เยี่ยเทียนฟันฉับลงไปแล้วไม่ได้หันกลับไปมองด้วยซ้ำ เพราะเขารู้ว่าในโลกนี้ ไม่ว่าทั้งคนหรือผีก็ไม่อาจ ต้านทานพลกำลังทั้งหมดของเขาได้
ง้าวจันทร์เสี้ยวเป็นอาวุธที่ใช้ในสนามรบ ย่อมสะสมพลังพิฆาตจากการเข่นฆ่าเอาไว้แน่นหนา ความคมของมันสามารถตัดเหล็กกล้าได้ราวกับตัดก้อนดิน แม้คนตรงหน้าจะเป็นคนเหล็ก เยี่ยเทียนก็เชื่อว่า สามารถฟันขาดเป็นสองท่อนได้
ตอนที่เยี่ยเทียนหันหลังกลับนั้น เขารู้สึกถึงไอน้ำพ่นเข้าใส่แผ่นหลังของเขา แต่ไม่เหมือนกับเลือดสด ของเหลวที่เขารู้สึกมันเย็นยะเยือกอย่างประหลาด ไม่มีความอบอุ่นของเลือดเนื้อเลย
“แก…แกฆ่าอาฮวา?!”
ชาญ ทองทวนยืนประจันหน้ากับเยี่ยเทียน กรี๊ดร้องเสียงแหลมออกมา ในความคิดของเขา วิญญาณนั้นไม่สามารถถูกทำลายได้ แต่กลับถูกเยี่ยเทียนฟันขาดเป็นสองท่อน
หรือจะพูดให้ถูกคือ ฟันขาดเป็นสองแผ่น ตอนที่เยี่ยเทียนลงดาบไปที่วิญญาณนั้น เป็นเพียงปฏิกริยาตอบสนอง มันเอียงศีรษะเล็กน้อย ง้าวจันทร์เสี้ยวก็พาดผ่านตัวของมันตั้งแต่บ่าซ้ายลงมาเป็นทางยาว
ด้วยความเร็วในการฟันง้าว เมื่อเยี่ยเทียนยกง้าวขึ้นอีกครั้ง ร่างกายครึ่งหนึ่งของผีร้ายก็ขาดออกจากกัน นอกจากส่วนศีรษะแล้ว ส่วนลำตัวถูกตัดขาด อวัยวะภายในไหลออกมากองเต็มพื้น
เยี่ยเทียนไม่รู้ที่มาของอาฮวา แต่ชาญ ทองทวนนั้นรู้ดีที่สุด
การใช้วิธีไสยศาสตร์สร้างวิญญาณขึ้นมาเป็นเรื่องที่ผิดธรรชาติ ชาญ ทองทวนเคยลองใช้สว่านไฟฟ้า เจาะลงบนผิวของมัน ปรากฏว่ามีเพียงรอยจุดสีขาวเท่านั้น เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้
ชาญ ทองทวนจึงกล้าที่จะวางก้ามกร่างมาถึงฮ่องกง หลักๆ เพราะมีวิญญาณคอยคุ้มกัน และวันนี้วิญญาณก็ทำผลงานได้ดี ทำให้เยี่ยเทียนเสียท่าอยู่หลายยกในช่วงแรก
แต่ใครจะรู้ว่าสถานการณ์กลับตาลปัตร คนมีเลือดมีเนื้อกลับชนะวิญญาณได้ ผีร้ายถูกเยี่ยเทียนฟันตัวขาด ทำให้ชาญ ทองทวนหวาดหวั่นยิ่งขึ้นจนร้องเสียงหลงออกมาแล้วต้องทะยานตัวถอยหลัง
“คิดหนีเหรอ?!” เยี่ยเทียนโทสะยังคงเดือดดาล เขาเตรียมตัวมาอย่างดี แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจะมีวิญญาณร้ายเข้ามาวุ่นวายด้วย
ตอนนี้ไม่เพียงแต่ศิษย์พี่ได้บาดเจ็บสาหัส แม้แต่เยี่ยเทียนเองก็ได้สูดเอาพิษจากวิญญาณร้ายเข้าสู่ร่างกาย เขาไม่เคยเสียท่าใครมากขนาดนี้เลย
เมื่อเห็นว่าชาญ ทองทวนคิดจะหนี เยี่ยเทียนจะยอมเลิกราง่ายๆ งั้นหรือ? ออกแรงที่มือขวา ลากง้าวจันทร์เสี้ยวแล้วยกดีดขึ้นมา
ชาญ ทองทวนเห็นง้าวถูกยกขึ้นสูง ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมไปถึงก้นบึ้งหัวใจ แล้วตะโกนไปเบื้องหลัง ของเยี่ยเทียนว่า “อาฮวา ช่วยด้วย!”
