หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1500 กายานิรันดร์

“ของขวัญ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของจิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่ดวงตาของมู่เฉินก็กะพริบด้วยความตื่นเต้น

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่คลี่ยิ้มพลางโบกมือมิติโดยรอบก็เปลี่ยนไป ที่นี่ราวกับท้องฟ้าสีทองที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวโบราณ ดวงดาวพริบพราวแสงนับไม่ถ้วน

หมอกสีทองเข้มลอยอวลไปทั้ว ทั้งลึกลับและอัศจรรย์ใจ ให้ความรู้สึกอมตะ เห็นได้ชัดว่าเกิดจากแก่นอมตะ

“แม้ว่าเจ้าจะเป็นเจ้าของคนใหม่ของร่างมหาเทพนิรันดร์ แต่ยังไม่สามารถดึงพลังออกมาอย่างเต็มที่” จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่บอกกล่าว

มู่เฉินพยักหน้ากับคำพูดเหล่านั้น แม้ว่าเขาจะสามารถสั่งการร่างมหาเทพนิรันดร์ได้เมื่อก่อนหน้า แต่เขาก็เหมือนคนนอกที่ยังไม่ได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์

แต่ก่อนเขาสามารถรวมเป็นหนึ่งกับร่างเทพสุริยะนิรันดร์ได้ ซึ่งจะปลดปล่อยพลังที่เหนือล้ำยิ่งขึ้น

ตามการคาดเดา ร่างมหาเทพนิรันดร์ในตอนนี้สามารถเทียบได้กับจอมยุทธ์เทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะต้นปลายสุด แต่ชัดว่าพลังระดับนี้ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดของมัน

เขาต้องการควบคุมร่างมหาเทพนิรันดร์ได้เช่นเดียวกับร่างเทพสุริยะนิรันดร์ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดเขารู้สึกว่ามีกำแพงกั้นอยู่

“นั่นเป็นเพราะตอนนี้กายของเจ้ายังเป็นแค่กายเนื้อธรรมดา ดังนั้นจึงไม่สามารถเชื่อมโยงกับร่างมหาเทพนิรันดร์ และทำให้ไม่สามารถปลดปล่อยพลังออกมา”

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่ยิ้มขณะพูดต่อ “เจ้ายังขาดขั้นตอนที่สำคัญที่สุดไป”

“ขั้นไหน?” มู่เฉินถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“การชำระร่างกายให้เป็นกายานิรันดร์ เพื่อให้เกิดการหลอมรวมที่สมบูรณ์แบบกับร่างมหาเทพนิรันดร์” จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่ตอบกลับ

หัวใจของมู่เฉินสั่นสะท้าน เขาเคยฝึกฝนวิชาพลังกาย ดังนั้นจึงรู้ว่าการได้รับกายานิรันดร์ยากเพียงใด ซึ่งเป็นระดับที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งธรรมดายังไม่สามารถฝึกฝนได้สำเร็จ

ด้วยกายานิรันดร์ ในอนาคตแม้ว่าจะต่อสู้กับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง มู่เฉินก็สามารถรับกระบวนท่าไว้ได้ด้วยพลังกายเพียงอย่างเดียว

“ผู้อาวุโส ข้าจะชำระร่างกายให้เป็นกายานิรันดร์ได้อย่างไร?” มู่เฉินถามด้วยดวงตาที่ลุกโชน

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่ยิ้ม “ง่ายมาก โดยธรรมชาติก็ต้องใช้แก่นอมตะที่ฝึกฝนร่างเทพสุริยะนิรันดร์ ด้วยแก่นอมตะจำนวนมากที่นี่ ส่วนหนึ่งก็มีไว้สำหรับเจ้าของใหม่เพื่อชำระพลังกายของเขานั่นเอง”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ มู่เฉินก็เต็มไปด้วยความสุข แม้ว่าจิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่จะพูดแบบสบายๆ แต่เขาก็รู้ว่าสิ่งนี้ยากแค่ไหน แก่นอมตะเป็นสิ่งที่สามารถหาได้จากร่างเทพสุริยะนิรันดร์เท่านั้น การพยายามรวบรวมจำนวนมากจำเป็นต้องมีการสกัดจากร่างเทพสุริยะนิรันดร์นับไม่ถ้วน หากไม่ใช่เจดีย์วั้นกู่เก็บรวบรวมไว้ ความพยายามชำระร่างกายของเขาให้เป็นกายานิรันดร์ก็เป็นเพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ เท่านั้น

“แต่การชำระกายานิรันดร์เป็นการสร้างขึ้นใหม่ในทางปฏิบัติ ความเจ็บปวดไม่อาจพรรณนาได้ หากเจ้าไม่สามารถทนรับได้ ก็ต้องใช้เวลานานในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมาย” จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่ย้ำเตือน

มู่เฉินถามด้วยสายตาแหลมคมขึ้น “ต้องใช้เวลาในการชำระนานแค่ไหน?”

