สายตาของเยี่ยเทียนมองไปที่ตัวของผู้หญิงคนนั้นที่ไม่สูงมาก ส่วนสูงของผู้หญิงคนนี้ประมาณ 150 หน้าตาเหมือนกับตุ๊กตา
ในแวบแรกดูเหมือนผู้หญิงในวัย 20 และ 30 แต่พอมองผิวอย่างละเอียดแล้ว กลับไม่ใช่วัยสาวแล้ว ดูจากกล้ามเนื้อหางตาของเธอ เกรงว่าน่าจะราวๆ 60 ปี
เมื่อมองเสร็จ ก็เดาว่าน่าจะเป็นคุณนายกง ในใจเยี่ยเทียนถึงกับโล่ง
แม้ว่าใบหน้าของคุณนายกงท่านนี้จะแดงก่ำ ขนคิ้วแน่น จมูกเล็กๆ เกิดมาพร้อมกับรูปลักษณ์ของโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง แต่ใบหน้าของเธอมีปากที่ใหญ่ แต่จมูกทั้งเล็กและต่ำ สิ่งนี้ในทางโหวงเฮ้งเรียกว่า “ดวงกินผัว”
และคุณหญิงกงยังมีโหนกสามที่บนใบหน้า ดังนั้นโหนกสามที่บนใบหน้าก็คือที่แก้มสองที่ ที่หน้าผากอีกหนึ่งที่ โหนกทั้งสามที่มีลักษณะที่ใหญ่มาก สูงมาก นี้ก็เป็นใบหน้าที่พิชิตสามีได้้
ที่จริงการปรากฏตัวของทั้งสองคน ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ทั้งสองอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เยี่ยเทียนก็ไม่จำเป็นต้องถามอะไรมาก ก็รู้ว่าสามีของเธอไม่มีชีวิตอีกต่อไป
เยี่ยเทียนส่ายหน้าเบาๆ สายตาค่อยๆหันไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างคุณนายกง แต่ผู้หญิงคนนี้มีอายุ 23 หรือ 24 ได้ ยืนอยู่ด้านข้างคุณนายกง สูงกว่าคุณนายกงประมาณหนึ่ง น่าจะประมาณ 170
ผู้หญิงมีหน้าตาที่สละสวย แต่กลับมีพลังของหยางที่องอาจ สวมใส่กางเกงยีนที่แนบติดร่างกายกับเสื้อเชิ้ตสีขาว ในขณะเดียวกันก็เปิดเผยสรีระภายใน ทำให้คนรู้สึกถึงบุคคลิกที่องอาจตรงไปตรงมา
“หืม?”
ทันใดนั้นเยี่ยเทียนก็มีใบหน้าที่สงสัยเกิดขึ้น จ้องมองที่หน้าอกของหญิงสาว กระดุมสองเม็ดตรงนั้นไม่ได้ติดกระดุม ทำให้เห็นกระดูกไหปลาร้าและกล้ามเนื้อสีขาว
“มองอะไร คนบ้านนอกคอกนา ไม่เคยเห็นผู้หญิงหรือยังไง”
เยี่ยเทียนคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวคนนั้นจะมีปฏิกิริยาที่โต้ตอบไวเช่นนี้ ตัวเองไม่เพียงมีสายตาที่จ้องมอง แต่ก็ยังไปกระตุ้นความรู้สึกของผู้หญิงคนนั้น ตาเขม็งสายตาหนึ่งก็ส่งมา
“พี่ติงติง พี่เยี่ยเทียนบ้านนอกที่ไหนกันล่ะเขาเป็นคนดีน่ะ ”ถังเสวียเสวี่ยที่อยู่ด้านข้างกับผู้หญิงคนนี้คุ้นเคยกันดี ช่วยออกรับแทนเยี่ยเทียน
“เขา……เขา เป็นคนดีอะไรกัน เสวียเสวี่ยต่อไปเธอห่างๆ จากเขาหน่อย ฉันว่าเขาก็เป็นอันธพาลคนหนึ่ง”
หญิงสาวหน้าแดงด้วยความอายเมื่อถูกถังเสวียเสวี่ยถาม ถึงแม้ว่าเธอจะมีนิสัยที่โผงผาง แต่ก็อายที่จะบอกว่าเยี่ยเทียนกำลังมองที่หน้าอกของตัวเอง
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาวคนนั้น เมื่อเยี่ยเทียนไม่มีปฏิกริยาตอบกลับ ถังเหวินหย่วนกลับทำให้ตกใจ ทำหน้าตึง แล้วพูดอบรมว่า “หลิวติงติง ทำไมถึงพูดอย่างนั้นกับอาจารย์เยี่ยเทียนล่ะ”
