“เยี่ยเทียน ลูกจะไปไหน? ตรงนั้นอันตราย!”
ซ่งเวยหลันตกใจที่เห็นลูกชายวางเด็กผู้หญิงลง และพุ่งเข้าไปทางหนีไฟที่กำลังพลุ่งพล่านไปด้วยควันดำ
แม้ว่าซ่งเวยหลันจะทิ้งความคิดการมีชีวิตรอดไปแล้ว เธอก็ยังหวังว่าลูกชายจะรอดชีวิตออกไปได้ แต่ตอนนี้ลูกชายกลับเดินออกไปโดยไม่พูดไม่กล่าว ในใจของเธอนอกจากจะเป็นห่วงแล้ว ยังมีความรู้สึกที่พูดไม่ออกอีกด้วย
“แม่ คิดอะไรอยู่? เดี๋ยวพวกเราจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน!”
หลังจากได้ยินเสียงเรียกของแม่ เยี่ยเทียนนิ่ง เขาหันกลับไปยิ้มให้แม่และพูดว่า “แม่ดูไอลีนด้วยนะ ผมจะรีบกลับมา!”
เศษซากของเครื่องบินที่ล่วงลงมาเฉียง ๆ ทำให้ทางหนีไฟที่เยี่ยเทียนกำลังเดิน เริ่มมีไฟลุก แม้ว่ายังลามไม่ถึงภายในอาคาร แต่อุณหภูมิตรงทางหนีไฟนั้นสูงมาก และตอนนี้กลุ่มควันก็ฟุ้งเต็มจมูกและคอของเขา
เยี่ยเทียนฉีกผ้าที่แขนซ้ายออกมาหนึ่งชิ้น จุ่มกับน้ำที่สาดออกมาจากหัวฉีดบนหัว และนำผ้าชิ้นนั้นปิดไว้ที่จมูก จากนั้นเขาปิดตาลงและพุ่งเข้าไปในควันดำกลุ่มนั้น
แม้ว่าเขาจะหลับตาแน่น แต่ความสามารถในการรับรู้ของเยี่ยเทียนนั้นไม่ลดลงเลย เพราะสถานการณ์โดยรอบปรากฏต่อหน้าเขาแบบสามมิติ ประตูทางหนีไฟถูกไฟเผาจนดำ ประตูเหล็กก็แทบจะละลายแล้ว
“บ้าเอ้ย กะจะเผาทั้งเป็นเลยใช่มั้ย?”
เยี่ยเทียนทำยันต์กลางอากาศด้วยมือขวาและอยู่กับอุณหภูมิที่ร้อนที่สุด แรงดึงดูดออกมาจากมือของเขา จากนั้นก็ทำการดึงพลังพิฆาตที่หนาแน่นเกือบทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเอง
“หืม? ไม่รู้ว่าตายไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย?”
ตอนที่เยี่ยเทียนกำลังทำยันต์ จู่ ๆ เขารู้สึกมีพลังอาฆาตแค้นมากมายออกมาจากข้างในทางหนีไฟตรงนั้น เขาอึ้งไปครู่นึง เขากับแม่หนีออกมาได้แล้ว แต่คนที่อยู่ตรงบันไดตรงนั้น ไม่มีโอกาสรอดแล้ว
เยี่ยเทียนไม่มีเวลาแล้ว เขายื่นมือออกไปนำพลังพิฆาตเหล่านี้รวบรวมเอาไว้รอบ ๆ ตัวเอง ทันใดนั้น อุณหภูมิที่ร้อนระอุก็เย็นลง เยี่ยเทียนเองก็รู้สึกถึงความเย็นนั้นเหมือนกัน
“ปรมาจารย์สูงสุดของลัทธิเต๋าโปรดคุ้มครอง อย่าเผาของชิ้นนั้นจนไหม้เลยนะ!”
เยี่ยเทียนก้าวเร็วขึ้น ฝ่าเปลวไฟที่กำลังลุกอยู่ทั้งข้างนอกและข้างในของทางหนีไฟ จนมาถึงทางซ้ายของประตู เขาพ่นลมหายใจออกไป กลุ่มควันหนาที่อยู่ตรงหน้าก็กระจายไปหมด จากนั้นเขาเพ่งไปที่กำแพง
“ฮ่า ๆ ฟ้าสู้ผมไม่ได้หรอก แค่ก…….แค่ก แค่ก ผมจะดีใจหน่อยก็ไม่ได้เหรอ !”
เมื่อเห็นประตูกระจกสีแดงบานนั้น เยี่ยเทียนก็ลืมสิ่งรอบข้างและหัวเราะออกมา แต่ควันที่ดูดเข้าไปทำให้เขาไอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเยี่ยเทียน ก็คือท่อดับเพลิงที่ถูกม้วนเอาไว้ ความหนานั้น น่าจะยาวประมาณ 100 เมตร ซึ่งน่าจะพอใช้สำหรับเขาแล้ว
กระจกที่เก็บท่อดับเพลิงแตกเป็นเสี่ยง ๆ เยี่ยเทียนดึงท่อดับเพลิงที่ถูกไฟอบจนร้อนมาแบกไว้ที่บ่า จากนั้นก็เดินออกจากบริเวณนั้นไป
“เสี่ยวเทียน ลูกจะทำอะไร?”
ซ่งเวยหลันรีบวิ่งไปหาลูกชาย เธออึ้งไปทีเดียวที่ลูกชายแบกท่อดับเพลิงเข้ามาด้วย “เสี่ยวเทียน มือของลูกเป็นอะไร?”
“แม่ ไม่ต้องสนใจนี่หรอก เดี๋ยวผมค่อยอธิบายให้ฟังนะ!”
