หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – 953 จอมพลสี่ปรากฏตัว

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 953 จอมพลสี่ปรากฏตัว

ฟิ้ว!

ริ้วแสงสีดำพุ่งผ่านมิติตรงเข้าหาหุ่นเงาที่ยืนอยู่เหนือเกาะหิน ทว่าแม้มู่เฉินจะทำอย่างลับๆ แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงประสาทสัมผัสของประมุขหมู่ตึกเทวะไปได้

“หึ!”

แม้ประมุขหมู่ตึกเทวะจะไม่รู้ว่าการกระทำของมู่เฉินมีประโยชน์อะไร แต่เขาก็เป็นคนระมัดระวังและหลักแหลม ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมปล่อยให้เหตุการณ์เหนือความคาดหมายเกิดขึ้น ทันใดนั้นเขาก็เค้นเสียงเย็น เหยียดมือคว้าออกไปในท้องฟ้า ทำให้มิติบิดเบือนขัดขวางริ้วแสงเอาไว้

ตู้ม!

ทว่าจังหวะที่ประมุขหมู่ตึกเทวะเคลื่อนไหว มั่นถัวหลัวก็สาดไอเย็นยะเยือกในดวงตา นางเหยียดนิ้วเรียวออกกดลงไปที่ท้องฟ้า

ทันทีที่นางกดนิ้วลง คลื่นหลิงไร้ขอบเขตก็กวาดออกมาก่อร่างเป็นดัชนีคลื่นหลิงที่มีขนาดหลายพันจั้ง ซึ่งปกคลุมไปด้วยชั้นผลึกหลิงที่มีความทนทานมาก

เมื่อดัชนีปรากฏขึ้นก็พุ่งไปหาประมุขหมู่ตึกเทวะทันที ในเวลาเดียวกันประมุขคนอื่นๆ ก็ออกกระบวนท่าโดยไม่ลังเล พวกเขาใช้ทักษะทรงพลังต่างๆ โจมตี พลังทำลายล้างยิ่งใหญ่ล้อมรอบร่างประมุขหมู่ตึกเทวะเอาไว้ทุกทิศทาง

เผชิญหน้ากับการจู่โจมกะทันหันจากจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนกลุ่มใหญ่ ประมุขหมู่ตึกเทวะก็ขมวดคิ้ว โดยไม่มีทางเลือกเขาต้องยอมปล่อยริ้วแสงสีดำไป จากนั้นก็พลิกมือกดลงบนท้องฟ้า

“ปัง!”

เมื่อฝ่ามือกดลงไปมิติก็พังทลาย หากมองจากบนท้องฟ้าก็จะพบว่ามิติที่พังทลายมีรูปร่างคล้ายฝ่ามือขนาดใหญ่

ฝ่ามือเดียวของเขาสามารถทำลายภูเขาและแม่น้ำได้

เพียงฝ่ามือเดียวซัดออกมา การโจมตีของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนทั้งหมดก็แตกซ่าน กลายเป็นจุดแสงกระจายไปทั่วท้องฟ้า

เหล่าประมุขส่งเสียงครวญคราง พวกเขาได้รับบาดเจ็บถ้วนทั่ว ใบหน้าของแต่ละคนน่าเกลียดลง เนื่องจากพวกเขาไม่คิดว่าถึงจะมีหลายคนมารวมพลังกัน แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถเผชิญหน้ากับประมุขหมู่ตึกเทวะได้

จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายน่าเกรงกลัวอย่างแท้จริง!

“ฮ่าๆ ดื้อดึงต่อสู้ก็เท่ากับรนหาที่ตาย” ประมุขหมู่ตึกเทวะยืนจังก้าอยู่บนรัศมีสีดำที่เชี่ยวกราก รอยยิ้มบางเผยบนใบหน้า สายตาอัดแน่นด้วยคำสบประมาท ด้วยพลังของเขาในยามนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะครองภูมิภาคทางเหนือทั้งหมด

สีหน้าของมั่นถัวหลัวและคนอื่นๆ เขียวคล้ำขณะที่กำมือแน่น เผชิญกับสถานการณ์ปัจจุบันพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากสู้สุดชีวิต ตอนนี้พวกเขาได้แต่ภาวนาว่าประมุขหมู่ตึกเทวะยังไม่สามารถควบคุมคลื่นพลังได้อย่างสมบูรณ์ ภายใต้การทุ่มสุดพลังของพวกเขาอาจยังมีโอกาสรอดชีวิต ตราบใดที่พวกเขาหนีออกไปจากที่นี่แล้วกระจายข่าวออกไป หมู่ตึกเทวะจะต้องถูกทำลายไม่เหลือซากแน่นอน

มู่เฉินยืนอยู่ด้านหลังมั่นถัวหลัว สีหน้าเขาเปลี่ยนไปจากพลังอันน่าเกรงขามของประมุขหมู่ตึกเทวะเช่นกัน จากระยะไกลริ้วแสงสีดำก็ไปถึงเกาะหินแล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของมู่เฉินจมลงก็คือความจริงที่เมื่อริ้วแสงเข้าใกล้ ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ จากหุ่นเงาราวกับว่ามันไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

“เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”

มู่เฉินขมวดคิ้วแน่น วัตถุชิ้นนั้นลึกลับมาก ตามการคาดเดาของเขาน่าจะถูกทิ้งไว้โดยจอมพลสี่ แต่ทำไมหุ่นเงาถึงไม่ตอบสนอง?

แววตามู่เฉินวูบไหว จากนั้นก็กัดฟันพร้อมกับสะบัดนิ้ว คลื่นหลิงที่ปกคลุมรอบริ้วแสงสีดำระเบิดออก ยิงเข้าไปตรงกลางหว่างคิ้วของหุ่นเงา

เมื่อริ้วแสงพุ่งเข้ามาก็ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ จากหุ่นเงา สุดท้ายก็ปล่อยให้มู่เฉินยิงมันใส่หน้าผาก โลหะถูกฝังลงหว่างคิ้วของหุ่นเงา

ตอนแรกนี่เป็นการกระทำไม่มีทางเลือกอื่นของมู่เฉิน เขาต้องการเพียงลองเสี่ยงดู แต่ดูเหมือนจะเกินความคาดหมายของเขาไป เมื่อริ้วแสงฝังตัวเข้าไปในหว่างคิ้วของหุ่นเงา ดวงตากลวงโบ๋ก็ค่อยๆ เปิดออกอีกครั้ง

แสงสีดำเบ่งบานบนหน้าผากของหุ่นเงา สัญลักษณ์โบราณวิ่งพล่านอยู่ที่หว่างคิ้ว ก่อตัวเป็นอักขระโบราณที่แปลกประหลาด สุดท้ายอักขระเหล่านั้นก็แผ่เข้าไปในดวงตากลวงโบ๋นั่น

เมื่ออักขระเข้าไปสถิตในดวงตาของหุ่นเงา แสงประหลาดก็เริ่มรวมตัวกันในดวงตาลึกโบ๋ คลื่นความผันผวนแพร่กระจายออกมาจากหุ่นเงา

คลื่นแปลกประหลาดที่ถูกปล่อยออกมากะทันหัน ถูกตรวจจับได้อย่างรวดเร็วโดยประมุขหมู่ตึกเทวะ ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วจ้องมองมู่เฉินอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของหุ่นเงาชัดว่าเกิดจากการกระทำก่อนหน้าของมู่เฉิน

มู่เฉินโล่งใจในใจ ดูท่าเขาจะคาดเดาได้ถูกต้อง ของลึกลับชิ้นนี้ถูกทิ้งไว้โดยจอมพลสี่จริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร…

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของหุ่นเงา ทำให้การปะทะทุกรูปแบบหยุดลง เผชิญหน้ากับหุ่นเงาซึ่งได้รับพลังส่วนใหญ่ของจอมพลสี่มา แม้แต่ประมุขหมู่ตึกเทวะก็ไม่กล้าที่จะประมาท