“ไม่มีใครช่วยแกได้แล้ว!” เยี่ยเทียนยิ้มเย็น ง้าวในมือเตรียมจะฟันลงมา อยู่ๆก็มีแรงมหาศาลออกมาจากตัวง้าว
“บ้าเอ๊ย ยัง…ยังไม่ตาย?”
เยี่ยเทียนหันหลังกลับก็ต้องตะลึง ครึ่งลำตัวด้านที่มีหัวติดอยู่ของอาฮวากระโดดลุกขึ้นมา มือข้างนั้นคว้าได้ที่ด้ามง้าว
วิญญาณร้ายตอนนี้อาศัยเรี่ยวแรงสุดท้ายที่เหลืออยู่ แต่สิ่งที่น่าแปลกจนให้เยี่ยเทียนตกใจคือ ชาญ ทองทวนถือโอกาสหนีออกไปจากห้องรับแขกแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเขารูปร่างอ้วนท้วมกลับหนีเอาตัวรอด คล่องแคล่วรวดเร็วอย่างกับลิง
“นี่มันตัวอะไรกันแน่?”
ในวิชาแปลกประหลาดนั้นมีวิธีการลึกลับมากมาย แต่เยี่ยเทียนไม่เคยคิดมาก่อนว่า ศพของคนๆ หนึ่งเมื่อขาดออก จากกันแล้วยังราวกับมีชีวิต?
มีเสียงลมพัดเข้ามา เยี่ยเทียนไม่ทันคิดต่อ ออกแรงดึงง้าวแต่มันไม่ขยับ จึงปล่อยมือจากด้ามเสีย แล้วตามไปด้วยมือเปล่า
คนเลวอย่างชาญ ทองทวนไม่ว่ายังไงเยี่ยก็ต้องจับตัวมาให้ได้ การเคลื่อนไหวของเขาเร็วกว่าชาญ ทองทวน เพียงไม่กี่ก้าวก็ตามหลังชาญ ทองทวนไปติดๆ
เยี่ยเทียนไม่พูดมาก ซัดฝ่ามือเข้าที่กลางหลังของชาญ ทองทวน ชาญ ทองทวนเหมือนรู้ชะตากรรมตัวเอง แม้จะรู้สึกถึงแรงลมมาจากด้านหลัง แต่ก็ไม่กล้าหันหลังกลับ ออกจากเท้ากระโดดพุ่งตัวออกไปไกล
“เดี๋ยวก่อน! “เยี่ยเทียนตะโกน ชาญ ทองทวนที่กระโดดไปถึงกำแพงแล้วก็ได้หยุดลง
“แกรนหาที่ตายเอง…”ชาญ ทองทวนส่งสายตาอาฆาตกลับมา สิ่งที่เขากลัวคือง้าวของเยี่ยเทียน ตอนนี้เยี่ยเทียนมาด้วยมือเปล่า ชาญ ทองทวนมีความคิดบางอย่างขึ้นมา
เยี่ยเทียนเกลียดคนๆ นี้เข้ากระดูกดำ เขาไม่มีวันจะญาติดีด้วยเด็ดขาด กระโดดเพียงก้าวเดียว แล้วซัดฝ่ามือไปที่หน้าอกของชาญ ทองทวน
เห็นฝ่ามือของเยี่ยเทียนใกล้เข้ามา ใบหน้าขาญ ทองทวนฉายแววเจ้าเล่ห์ เขาแค่หันข้างแล้วใช้ไขมันหน้าท้อง รับฝ่ามือของเยี่ยเทียน
ชาญ ทองทวนฝึกมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก เคยขึ้นเวทีชกมาเป็นร้อยสังเวียน ช่วงวัยกลางคนก็ได้เรียนกับอาจารย์โยคะ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการต่อยมวยสมัยก่อนจนหาย แต่รูปร่างของเขากลับกลมอย่างกับลูกบอล
หากเป็นคนนอกมองคงคิดเป็นว่าความอ้วนของชาญ ทองทวน แต่ความจริงแล้วเป็นวิธีการป้องกันตัวชั้นหนึ่ง มีครั้งหนึ่งที่ประลองมวยกับปรมาจารย์มวยไทยท่านหนึ่ง ชาญ ทองทวนใช้ความอ้วนหลอกล่อเอาจนสังหารฝ่ายตรงข้ามได้
เหมือนกับตอนที่ประมือกับจั่วเจียจวิ้น ชาญ ทองทวนตั้งใจให้จั่วเจียจวิ้นโจมตีเข้าถึงตัว อาศัยตอนที่จั่วเจียจวิ้น กำลังงุนงงแปลกใจ ลงมือทำร้ายจั่วเจียจวิ้นจนตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
ชาญ ทองทวนจะใช้ไม้นี้อีกครั้งด้วยจุดประสงค์เดิม แต่เยี่ยเทียนไม่เหมือนกับจั่วเจียจวิ้น
ฝ่ามือที่ซัดเข้าที่ท้องของชาญ ทองทวน เยี่ยเทียนสัมผัสได้ว่ามันนุ่มเหมือนปุยนุ่นไม่รับแรงเลย ไขมันหนาๆ นั้นสั่นกระเพื่อมขึ้นลง ทำให้กำลังที่เยี่ยเทียนส่งออกไปสลายหมดสิ้น
เยี่ยเทียนยิ้มเย็น ไม่ชักช้ารีรอ จากฝ่ามือขวาที่ซัดออกไปเปลี่ยนเป็นกรงเล็บในทันใด นิ้วทั้งห้าเหมือนกรงเล็บ ตะขอล้วงทะลุเข้าไปในท้องของชาญ ทองทวน
“อ๋า!”
ชาญ ทองทวนที่คิดว่าตัวเองเป็นต่ออยู่ คาดไม่ถึงว่าจะเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ รู้สึกถึงความปวดรุนแรงในท้องน้อย ทนไม่ไหวจนต้องร้องออกมา ปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้าของเยี่ยเทียน
เยี่ยเทียนยกมือซ้ายขึ้นมากันหมัดฝ่ายตรงข้าม ขาขวายันขึ้นส่งร่างกายไปด้านหน้า มือขวาที่จ้วงอยู่ใน ไขมันตรงท้องน้อยถูกดันลึกเข้าไปจนถึงช่องท้อง
มือของเยี่ยเทียนไม่ว่าจับถูกอวัยวะชิ้นไหน เขาหมุนข้อมือคว้านอยู่ในช่องท้อง แล้วดึงมือกลับออกมา มีลำไส้สีเขียวส่วนหนึ่งติดมืออกมาด้วย
“น่าคลื่นไส้จริง?!” เยี่ยเทียนเห็นวัตถุในมือแล้วรู้สึกอยากอาเจียน รีบโยนท่อนลำไส้นั้นลงไปที่พื้น
เมื่อก่อนที่เขาเคยไปนอนในป่าช้าเคยเห็นศพมานับไม่ถ้วน แต่ลำไส้ของคนเป็นๆ นี่เห็นเป็นครั้งแรก รสเปรี้ยววิ่งขึ้นมาตามลำคอ เกือบจะอาเจียนออกมา
“อา…อา…!”
