เมื่อเห็นกงเสียวเสี่ยวยังรอที่จะเค้นความจริง อาติงเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พูดว่า “คุณนายกง คุณก็อย่าถามเลย นายน้อยมีธุระที่จะต้องทำจริงๆ”
ในขณะที่พูด อาติงก็ใช้สายตามองไปที่กงเสียวเสี่ยว กงเสียวเสี่ยวสามารถยกระดับอาณาจักรธุรกิจ ขนาดใหญ่ได้หลังจากสามีของเธอเสียชีวิต โดยปกติไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลังจากที่เห็นสายตาแปลกๆ ของอาติง ก็ไม่ถามอะไรต่ออีก
“ถ้ามีคนถามถึงผม พวกคุณก็ตอบไปตามความจริง” เยี่ยเทียนหันกลับมามอง แล้วก็ออกเดินไป ก้าวไม่กี่ก้าวก็ถึงเนินเขาเล็กๆ นำร่างเดินขึ้นไปบนภูเขา
ป่าและภูเขาในไต้หวันต่างก็มีสีเขียวชะอุ่มตลอดทั้งปี ช่างเวลาประเดี๋ยวเดียวร่างของเยี่ยเทียนก็หายไปในป่าทึบ แล้วก็ไม่เห็นวี่แววของเขาอีกเลย
“อาติง เกิดอะไรขึ้น” เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดจากเยี่ยเทียน ทำให้แววตาความสนใจของกงเสียวเสี่ยว เปลี่ยนมาที่ศพของสามีทันที
อาติงลากกงเสียวเสี่ยวเดินไปที่ด้านข้างไม่กี่ก้าว พูดว่า “คุณนายกง มีคนปองร้ายนายน้อย เขากลัวจะทำให้พวกเราจะได้รับอันตรายไปด้วย เลยไม่อยากให้พวกนั้นมาที่นี่”
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ” ใบหน้าขาวผ่องของกงเสียวเสี่ยวมีสีหน้าความโกรธแค้นขึ้น “ฉันจะรีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไต้หวันทันที ให้พวกเขาส่งเฮลิคอปเตอร์มา”
อย่าคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเศรษฐีที่อยู่ในไต้หวันและฮ่องกงพวกนี้จะธรรมดา พวกเขาสามารถทำอะไรหลายๆ อย่างมากกว่าที่คนอื่นจะจินตนาการได้
อย่ามองว่ากงเสียวเสี่ยวเป็นแค่นักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ ที่ไม่เคยล้มเหลวเธอมีความสัมพันธ์ที่แน่นเฟ้นกับแก๊ง ต่างๆ ในไต้หวันหลายแก๊ง เช่น แก๊งซูเหลียน แก๊งซิฉี และแก๊งอื่นๆ อีก นอกจากนี้ก็ยังไปมาหาสู่กับทางทหารของไต้หวันอีกด้วย ที่เธอบอกว่าสามารถ ส่งเฮลิคอปเตอร์ มาได้ไม่ใช่เรื่องที่โกหก
เยี่ยเทียนไม่รู้คำพูดที่เขาพูดก่อนจากมานั้น จะมีผลทำให้ทั้งฮ่องกงและไต้หวันสองแผ่นดินเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ นอกจากกงเสียวเสี่ยวแล้ว ถังเหวินหย่วนกับจั่วเจียจวิ้นถือ ก็เริ่มใช้ความสัมพันธ์และอิทธิพลที่มีทั้งหมดแล้ว ทุกๆ อย่างเริ่มเคลื่อนไหว
