หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 945 ขวดดินเผา
แสงเจิดจ้าในมือของมู่เฉินจางลง
ยิ่งเมื่อมู่เฉินเห็นวัตถุเผยขึ้นก็รู้สึกอึ้งอย่างช่วยไม่ได้ ความประหลาดใจอัดแน่นในดวงตา
ตอนนี้ความแวววาวในมือเขาจางหายถูกแทนที่ด้วยขวดดินเผาสีดำซึ่งมีขนาดเท่าหัวกะโหลกคนมีอักขระโบราณปกคลุมอยู่บนพื้นผิว มิหนำซ้ำยังมีคลื่นหลิงแปลกประหลาดกำจายออกมาจากวัตถุชิ้นนี้อีกด้วย ทว่าการกระเพื่อมไหวไม่ได้ทรงพลัง ทำให้ดูเหมือนไม่ใช่อาวุธพบสวรรค์ขั้นสูง…
“นี่คือ…”
มู่เฉินอ้าปากเหวอ อดไม่ได้ที่จะพลิกขวดดินเผาสีดำแปลกประหลาดนี้ไปมา วัตถุนี้ให้ความรู้สึกเปราะบางราวกับว่าแค่เขาใช้แรงอีกนิดก็สามารถบีบมันจนแตกออกได้
มู่เฉินตรวจสอบขวดดินเผาสีดำไป ใบหน้าก็ดิ่งลงไป นั่นเป็นเพราะสิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นขวดดินเผาธรรมดาที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีแม้แต่เงาของของเหลวหลิงเสิน
วัตถุที่เขาได้รับหลังจากเสี่ยงอะไรไปมากมายคือขยะเรอะ?
“นั่นอะไร?”
ขณะที่ใบหน้าของมู่เฉินไม่น่าดู จอมยุทธ์หลายคนก็มองมาทางเขา เมื่อขวดดินเผาสีดำปรากฏขึ้นก็ดึงดูดสายตาของจอมยุทธ์หลายคนมา
“คลื่นหลิงอ่อนแอมาก มันไม่น่าใช่อาวุธพบสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมแน่…”
“เป็นไปได้ยังไง?” จิตวิญญาณของก้อนแสงนั่นแข็งแกร่งที่สุดเลยนะ ทำไมถึงเป็นขยะได้?”
“ยังไงก็ไม่ใช่ของเหลวหลิงเสินแน่นอน!”
“…”
บทสนทนากระจายออกไปพร้อมกับจอมยุทธ์หลายคนมีข้อสงสัยและปริศนาคำถามเขียนไว้บนใบหน้า
ไม่ไกลนักเมื่อหัตถ์ใต้เห็นภาพนี้ก็รู้สึกโล่งใจ ถ้ามู่เฉินได้รับของเหลวหลิงเสินจากก้อนแสงนั่น หายนะใหญ่หลวงคงทุ่มใส่เขาแน่นอน
“หึ ดูท่าแกไม่ได้มีโชคอะไรนะ!” หัตถ์ใต้ที่รู้สึกโล่งใจก็ส่งเสียงเย้ยหยันเยือกเย็น นอกจากนี้เขายังสังเกตเห็นว่ากระดานเทพปฏิยุทธ์ของมู่เฉินมีข้อจำกัดมากมาย ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายคงไม่ใช้ในช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น แต่ถึงแม้จะจ่ายในราคาแพง มู่เฉินก็ยังลงเอยด้วยการได้รับขยะก้อนหนึ่งไป ทำให้หัตถ์ใต้รู้สึกสะใจมาก
ส่วนทางด้านจอมพลและเหล่าผู้บัญชาการอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็รู้สึกผิดหวังไปตามกัน แต่ละคนถอนหายใจ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับของเหลวหลิงเสินจริงๆ
มู่เฉินเหลือบมองหัตถ์ใต้ที่กำลังยิ้มบนใบหน้าอย่างเย็นชา เขาไม่ได้ใส่ใจกับแพะแก่ตัวนี้เลย จากนั้นก็ก้มลงมองขวดดินเผาโบราณพลางขมวดคิ้วแน่น ของชิ้นนี้ไม่น่าจะเป็นขยะ มิฉะนั้นโลหะสีดำลึกลับคงไม่มีปฏิกิริยาเช่นนั้น
ท่านจอมพลสี่จะทำอะไรมากมายเพื่อเล่นตลกกับคนอื่นและสร้างสิ่งไร้ประโยชน์ทำไม?