“แค่กๆ ช่างเถอะ เมื่อกี้เป็นผมเองที่ไม่มีมารยาท” เยี่ยเทียนโบกไม้โบกมือ เขาไม่ได้ตั้งใจมองที่หน้าอกของหญิงสาว เป็นเพราะจี้หยกบนหน้าอกของหญิงสาว ที่เป็นเครื่องรางชิ้นหนึ่ง
และเยี่ยเทียนมองไปที่กระดูกส่วนอื่นที่ตอบรับ ก็พบว่าหญิงสาวที่ชื่อหลิวติงติงนั้นคาดไม่ถึงว่าจะฝึกพลัง ของนักพรตเต๋าด้วย
ถึงแม้ว่าวิชาของหญิงสาวจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่กลับทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกถึงความเคยชินนี้ ดังนั้นจึงทำให้เยี่ยเทียน มองเธอนานไปครู่หนึ่ง
“เชอะ อาจารย์ใหญ่อะไรกัน ถ้าเขาเป็นปรมาจารย์ ทั้งโลกนี้ก็เป็นปรมาจารย์กันหมดแล้ว” หญิงสาวแทบจะไม่ไว้หน้าถังเหวิยหย่วน ในปากยังพูดเสียงที่เย็นชา
“พี่ติงติง พี่ไม่ต้องพูดแล้ว พี่เยี่ยเทียนเป็นคนดีจริงๆ อาการป่วยของฉันก็เป็นเขาที่รักษาให้หาย”
ถังเสวีี่ยเสวี่ยก็ไม่รู้ว่าทำไมเยี่ยเทียนถึงถูกหลิวติงติงตำหนิได้ เมื่อเห็นว่าท่าจะไม่ดี ก็ลากหญิงสาวไปอีกทางหนึ่ง
“แค่กๆ เด็กไม่รู้ความ ฉันขอแนะนำสักหน่อย ท่านนี้คือปรมาจารย์เยี่ยที่มาจากปักกิ่ง ท่านนี้คือคุณนายกงเสี่ยวเสี่ยวมากจากเทียนฮวากรุ๊ป”
เมื่อเห็นว่าหลิวติงติงไม่ได้พูดอะไรอีก ถังเหวินหย่วนก็โล่งอก หันไปพูดกับกงเสี่ยวเสี่ยวว่า “น้องสาว อาจารย์เยี่ยทำนายโชคชะตาและดูฮวงจุ้ยไม่มีใครเทียบได้ ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงเชิญเขามาได้”
ถังเหวินหย่วนถึงแม้จะเกิดก่อนกงเสี่ยวเสี่ยวสิบกว่าปี แต่ปีนั้นพวกเขามาจากปักกิ่งด้วยกัน ถังเหวินหย่วนเห็นว่าสองคนนี้เป็นคนบ้านเดียวกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาตลอด
เนื่องจากสามีของกงเสี่ยวเสี่ยวหลังจากถูกจับแบบไร้ร่องรอย ทำให้ตอนนี้กงเสี่ยวเสี่ยวและพ่อแม่สามี ต้องมีการฟ้องร้องคดีเจ็ดแปดปี ถังเหวินหย่วนไม่ยอมที่จะให้เพื่อนตกในสภาพอย่างนี้ ก็เลยออกไปขอความช่วยเหลือ จากเยี่ยเทียน
“อาจารย์เยี่ย สามีฉันหายตัวไปได้แปดปีแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย ไปสืบหาทุกที่ก็ไม่พบร่องรอย จะรบกวนอาจารย์เยี่ยทายให้สักหน่อย จะทราบซึ้งเป็นอย่างมาก”
ถึงแม้ว่าอายุของเยี่ยเทียนจะทำให้รู้สึกประหลาดใจ แต่กงเสี่ยวเสี่ยวกับถังเหวินหย่วนเป็นเพื่อนกันมาหลายปี เธอรู้ว่าถังเหวินหย่วนไม่ใช่คนที่พูดส่งเดช ถ้าเคารพเยี่ยเทียนขนาดนี้ คิดว่าเด็กหนุ่มต้องมีดีกว่าคนอื่น
“สามีคุณ…เอาแบบนี้เถอะ คุณเล่าเรื่องแปดปีก่อนที่เขาหายตัวไปสักหน่อยสิครับ จากนั้นค่อยทำนายดวงชะตาแปดอักษร” เดิมทีเยี่ยเทียนอยากจะพูดตรงๆ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เศร้าของหญิงสาว สิ่งที่เกือบจะพูดไปก็ต้องเปลี่ยนคำพูด
“นั้นเป็นเรื่องเมื่อแปดปีก่อน วันนั้นเป็นวันที่ 1 เดือนเมษายน จู่ๆฉันก็รับโทรศัพท์สายหนึ่ง บอกว่าสามีถูกจับตัวไป อาจารย์เยี่ย คุณก็รู้ว่า วันที่ 1 เดือนเมษายนเป็นวันโกหก ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ แต่ต่อมา…”