เยี่ยเทียนในตอนนี้ แน่นอนว่าไม่ได้คิดอะไรไปไกล จากที่เขาดู ฝ่ายตรงข้ามถึงแม้จะจำนวนไม่น้อย และทุกคนต่างเต็มไปด้วยพลังพิฆาต เคยรับบทฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมมาทั้งหมด แต่…บางครั้ง ไม่ใช่ว่าคนเยอะแล้วจะทำได้
เยี่ยเทียนโฉบไปมาอย่างรวดเร็วในภูเขา ในที่สุดก็พบว่าตัวเองมาหยุดที่สถานที่ที่ตอนนี้ถ้าเรียกว่าเป็นเนินเขาก็ไม่น่าจะใช่ ถ้าพูดว่าเป็นกองดินที่ค่อนข้างใหญ่จะเหมาะสมกว่า ที่นี่หากถูกล้อมรอบด้วยมือปืน ก็อย่าหวังว่าจะออกไปได้
หลังจากนั้นห้าหกนาที เยี่ยเทียนก็มาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของภูเขามีถนนสาธารณะที่ลาดด้วยยางมะตอย ไม่ได้กว้างมาก คดเคี้ยวไปข้างหน้า
หลังจากที่เยี่ยเทียนเหยียบลงบนพื้น คิดไปเล็กน้อย ร่างก็พุ่งไปข้างหน้า ข้ามไปยังถนนอีกด้าน แขนที่แผ่ออกมาเหมือนแมวตัวใหญ่ วิ่งเข้าไปในพุ่มไม้ข้างร่องน้ำ
เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามขับรถมา หากไม่ไปหาที่ซ่อนตัวที่เหมาะสมและยังวิ่งอยู่บนถนนก็จะเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับอีกฝ่าย
……
ทางเข้าหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ นอกจากรถบัสขนาดกลางคันนั้นที่เยี่ยเทียนนั่งมา ยังมีรถอีกสองคันจอดอยู่ คนขับรถบัสขนาดกลางในขณะนั้นก็นั่งอยู่ในรถอีกคัน
“อากั่ว ทำได้ไม่เลวเลย ต่อไปนายต้องจัดการเยี่ยเทียนเข้าใจไหม ”ใบหน้าของเทียนหลงที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มมาตบไหล่ของคนขับรถ
อีกมือหนึ่งถือเงินหนึ่งดอลลาร์ปึกหนึ่ง และยัดไว้ในกระเป๋าของอากั่ว
“พี่…พี่ใหญ่…พี่วางใจเถอะ ผม…ผมจะทำทุกอย่างตามที่พี่บอก”
เมื่อมองคนที่ขึ้นมานั่งบนรถที่ท่าทางแข็งแกร่ง พร้อมด้วยใบหน้าที่ทาสีพลางนั้น อากั๋วถึงกับมีสีหน้าตกใจ และพูดไม่ออก
นี่ก็โทษอากั่วไม่ได้ เขาเป็นเพียงพนักงานบริษัทคนหนึ่ง เขาได้รับการทาบทามให้สะกดรอยตามเยี่ยเทียน อากั่วเริ่มอยากจะหารายได้พิเศษ กลับคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็นแก๊งนักเลง
แต่เมื่อถึงตอนนี้ อากั่วขึ้นหลังเสือไปแล้ว เขารู้ว่าตัวเองว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เกรงว่าจะถูกอีกฝ่ายจัดการเอา
“ฟ่อฟ่อ…ฟ่อฟ่อ…”