สายตามู่เฉินกะพริบวาบขณะที่รู้สึกสงสัย เขากำขวดดินเผาไตร่ตรองชั่วครู่ ก่อนที่จะไหลเวียนคลื่นหลิงแล้วเทลงไปในขวดดินเผา
เขาต้องการทดสอบดูว่าขวดนี้ไร้ประโยชน์จริงไหม!
คลื่นหลิงไร้ขอบเขตหลั่งไหลมาจากร่างของมู่เฉินเข้าไปในเครื่องปั้นดินเผาชิ้นนี้อย่างไม่มีสิ้นสุด ในเวลาเดียวกันเขาก็เห็นอักขระโบราณบนพื้นผิวสว่างขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ก็ยังถูกมู่เฉินสังเกตเห็นได้ ทันใดนั้นหัวใจเขาสั่นสะท้านโดยไม่ลังเลอีกต่อไป ระลอกมิติกระเพื่อมที่เบื้องหลังจุดจื้อจุนไห่ของเขาปรากฏขึ้นเลือนราง คลื่นหลิงหลั่งไหลเข้าไปในขวดดินเผา
อักขระโบราณบนพื้นผิวเริ่มเปล่งประกายรัศมีอย่างรวดเร็ว
เมื่อจอมยุทธ์โดยรอบเห็นฉากนี้ พวกเขาก็อึ้งไป จากนั้นส่ายหัวคิดว่าการกระทำของมู่เฉินก็แค่ความรู้สึกไม่ยอมแพ้
แต่มู่เฉินขี้เกียจสนใจกับความคิดของคนอื่น เมื่อเห็นอักขระโบราณบนพื้นผิวสว่างขึ้นหัวใจของเขาก็เต้นรัว นั่นเพราะเขาเริ่มรู้สึกถึงการสะเทือนที่มาจากขวดดินเผาตรงหน้า…
แรงสั่นสะเทือนทวีความรุนแรงมากขึ้น จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งขวดก็สั่นไหวและลอยขึ้นช้าๆ จากมือของมู่เฉิน เมื่อมันลอยขึ้นมาตรงหน้า ปากขวดก็เอียงลงมาชี้ไปที่ทะเลสาบมรกต
ฮึ่ม!
เสียงอื้ออึงผิดปกติดังมาจากปากขวด แสงรวมตัวกันต่อเนื่องก่อนที่แรงดูดพิเศษจะระเบิดออกมา
ซ่า! ซ่า!
เมื่อแรงดูดปะทุขึ้น ทะเลสาบเบื้องล่างก็ดันตัวเป็นคลื่นเชี่ยวกราก ผู้คนอึ้งไปเมื่อเห็นน้ำพุสีมรกตพวยพุ่งออกมา ก่อนที่จะถูกกลืนกินโดยไม่มีที่สิ้นสุดจากขวดดินเผาชิ้นนี้…
น้ำพุมรกตเหล่านั้นมีความหนาแน่นสูงมาก มีน้ำหนักประหนึ่งภูเขา มากจนแม้แต่มิติก็รับน้ำหนักไม่ได้ถึงกับบิดเบี้ยวไปเลยทีเดียว
ทะเลสาบที่แม้แต่จอมยุทธ์อย่างซุยนอนยังไม่กล้าก้าวเข้าไปกลับกำลังถูกสูบเข้าไปในขวดดินเผาโบราณอย่างไม่รู้จบ
การเปลี่ยนแปลงกะทันหันทำให้ทุกคนตกตะลึงไป น้ำในทะเลสาบถูกสร้างขึ้นด้วยคลื่นหลิงของจอมพลสี่ซึ่งมีความหนาแน่นและความรุนแรงอย่างยิ่ง แม้ว่าจะมีหลายคนพุ่งเข้าห้ำหั่นกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าก้าวลงไปในทะเลสาบ แต่ในเวลานี้น้ำในทะเลสาบที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้ายังไม่กล้าทำอะไรกลับถูกดูดเข้าไปในขวดดินเผาโบราณอย่างไม่มีหยุดยั้ง
ภายใต้สายตาตะลึงงันของทุกคน ขวดดินเผาราวกับหลุมดำที่ลึกที่สุดดูดน้ำในทะเลสาบไม่หยุด พร้อมกันนั้นหมอกสีทองก็ค่อยๆ รวมตัวกันในขวด
ความผันผวนที่น่าสะพรึงกลัวกำจายออกมาจากขวดดินเผาชิ้นนั้น
เมื่อจอมยุทธ์ชั้นสูงสัมผัสได้ถึงระลอกคลื่นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาอย่างมาก พวกเขาร้องอุทานว่า “นั่นคือของเหลวหลิงเสิน!”
เมื่อเสียงตะเบ็งลั่น ทั่วทั้งมิติก็ระเบิดด้วยความวุ่นวาย จอมยุทธ์จำนวนมากเบิกตากว้าง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งก็มีคนหัวแหลมเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นพูดว่า “ขวดดินเผานั่นดูดคลื่นหลิงในมิตินี้เพื่อกลั่นกรองให้เป็นของเหลวหลิงเสิน!”
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเข้าในปอด ที่แท้ของเหลวหลิงเสินได้รับการกลั่นด้วยวิธีดังกล่าว แต่พลังงานหลิงในมิตินี้มีความหนาแน่นสูงถึงขนาดที่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้ายังไม่กล้าดูดซับ มีเพียงการใช้วัตถุพิเศษที่ถูกทิ้งไว้โดยท่านจอมพลสี่ถึงจะสามารถกลั่นของเหลวหลิงเสินได้
หัตถ์ใต้ผงะไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ ความหงุดหงิดในใจเพิ่มสูงขึ้นจนถึงขีดสุด เขาไม่คิดว่าแม้มู่เฉินจะไม่ได้ของเหลวหลิงเสิน แต่กลับได้วัตถุที่จำเป็นต้องใช้ในการกลั่น…
“ไอ้เวรนั้นโชคดีอะไรปานนี้!”
หัตถ์ใต้กัดฟันกรอก ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้มู่เฉินอยู่ในขอบเขตการป้องกันของกองทัพหิน เขาคงพุ่งเข้าไปแย่งชิงนานแล้ว แต่รัศมีจั้นยี่ที่น่ากลัวของกองทัพหิน กระทั่งตัวเขายังไม่กล้าก้าวเข้าไปในระยะโจมตี
ยามนี้ทั้งมิติโกลาหลด้วยการกระทำของมู่เฉิน การต่อสู้ทั่วทุกมุมหยุดลง พวกเขาจ้องมองขวดดินเผาด้วยดวงตาแดงก่ำ
จอมพลทั้งสามมารวมตัวกับเหล่าผู้บัญชาการ พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน สถานการณ์ปัจจุบันนำมาซึ่งความสุขและความกังวลในเวลาเดียวกัน เพราะหากสิ่งนี้ทำให้สำนักอื่นร่วมมือกัน อาณาเขตกงเวทสวรรค์คงได้รับเวลาแห่งความขมขื่นแน่นอน
“นะ…นะ นี่ ขวดหยกนี่ก็กลั่นของเหลวหลิงเสินได้!”
ขณะที่ทุกคนกำลังกังวล เสียงหัวเราะดีใจก็ดังกึกก้อง สายตาทุกคู่มองไปก็เห็นจอมยุทธ์แดนปีศาจผู้หนึ่งกำลังยกขวดหยกขึ้นมา ขวดหยกนี้สลักด้วยอักขระโบราณ ซึ่งกำลังเริ่มดูดซับน้ำในทะเลสาบจากด้านล่างแล้วทำการกลั่นเป็นของเหลวหลิงเสิน เว้นแต่ว่าความเร็วในการกลั่นของขวดหยกด้อยว่าขวดดินเผาในมือของมู่เฉินไปมาก
ขวดหยกนี้ก็คือหนึ่งในห้าก้อนแสง หลังจากวิ่งไล่แย่งกันก็มาตกอยู่ในมือของเขาเพราะโชคดี ตอนแรกเขารู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง แต่หลังจากเห็นการกระทำของมู่เฉิน เขาก็ลองทำตามดูบ้างแล้วก็พบว่าสามารถใช้งานได้จริงๆ
เมื่อจอมยุทธ์แดนปีศาจเห็น พวกเขาก็ดีใจกันยกใหญ่ทะยานเข้าไปทันทีเพื่อปกป้องจอมยุทธ์ที่ถือขวดหยกอยู่ สายตามองสำนักอื่นด้วยความตื่นตัวและหวาดระแวง
“วัตถุที่สามารถกลั่นของเหลวหลิงเสินได้ที่นี่ไม่ได้มีชิ้นเดียว!”
หลายคนที่มีความคิดเฉียบแหลมก็ตะโกนออกมา ทันใดนั้นจอมยุทธ์คนอื่นก็หยิบสิ่งของที่ได้รับมาก่อนหน้าทดสอบทันที สถานการณ์ตกอยู่ในความอลหม่านไปหมด
“ฮ่าๆ ข้าก็มี!” หลังจากการตรวจสอบ ก็มีคนอุทานออกมาด้วยความสุข ถ้วยขนาดฝ่ามือที่อยู่ในมือเมื่อเขาเทคลื่นหลิงลงไปถ้วยก็เริ่มดูดน้ำในทะเลสาบ เพียงแต่ว่าความเร็วช้ากว่าขวดหยกไปอีก
“ข้าด้วย!”
“ฮ่าๆ ข้ามีเหมือนกัน!”
“…”
หลังจากความโกลาหลรอบหนึ่ง ทุกคนก็นำเอาของรูปร่างแปลกประหลาดที่ได้ออกมา เมื่อพวกเขาเทคลื่นหลิงลงไปก็สามารถดูดซับน้ำในทะเลสาบกลั่นเป็นของเหลวหลิงเสินได้ ทว่าความเร็วในการกลั่นช้ามาก
เมื่อสำนักอื่นเห็นภาพความเร็วในการกลั่นของวัตถุในมือมู่เฉิน หัวใจของพวกเขาก็เย็นชาลง เมื่อเทียบกับความเร็วของมู่เฉิน พวกเขาด้อยกว่ามากจนน่าเกลียด
“ไม่ได้ แตกต่างกันเกินไป ขวดดินเผาในมือไอ้เวรนั่นมีพลังมาก หากยังคงดำเนินต่อไปน้ำในทะเลสาบจะถูกสูบและกลั่นเป็นของเหลวหลิงเสินที่สมบูรณ์แบบที่สุด!”
“เราต้องการวัตถุที่ทรงพลังกว่านี้!”
สายตาของผู้คนกะพริบวาบ ก่อนที่พวกเขาจะเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบ ยังมีก้อนแสงอีกสามก้อนบินฉวัดเฉวียนไปมาอยู่รอบๆ คลื่นหลิงทรงพลังกำจายออก ซึ่งดูไม่ธรรมดาเอามาก
จะต้องมีวัตถุทรงพลังในนั้นแน่!
ทุกสายตาจ้องมองไปที่ก้อนแสงทั้งสาม บรรยากาศเงียบลงผิดปกติ
“ตู้ม!”
“ลุย!”
“คว้ามา!”
ทว่าความเงียบกินเวลาเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะระเบิดออก จากนั้นทั้งมิติก็ผันผวนด้วยความปั่นป่วนไปหมด จอมยุทธ์ทุกคนพุ่งออกไปราวกับหมาบ้า ขณะที่ไขว่คว้าก้อนแสงทั้งสาม
“ไอ้พวกสารเลว ใครกล้าฉกของที่เป็นของหมู่ตึกเทวะ ข้าไม่ให้อภัยแน่!”
หัตถ์ทั้งสามที่ก่อนหน้าขัดขวางจอมพลทั้งสามไว้ก็ไม่สามารถระงับใจตัวเอง พวกเขากระโจนตัวออกไปพร้อมกับแผดเสียงลั่น หมู่ตึกเทวะคว้าจอกใบจิ๋วมาได้เท่านั้น ความเร็วในการกลั่นช้าเกินไป หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปของเหลวหลิงเสินที่พวกเขาสามารถกลั่นได้ก็อ่อนจางไม่สมบูรณ์
ถ้าพวกเขาส่งของเหลวแบบนั้นไปให้ท่านประมุข งานนี้ท่านประมุขควันออกหูแน่นอน
“หึ มีคนเท่าหางอึ่ง คิดว่าพวกข้าจะกลัวหมู่ตึกเทวะเรอะ?!”
ยามนี้มีก้อนแสงเหลือสามก้อนเท่านั้น ซึ่งเกี่ยวข้องอย่างมากกับปริมาณของเหลวที่พวกเขาจะได้รับ ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจคำพูดของหมู่ตึกเทวะ จอมยุทธ์แต่ละคนพุ่งเข้าใส่ไม่ยั้ง
ครืน!
คลื่นกระแทกน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออก ทำให้มิติแตกเป็นเสี่ยงๆ…
สมาชิกอาณาเขตกงเวทสวรรค์ไม่ได้เข้าไปแย่งชิงด้วย เนื่องจากขวดดินเผาของมู่เฉินอยู่เหนือวัตถุทุกชิ้นแล้ว… ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่แลกเปลี่ยนสายตากัน สีหน้าไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดีก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา
“ครั้งนี้มู่เฉินทำผลงานเยี่ยมจริงๆ…”