หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1483 ฉินตงไห่

ตึง!

ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ระเบิดออก กลายเป็นประกายสีทองกระจายไปทั่วท้องฟ้า

อ็อก

ภาพเงาหนึ่งพุ่งออกมาลากรอยลึกไปบนพื้น เขากระอักเลือดพร้อมกับรัศมีลดลง จากนั้นก็นอนพังพาบในหลุมลึกด้วยอาการบาดเจ็บปางตาย

เมื่อจอมยุทธ์สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง เจดีย์วั้นกู่ก็จะสัมผัสได้ มิติรอบๆ ตัวเขาบิดเบี้ยว จากนั้นก็ถูกส่งออกไปด้านนอก

เมื่อเขาถูกส่งออกไปก็มีลำแสงสีม่วงทองยิงออกมาจากกลางหว่างคิ้ว

ร่างหนึ่งพลิ้วลงมาจากท้องฟ้า คว้าลำแสงนั้นก่อนที่ภาพเงาขนาดยักษ์ที่อยู่ข้างหลังจะกลืนกินลงไป

เมื่อได้กลืนกินรัศมีอมตะ รัศมีของร่างเทพสุริยะนิรันดร์ก็ยิ่งลึกซึ้งพร้อมกับรัศมีอมตะกลั่นตัวหนาแน่นมากขึ้น ซึ่งทำให้ร่างยักษ์แข็งแกร่งขึ้นไปอีก

“รัศมีอมตะดวงที่สี่…”

เงานี้ก็คือมู่เฉิน เขามองร่างเทพสุริยะนิรันดร์ของตนเองที่ลึกซึ้งมากขึ้นด้วยสายตาชื่นชม จนถึงตอนนี้เขาจัดการคู่แข่งไปได้สี่คนและได้รับแก่นอมตะจากพวกเขามา

ร่างเทพสุริยะนิรันดร์แข็งแกร่งขึ้นสองส่วนจากการกลืนกินแก่นอมตะทั้งสี่…

อย่าได้ประมาทสองส่วนที่ว่า เนื่องจากร่างเทพสุริยะนิรันดร์ของมู่เฉินมาถึงขีดสุดแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะขัดเกลาให้ดีขึ้น โดยไม่ต้องพูดถึงการเพิ่มขึ้นสองส่วนในช่วงเวลาแค่หนึ่งก้านธูป

ทว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากเขาสามารถชิงแก่นอมตะมาจากจอมยุทธ์ทั้งหมดได้ ความแข็งแกร่งของร่างเทพสุริยะนิรันดร์ของเขาจะเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นที่น่ากลัว

เพียงแค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดวงตาของมู่เฉินก็ลุกโชนด้วยความตื่นเต้น

ฮึ่ม ฮึ่ม

ทันใดนั้นเขารู้สึกถึงความผันผวนมิติรุนแรง ทิวทัศน์โดยรอบของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

มู่เฉินไม่ตกใจกับภาพนี้ เขาหรี่ตาลงพึมพำ “ตกรอบไปแล้วครึ่งหนึ่งรึ? เร็วอะไรปานนี้…”

เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะครึ่งหนึ่งของจอมยุทธ์ที่ฝึกฝนร่างเทพสุริยะนิรันดร์ในเจดีย์ถูกกำจัดออกไป

หากการกำจัดยังคงดำเนินต่อไป เขาก็จะสามารถไปถึงชั้นที่สถิตของร่างมหาเทพนิรันดร์ได้

มิติโดยรอบบิดเบี้ยว จากนั้นค่อยๆ กลับมาชัดเจน ขณะนี้ภูมิประเทศได้เปลี่ยนเป็นแนวเทือกเขานับไม่ถ้วนแล้ว

มู่เฉินยืนอยู่บนยอดเขาหนึ่ง เมื่อทิวทัศน์โดยรอบเสถียรขึ้น เขามองไปข้างหน้าก็เห็นร่างเงาสองร่างตรงนั้น

คนหนึ่งมีขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงระยะปลาย ไม่ได้น่าสนใจนัก ดังนั้นความสนใจของมู่เฉินจึงมุ่งไปที่อีกคน

เขาเป็นชายสวมชุดสีน้ำเงินพร้อมกับดวงตาแหลมคม เพียงแค่เหลือบมองมู่เฉินก็สามารถบอกได้ว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา เขามีขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลาง โดยตัดสินได้จากความผันผวนของคลื่นหลิงรอบตัว

เมื่อมู่เฉินมองไปที่ชายชุดสีน้ำเงิน อีกฝ่ายก็มองมาเช่นกัน เมื่อเขาเห็นมู่เฉินก็อึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะคลี่ยิ้ม “ไม่คิดว่าจะได้พบผู้โด่งดังอย่างประมุขตำหนักมู่ที่นี่”

“เจ้าคือ?” มู่เฉินถามโดยไม่มีอารมณ์ใดบนใบหน้า

“ข้าชื่อฉินตงไห่ ไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไร ก็แค่อยู่อันดับหกรองจากเจ้า” ฉินตงไห่จ้องมองไปที่มู่เฉินอย่างไม่เกรงกลัว สาดสายตาพิจารณาใส่ด้วยซ้ำ

“อ้อ”

มู่เฉินพยักหน้าด้วยสีหน้าสงบ

เมื่อจอมยุทธ์อีกคนเห็นทั้งสองประจันหน้ากัน เขาก็ถอยห่างออกไปเงียบๆ จากนั้นเผ่นแน่บไป

มู่เฉินเพียงแค่เหลือบ แต่ไม่ได้ไล่ตามเพราะเขารู้สึกได้ว่าฉินตงไห่เล็งเป้ามาที่เขาแล้ว

“เจ้าคิดจะต่อสู้กับข้ารึ?” มู่เฉินถาม

“ข้าต้องการทดสอบว่าเจ้ามีความสามารถแค่ไหนที่อยู่อันดับหน้าข้า” ฉินตงไห่ตอบกลับไม่ใส่ใจก่อนที่จะยิ้ม “ทำไม? หรือว่าเจ้ากลัว”

มู่เฉินยิ้มตอบ “ข้ากลัวว่าเจ้าจะวิ่งหนีหางจุกตูดเอาน่ะสิ การได้เจอปลาตัวใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

จากการรับรู้ของเขาแก่นอมตะของฉินตงไห่หนาแน่นกว่าคนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายก็เอาชนะคู่แข่งมาหลายรายและชิงแก่นอมตะของพวกเขา

ดังนั้นแม้ว่าฉินตงไห่จะไม่เริ่มก่อน แต่มู่เฉินก็ไม่คิดปล่อยอีกฝ่ายไป เพราะการเอาชนะคนผู้นี้ได้ก็หมายความว่าเขาจะได้รับแก่นอมตะเทียบได้กับจอมยุทธ์หลายคน

ขณะที่มู่เฉินและฉินตงไห่ประจันหน้ากัน ผู้ชมที่อยู่นอกเจดีย์วั้นกู่ต่างก็เห็นภาพนี้ สายตาของพวกเขาถูกดึงดูดไปทันที

“อ้าว นั่นฉินตงไห่กับมู่เฉิน… ฉินตงไห่มีชื่อเสียงมานานแล้วและความสำเร็จของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ามู่เฉินเลย…”

“ใช่ เขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลางบวกกับร่างเทพสุริยะนิรันดร์ เขาก็สามารถเอาชนะผู้คนมากมายในขุมพลังเดียวกันในอดีต”

“ไม่รู้ว่าใครจะหัวเราะเป็นคนสุดท้าย?”

การสนทนาเกิดขึ้นรอบๆ เจดีย์ ในที่สุดก็มีจอมยุทธ์ในทำเนียบสองคนเผชิญหน้ากัน

การปะทะของคู่นี้น่าสนใจกว่าคู่อื่นๆ อย่างแน่นอน

“ในที่สุดไอ้หนูก็ได้เจอคู่ต่อสู้สมน้ำสมเนื้อมั่ง ฉินตงไห่ไม่ใช่ธรรมดา” ฝูถูเฉวียนหรี่ตาลงขณะมองไปที่กระจก

ชิงเหยี่ยนจิ้งอมยิ้มตอบว่า “ก็แค่ฉินตงไห่ เขายังไม่มากพอที่จะคุกคามเฉินเอ๋อได้”

ฝูถูเฉวียนเอ่ยกระแทก “เจ้ากำลังยกหางลูกตัวเอง!”

“เพราะลูกชายข้ามีคุณสมบัตินะสิ” ชิงเหยี่ยนจิ้งเบ้ปาก ไม่ได้ใส่ใจอะไร

“งั้นข้าขอดูการประลองของพวกเขาหน่อย ครั้งนี้ไม่มีค่ายกลให้เขาใช้แล้ว” ฝูถูเฉวียนเค้นเสียงขึ้นจมูก เขายังคงรู้สึกขุ่นเคืองใจกับมู่เฉินที่แอบใช้ค่ายกลปราบปรามผู้อาวุโสสองตระกูลตอนอยู่ที่เผ่าฝูถู

 

ตู้ม!

คลื่นหลิงทรงพลังกวนตัวเป็นพายุ ขณะที่กวาดไปรอบตัวฉินตงไห่ ทำให้มิติบิดเบี้ยว รอยแตกกระจายออกไปบนภูเขาที่อยู่ใต้เท้าเขา

การระเบิดพลังของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลางสั่นสะเทือนโลกอย่างเป็นธรรมชาติ

เมื่อมู่เฉินมองไปที่ฉินตงไห่ก็เลิกคิ้ว การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าตี้กุ่ยซึ่งเป็นจอมยุทธ์ระดับเดียวกัน

“แม้ว่าข้าอาจจะด้อยกว่าสี่อันดับแรก แต่ก็ไม่มีใครที่อยู่ใต้พวกเขาสามารถคุกคามข้าได้!” เสียงของฉินตงไห่ดังก้องราวกับฟ้าคำรนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

มู่เฉินคลี่รอยยิ้มตอบว่า “ข้าไม่เหมือนเจ้า กระทั่งสี่คนนั่นก็ไม่สามารถหยุดข้าได้”

ฉินตงไห่หรี่ตาลงส่งเสียงเยาะเย้ยขึ้นจมูก คำพูดของมู่เฉินทำให้เขาดูขาดความมั่นใจไปเลย เพราะไม่กล้าสู้กับสี่อันดับแรก

“งั้นข้าจะดูว่าแกมีคุณสมบัติในการพูดคำเหล่านี้ไหม!”

แววตาของฉินตงไห่วาววับขณะสร้างตราประทับ เสื้อคลุมของเขาโบกสะบัด มหาสมุทรคลื่นหลิงไร้ขอบเขตแผ่ออกไป ทำให้มิติพังทลาย

“ทะเลปีกตะวันออก!”

ฉินตงไห่คำราม คลื่นหลิงสีน้ำเงินเติมเต็มไปทั่วบริเวณขณะที่กดไปยังมู่เฉิน

มหาสมุทรปิดผนึกทุกเส้นทางหลบหนีและอัดแน่นด้วยกระแสน้ำเชี่ยวกราก ซึ่งจะทำให้สูญเสียคลื่นหลิงอย่างรวดเร็วหากถูกขังไว้

มู่เฉินมีท่าทางสงบพลางหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดปากขึ้น

เพลิงม่วงกลืนวิญญาณ!

ฟู่ ฟู่!

พริบตาเพลิงสีม่วงร้อนระอุก็พ่นออกมา ก่อตัวเป็นวงพุ่งออกไป บนทางผ่านของเพลิงมหาสมุทรขนาดใหญ่ก็ถูกแผดเผาอย่างรวดเร็ว

เมื่อฉินตงไห่เห็นภาพนี้ สายตาก็เย็นเยือกลงก่อนที่จะวาดกระบวนท่า

“ทักษะมังกรทะเล!”

โฮก!

มิติฉีกออกเป็นชิ้นๆ ราวกับแม่น้ำสวรรค์ไหลลงมา ก่อตัวเป็นมังกรแปดตัวขณะที่พวกมันคำราม

“มุกบาดาล!”

มหาสมุทรเชี่ยวกรากบรรจบกันระหว่างฝ่ามือของฉินตงไห่ จากนั้นก็ถูกบีบอัดจนกลายเป็นลูกกลมสีน้ำเงินเข้มแล้วพุ่งขึ้นอย่างดุเดือดราวกับว่าบรรจุไปด้วยมหาสมุทร

ในเวลาเพียงสิบกว่าลมหายใจ ฉินตงไห่ได้ใช้ทักษะเทพสองกระบวนท่า การเคลื่อนไหวที่น่าตกใจนี้สามารถกวาดจอมยุท์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลางออกไปได้เลยทีเดียว

“ไป!”

มังกรคำรามลั่นพร้อมกับลูกกลมสีน้ำเงินเข้มบินไปหาหว่างคิ้วมู่เฉิน

ทว่ามู่เฉินก็ไม่เคลื่อนไหวอะไร ที่ด้านหลังรังสียุ่งเหยิงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะกวาดลงมาเบื้องหน้า

ในเส้นทางของรังสี มังกรและลูกกลมก็หายไป…

เมื่อฉินตงไห่มองที่ฉากนี้ใบหน้าเขาก็เขียวคล้ำลง เขาเผยไพ่ตายทั้งหมดออกมา ทว่ามู่เฉินเพียงแค่ยืนนิ่งก็สามารถรับการโจมตีได้

ช่องว่างระหว่างพวกเขาสองคนคำว่ามหาศาลยังไม่เรียกว่าพอ

“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะทรงพลังขนาดนี้!”

ฉินตงไห่ปฏิเสธที่จะเชื่อในความจริง ดังนั้นเขาจึงคำรามและเรียกร่างเทพสุริยะนิรันดร์ออกมา

เผชิญหน้ากับกระบวนท่าทรงพลังของมู่เฉิน เขาไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากใช้ร่างเทพสุริยะนิรันดร์

“ในที่สุดก็ใช้ร่างเทพสุริยะนิรันดร์แล้วเรอะ?”

มู่เฉินยิ้มขณะที่ยื่นมือออกมาเคาะลงบนอากาศ

ฮึ่ม ฮึ่ม!

เมื่อปลายนิ้วของมู่เฉินแตะลง ฉินตงไห่ก็เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจทันทีที่เห็นเจดีย์ผลึกแก้วกดลงมาพร้อมกับเงาขนาดใหญ่ห่อหุ้มทั้งตัวเขาและร่างเทพสุริยะนิรันดร์…

“แปะ!”

มู่เฉินดีดนิ้วส่งเสียงสะท้อนไปมาในอากาศ

“วิชาเจดีย์แปดองค์”

ตู้ม ตู้ม!

เจดีย์ผลึกแก้วสั่นสะเทือนรุนแรงพร้อมกับความผันผวนของคลื่นหลิงป่าเถื่อน ทำให้มิติโดยรอบพังทลายลง

แรงสั่นสะเทือนคงอยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะค่อยๆ หยุดลง มู่เฉินฉายสีหน้าสงบพลางโบกมือเจดีย์ก็พุ่งกลับมา

ในมิติที่ยุบลง ร่างเงาของฉินตงไห่ก็หายไปเหลือเพียงรังสีสีม่วงทองแข็งแกร่ง

มู่เฉินยื่นมือออกมาพร้อมกับรอยยิ้มพอใจ เมื่อสัมผัสถึงความหนาแน่นของรังสี ก่อนที่เขาจะหันกลับจากไป…

เมื่อมู่เฉินเอาชนะฉินตงไห่เรียบร้อย ทุกคนที่อยู่นอกเจดีย์วั้นกู่ต่างก็ตกตะลึงกับฉากนี้ บรรยากาศเงียบกริบ

ไม่มีใครคิดว่าการต่อสู้ที่คาดว่าจะดุเดือดจะจบลงอย่างรวดเร็วปานนี้…

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset