต่อสู้นี้อย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นทั้งทวีปก็จะสงบลงและยินดีต้อนรับเจ้าเหนือหัวคนใหม่

นี่เป็นข่าวใหญ่สำหรับทวีปเทียนหลัวในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา!

ขณะที่เมืองคึกคัก จัตุรัสหยกขนาดใหญ่ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคน…

ฟิ้ว ฟิ้ว!

ภาพเงาจำนวนมากพลิ้วลงมาบนจัตุรัส ทุกคนที่สามารถมาปรากฏตัวที่นี่ล้วนเป็นขั้วอำนาจระดับต้นในทวีปเทียนหลัว

ทว่าขั้วอำนาจที่ปกติจะได้รับการยกย่องวันนี้ไม่เป็นที่สนใจแน่นอน เพราะทุกคนรู้ว่าตัวเอกทั้งสองของเหตุการณ์นี้เป็นขั้วอำนาจทรงพลังทั้งสอง…

สายตานับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปที่จัตุรัส พวกเขาเห็นบัลลังก์ทองคำห้าตัวเปล่งประกายบด้วยรัศมีสีทอง ร่างเงาห้าร่างนั่งบนนั้นมีคลื่นหลิงไร้ขอบเขตแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของพวกเขา ทำให้สวรรค์และโลกสั่นสะเทือน

จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนห้าคน!

การรวมตัวนี้ถือได้ว่ายิ่งใหญ่ตระการตาแม้แต่ในมหาพันภพ ดังนั้นเมื่อวางไว้ในทวีปเทียนหลัวก็น่าทึ่งมากเลยทีเดียว

โดยปกติทั้งห้าเป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลังตัวแทนของตนเองในทวีปเทียนหลัว แต่ด้วยการปรากฏตัวของมู่เฉิน จอมยุทธ์ทรงอิทธิพลเหล่านี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเผยตัว…

“จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนห้าคน… ช่างน่ากลัวอะไรขนาดนี้ ตลอดมาข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีบุคคลที่น่ากลัวเช่นนี้ซ่อนอยู่ในทวีปเทียนหลัวของเรา” ทุกสายตาแสดงความเคารพมองไปที่ร่างเงาทั้งห้าพลางถอนหายใจ

“ดูเหมือนว่าพันธมิตรเทียนหลัวกับตำหนักมู่จะปะทะกันในวันนี้แน่”

“ตำหนักมู่เติบโตรวดเร็วเกินไปและประมุขก็ดุร้ายมาก ว่ากันว่าเมื่อไม่นานมานี้แม้แต่หวงเฉวียนจือจากเผ่าหงส์ฟ้ายังแพ้ในมือเขา”

“ประมุขตำหนักมู่ก็คือมู่เฉินใช่ไหม? ในอดีตเขาเป็นเพียงผู้บัญชาการของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ไม่คิดเลยว่าเขาจะก้าวกระโดดในเวลาเพียงไม่กี่ปี”

“ไม่รู้ว่าใครจะเป็นฝ่ายเหนือกว่าในการต่อสู้ครั้งนี้”

“คงเป็นพันธมิตรเทียนหลัวล่ะมั้ง ไม่ว่าอย่างไรพวกเขามีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนห้าคนเชียวนะ!”

“แต่มู่เฉินก็ไม่ได้เคี้ยวง่าย ความสำเร็จของเขาแต่ละอย่างนั้นไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ”

“ไม่ว่ายังไงงานเลี้ยงเทียนหลัวในวันนี้น่าสนใจแน่…”

“…”

เสียงกระซิบดังก้องไปทั่วเมือง ทุกคนบอกได้ว่าพันธมิตรเทียนหลัวไม่ได้เพียงแค่เชิญตำหนักมู่มางานเลี้ยงเท่านั้น พวกเขายังตั้งใจครอบครองตำแหน่งเจ้าเหนือหัวในทวีปเทียนหลัวอีกด้วย

ประมุขตำหนักมู่เป็นจอมยุทธ์อัจฉริยะที่มีความสำเร็จน่าอัศจรรย์ แล้วเขาจะเป็นคนที่ก้มหัวลงได้อย่างไร? ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าชนวนจะจุดขึ้นในการเผชิญหน้าวันนี้

พร้อมกับเสียงกระซิบโดยรอบ ร่างเงาทั้งห้าบนบัลลังก์ก็ปิดตาลงโดยไม่สนใจการสนทนาใด แต่เมื่อลืมตาขึ้นเป็นครั้งคราวก็จะทำให้มิติรอบๆ แปรปรวน

เวลาค่อยๆ ผ่านไปภายใต้บรรยากาศนี้ ดวงอาทิตย์ก็เคลื่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า…

กีด!

ทันใดนั้นเสียงร้องของหงส์ฟ้าก็ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน

วาบ!

เสียงนั้นดึงดูดความสนใจทั้งหมดไป ทุกคนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่น่ากลัวที่แผ่ออกมา

มากจนแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนทั้งห้ายังต้องหรี่ตามอง

จุดสีดำปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าห่างไกลอย่างรวดเร็ว ในไม่กี่กะพริบตาก็ขยายออกไปจนเห็นเป็นร่างหงส์ฟ้าสีดำ

หงส์ฟ้ากระพือปีกที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีดำ พริบตาก็เข้าใกล้เมือง ทันใดนั้นแรงกดดันสายเลือดที่ทำให้ใบหน้าของหลายคนเปลี่ยนไปก็แผ่ออกมา

“นี่… เทพอสูรเผ่าอะไร?!”

“ช่างเป็นแรงกดดันที่น่ากลัว ไม่ด้อยไปกว่าเผ่าหงส์ฟ้าและเผ่ามังกรเลย!”

ทุกคนในเมืองต่างประหวั่นพรั่นพรึงเมื่อมองดูสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่บนท้องฟ้า พวกเขารู้สึกว่าหัวใจเย็นเยือกลงจากแรงกดดัน

ประมุขทั้งห้าถึงกับขมวดคิ้ว ขณะที่พวกเขาสบตากันด้วยความประหลาดใจ

“นั่นคือ…วิหคอมตะในตำนานหรือ?” ในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับนี้ พวกเขาก็มีความรู้จากประสบการณ์มากกว่าคนอื่น ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ถึงต้นกำเนิดของวิหคสีดำตัวนั้นได้ทันที ความตกใจเกิดขึ้นชั่วครู่จนม่านตาหดลง

พวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่าพลังของวิหคอมตะมาถึงระดับเทียนจื้อจุนขั้นหลิงระยะปลายแล้ว

“ในเมื่อประมุขมู่มาอยู่ที่นี่แล้วก็โปรดแสดงตัวด้วย” ม่านตาสีเทาของกุ่ยตี้มองไปที่วิหคสีดำ เสียงอันเยือกเย็นของเขาก็ดังก้อง

ทันใดนั้นทุกคนก็เลื่อนสายตาตามไป ก็เห็นภาพเงายืนอยู่บนหัวของวิหคสีดำตัวนั้น นี่เป็นใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ปลดปล่อยความกดดันที่ไม่มีที่สิ้นสุดออกมา

เมื่อได้ยินคำพูดของกุ่ยตี้ ร่างเงาอ่อนเยาว์ก็ยิ้มและก้าวออกมา ทันใดนั้นทุกคนก็เห็นภาพเงามาปรากฏขึ้นที่ใจกลางจัตุรัส

จากนั้นวิหคสีดำก็ส่งเสียงร้อง ก่อนที่จะหดตัวกลายเป็นร่างเงาเพรียวบางยืนอยู่ข้างมู่เฉิน

ในเวลาเดียวกันเสียงลมหวีดหวิวก็ดังขึ้น มีคนปรากฏตัวขึ้นด้านหลังมู่เฉินและจิ่วโยว

นี่ก็คือเฉวียนเทียนและมั่นถัวหลัว เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดของตำหนักมู่มาปรากฏตัวในครั้งนี้

เมื่อพวกเขามาถึงทั้งเมืองก็เงียบกริบพร้อมกับสายตาแปลกประหลาดมากมายมารวมตัวกันที่ฝั่งตำหนักมู่

ร่างอ่อนเยาว์ยืนเอามือไพล่หลังมีรอยยิ้มจางๆ โดยไม่แสดงความอ่อนแอใดๆ ต่อจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนทั้งห้า

“ประมุขมู่เป็นจอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริงสามารถก้าวสู่ระดับนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย” กุ่ยตี้มองไปที่มู่เฉินขณะพูด

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา มู่เฉินก็ยิ้ม “ไม่ต้องสนคำทักทายธรรมดาเหล่านั้น สำหรับพันธมิตรเทียนหลัวที่เชิญข้าด้วยการรวมตัวยอดเยี่ยมเช่นนี้ คงไม่ใช่แค่งานเลี้ยงละมั้ง?”

ทั้งห้าแลกเปลี่ยนสายตากัน ตันหยางก็หัวเราะเบาๆ “พวกข้ามีเรื่องที่จะคุยกับเจ้านิดหน่อย…”

เขาหยุดชั่วครู่สีหน้าท่าทางก็เปลี่ยนเป็นเถรตรง “ประมุขมู่น่าจะรู้ว่าพวกข้าลงทุนลงแรงอย่างมากในทวีปเทียนหลัว ดังนั้นเราจึงตัดสินใจยุติการต่อสู้และหวังว่าเจ้าจะหยุดความตั้งใจที่จะปกครองทวีปเทียนหลัว”

“แน่นอนว่าพวกจะให้ค่าตอบแทนแก่เจ้า หลังจากการประชุมพวกข้าตัดสินใจที่จะมอบทวีปเทียนหมังให้กับตำหนักมู่”

เมื่อเสียงของตันหยางดังก้อง ทั่วฟ้าดินก็เงียบลง ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเข้าปอด พันธมิตรเทียนหลัวไม่เกรงใจกันเลยจริงๆ ยื่นข้อเสนอตั้งแต่เริ่ม…

ทุกคนรู้จักทวีปเทียนหมัง ที่นั่นเป็นสถานที่ที่ไม่ไกลจากทวีปเทียนหลัว แต่เป็นทวีปขนาดเล็กและทรัพยากรก็จำกัดจำเขี่ย เมื่อเทียบกับทวีปเทียนหลัวก็เป็นความแตกต่างระหว่างฟ้ากับเหว

ใบหน้าสมาชิกตำหนักมู่เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา การให้ยอมแพ้ต่อทวีปเทียนหลัวและมอบทวีปเทียนหมังให้ พันธมิตรเทียนหลัวคิดว่าพวกเขาสามารถคุมตำหนักมู่ได้หรือ?

สายตานับไม่ถ้วนมองไปที่มู่เฉินที่ยังคงเงียบสงบ หลังจากตันหยางพูดจบเขาก็ยิ้ม

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประมุขทั้งห้าพลางส่ายหัว เสียงยังคงนิ่งเรียบ “ข้าให้เวลาพวกเจ้าหนึ่งวัน ไสหัวไปจากทวีปเทียนหลัวซะ แล้วข้าจะไม่เอาเรื่องในวันนี้”

คำพูดของเขาทำให้ทุกคนเงียบกริบทันตา แต่ละคนมือเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น แม้ว่าพันธมิตรเทียนหลัวจะโหดไปหน่อยกับคำพูด แต่พวกเขาก็ยังคงให้หน้ามู่เฉิน ทว่ามู่เฉินกลับพูดแบบตัดบัวไม่เหลือใย…

ตอนนี้คงไม่มีการพูดคุยกันอย่างสันติแล้ว

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset