หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 959 หอวิหคโลกันตร์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
ในที่สุดสงครามการล่าของภูมิภาคทางเหนือก็สิ้นสุดลง
หลังจากห้ำหั่นกันมาหลายเดือน ไม่นานจากนั้นความโกลาหลก็กระจายไปทั่วภูมิภาค
ประมุขหมู่ตึกเทวะสิ้นชีพ!
เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่ว ผู้คนก็ตกใจจนพูดไม่ออก ขั้วอำนาจน้อยใหญ่ตะลึงงันจนถึงจุดที่ไม่อยากจะเชื่อ จอมยุทธ์ที่ยืนอยู่จุดสุดยอดของภูมิภาคทางเหนือสิ้นชีพลงแล้ว
แม้ว่าในสงครามล่าทุกครั้งจะมีขั้วอำนาจสูงสุดที่ล่มสลาย แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าขั้วอำนาจที่ล่มสลายในครั้งนี้จะเป็นสำนักที่ทรงพลังที่สุดในภูมิภาคทางเหนือ…
ดังนั้นทั่วภูมิภาคจึงสั่นสะเทือนขณะที่ความโกลาหลกระจายออกไป นั่นเป็นเพราะทุกคนต่างรู้ว่าเมื่อปราศจากประมุข หมู่ตึกเทวะก็ถึงคราวล่มสลายแน่ ด้วยพละกำลังปัจจุบันของพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะปกป้องทรัพย์สินมหาศาลไว้ได้
ในเวลาเดียวกันทรัพย์สินเหล่านี้ก็จะดึงดูดหมาป่าหิวโซให้มาเพ่นพ่านรอบๆ
แต่คราวนี้ก็ยังเกินความคาดหมายของทุกคนไปอีกครั้ง เนื่องจากการแบ่งดินแดนของหมู่ตึกเทวะไม่เหมือนในอดีตที่แม่น้ำเลือดก่อตัวขึ้นไปทั่ว ตรงกันข้ามกลับแบ่งกันอย่างเงียบสงบ
ภายใต้การจับตามองของขั้วอำนาจนับไม่ถ้วน ทุกคนก็พบว่าดินแดนครึ่งหนึ่งของหมู่ตึกเทวะถูกยึดครองโดยอาณาเขตกงเวทสวรรค์
ยามนี้ทุกคนเข้าใจแล้วว่าใครคือผู้ชนะของสงครามล่าครั้งนี้แท้จริง
ขณะเดียวกันข่าวขุมพลังของมั่นถัวหลัวที่เกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายและเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสงครามล่าก็ถูกเล่าลือออกไปราวกับไฟไหม้ในภูมิภาคทางเหนือ
เกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นปลาย?
เมื่อขั้วอำนาจน้อยใหญ่ได้ยินข่าวนี้ก็สูดลมหายใจเย็นเข้าไปสุดปอด เนื่องจากทุกคนเข้าใจแจ่มแจ้งว่านี่หมายถึงพลังอำนาจของอาณาเขตกงเวทสวรรค์เกินกว่าขั้วอำนาจสูงสุดอื่นๆ ไปแล้ว
บางทีในอนาคตการชิงชัยระหว่างขั้วอำนาจเหล่านี้จะสิ้นสุดลง ส่วนอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็จะเป็นขั้วอำนาจสูงสุดที่แข็งแกร่งที่สุด
จากสถานการณ์ที่มาถึงจุดนี้ หลายคนเริ่มเข้าใจแล้วว่าควรทำตัวอย่างไรเมื่อพบปะกับขั้วอำนาจสูงสุดที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคทางเหนือ…
ในอนาคตอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะเป็นเจ้าเหนือหัวภูมิภาคทางเหนือเพียงผู้เดียวแน่นอน ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องอีกแล้ว
ขณะเดียวกับชื่อเสียงของอาณาเขตกงเวทสวรรค์กระจายออกไป ชื่อเสียงของมู่เฉินก็ดังเป็นพลุแตก นั่นเพราะจากข้อมูลที่กระจายออกมา สาเหตุที่อาณาเขตกงเวทสวรรค์กลายเป็นผู้ชนะ เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของมู่เฉินมาก หากไม่มีเขาสถานการณ์ทั้งหมดอาจแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง…
ยิ่งกว่านั้นมู่เฉินยังบรรลุการเป็นจั้นเจินซือในสงครามล่า เขานำหน่วยรบของอาณาเขตกงเวทสวรรค์เข้าสู้จนสุดท้ายกระทั่งหัตถ์แห่งหมู่ตึกเทวะก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
แม้แต่ฟังยี่แห่งหมู่ตึกเทวะและโยวหมิงแห่งจวนยมโลกก็ยังกลายเป็นหินรองเท้าก้อนสำคัญสำหรับให้มู่เฉินก้าวขึ้นไป
ดังนั้นเมื่ออาณาเขตกงเวทสวรรค์ตั้งมั่นคงบนจุดสูงสุด มู่เฉินก็ทะยานเข้าสู่ทำเนียบมังกรหงส์แทนที่ฟังยี่ที่เป็นเจ้าบันทึกมาเนิ่นนาน เขากลายเป็นสุดยอดจอมยุทธ์รุ่นใหม่ในหมู่คนรุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนือ
ด้วยผลงานที่น่าทึ่งของเขา ไม่มีใครพูดทักท้วงการเป็นเจ้าบันทึกของหมู่คนรุ่นใหม่ในภูมิภาคทางเหนือเลย
ขณะที่ภูมิภาคทางเหนือตกอยู่ในความปั่นป่วนจากการล่มสลายของหมู่ตึกเทวะ
อาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ร้อนระอุไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่สงครามล่าจบลงไม่มีวันไหนที่สงบเลย
นั่นเป็นเพราะพวกเขาต้องควบรวมดินแดนของหมู่ตึกเทวะเกือบครึ่ง ด้วยเขตแดนจำนวนมากเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องลำบากสำหรับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ที่จะกินในคำเดียว
นอกจากนี้ยังมีขั้วอำนาจบางส่วนในเขตแดนหมู่ตึกเทวะไม่ยอมจำนน พวกเขาแอบใช้วิธีก่อจลาจล ซึ่งยิ่งเพิ่มยุ่งยากให้อาณาเขตกงเวทสวรรค์เข้าไปอีก
ทว่าปัญหาเหล่านี้ก็ได้รับการแก้ไขทั้งหมด หลังจากจอมพลทั้งสามเคลื่อนพล พวกเขาจัดการกำจัดวัชพืชที่ทำให้เกิดความวุ่นวายออกไปจนเฮี้ยนเตี้ยน ทำให้พวกที่อยู่เบื้องหลังร้อนหนาวไปหมด
อันที่จริงกลุ่มเหล่านี้ไม่ได้จงรักภักดีอะไรต่อหมู่ตึกเทวะ พวกเขาเพียงแต่กลัวว่าหลังจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์เข้ามาบริหารจะมีการเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์เท่านั้นเอง
แต่หลังจากการนองเลือดมากมายปะทุขึ้นจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ พวกเขาถึงได้เข้าใจว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะต้านทานได้ สิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ก็คือยอมจำนนโดยดี มิฉะนั้นจะไม่มีสถานที่สำหรับพวกเขาในภูมิภาคทางเหนืออีกสักตารางนิ้วเดียว
ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปชื่อเสียงของอาณาเขตกงเวทสววรค์ก็ยิ่งทะยานขึ้นพร้อมกับขั้วอำนาจที่เข้ามาสวามิภักดิ์มากมาย ทำให้พลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นในเวลาเพียงหนึ่งเดือนอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ค่อยๆ กลืนกินดินแดนครึ่งหนึ่งของหมู่ตึกเทวะ แม้จะมีเรื่องวุ่นวายเป็นครั้งคราว แต่โดยรวมก็เริ่มสงบลงได้ด้วยดี
เมื่อกินดินแดนครึ่งหนึ่งเข้ามารวมในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ พวกเขาก็กลายเป็นหมูอ้วนพีอย่างไม่ต้องสงสัย แต่โชคดีที่มั่นถัวหลัวและจอมพลทั้งสามให้หลักเหตุผล แม้ว่าจะมีจอมยุทธ์จำนวนมากเข้ามาสวามิภักดิ์เรื่อยๆ พวกเขาก็ไม่ได้มอบตำแหน่งสำคัญให้ ตำแหน่งที่สำคัญยังคงมอบให้กับเหล่าจอมยุทธ์ชาญศึกของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ สิ่งนี้ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาภายในที่จะส่งผลให้กับสำนัก…
แต่ต้องบอกว่าตราบใดที่อาณาเขตกงเวทสวรรค์ร่วมใจผ่านช่วงเวลานี้ ค่อยๆ ย่อยเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากเขตใหญ่ต่างๆ พลังที่หล่อหลอมในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็อยู่เหนือทั่วภูมิภาคทางเหนือได้
เมื่อถึงเวลานั้นอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็จะเป็นเจ้าเหนือหัวแท้จริง!
เขตต้าหลัวเทียน อาณาเขตกงเวทสวรรค์ หอวิหคโลกันตร์
หอวิหคโลกันตร์ปัจจุบันก็เติบโตขึ้นพร้อมกับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ซึ่งแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก นอกจากนี้จำนวนจอมยุทธ์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
เมื่ออาณาเขตกงเวทสวรรค์เติบโต ผลประโยชน์ที่หอวิหคโลกันตร์ได้รับก็ดีที่สุดในบรรดาเหล่าผู้บัญชาการ เมืองภายใต้การดูแลจากหนึ่งร้อยเมืองเพิ่มเป็นหกร้อยเมืองเลยทีเดียว!
การเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์แบบนี้ ทำให้หอวิหคโลกันตร์กลายเป็นอันดับหนึ่งของหมู่ผู้บัญชาการอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ผู้บัญชาการซิวหลัวที่ทรงพลังที่สุดก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับหอวิหคโลกันตร์ได้อีกแล้ว
ทว่าผู้บัญชาการคนอื่นไม่มีความเห็นใดเกี่ยวกับการกระทำของมั่นถัวหลัวที่ให้รางวัลมหาศาลกับหอวิหคโลกันตร์ เพราะทุกคนรู้ชัดว่าเป็นเพราะทุ่มเทของมู่เฉินทำให้อาณาเขตกงเวทสวรรค์ของพวกเขากลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สิ่งที่พวกเขาทำจึงเทียบไม่ติดเลย
นอกจากนี้มู่เฉินยังมอบพีระมิดแสงดาวปราบปีศาจให้กับมั่นถัวหลัวอีกด้วย…
ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะอิจฉาการเติบโตของหอวิหคโลกันตร์ แต่ก็ไม่มีใครพูดถึงความไม่พอใจใดๆ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หอวิหคโลกันตร์และมู่เฉินสมควรได้รับ
แม้ว่าหอวิหคโลกันตร์จะเต็มไปด้วยความสุขจากดินแดนที่ขยายตัว แต่ก็มีปัญหาตามมาเช่นกัน โชคดีที่มีความช่วยเหลือของถังปิงผู้ดูแลคนสำคัญและจอมยุทธ์มากมายที่เข้าร่วม ทำให้หอวิหคโลกันตร์สามารถควบคุมเมืองต่างๆ อย่างสมบูรณ์หลังจากนั้นหนึ่งเดือน…
จำนวนเมืองหกร้อยเมือง การส่งบรรณาการประจำปีให้กับหอวิหคโลกันตร์เพียงอย่างเดียวก็เป็นของเหลวจื้อจุนถึงหลายแสนหยดซึ่งมากกว่าในอดีตหลายเท่า
ในส่วนลึกของหอวิหคโลกันตร์ แม้จะมีการขยายตัวของดินแดน แต่สถานที่นี้ยังคงเป็นดินแดนต้องห้าม มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้ามาที่นี่ได้
ยามนี้มู่เฉินยืนมือไพล่หลังอยู่บนหลังคาหอสูง เขามองไปโดยรอบหอวิหคโลกันตร์ ร่างแสงทะยานผ่านอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าที่นี่ยังเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง
ขณะที่หอวิหคโลกันตร์เข้ารับเมืองจำนวนมาก มู่เฉินก็ไม่ได้ว่าง เพราะไม่ใช่ทุกเมืองที่จะยอมจำนนโดยดี มีบางเมืองกระด้างกระเดื่อง ดังนั้นมู่เฉินจึงต้องไปเยี่ยมเยือนพร้อมหน่วยรบวิหคโลกันตร์ กวาดล้างสิ่งกีดขวางเหล่านั้นสิ้นซาก ดังนั้นในเดือนหนึ่งที่ผ่านมา กระทั่งเขาที่ผ่านการต่อสู้โหดร้ายในสงครามล่ามาก็ยังทนไม่ค่อยไหว..
แต่โชคดีที่หลังจากทำงานหนักมาก ในที่สุดสถานการณ์ของหอวิหคโลกันตร์ก็มั่นคงขึ้น ตราบใดที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ก็รอเพียงเวลาที่หอวิหคโลกันตร์จะเติบโต
“อดีตเทียบปัจจุบันไม่ได้เลยจริงๆ…”
มู่เฉินยืนอยู่บนหลังคา เขามองหอวิหคโลกันตร์ที่ยิ่งใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ สองปีก่อนตอนที่เขามาถึงที่นี่ หอวิหคโลกันตร์เกือบจะถูกบีบให้ปลดประจำการ แต่ใครจะคิดว่าหลังจากผ่านไปสองปีก็เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
“ใช่… แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเจ้าที่ช่วยสนับสนุนนะ”
เสียงหัวเราะเพราะพริ้งดังขึ้นข้างหลังมู่เฉิน เขาหันไปมองก็เห็นร่างสะคราญโฉมของจิ่วโยว นางกำลังกลั้วเสียงหัวเราะขณะยืนอยู่ข้างหลังเขา
จิ่วโยวก้าวออกมายืนเคียงข้างมู่เฉิน นางจ้องมองไปที่ท้องฟ้าห่างไกล หลุดเข้าไปในภวังค์ “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเติบโตขึ้นอย่างมากในเวลาเพียงสองปี”
สองปีก่อนตอนที่มู่เฉินมาถึงอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เขายังไม่ได้ชำระร่างเทห์สวรรค์เลย แต่ตอนนี้เขากลายเป็นผู้นำจอมยุทธ์รุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนือแล้ว การเติบโตของเขาทำให้คนอื่นถอนหายใจด้วยความชื่นชม
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพี่ใหญ่จิ่วโยวที่คอยชี้แนะข้า” มู่เฉินยิ้มบาง หากไม่ใช่จิ่วโยวนำเขามายังอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เขาอาจยังเดินไร้จุดหมายอยู่ในมหาพันภพแบบคนไร้บ้านอยู่เลย
จิ่วโยวยิ้มบางตอบคำพูดของเขา
มู่เฉินมองไปที่จิ่วโยวก็สังเกตเห็นว่ารอยยิ้มนางเหมือนกำลังฝืน เขาขมวดคิ้ว “เป็นอะไรรึเปล่า?”
จิ่วโยวลังเลสั้นๆ ก่อนที่จะพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าได้รับสารจากเผ่า อีกห้าวันผู้อาวุโสเทียนเช่อจะมาพาข้ากลับไปที่เผ่าน่ะ…”
เมื่อมู่เฉินได้ยินคำพูดของนางม่านตาก็หดลง
ในที่สุดเผ่าวิหคโลกันตร์ก็จะมาแล้วหรือ?