เสี่ยวกงกงไม่ได้ใส่ใจสีหน้าของเยี่ยเทียน พูดอย่างตั้งอกตั้งใจ สภาพจิตใจก็ตกอยู่ความทรงจำ ที่ไม่มีความสุขในตอนนั้น
กงเสี่ยวเสี่ยวกับฟู่อี๋ผู้ซึ่งเป็นสามีของเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด ตอนที่รับสายขมขู่ ยังคิดว่าสามีล้อตัวเองเล่น แต่หลังจากนั้นสองวันไม่มีการรับสายใดๆจากสามี เธอก็เริ่มกังวลใจขึ้นมา
ก็ตอนนี้ โจรที่เรียกค่าไถ่ก็โทรมาอีก ให้กงเสี่ยวเสี่ยวเอาเงิน 80 ล้านดอลลาร์เข้าบัญชีที่กำหนดไว้ และไม่อนุญาตให้เธอโทรหาตำรวจ
ตอนนั้นหลังจากที่เธอรวบรวมเงินได้ 40 ล้านดอลลาร์ ฝากเข้าบัญชีธนาคารตามคำสั่งของโจรลักพาตัว ในสองวันต่อมา คิดไม่ถึงว่าโจรลักพาตัวจะไม่ขอเงินที่เหลือ
กงเสี่ยวเสี่ยวยิ่งคิดไปมาก็ยิ่งพบว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ ดังนั้นเลือกที่จะแจ้งตำรวจ หลังจากที่ตำรวจสืบเป็นอย่างลับๆ เป็นเวลาครึ่งปี กรณีนี้ถูกจับเมื่อปี 1991 มีแปดคนที่ถูกจับกุม ในนั้นมีชาวไต้หวันสองคน
โจรลักพาตัวที่ถูกจับกุมได้สารภาพว่าลักพาตัวฟู่อี๋สามีของเธอ แต่เบาะแสของฟู่อี๋ กลับมีข้อแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
หัวหน้าโจรสองคนบอกว่าคืนนั้นหลังจากที่ได้ค่าไถ่ตัวแล้วก็แอบหนีออกมา พวกเขาก็ตามไม่ทัน ดังนั้นก็ไม่กล้าที่จะขอค่าไถ่ตัวเพิ่ม ก็เลยรีบหนีออกจากฮ่องกง
และผู้ต้องหาที่เหลือกลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสามีของกงเสี่ยวเสี่ยว ถูกหัวหน้าโจรสองคนผลักลงในน่านน้ำ ทะเลระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมรับข้อแก้ตัวของกันและกัน ดังนั้นเบาะแสของฟู่อี๋ยังเป็นคดีค้างคา
ดังนั้นหลายปีมานี้ กงเสี่ยวเสี่ยวนอกจากต้องฟ้องร้องกับพ่อแม่ของสามีแล้ว ยังไม่ยอมแพ้ที่จะหาเบาะแสของสามีด้วย ผ่านมาแปดปี ก็ยังคงไร้วี่แวว
“นี่ก็เป็นคนที่น่าสงสารมากเลยครับ”
หลังจากฟังกงเสี่ยวเสี่ยวพูดให้ฟังเสร็จ เยี่ยเทียนก็ส่ายหน้าเบาๆ เรื่องก็เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว หัวหน้าโจรสองคนนั้นให้การเท็จในชั้นศาล
ต้องรู้ว่า เจตนาฆาตกรรมและลักพาตัว นี่เป็นสองคดีที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง งั้นฟู่อี๋ผู้ก็ถูกสองคนสังหารแล้วก็หายสาบสูญไป แต่เพียงเพื่อหลบหนีจากข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาเท่านั้น
เยี่ยเทียรู้ว่า ที่จริงผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ข้างหน้าก็รู้เป็นอย่างดี แต่เธอแค่ไม่ยอมรับเท่านั้น
เปิดเผยแผลเป็นของมนุษย์เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากเรื่องหนึ่ง หลังจากนั้นก็ดูดวงชะตาวันเดือนปีเกิดของฟู่อี๋ ให้กับกงเสี่ยวเสี่ยว เยี่ยเทียนใช้นิ้วข้างขวาในการอนุมาน ทันใดนั้นก็มองไปที่กงเสี่ยวเสี่ยว พูดว่า “คุณนายกง ตามที่ผมดู สามีของคุณไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว……”
“อะไรน่ะ”
ถึงแม้ว่าเวลาแปดปีจะบรรเทาอาการความเจ็บปวดได้มาก และในใจลึกๆ ก็ยอมรับเรื่องการตายของสามี ไปได้นานแล้ว แต่สามีกับกงเสี่ยวเสี่ยวก็เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียนนี้ ร่างกายก็แทบจะยืนไม่ไหว
“คุณพูดเหลวไหลอะไร มีการทำนายแบบนี้ด้วยเหรอแม้แต่เขียนคำเสี่ยงทายก็ไม่มี มั่วไปก่อนหรือยังไง”
หญิงสาวคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างกงเสี่ยวเสี่ยว ก็พยุงกงเสี่ยวเสี่ยวขึ้น พูดว่า “คุณน้าเล็ก อย่าไปฟังเขาพูดเหลวไหลเลย ตาของฉันก็ไม่กล้าตัดสินว่าคุณลุงฝูตายแล้ว เขาดูจากอะไรกัน”
สายตาของหญิงสาวที่มองเยี่ยเทียนด้วยความดูถูก ยังแผงด้วยอารมณ์ที่ยั่วยุ มองไปที่เยี่ยเทียนแล้วส่ายหัว ไม่ได้สนหน้าอกของเธอ แทบอยากจะโจมตีคู่ต่อสู้
“หลิวติงติง ใครสอนให้เธอพูดจาแบบนี้รีบขอโทษเยี่ยเทียนเร็ว”
หลังจากที่ฟังหญิงสาว ถังเหวินหย่วนก็โมโหขึ้นมา อีกอย่างเยี่ยเทียนเป็นแขกที่ตัวเองเชิญมา จะมาให้เด็กเมื่อวานซืนมาอวดดีได้อย่างไร
“อะไรน่ะ ก็เขาพูดจาเหลวไหล” คุณตาของหลิวติงติง มีตำแหน่งในวงการของฮ่องกง ไม่มีใครอยากทะเลาะด้วยจึงถูกตามใจตั้งแต่เด็ก ดังนั้นไม่ยอมรับคน ของนายท่านถัง
“เหล่า…เหล่าถัง ฉันพูดกับเธอเอง”
ถังเหวินหย่วนโกรธมากถึงกับเขม็งตาใส่ เยี่ยเทียนโบกไม้โบกมือ พูดว่า “ผมไม่เพียงคำนวณได้ว่าเขาไม่อยู่บนโลกนี้ ยังสามารถหาซากศพของเขาได้ ไม่รู้ว่าแบบนี้ทายได้แม่นยำหรือไม่”
สิ้นคำพูดของเยี่ยเทียน กงเสี่ยวเสี่ยวที่ก้มหน้ากับความเสียใจก็เงยหน้าขึ้น คว้าที่แขนของเยี่ยเทียน รีบพูดว่า “อาจารย์……อาจารย์เยี่ย คุณ…คุณสามารถหาศพของอาฝูได้เหรอ”
แต่ไหนแต่ไรคนจีนสบายใจเมื่อคนได้ได้ฝังศพ กงเสี่ยวเสี่ยวหลายปีนี้ทุ่มเทอย่างสุดกำลังที่จะหาสามี ความจริงไม่มีวี่แววว่าสามีจะมีชีวิตยู่ แต่ยังอยากคิดที่จะเก็บศพของสามีฝังลงดินก็พอแล้ว
แต่ทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล เวลาก็ผ่านไปนาน ก็แค่ความคิดเล็กๆน้อยๆ กงเสี่ยวเสี่ยวก็ค่อยๆไม่กล้าที่จะเพ้อฝัน แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าเยี่ยเทียนสามารถหาศพของสามีได้ ทันใดนั้นกงเสี่ยวเสี่ยวถึงกับฮึกเหิมขึ้นมา
“คุณนายกง ดื่มน้ำก่อนครับ”
เยี่ยเทียนค่อยๆ คลายมือของกงเสี่ยวเสี่ยว พูดว่า “ตำแหน่งสามารถได้จากการอนุมาน ต่อให้ไม่แม่นยำก็ไม่ไกลจากนี้มาก”
กงเสี่ยวเสี่ยวถึงกับสติแตกไม่มีคราบของหญิงแกร่งและสง่า ใบหน้าโศกเศร้ามองมาทางเยี่ยเทียนพูดว่า “งั้น…งั้นอาจารย์เยี่ยเทียนรีบอนุมานเร็วๆ อยากได้เงินเท่าไหร่ให้บอก เท่าไหร่ก็ได้”
“น้าเสี่ยวเสี่ยว ทำไม ทำไมน้าถึงเชื่อคนง่ายอย่างนี้นะ”
เยี่ยเทียนยังไม่ทันตอบ หลิวติงติงก็รีบขัดน้าสาวทันที เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อว่าเยี่ยเทียนจะหาศพได้เหมือนอย่างที่พูด
……