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่ยิ้มพลางยื่นมือออกไป “โดยประมาณน่าจะต้องใช้เวลาห้าปี”

มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเย็นเข้าปอด นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องอยู่ในเจดีย์วั้นกู่ห้าปีเต็มหรือ? ถ้าอยู่ที่อื่นก็ว่าไปอย่าง แต่ที่นี่คือเผ่าหมัวเฮอ ถ้าเขาอยู่ที่นี่นานเกินไป เขากลัวว่าเผ่าหมัวเฮอจะทำอะไรบางอย่าง

ดังนั้นคิ้วมู่เฉินจึงขมวดเข้าหากันแน่น

“เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา เจ้าไม่สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างภายในกับภายนอกหรือ?” จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เมื่อถูกเตือนความจำ ใบหน้าของมู่เฉินก็เปลี่ยนไปพลางมองไปที่ท้องฟ้าทางช้างเผือกด้วยความตกใจ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เวลาที่นี่ต่างออกไปหรือ?”

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่พยักหน้าตอบว่า “ท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์ชะลอเวลาในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นการอยู่ที่นี่ห้าปีเท่ากับครึ่งปีภายนอกเท่านั้น”

เมื่อได้ยินมู่เฉินก็รู้สึกโล่งใจเนื่องจากเวลานั้นเขายอมรับได้ ทว่าเขาก็ยังตกใจเกี่ยวกับวิธีนี้ สมกับเป็นจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของมหาพันภพในสมัยโบราณจริงๆ

“ถ้าอย่างนั้นได้โปรดช่วยข้าสร้างกายานิรันดร์ด้วย” มู่เฉินประสานมือด้วยมารยาท

นี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับเขา เนื่องจากกายานิรันดร์เป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการแม้แต่กับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง ด้วยพลังกายที่ทรงประสิทธิภาพเช่นนี้ เขาจะสามารถก้าวขึ้นไปในอันดับต้นๆ ในแง่ของความทนทึก

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่รับการคารวะจากมู่เฉินจากนั้นก็โบกมือให้ รัศมีสีม่วงทองไร้ขอบเขตกวาดไป ก่อตัวเป็นหม้อกลั่นขนาดใหญ่

ฟู่

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่อ้าปากพ่นเปลวไฟครอบคลุมหม้อเอาไว้ อุณหภูมิทำให้มิติบิดเบี้ยวไปเลย

“ลงหม้อ” จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่กล่าวสั้นๆ

เมื่อมองไปที่หม้อกลั่นแดงจัด คิ้วของมู่เฉินก็กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ แม้แต่เขายังรู้สึกเจ็บแปลบบนผิวกายจากอุณหภูมิที่น่ากลัว เขานึกได้เลยว่าจะต้องทนกับความเจ็บปวดแค่ไหนเมื่อเข้าไป

ทว่ามู่เฉินไม่ใช่คนอ่อนแอ ดังนั้นหลังจากตั้งสติสักครู่เขาก็ไม่ลังเลกระโจนเข้าไปในหม้อทันที

ชี่ ชี่!

ทันทีที่เข้าไปเสื้อผ้าและเส้นผมก็ไหม้เป็นเถ้าถ่าน ร่างเขาเปลือยเปล่าและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง มีร่องรอยการละลายกระจายออกไป

ความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้ถาโถมเข้ามา

ร่างกายของมู่เฉินสั่นสะท้านจากความเจ็บปวด แต่เขาก็ปกป้องสติเอาไว้มั่น เขารู้ดีว่าถ้าจิตใต้สำนึกถูกเผาผลาญไปด้วยการชำระพลังกายก็จะล้มเหลว

ตัวเขาเดินบนเส้นทางความเป็นความตายนับตั้งแต่เขาออกจากสำนักศึกษาเป่ยหลิงจนประสบความสำเร็จในวันนี้… และตอนนี้ความฝันของเขาก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม ดังนั้นเขาจะต้องยืนหยัดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ความมุ่งมั่นวูบไหวในดวงตาของมู่เฉิน ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ปิดตา ปล่อยให้อุณหภูมิสูงห่อหุ้มร่างกายเอาไว้

เมื่อจิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่เห็นภาพนี้ก็พยักหน้า ในเมื่อจอมยุทธ์คนนี้ถูกเลือกโดยร่างมหาเทพนิรันดร์ก็ต้องเป็นคนที่มีปณิธานแข็งแกร่ง

“นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด หวังว่าเจ้าจะผ่านพ้นไปได้”

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่พึมพำ จากนั้นสะบัดแขนเสื้อเส้นใยอมตะพุ่งลงไปในหม้อกลั่นหลอมรวมเข้ากับร่างของมู่เฉินเมื่อละลาย

 

บรรยากาศภายนอกเจดีย์วั้นกู่อึมครึม

ผู้อาวุโสเผ่าหมัวเฮอมองไปที่เจดีย์พลางกระซิบว่า “ทำไมไอ้เด็กนั่นยังไม่ออกมา? เขาตั้งใจจะซ่อนตัวอยู่ในเจดีย์ตลอดรึไง?”