แม้ว่าเขาจะบรรลุขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายจนมาอยู่ในระดับเดียวกับจอมพลสี่เมื่อยังมีชีวิต ทว่าพลังการต่อสู้ก็ยังมีความแตกต่างกันมาก

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ภายใต้สายตาจดจ่อของทุกคน จุดแสงในดวงตาของหุ่นเงาก็เข้มข้นขึ้น จนสุดท้ายแสงทรงพลังก็พุ่งออกมา ทำให้มิติถึงกับบิดเบือน

เมื่อแสงทรงพลังจางหายไป หุ่นเงาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนผิดหวังคือความจริงมันไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนอะไรเป็นพิเศษ

“ไม่ ดูที่ตามัน!” มู่เฉินหดดวงตาเอ่ยน้ำเสียงเคร่งขรึม

ทุกคนเพ่งสายตาไปก็ตระหนักได้ว่าความว่างเปล่าในสายตาของหุ่นเงาไม่มีเหลือกลับถูกแทนที่ด้วยความมึนงงและมากประสบการณ์…

ยามนี้มีร่องรอยพลังชีวิตเปล่งออกมาจากหุ่นเงา!

ท่ามกลางความตื่นตะลึงในสายตาทุกคน หุ่นเงาก็ก้มศีรษะลงมองมือตัวเอง อึดใจความมึนงงในดวงตาก็สลายไป ในเวลาเดียวกันทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรัศมีครอบงำกำจายออกมาจากร่างหุ่นเงา

“รัศมีนี่…”

เมื่อมั่นถัวหลัวและคนอื่นๆ สัมผัสถึงรัศมีนี้ ม่านตาก็หดเกร็ง เสียงอุทานดังขึ้น “นั่นคือท่านจอมพลสี่!

หัวใจของมู่เฉินสั่นไหว จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอดพูดว่า “ที่แท้วัตถุนั้นบรรจุเศษเสี้ยวจิตสำนึกของท่านจอมพลสี่ที่ทิ้งไว้…”

ชัดว่าการที่มู่เฉินยิงวัตถุลึกลับไปที่กลางหว่างคิ้วของหุ่นเงาโดยไม่ตั้งใจ การทำเช่นนั้นปลดปล่อยจิตสำนึกเข้าไปในร่างหุ่นเงา ทำให้สามารถควบคุมหุ่นเงาได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้รัศมีของจอมพลสี่ปรากฏขึ้น

“ไม่คิดเลยว่าหลังจากผ่านมาหมื่นปี จะมีใครบางคนปลุกจิตสำนึกของข้าได้” ขณะที่ทุกคนตกตะลึง ศีรษะของหุ่นวิญญาณจอมพลสี่ก็เงยขึ้นช้าๆ สายตามองทะลุมิติไปที่มู่เฉินอัดแน่นด้วยความสูงส่งยิ่งใหญ่

“หืม?”

ทว่าเมื่อจอมพลสี่กำลังมองมู่เฉิน ดวงตาก็เปลี่ยนไป สายตาเขม่นมองรัศมีสีดำเชี่ยวกรากที่อยู่ในระยะไกล พลังงานในรัศมีสีดำดูคุ้นเคยและน่ารังเกียจยิ่งนัก

“คลื่นพลังแม่ทัพปีศาจทุนเทียน?!”

มิติโดยรอบจอมพลสี่ระเบิดออกทันทีภายใต้เสียงคำรามเดือดดาล ก่อนที่ชิ้นส่วนมิติจะรวมตัวกันรอบตัวเขาราวกับพายุ ดูน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

จิตสังหารพุ่งสูงขึ้นในดวงตามากประสบการณ์ เขาสะบัดแขนเสื้อ รัศมีสีดำเชี่ยวกรากก็ถูกฉีก เผยให้เห็นร่างประมุขหมู่ตึกเทวะที่ซ่อนอยู่ภายใน

“ในฐานะจอมยุทธ์มหาพันภพ เจ้าบังอาจกล้าดูดซับพลังงานเผ่าปีศาจ ปล่อยให้มีชีวิตต่อไม่ได้แล้ว!” แม้ว่าจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวจิตสำนึก แต่จอมพลสี่ก็ยังอ่อนไหวต่อพลังแม่ทัพปีศาจทุนเทียน ดวงตาเขาจับจ้องไปที่ประมุขหมู่ตึกเทวะด้วยเจตนาฆ่าเข้มข้น

เมื่อประมุขหมู่ตึกเทวะรู้สึกถึงสายตาของจอมพลสี่ สีหน้าเขาก็น่าเกลียดลง แต่ถึงแม้จะรู้สึกกลัว เขาก็ไม่ตระหนกเค้นเสียงออกไปว่า “สามหาว ถ้าเป็นร่างจริงของเจ้ามาปรากฏ บางทีข้าอาจกลัวอยู่บ้าง แต่เจ้าเป็นเพียงจิตสำนึกเล็กๆ ยังคิดจะฆ่าข้าเนี่ยนะ?”

ถึงยังไงเขาก็เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับจอมพลสี่ตัวจริง เขาก็ยังสามารถต่อสู้ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนกไปกับสถานการณ์ปัจจุบัน

แต่สถานการณ์ที่เขาเคยมั่นใจอย่างเต็มที่กลับกลายเป็นค่อนข้างลำบาก ซึ่งสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าสำหรับประมุขหมู่ตึกเทวะนัก ทันใดนั้นเขาก็กราดมองมู่เฉินด้วยสายตาโหดเหี้ยมซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

เมื่อเผชิญหน้ากับสายตานี่ มู่เฉินก็รู้สึกหนังหัวชาหนึบแต่ก็รู้สึกโล่งใจในเวลาเดียวด้วย การเข้ามาสมทบของจอมพลสี่ ทำให้สถานการณ์เริ่มเกินการควบคุมของประมุขหมู่ตึกเทวะ เมื่อเป็นแบบนี้ ต่อให้พวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ก็มั่นใจในการหลบหนีมากขึ้น

มั่นถัวหลัวเหลือบมองไปที่มู่เฉินขณะที่รู้สึกโล่งใจ เพราะมู่เฉินทำให้มีโอกาสเกิดขึ้น ตอนนี้ต้องดูว่าจอมพลสี่จะมีวิธีการอะไรบ้าง เผื่อพวกเขาจะสามารถช่วยกันประสานพลังสังหารประมุขหมู่ตึกเทวะได้ที่นี่

ขณะที่ความคิดนี้สะท้อนอยู่ในหัวใจของทุกคน จอมพลสี่ก็จ้องมองประมุขหมู่ตึกเทวะอย่างเย็นชาและเย้ยหยันว่า “แค่จอมยุทธ์กระจ้อยร่อยที่เพิ่งบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายยังกล้ายโสใส่จอมพลคนนี้ ช่างน่าขำจริงๆ…”

“ถ้าในโลกภายนอก ด้วยสภาพข้าในตอนนี้บางทีอาจไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ก็จริง แต่ที่นี่เป็นสุสานของข้า ดังนั้นจะให้เจ้าทำอะไรไม่ถูกไม่ควรไม่ได้!”

“ในเมื่อเจ้าชอบพลังเผ่าปีศาจต่างมิติมากนัก งั้นก็อยู่ที่นี่ไปชั่วนิรันดร์เป็นเพื่อนแม่ทัพปีศาจทุนเทียนซะ!”

เมื่อสิ้นเสียงเย็นชาของจอมพลสี่ เขาก็แบมือออก วัตถุสามเหลี่ยมซึ่งฝังอยู่ที่หว่างคิ้วพลิ้วลงมาบนฝ่ามือช้าๆ

มองภาพนี้เปลือกตาของมู่เฉินก็กระตุกขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ หรือว่าวัตถุที่เขาคิดว่าไร้ประโยชน์จะมีความมหัศจรรย์อื่นอีกเรอะ?

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset