หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 913 ครอบงำ
“ทักษะดูดกลืนปีศาจ ตราประทับสงครามเขมือบปีศาจ!”
ขณะที่เสียงเย็นของหลินหมิงสะท้อนก้อง กะโหลกดำขนาดใหญ่เบื้องหลังก็เปิดปากขึ้นช้าๆ รัศมีจั้นยี่สีดำที่ป่าเถื่อนรวมตัวกัน ก่อนที่มิติรอบปากใหญ่จะแตกออกกะทันหัน เนื่องจากรัศมีจั้นยี่รุนแรงมากเกินไป
หลังจากแลกกระบวนท่าแบบลองมือไปก่อนหน้า หลินหมิงก็พร้อมพุ่งชนเต็มแรงแล้ว
มู่เฉินมองรัศมีจั้นยี่ที่รวมในปากใหญ่ของกะโหลกดำ ดวงตาก็หดลง การเผชิญหน้ากับจั้นเจิ้นซือที่ทุ่มสุดแรง เห็นชัดว่าเขาไม่โง่พอที่จะปะทะแบบครึ่งๆ กลางๆ
ดังนั้นเขาจึงพรูอากาศออกจากปาก มือทั้งสองประสานเข้าด้วยกัน
“ครืน!”
ลวดลายจั้นเหวินนับไม่ถ้วนวูบวาบบนหัวกะโหลกดำ ขณะที่เสียงอื้ออึงของรัศมีจั้นยี่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก้อนแสงสีดำหนาแน่นก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในปาก
ก้อนแสงสีดำนั้นราวกับหลุมดำ ไม่มีใครสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้อย่างชัดเจน แต่คลื่นพลังที่เกิดขึ้นกลับทำให้จอมยุทธ์หลายคนหวาดกลัว
ภายในแสงสีดำ ราวกับว่ามีบางอย่างถูกเขมือบลงไปอย่างรวดเร็ว แสงสีดำเริ่มหดตัวลง อึดใจก็จางหายไป จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนมองขึ้นไปก็เห็นตราประทับแสงสีดำขนาดประมาณร้อยจั้งลอยอยู่บนท้องฟ้า
ตราประทับสีดำถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายสีดำ ขณะที่แสงวูบไหวก็ราวกับปากปีศาจ ทำให้ผู้คนหนาวสั่นสะท้านจิต
ตราประทับสีดำลอยอยู่บนท้องฟ้าเงียบๆ ทว่าคลื่นพลังที่เกิดขึ้นกำจายออกมากลับทำให้มิติบริเวณนี้ถึงกับบิดเบี้ยว
“ไป!”
หลินหมิงส่งยิ้มน่าขนลุกไปให้มู่เฉิน ก่อนที่จะเหยียดมือออกช้าๆ ทันใดนั้นตราประทับแสงสีดำก็ลอยหวือออกมาปรากฏขึ้นเหนือร่างมู่เฉิน ตราประทับสีดำขยายตัวตามสายลม มีขนาดหลายพันจั้งในพริบตา การเคลื่อนไหวน่าตกใจที่กดลงมาทำให้กระทั่งมิติยังส่งเสียงแตกเปรียะ
ตู้ม!
แม้ว่าตราประทับสีดำจะอยู่ห่างจากพื้นดิน แต่แรงกดดันที่น่ากลัวก็ยังสร้างปากปล่องภูเขาขนาดใหญ่ที่เบื้องล่าง
การโจมตีเต็มกำลังของหลินหมิงเป็นสิ่งที่ทำให้กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกยังหนังตากระตุกเมื่อมองดู
เงาบีบลงมา ทว่ามู่เฉินไม่ได้เงยหน้าขึ้น เพียงแค่กระบวนท่าในมือเปลี่ยนไปเร็วรี่ ภาพซ้อนก่อตัวขึ้นในฝ่ามือของเขา
ตึง!
ตราประทับสีดำราวกับภูเขาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นกะทันหัน ขณะที่มิติสั่นไหวก็ทำให้เกิดแรงกดดันน่ากลัวกระจายออก ทำเอาร่างของมู่เฉินกระตุกถูกกดลงจากบนท้องฟ้าไปหลายร้อยจั้ง…
ภาพนี้ทำเอาสีหน้าเหล่าผู้บัญชาการอาณาเขตกงเวทสวรรค์เปลี่ยนแปลงรุนแรง เนื่องจากพวกเขารู้สึกได้ว่าการโจมตีของหลินหมิงครอบงำเพียงใด
“ฮ่าๆๆๆ!”
หลินหมิงหัวเราะร่วนขณะที่ฝ่ามือตบลงไปอีกครั้ง ตราประทับสีดำราวกับภูเขายังคงบีบอัดลงมา ส่วนร่างของมู่เฉินก็ดิ่งลงมาจากขอบฟ้าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สายตาที่จ้องมองมานับไม่ถ้วน
จากภาพนี้อย่างเดียว บอกได้ว่าหลินหมิงมีฝีมือเหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่าถึงแม้จะเผชิญกับหลินหมิงที่ทรงพลัง มู่เฉินก็ยังคงหลุบตาลงด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ทว่าตราประทับที่เขาสร้างขึ้นในฝ่ามือกลับยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
ปัง!
แรงกดดันหนักหน่วงอีกครั้งส่งผลให้ร่างของมู่เฉินหล่นลงมาจากขอบฟ้าร่อนลงบนยอดเขา เมื่อฝ่าเท้าของเขาสัมผัสกับพื้น รอยแตกก็กระจายออกครอบคลุมภูเขาทั้งลูกทันที
รัศมีจั้นยี่รอบตัวเขาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน มันคลายตัวลงเล็กน้อย
“แกตายแน่!”
ทันทีที่รัศมีจั้นยี่รอบตัวมู่เฉินสับสนวุ่นวาย หลินหมิงก็สาดแสงเย็นยะเยือกในดวงตา ตอนนี้เป็นเวลาที่เขาปล่อยท่าไม้ตายแล้ว!
ตู้ม!
ตราประทับสีดำระเบิดเป็นลำแสงสีดำจำนวนมหาศาล ทุกลำแสงราวกับหลุมดำ แม้แต่แสงก็ไม่สามารถเล็ดลอดผ่านได้ ตราประทับสีดำบดขยี้ลงมา
ยอดเขาที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของมู่เฉินเริ่มแตกสลาย ชัดว่ากำลังจะพังทลายลง ตราประทับสีดำลอยหวือลงมา ยับยั้งมู่เฉินเอาไว้อย่างไร้ปรานี ภายใต้สายตาตกตะลึงที่จ้องมองนับไม่ถ้วน
ยอดเขาพังทลายลงภายใต้การครอบงำของตราประทับ พร้อมด้วยร่างมู่เฉินและยอดเขาถูกกดลงบนพื้นโดยตรง
ครืน!
แผ่นโลกโยกคลอนในยามนี้
ตราประทับสีดำคงอยู่ราวกับภูเขาตั้งตระหง่าน จอมยุทธ์มากมายนิ่งเงียบลงขณะความตกใจพล่านในดวงตา พวกเขาจ้องมองรัศมีจั้นยี่ที่เยือกเย็นและรุนแรง
ลวดลายจั้นเหวินมากมายที่ราวกับปากของปีศาจเต้นยุบยับบนตราประทับสีดำอย่างต่อเนื่อง ช่างเป็นฉากที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
หลินหมิงยืนอยู่บนท้องฟ้า สายตาเยือกเย็นมองตราประทับสีดำพร้อมกับปล่อยเสียงหัวเราะชั่วร้าย “มู่เฉิน ข้ารู้ว่าเจ้ามีวิธีบางอย่าง แต่เจ้าโง่และมั่นใจเกินไป ตราบใดที่ถูกครอบงำโดยตราประทับสงครามของข้า สิ่งนี้จะค่อยๆ ดูดกินพลังงานทุกหยาดหยดจนกว่าเจ้าจะกลวงโบ๋!”
“เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะรอดออกจากตราประทับนี้ด้วยพลังที่มี!”
เสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายของหลินหมิงสะท้อนทั่ว ทำให้จอมยุทธ์มากมายหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ชัยชนะของการประลองครั้งนี้ชี้ขาดแล้วหรือ? การถูกโจมตีของหลินหมิงสุดพลังเช่นนี้ กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็ยังพ่ายแพ้อย่างแน่นอน มู่เฉินคงถูกลางร้ายเล็งเป้าเข้าให้แล้ว
ฝั่งอาณาเขตกงเวทสวรรค์ จอมยุทธ์หลายคนมีสีหน้าซีดขาว แม้แต่ซิวหลัวก็ขมวดคิ้วแน่น ขณะที่ฝั่งจวนยมโลก ทุกคนกำลังออกอาการดีอกดีใจบนใบหน้า เนื่องจากพวกเขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะอ่อนด้อยปานนี้เมื่อต้องเผชิญกับหลินหมิงที่ทรงอำนาจ
“มู่เฉินอ่อนหัดขนาดนี้เชียว…” ฟังยี่อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวพลางยิ้มเย็นกับฉากนี้ ใครจะคิดว่ามู่เฉินที่ยังยืนหยัดอย่างทระนงเมื่อครู่จะพ่ายแพ้ให้กับหลินหมิงอย่างง่ายดาย
“เจ้าดูถูกมู่เฉินเกินไปแล้ว”
จินไถหลิวหลีเหลือบตามองฟังยี่วูบหนึ่ง ก่อนที่สายตานางจะยกขึ้นมองไปทางตราประทับสีดำที่เหมือนภูเขา ดวงตาของนางหรี่ลง ไม่รู้ว่าทำไมนางเหมือนจะได้ยินเสียงที่น่ากลัวคลุมเครือจากใต้ตราประทับสีดำนั่น เสียงนั้นฟังเหมือนเสียงฟ้าพิโรธเลยทีเดียว
ขณะที่ฟังยี่กำลังจะเปิดปากโต้ตอบเมื่อได้ยินประโยคของจินไถหลิวหลี เสียงกัมปนาทก็ดังกึกก้องก่อนที่เขาจะได้เอ่ยอะไร หลังจากนั้นม่านตาเขาก็หดลง มองเห็นตราประทับสีดำซึ่งปกคลุมไปด้วยลวดลายจั้นเหวินสั่นสะเทือนเล็กน้อย
หลินหมิงที่ตอนแรกกำลังแสยะยิ้มชั่วร้ายจู่ๆ ม่านตาก็หดเกร็ง
“ตู้ม! ตู้ม!”
เสียงระเบิดเริ่มถี่ขึ้น ตราประทับสีดำก็สั่นไหวรุนแรงขึ้น สุดท้ายดวงตาของทุกคนก็อัดแน่นไปด้วยความสับสนเมื่อมองไป
ฮึ่ม! ฮึ่ม!
ทันใดนั้นสายฟ้าแพรวพราวก็แล่นแปลบปลาบออกมาจากใต้ตราประทับสีดำ เมื่อสายฟ้าปะทุขึ้นก็มีรอยแตกปรากฏบนตราประทับสีดำ สายฟ้าเลื่อนไหลออกมาจากรอยแตกเหล่านั้น
ใบหน้าของหลินหมิงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้
ตู้ม!
แต่ก่อนที่เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง คลื่นพลังงานภายใต้ตราประทับสีดำก็กลายเป็นรุนแรงทบทวี เสียงฟ้าคำรามดังกึกก้อง ตราประทับสีดำที่สามารถระงับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกได้ก็ระเบิดออก
ตราประทับสีดำกลายเป็นประกายกระจายไปทั่ว ขณะที่ใบหน้าของหลินหมิงเขียวคล้ำ เขาไม่คิดว่าตราประทับสงครามที่เขาภาคภูมิใจหนักหนาจะถูกทำลายโดยมู่เฉินทันที หลังจากที่เขาพูดคำเหล่านั้น
“เป็นไปได้ยังไง? ตราประทับสงครามเขมือบปีศาจของข้าครอบงำมาก โดยพื้นฐานมู่เฉินจะทำลายได้ยังไง?!” หลินหมิงกัดฟันกรอด มรดกของเขาสืบทอดมาจากจั้นเจิ้นซือยุคโบราณ—จอมมารทุนหลัวซึ่งมีชื่อน่าสะพรึง ดังนั้นมรดกนี้จึงมีความเป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าจะแปลกประหลาด แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้
“ครอบงำรึ?”
เสียงแผ่วเบาดังก้องจากพื้นที่ถล่มจากตราประทับสีดำ ก่อนที่หินก้อนใหญ่จะแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างร่างหนึ่งค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้นดิน
ร่างนั้นถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้าแล่นแปลบปลาบ เกลียวสายฟ้ามหัศจรรย์มาก นี่ไม่ใช่สายฟ้าของจริงแต่ถูกสร้างจากรัศมีจั้นยี่ มู่เฉินที่อยู่ในสายฟ้าเงยหน้าขึ้นมองไปยังหลินหมิงด้วยความไม่แยแส
“ในเมื่อครอบงำ ข้าก็แค่ใช้วิธีที่ครอบงำยิ่งกว่าในการทำลาย” เสียงไม่แยแสของมู่เฉินดังก้องขึ้นอีกครั้ง ในแง่ของความครอบงำ เขาจะสอนให้หลินหมิงรู้ว่าความครอบงำของราชันสงครามจิ่วเจี๋ยไม่ใช่สิ่งที่หลินหมิงจะเข้าใจได้
ทันทีที่พูดจบ กำปั้นที่กำแน่นของมู่เฉินก็กางออกช้าๆ พร้อมกับฝ่ามือที่กางเปิดเกลียวสายฟ้าก็แลบแปลบปลาบออกมา
โฮก!
เสียงคำรามราวกับมังกรดังขึ้นจากฝ่ามือของมู่เฉิน สายฟ้าขนาดเท่าฝ่ามือพุ่งขึ้นจากฝ่ามือของมู่เฉิน
เมื่อเกลียวสายฟ้าโชติช่วง ทุกคนในบริเวณนี้ก็พบว่าสายฟ้านี้เป็นมังกรสายฟ้าขนาดหนึ่งจั้ง แต่ที่แปลกประหลาดก็คือสิ่งนี้ไม่ได้มีรูปแบบจริงๆ เมื่อมองอย่างใกล้ชิดก็จะเห็นว่ามันถูกประกอบขึ้นจากลวดลายจั้นเหวินนับไม่ถ้วน
โฮก!
มังกรสายฟ้าขยายร่างเบื้องหน้ามู่เฉิน ร่างตัวเล็กกลับระเบิดเสียงคำรามของมังกรที่สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ช่างราวกับเทพสายฟ้าเผด็จการสามารถทำลายล้างทุกสรรพสิ่งจนราบคาบ
ลวดลายจั้นเหวินของมังกรสายฟ้าตัวเล็กบางก็คือรัศมีจั้นยี่ที่ควบแน่นของหน่วยรบทั้งห้า
พลังงานนี้ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในหัวใจของกองทัพอื่นๆ แม้แต่หลินหมิงม่านตายังหดลง เขารู้สึกถึงความผันผวนอันตรายอย่างยิ่งที่เกิดขึ้นจากมัน
“ในเมื่อแกชอบครอบงำนัก ข้าจะแสดงให้เห็นว่าใครครอบงำมากกว่า…”
มู่เฉินจ้องหลินหมิง มุมปากยกสูงขึ้น จากนั้นเขาก็สะบัดนิ้ว มังกรสายฟ้าพุ่งออกไป ทันใดนั้นเสียงฟ้าคำรามก็ทำให้มิติสั่นสะเทือน
“คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่ ลวดลายมังกรเก้าสายฟ้า!”