ท่าทางของหมัวเฮอเทียนไม่แยแสราวกับว่ากำลังพักผ่อน มีเพียงริมฝีปากที่ขยับพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้น “เราจะรอ ไม่ว่ามันจะซ่อนตัวนานแค่ไหน”

เหล่าผู้อาวุโสต่างพยักหน้าเข้าใจ เผ่าหมัวเฮอของพวกเขาพิทักษ์ร่างมหาเทพนิรันดร์เป็นเวลาหลายหมื่นปี ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปล่อยให้มู่เฉินเอาออกไป

“ข้าจะดูซิว่ามันจะซ่อนตัวได้นานแค่ไหน… เมื่อไรที่มันปรากฏตัวก็ต้องส่งมอบร่างมหาเทพนิรันดร์มาให้แต่โดยดี!”

ที่ด้านนอกเจดีย์วั้นกู่ใบหน้าของหมัวเฮอเทียนและชิงเหยี่ยนจิ้งไม่เปลี่ยนแปลงขณะที่เฝ้ารอให้เวลาผ่านไป ภายใต้การเผชิญหน้าของสองจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง เหล่าผู้ชมก็ไม่ได้ไปไหน ทว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่กลับกำลังกระจายไปทั่วมหาพันภพด้วยความเร็วเหนือแสง

การประจันหน้าของสองเผ่าโบราณอาจนำมาสู่สงคราม ดังนั้นทุกคนจึงมุ่งความสนใจมาที่ทวีปหมัวเฮอแห่งนี้

 

เวลาไหลผ่านไปสามเดือนในพริบตา

ในช่วงเวลาสามเดือน จำนวนผู้คนที่รวมตัวกันในเมืองวั้นกู่กลับเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง พร้อมกับข่าวแพร่กระจายออกไป

การเผชิญหน้าของสองเผ่าโบราณช่างน่าตกใจนัก ครั้งล่าสุดที่เกิดศึกใหญ่คือเผ่าหมัวเฮอกับแคว้นหวู่จิ้งฮั่ว…

แต่ตอนนั้นหมัวเฮอเทียนแพ้เซียวเหยียนจนต้องล้มเลิกความทะเยอทะยาน แต่คราวนี้ไม่มีใครรู้ว่าผู้ใดจะสามารถยับยั้งจอมยุทธ์ที่ครั้งหนึ่งเคยท้าทายอำนาจของเทพจักรพรรดิอัคคีได้

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นการต่อสู้ครั้งนี้ ทำให้โลกสั่นคลอนแน่

 

ขณะที่บรรยากาศนอกเจดีย์ตึงเครียด

ในเจดีย์ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสีม่วงทองกลับบิดเบี้ยวภายใต้อุณหภูมิสูง

นับเวลาของที่นี่ก็ผ่านไปประมาณสามปีแล้ว

ในสามปีนี้ไฟในหม้อกลั่นไม่เคยหยุดโหมกระหน่ำสักครั้ง

เปลวไฟสีม่วงทองห่อหุ้มร่างเงาในหม้อกลั่นไว้ แต่เมื่อมองดีๆ จะพบว่านั่นเป็นร่างที่ไม่มีเนื้อหนัง เหลือเพียงโครงกระดูกนั่งเงียบๆ อยู่ในนั้น

ภายใต้ชำระเข้มข้นโครงกระดูกนี้ได้กลายเป็นสีม่วงทองที่เอิบอาบไปด้วยรัศมีนิรันดร์

ด้านนอกหม้อกลั่นจิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่ลืมตาขึ้น ถ้าเขาไม่รู้สึกถึงเส้นสายชีวิตที่ซ่อนอยู่ภายในโครงกระดูกนั้น เขาคงคิดว่ามู่เฉินจบชีวิตลงในเปลวไฟแล้ว

“ไม่เลว…”

จิตวิญญาณเจดีย์วั้นกู่ชมเชย ความมุ่งมั่นของมู่เฉินเกินความคาดหมายของเขาในช่วงสามปีที่ผ่านมา ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงจะหมดสติไปจากความเจ็บปวดแล้ว

“ต่อไปจะเป็นกระบวนการสร้างเนื้อหนังใหม่เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นนิรันดร์”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset