จานกระดูกสีเทาปรากฏขึ้นในมือกุ่ยตี้
จานนี้มีผิวเรียบกริบราวกับกระจก ขอบถูกสลักด้วยสัญลักษณ์โบราณที่ปลดปล่อยความผันผวนของคลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัวออกมาเบาบาง
เมื่อจานกระดูกนี้ปรากฏขึ้นมู่เฉินก็หดตาลง สีหน้าเปลี่ยนไปรุนแรง “ความผันผวนนี้…อาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซียน?”
ความผันผวนนั้นทรงพลังแม้ในหมู่อาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซียน ไม่คิดว่ากุ่ยตี้จะมีในครอบครอง… ชัดว่าสิ่งนี้ให้ความมั่นใจมากกับอีกฝ่าย
“ประมุขมู่ ข้าไม่อยากใช้วัตถุนี้หรอกนะ แต่ในเมื่อเจ้าดื้อด้านก็โทษข้าไม่ได้” ถือจานกระดูกไว้ กุ่ยตี้ก็ยิ้มอย่างเย็นชา “แต่ไม่ต้องกังวลเจ้ามีภูมิหลังแข็งแกร่งปานนั้น ดังนั้นข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าจ่ายราคาแพงระยับ!”
มู่เฉินตอบอย่างแผ่วเบาพร้อมกับไม่มีความแปรปรวนบนใบหน้า “เจ้ายังไม่มีพลังพอที่จะทำหรอก”
แม้ว่ากุ่ยตี้จะอยู่ระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลาง แต่ในแง่พลังการต่อสู้ยังปะทะกับหวงเฉวียนจือไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะหวงเฉวียนจือสามารถต่อกรกับจอมยุทธ์ที่มีขุมพลังเหนือกว่าของตนเอง และในเมื่อเขาสามารถเอาชนะหวงเฉวียนจือได้ เขาจึงไม่กลัวกุ่ยตี้เลยสักนิด
เห็นได้ชัดว่ากุ่ยตี้ทราบข้อเท็จจริงนี้ดี ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงรวมพลังกับประมุขอีกสี่คนเพื่อต่อสู้กับมู่เฉิน
“งั้นก็ลองดู!”
เมื่อได้ยินเสียงไม่แยแสของมู่เฉิน สีหน้าน่ากลัวก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้ากุ่ยตี้ มือของเขาประสานกันอย่างรวดเร็ว จานกระดูกในมือทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ขยายขนาดเป็นพันจั้ง
“รวมพลังกัน!”
กุ่ยตี้ตะโกนพลางมองไปที่ประมุขอีกสี่คน
ประมุขอีกสี่คนก็รู้ว่าจานกระดูกนี้ทรงพลังเพียงใด ดังนั้นพวกเขาจึงพยักหน้า ห้าร่างเวทสวรรค์ปลดปล่อยเสาแสงขนาดใหญ่ห้าเสาเข้าไปในจานกระดูกขนาดใหญ่นั่น
ฮึ่ม ฮึ่ม!
ระลอกคลื่นพุ่งเข้าในจานกระดูก เกิดระลอกคลื่นด้านบน ความผันผวนที่อธิบายไม่ได้รวมอยู่ภายใน
มิติโดยรอบแสดงร่องรอยการยุบตัวราวกับว่าไม่สามารถทนต่อความผันผวนของคลื่นหลิงได้
เมื่อจิ่วโยวและเฉวียนเทียนเห็นฉากนี้ ใบหน้าก็เปลี่ยนไป พวกเขารู้สึกได้ว่าจานกระดูกนี้ได้รวบรวมพลังของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนทั้งห้าคนเอาไว้
ต้องรู้ว่าทั้งห้าทรงพลัง ด้วยพลังที่มารวมกันก็จะทำให้เกิดการปฏิเสธตามธรรมชาติ ทว่าจานกระดูกนี้สามารถรวมเข้าด้วยกันได้จริง
ดังนั้นการโจมตีนี้จึงเทียบไม่ได้กับเมื่อก่อนอีกหน้า ซึ่งเป็นการหลอมรวมสมบูรณ์ระหว่างพลังห้าสายและเป็นสิ่งที่สามารถสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลางได้เลยทีเดียว
ชัดว่านี่น่าจะเป็นไพ่ตายของประมุขทั้งห้า
ขั้วอำนาจอื่นโดยรอบจัตุรัสก็สังเกตเห็นสถานการณ์นี้เช่นกัน การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปรุนแรง
พวกเขารู้ดีว่าผลของการต่อสู้ครั้งนี้จะกำหนดตัวเจ้าเหนือหัวทวีปเทียนหลัวแล้ว…
“เมื่อดูสถานการณ์นี้ ประมุขมู่กำลังตกอยู่ในอันตราย ประมุขทั้งห้าได้รวมพลังผ่านจานกระดูก ไม่ต้องพูดถึงระดับเทียนจื้อจุนขั้นหลิงระยะกลาง แม้แต่ขั้นเซียนระยะกลางก็ตายคาที่หากประมาท”
“ประมุขมู่ยังเด็กเกินไป ขณะประมุขทั้งห้าเป็นเฒ่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ถ้าพวกเขาไม่มีไม้เด็ดสักใบสองใบจะยั่วโมโหอีกฝ่ายทำไม…”
“ถ้าประมุขมู่แพ้ ตำหนักมู่ก็ต้องออกจากทวีปเทียนหลัว การทำงานหนักทั้งหมดของพวกเขาก็ละลายไปในทะเล…”
ทว่ามู่เฉินกลับเพิกเฉยต่อความวุ่นวาย ดวงตาหรี่ลงมองไปที่จานกระดูก ความผันผวนของคลื่นหลิงที่รวมตัวกันทำให้แม้แต่เขาก็ไม่สามารถประมาทได้
ครืนๆๆๆ!
คลื่นหลิงไร้ขอบเขตรวมตัวกันในกระจกก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายฟ้า มันส่องประกายและแผ่ซ่านด้วยความผันผวนของการทำลายล้าง
กุ่ยตี้ยืนอยู่ใต้กระจก ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาจากคลื่นหลิง ก่อนที่เขาจะมองไปที่มู่เฉินจากนั้นโบกมือเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม
“แกลองทดสอบความสามารถของกระจกรวมเทพโบราณหน่อยเถอะ”
จานกระดูกสั่นไหวเล็งเป้าไปที่มู่เฉิน
ตู้ม!
อึดใจต่อมาคลื่นหลิงพร่างพราวก็รวมตัวกันป่าเถื่อนรอบกระจกกระดูก ก่อนที่จะหดตัวลงอย่างรวดเร็ว สิบกว่าลมหายใจสั้นๆ เสาพลังหลายพันจั้งก็กลายเป็นลำแสงขนาดเท่าฝ่ามือพุ่งออกไป
แม้ว่าจะลดขนาดลง แต่ลำแสงสีเงินก็ฉีกผ่านสวรรค์และโลกทำลายทุกสิ่งที่ขวางทาง
เมื่อมองไปที่ลำแสงสีหน้าของมู่เฉินก็เคร่งขรึมมาก เขารู้สึกถึงไอเยือกเย็นจากเจตนาสังหารบนลำแสงนั้น
ฮา
มู่เฉินหายใจเข้าลึกๆ มือประสานเข้าด้วยกัน รัศมีจั้นยี่ดุเดือดก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า จากนั้นก็หลั่งไหลเข้าไปในวิญญาณสงครามมังกร
เมื่อมีการเพิ่มขึ้นของรัศมีจั้นยี่ปริมาณมาก สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ก็เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น
ที่สำคัญที่สุดคือจำนวนลวดลายจั้นเหวินก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
สิบล้าน… สามสิบล้าน… สี่สิบล้าน…
ด้วยพลังในปัจจุบันของมู่เฉิน เขาสามารถสร้างลวดลายจั้นเหวินได้แล้วในระดับสิบล้าน พูดโดยทั่วไประดับสิบล้านก็เทียบเท่ากับระดับเทียนจื้อจุนขั้นหลิง
เมื่อถึงสี่สิบล้านลายก็เปรียบได้กับระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียน!
ยามนี้มู่เฉินได้ดึงพลังทั้งหมดของกองทัพมังกรดำออกมาโดยไม่รั้งไว้แล้ว
ฟิ้ว!
จังหวะนั้นลำแสงสีเงินขนาดเท่าฝ่ามือก็ยิงเข้ามา
โฮก!
รัศมีจั้นยี่มังกรปล่อยเสียงคำราม อ้าปากสูดลมหายใจ ลมหายใจมังกรมีลวดลายจั้นเหวินสี่สิบล้านลายเลยทีเดียว
ตึง!
ปราณมังกรเชี่ยวกรากปะทะกับลำแสงสีเงิน แต่เมื่อเกิดการโรมรัน ปราณมังกรเชี่ยวกรากก็พังทลายลงอย่างรวดเร็ว
ลำแสงสีเงินทำลายปราณมังกรทั้งหมดที่ขวางหน้า
“แม้ว่าลวดลายจั้นเหวินสี่สิบล้านลายจะน่ากลัว แต่ก็ไร้เดียงสาเกินไปที่แกคิดว่าจะเอาชนะพวกข้าห้าคนได้!” กุ่ยตี้ยิ้มเยาะเมื่อเห็นพลังทำลายล้างของลำแสงสีเงิน
เมื่อมองไปที่ปราณมังกรที่สลายลงจากลำแสงสีเงิน มู่เฉินก็ไม่มีสีหน้าใด เขาหายใจเข้าลึกสะบัดนิ้วออก รัศมีเปล่งประกายออกมาจากแหวน
แสงกระจายออกจากเบื้องหลัง นักรบมังกรดำห้าพันคนก็ปรากฏตัวขึ้น
ตอนแรกเขาคิดจะกั๊กไว้ แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องทุ่มหมดหน้าตักแล้ว
“เร้ารัศมีจั้นยี่ออกมาทั้งหมด!” เสียงของมู่เฉินดังก้องในโสตประสาทของนักรบมังกรดำทุกคน ดวงตาของพวกเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงพลางตะโกนรับ
ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม!
ลำแสงหนึ่งหมื่นห้าพันสายทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ลำแสงทุกเส้นควบแน่นและทนทาน สุดท้ายก็พุ่งเข้าสู่รัศมีจั้นยี่มังกร
โฮก!
มังกรส่งเสียงคำรามและขยายขึ้นอีกครั้ง ขณะเดียวกันจำนวนลวดลายจั้นเหวินก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน…
สี่สิบล้าน… สี่สิบห้าล้าน…
พร้อมกับความเร็วบ้าคลั่งของจำนวนลวดลายจั้นเหวินที่เพิ่มมากขึ้น ความกดดันที่น่ากลัวก็แผ่กระจายทำให้ท้องฟ้ามืดลง
เมื่อมองไปที่ฉากนี้ใบหน้าของประมุขทั้งห้าก็เปลี่ยนไป ลวดลายจั้นเหวินสี่สิบห้าล้านลายเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลางยังรู้สึกหนังหัวชาหนึบ
“ไอ้เด็กนี่เป็นตัวปัญหาจริงๆ!”
กุ่ยตี้ขบฟันพลางสร้างตราประทับทันที ลำแสงสีเงินเพิ่มความเร็วขึ้นขณะพุ่งเข้าหามังกร
มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองมังกรด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด เขาถึงขีดสุดในการควบคุมลวดลายจั้นเหวินแล้ว
สายตาของเขาจับจ้องไปที่มังกร ลวดลายจั้นเหวินยังคงเพิ่มขึ้น พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของเส้นเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาเขา…
ลวดลายจั้นเหวินห้าสิบล้านลาย…
ในที่สุดก็หยุดลงที่จำนวนนี้ เลือดไหลออกมาจากดวงตาของมู่เฉิน เขาเช็ดออกพลางถอนหายใจยาวๆ
นี่เป็นขีดสุดของกองทัพมังกรดำแล้ว บางทีอาจจะด้อยกว่าสภาพพร้อมรบในอดีต แต่ก็เป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลางยังไม่กล้าประมาท
สำหรับจอมยุทธ์ที่อยู่ใต้ระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลางจะถูกสังหารทันที
“ไป”
มู่เฉินลูบขมับด้วยความเหนื่อยล้า ไอสังหารพลุ่งพล่านในดวงตาขณะที่ชี้นิ้วออกไป
โฮก!
ภายใต้สายตาตกตะลึงมากมาย พริบตามังกรก็กลายเป็นริ้วแสงสีเทาปะทะกับลำแสงสีเงิน…