ตอนที่ชาญ ทองทวนใช้คุณไสยเล่นกับลำไส้ของคนอื่นเป็นเรื่องปกติ แต่ตอนนี้ลำไส้ของตัวเองถูกโยนกองอยู่ตรงหน้า กลับไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย
ชาญ ทองทวนไม่ใช่คนธรรมดา เพราะเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับอวัยวะภายในของมนุษย์ จึงตอบโต้ได้ไวกว่าเยี่ยเทียน ตอนที่เยี่ยเทียนโยนลำไส้ท่อนนั้นออกไป เขาก็รีบไปคว้าเก็บกลับมา แล้วยัดกลับเข้าไปในท้องตัวเองอย่างรวดเร็ว
ที่น่าแปลกคือเยี่ยเทียนคว้านมือเข้าไปในท้องของชาญ ทองทวน แต่เขากลับไม่มีเลือดไหลสักหยด ชั้นไขมันนุ่มนิ่มนั่นประสานตัวกลับเข้าหากันเหมือนไม่เคยมีร่องรอยมาก่อน
เป็นเพราะข้อดีจากการฝึกโยคะ เขาสามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ทุกส่วนบนร่างกาย ส่วนความเจ็บปวดนั้นอาศัยความอดทนซึ่งมีมากกว่าคนทั่วไป
จนถึงตอนนี้ชาญ ทองทวนไม่มีความคิดจะฆ่าเยี่ยเทียนแล้ว คอยหาโอกาสที่เยี่ยเทียนเผลอ หมุนตัวโดดข้ามกำแพงหนีไปด้วยความเร็วที่พวกลิงป่ายังต้องอาย
“ยังคิดหนีอีก?” เรื่องมาถึงขนาดนี้ เยี่ยเทียนจะยอมรามือง่ายๆ ได้อย่างไร?ขาขวายันขอบกำแพง สองมือรั้งด้านบนกำแพงไว้ แล้วทะยานตัวปีนออกไป
ตอนที่ชาญ ทองทวนมา เขามาจากทางหลังเขาจึงคุ้นกับลู่ทางดีกว่าเยี่ยเทียน อีกทั้งยังมีแรงหนี จากความอยากเอาตัวรอด พอหนีไปถึงตีนเขา เยี่ยเทียนถึงตามเขาทัน
“อย่าหนี!”
เยี่ยเทียนซัดหมัดเข้าที่กลางหลังตรงกับตำแหน่งหัวใจ ชาญทองทวนกัดฟันทนความเจ็บปวดของบาดแผลไว้ และไม่สามารถสลายแรงที่ผสมความแค้นของเยี่ยเทียนได้ จึงโดนเข้าไปเต็มรัก
หมัดนี้ของเยี่ยเทียนทำให้ร่างกายอันใหญ่โตของชาญทองทวนลอยขึ้น แล้วกลิ้งลงไปตามทางลาดหินภูเขา ตอนที่ลอยอยู่กลางอากาศ ชิ้นส่วนอวัยวะกระเด็นหลุดออกมาจากปากของชาญทองทวน
หมัดของเยี่ยเทียนส่งตัวเขากลิ้งลงไปตามทางลาด ชาญทองทวนไม่มีโอกาสจะได้ตรวจดูอาการบาดเจ็บของตัวเอง รีบเปิดประตูรถ ตะโกนใส่สถิรพันธิ์ ผู้ซึ่งกำลังอ้าปากค้างว่า “รีบออกรถ!””
ลิ่มเลือดก้อนดำๆ ไหลออกมาจากปากที่ขยับพูด คนปกติหากบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้คงจะตายไปแล้ว แต่ชาญ ทองทวนมีแรงใจในการเอาชีวิตรอดสูงมาก
“จี..จี”
ตอนที่สารถีออกรถ ไม่รู้ว่าเจ้าเหมาโถวโผล่มาจากไหน อยู่ๆ ก็พุ่งลงจากเชิงเขาเข้าไปในรถ เสียงร้องน่าอนาจของชาญ ทองทวนดังขึ้น รถยนตร์พุ่งทะยานไปข้างหน้า
“เหมาโถว กลับมา!”
แม้ว่าเหมาโถวจะไปช่วยเก็บงานให้ แต่เยี่ยเทียนก็ยังกลัวว่ามันจะเป็นอันตราย เหมาโถวกระโดดออกมาจากรถ ตามเสียงเรียกของเยี่ยเทียน แล้วทะยานมาอยู่ตรงหน้าเขา
“จีจี…จีจี!” มันยกอุ้งเท้าด้านขวาขึ้น เหมาโถวกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ
“นี่…เร็ว รีบโยนทิ้งเร็ว!”
เยี่ยเทียนก้มดูก็ตกใจจนตาตั้ง พิษร้ายกลางอกเกือบจะคุมไม่อยู่ เพราะสิ่งที่อยู่ในอุ้งเท้า ของเจ้าเหมาโถวคือลูกตาข้างหนึ่ง
“ไป กลับได้แล้ว!”
เยี่ยเทียนมองรถที่เลี้ยวอ้อมมุมเขาไกลออกไป เขาไม่คิดจะตามต่อ ลำไส้ไหลทะลัก อวัยวะภายในแหลกสลาย ดวงตายังถูกเหมาโถวควักออกมาข้างหนึ่ง เยี่ยเทียนไม่เชื่อว่าชาญ ทองทวนจะมีชีวิตรอดได้?
……