ตอนที่อากั่วเตรียมจะลงรถ จู่ๆ ก็มีเสียงฟ่อๆ ดังมาจากหน้าอกของเทียนหลง ทำให้เทียนหลงหน้าเปลี่ยนสี ตะโกนพูดว่า “อากั่ว รอก่อน แกเอาผงยาที่ฉันให้แกไป ถูบนตัวของเยี่ยเทียนหรือยัง”
ตอนที่เยี่ยเทียนกำลังทำพิธีทำนาย เทียนหลงก็ติดต่อกับอากั่วแล้ว เขามีวิชาลับในการตามตัวคน แค่เอาผงยาที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษถูที่ตัวของอีกฝ่าย เทียนหลงก็จะมีวิธีที่จะตามหาตัวคนนั้นจนเจอ
ยาผงนี้ไม่มีรูป รสและกลิ่น ยากมากที่จะถูกคนจับได้ เทียนหลงรู้ว่าเยี่ยเทียนมีวิชาขั้นสูง ไม่คิดว่า จะสามารถใช้ยาพิษฆ่าเยี่ยเทียนได้โดยตรง
เมื่อได้ยินเสียงร้องของเทียนหลง ทั้งตัวของอากั๋วถึงกับสั่นเทาไปหมด ใบหน้าพูดด้วยน้ำตาโศกเศร้าว่า“พี่ใหญ่ ผม…ผมทำตามที่ไปหมดแล้ว ผมได้ทาผงนั่นไปบนร่างกายเขาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว”
เทียนหลงยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ดี งั้นก็ดี อากั่ว นายกลับไปได้แล้ว”
อากั่วยิ้มออกมา ดูแล้วก็ไม่ต่างกับการร้องไห้ หันหลังลงรถ แต่ทันที่ที่ขาขวาของเขาเพิ่งลงไปเหยียบที่พื้น ทั้งร่างกายก็แข็งทื่อไปหมด
“คิ…คิๆ”
ลำคอของอากั่วก็ส่งเสียง “คิๆ” ออกมา ค่อยหันมาจ้องเทียนหลง กลับพูดไม่ออกสักประโยค ในขณะเดียวกันตรงปากก็มีเลือดไหลออกมา มีเสียง “ตุ๊บ” แล้วเขาก็ล้มลงที่ประตูรถ
“เงินสักดอลลาร์นายก็ไม่ได้ใช้หรอก”
เทียนหลงเดินมาที่ด้านหน้าของอากั่ว ยื่นมือควักเงินดอลลาร์ปึกนั้นออกจากกระเป๋าของเขา มองไปที่สมาชิกในแก๊งแล้วพูดว่า “ทิ้งมันไว้แล้วกลับไปที่รถของตัวเอง เป้าหมายไปจากที่นี่แล้ว พวกเราต้องตามไปให้ทัน”
เมื่อประคองอากั่วที่เหมือนกับคนเมาเหล้า กลับไปรถตู้ขนาดกลางแล้ว รถทั้งสองคันก็ถอยหลังกลับพร้อมกัน ทำตามคำสั่งของเทียนหลงขับรอบๆภูขาเล็กๆลูกนั้น วิ่งตามเส้นทางที่เยี่ยเทียนไป
……
เยี่ยเทียนพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว โดยใช้นิ้วเท้าด้านหน้าจิกพื้นไว้ เขาสามารถส่งตัวไปข้างหน้าได้ไกลกว่าสิบเมตร จากการกระโดดเพียงครั้งเดียว ความเร็วราวกับภูติผีปีศาจก็ไม่ปาน สำหรับเขาระยะทางสิบไมล์ใช้เวลาแค่สิบกว่านาทีเท่านั้น
สักพัก เยี่ยเทียนก็มาถึงเชิงเขาพระพุทธรูป ในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงรถจากด้านหลัง ใบหน้าก็อดที่จะยิ้มเยาะ ขึ้นมาไม่ได้ ป่าในภูเขาแห่งนี้ทึบมาก เขาสามารถใช้เป็นที่หลบได้
ภูเขาพระพุทธรูปเดิมทีเป็นภูเขาแห้งแล้งลูกหนึ่ง ประกอบด้วยภูเขาห้าลูกรูปร่างเหมือนกลีบดอกบัว หลังจากที่ซ่อมแซมเป็นเวลานาน สถาปัตยกรรมของวัดก็ยิ่งใหญ่อลังการ เยี่ยเทียนยืนอยู่ใต้ภูเขาพิจารณาสักครู่ ก็มุดเข้าไปในพุ่มไม้
“หยุด”
ตอนที่เทียนหลงสั่งให้หยุดผ่านเครื่องวิทยุสื่อสาร รถสองคันก็มาจอดอยู่ที่เยี่ยเทียนหยุดเมื่อครู่ เเทียนหลงไม่สนใจฝนที่ตกหนักในขณะนี้ ผลักประตูรถออกแล้วเดินลงไป
เมื่อมองไปที่ภูเขาพระพุทธรูปตอนกลางคืน เทียนหลงมีสีหน้าที่ลังเลเกิดขึ้น เขาสัมผัสได้ว่าในละแวกภูเขานี้เต็มไปด้วยเวทมนตร์ชั้นสูง ในใจของเทียนหลงที่ตอนแรกความตั้งใจเต็มเปี่ยมร้อยเปอร์เซ็นต์ ในตอนนี้ก็เหลือน้อยกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
“พี่หลง คนนั้นขึ้นภูเขาไปแล้วเหรอภูเขาลูกนี้ไม่สูงมาก ให้ลูกน้องแบ่งเป็นกลุ่มละสามคน แยกกันขึ้นภูเขาไปเถอะ”
อาหลาง ที่กำลังเดินอยู่ด้านหลังเทียนหลง ทั้งตัวเต็มไปด้วยเจตนาร้าย พวกเขาเหล่านี้กำลังเดิน บนเส้นทางแห่งความตายตลอดทั้งวัน ภารกิจทุกครั้งสำหรับพวกเขาแล้ว ถือว่าเป็นเกมส์ความเป็นความตาย
เทียนหลงเงียบไม่พูดไม่จา เขารู้สึกถึงตำแหน่งของเยี่ยเทียนแล้ว มื่อเขาเงยหน้าขึ้น ก็รู้สึกเหมือนว่าเยี่ยเทียนที่ปีนขึ้นไปครึ่งเขากำลังทำท่าทางยั่วยุให้กับตัวเอง
สมาชิกทีมทหารที่อยู่บนรถทั้งหมดพร้อมอาวุธครบมือต่างก็ลงรถ ถึงแม้ว่ามีจำนวนนับสิบคน แต่กลับเต็มไปด้วยพลังพิฆาต พลังพิฆาตนั้นท่วมท้นพระวิหารซึ่งมีพระพุทธเจ้าส่องแสงภายใต้ฝนที่ตกหนักลงมา
“ขึ้นไป หนึ่งกลุ่มสามคน แบ่งเป็นเจ็ดกลุ่ม อาหลาง นายพาสองกลุ่มไปเดินรอบๆ หลังภูเขา อาหู่พาสองกลุ่มไปทางด้านขวา อาเปาพาสองกลุ่มไปทางภูเขาด้านซ้าย ที่เหลือตามฉันมา”
หลังจากที่ลังเลเป็นเวลานาน ในที่สุดเทียนหลงก็ได้ตัดสินใจ เพราะเขาคิดว่า ถ้าพลาดวันนี้ เขาจะไม่สามารถหาโอกาสที่ดีแบบนี้ในการกำจัดเยี่ยเทียนได้อีก
ต้องรู้ว่า ฮ่องกงเป็นเมืองนานาชาติขนาดใหญ่ ถ้าเขากล้าที่จะฆ่าที่นั่น เกรงว่าอาจารย์ของเขา จะไม่สามารถปกป้องตัวเขาได้
และถ้าในจีนแผ่นดินใหญ่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ที่นั่นมีข้อห้ามในการใช้ปืนอย่างเคร่งครัด เหมือนกับในไต้หวัน
เป็นเรื่องน่าอายที่เขาขอให้กลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมดเข้ามาช่วยครั้งนี้ แต่ก็ดีกว่าที่ต้องสู้กับเยี่ยเทียนเพียงลำพัง
ทหารรับจ้างของเทียนหลงเคยรบที่สนามรบตะวันออกกลาง เคยร่วมงานกันเป็นอย่างดี หลังจากที่เทียนหลงออกคำสั่ง หนึ่งกลุ่มสามคนก็รีบปฏิบัติทันที และก็เข้าไปในป่าทึบ
“ทำไมพวกเขาถึงรู้ตำแหน่งของฉัน”
รู้สึกว่าผู้คนที่อยู่ด้านล่างภูเขาที่แบ่งกลุ่มล้อมรอบตัวเองอยู่ จิตใจของเยี่ยเทียนก็อดที่จะตื่นตระหนกไม่ได้ รีบหยุดเท้าทันที หลังจากที่สูดอากาศเข้าไปลึกๆ รับรู้ความรู้สึกที่อยู่รอบๆตัวเอง
“บ้าเอ้ย มันก็ใช้คาถาอาคมเหรอ” เยี่ยเทียนตรวจตราอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็พบความแตกต่างของมุมเสื้อตัวเอง ลมหายใจที่มองไม่เห็นและไม่มีสี ไม่สามารถหนีรอดจากความรู้สึกนึกคิดของเขาได้
“คนไทย เป็นคนไทยอีกแล้ว ใช้วิญญาณร้ายไม่เลิก”
ดวงตาของเยี่ยเทียนส่งแสงวาวราวกับแสงแฟลช ใช้มือขวาดึงมุมเสื้อออกกมา ฉีกออกมาครึ่งหนึ่ง ถือไว้ในมือแล้วก็หันหลังวิ่งกลับขึ้นไปบนภูเขา
“ระวัง ศัตรูอยู่ตรงเจ็ดนาฬิกา ทุกกลุ่มระวัง ทุกกลุ่มระวัง”
เยี่ยเทียนสัมผัสผู้คนที่ขึ้นบนภูเขาด้วยพลัง เทียนหลงก็สามารถสัมผัสพลังลับทั้งหมดของเยี่ยเทียนได้เช่นกัน เขาไม่หยุดที่จะส่งเสียงผ่านเครื่องวิทยุสื่อสารบอกตำแหน่งของเยี่ยเทียน คนทั้งเจ็ดกลุ่มๆล้อมรอบภูเขาเล็กๆนั้น
ฝนที่ตกหนักอยู่แล้วยิ่งตกหนักขึ้น บนต้นไม้ก็มีเสียง “เปรี้ยงๆ” ใครก็คิดไม่ถึงว่าฝนตกคืนนี้ จะเกิดการฆาตกรรมเกิดขึ้น
หลังจากนั้นห้านาที จู่ๆเทียนหลงก็ตะโกนใส่เครื่องวิทยุสื่อสารว่า “ศัตรูหยุดแล้ว เขาอยู่ตรงทิศ 12 นาฬิกา อาหลาง รีบจู่โจมไปที่ทิศ 9 นาฬิกา อาหู่ นายพาคนตรงไปข้างหน้า”
เทียนหลงไม่รู้เลยว่า ตำแหน่งที่เขารู้เกี่ยวกับเยี่ยเทียนทั้งหมดนั้น มาจากเศษของเสื้อ ในตอนนี้เยี่ยเทียนได้ออกไปจากตำแหน่งนั้นเหมือนผีไปตั้งนานแล้ว
“รับทราบ พี่หลง”
หลังจากที่ได้ยินคำสั่งของเทียนหลง อาหลางก็ยกมือขวาขึ้น สมาชิกสองทีมที่อยู่ด้านหลังของเขาก็หยุดทันที พร้อมกับจ้องมองไปรอบ ๆ อาหลางหยิบปืนจู่โจมขึ้นมาประทับบนบ่าเล็งไปยังความมืดมิดที่ทิศ 12 นาฬิกา
อาหลาง ที่กำลังเตรียมพร้อมจะยิง ไม่รู้เลยว่าทางด้านขวาของเขาห่างออกไปเพียงสิบเมตร มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่ อย่างเย็นชา
บรรยากาศการฆ่าฟันที่เข้มข้นกระจายไปทั่วในคืนฝนตกหนักนี้
……