เยี่ยเทียนยิ้มอย่างเหน็ดเหนื่อย ที่ผ่านมาเขาใส่เสื้อแขนยาวมาตลอดก็เพราะไม่อยากให้แม่เห็นและเป็นห่วง หาเงินมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? การที่เอาเงินให้แม่เป็นพันล้าน ล้วนมาจากความยากลำบากของเขาทั้งนั้น!
เยี่ยเทียนหยุดแม่ที่กำลังจะพูดต่อ เดินไปข้าง ๆ หน้าต่าง เขาใช้มือทดสอบเสารับแรงตรงนั้นเสร็จ นำท่อดับเพลิงมัดไว้ข้างบน
“เสี่ยวเทียน เราจะลงไปข้างล่างด้วยอันนี้เหรอ?”
เมื่อซ่งเวยหลันเห็นการกระทำของเยี่ยเทียน เธอเข้าใจและพูดว่า “ลูก ลูกพาไอลีนหนีไปเถอะ ชีวิตนี้แม่ได้เจอลูก ก็เพียงพอแล้ว!”
ซ่งเวยหลันรู้ความสามารถของลูกชาย แต่ตอนนี้ หนึ่ง ลูกชายบาดเจ็บ สอง ถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้นหนึ่งส่วนอันตรายก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงของลูกชาย
“แม่ครับ พูดอะไรแบบนั้น? ท่อดับเพลิงนี้สามารถรับน้ำหนักของคนสามคนได้ครับ ลูกอยู่ตรงนี้แล้ว จะไม่มีใครตาย!”
เยี่ยเทียนได้ยินสิ่งที่แม่พูดก็แอบยิ้ม มีอุปกรณ์หนีเอาชีวิตรอดแล้ว เขารู้สึกโล่งขึ้นเยอะ ถ้าไม่มีแม่กับเด็กผู้หญิงคนนี้ เขาจะกระโดดลงไปแบบมือเปล่า ก็ยังทำได้
เยี่ยเทียนจับหัวท่อดับเพลิงด้านนึงขึ้นมา ใช้มือขวากรีดไปที่สายราวกับใช้มีดกรีด ตัดออกมาท่อนนึงซึ่งยาวประมาณ 2 เมตร จากนั้นโยนส่วนที่เหลือที่ยาวเกือบร้อยเมตรลงไปข้างล่างหน้าต่าง
“รีบดูเร็ว ชั้นที่ 20 กว่าเหมือนมีของหล่นลงมา!”
“เป็นท่อดับเพลิง เหมือนมีคนยืนอยู่ตรงหน้าต่างด้วย!”
“ใช่ ๆ อย่าบอกว่าเขาจะสไลด์ไอ้นั่นลงมา?”
บริเวณรอบ ๆ ของตึกเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่มาจากนิวยอร์คและเมืองใกล้ ๆ แม้ว่าชั้นบนของตึกจะเต็มไปกลุ่มควันดำ แต่ถ้าใช้กล้องส่องทางไกลมอง พวกเขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ของชั้นอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจน
ท่อดับเพลิงที่เยี่ยเทียนโยนลงมา ถูกผู้สังเกตุการณ์หลายคนจับเอาไว้
ก่อนหน้านี้ ผู้คนที่ติดอยู่ในอาคารสามารถช่วยตัวเองด้วยวิธีแปลก ๆ มากมาย นอกจากซุปเปอร์แมนที่รู้สึกว่าเขาบินได้เหมือนนกแล้ว ก็ยังมีคนที่กระโดดลงมาจากหลังคาด้วยร่ม
ซึ่งแน่นอนว่า ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน จนถึงตอนนี้ คนที่กระโดดลงมาจากชั้นบนสุด ยกเว้นคนที่ตกลงบนเบาะลมโดยบังเอิญ ไม่มีคนรอดชีวิตเลยสักคน
การกระทำของเยี่ยเทียน เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือพวกนั้นไม่คิดว่าเขาจะรอดชีวิต
ต้องเข้าใจว่าท่อดับเพลิงค่อนข้างกว้างและไม่ง่ายที่จะจับไว้ ความสูงจากพื้นเกือบ 70-80 เมตร ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับท่อดับเพลิงแล้วสไลด์ลงมา ถ้าพลาดปุ๊ป ก็จะร่วงลงมาทันที
“หัวหน้าครับ ความสูงของรถดับเพลิงสามารถยื่นไปถึงตรงนั้นได้ พวกเราใช้บันไดลอยไปช่วยคนชั้นนั้นลงมาดีมั้ยครับ?”
ผู้สังเกตการณ์คนหนึ่งรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับผู้สั่งการ และแสดงความคิดเห็นออกไป
หัวหน้าหยิบกล้องส่องทางไกลไปที่เยี่ยเทียน สุดท้ายเขาส่ายหัวและตอบว่า “ไม่ บนนั้นมีคนแค่คนเดียว คนของพวกเราจะต้องไม่ไปเสี่ยงตายเพราะเขา!”
เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ยังคงระเบิดอย่างต่อเนื่อง แผ่นพื้นยังคงตกลงจากข้างบนเป็นจำนวนมาก งานของเจ้าหน้ามีความยากเพิ่มขึ้นไปอีก
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีนักดับเพลิง 62 คนเสียชีวิตแล้วเพราะโดนอิฐถล่มใส่และจำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
งานกู้ภัยด้านนอกต้องหยุดชะงัก และมีนักดับเพลิงจำนวนมากเข้าไปข้างในอาคารเพื่อช่วยอพยพและช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในออกมา
หากรถดับเพลิงและบันไดลอยได้รับอนุญาตให้ช่วยชีวิตเยี่ยเทียนได้จริง ๆ ผู้สั่งการจะต้องเตรียมใจให้พร้อมกับการต้องเสียรถดับเพลิงหนึ่งคัน และชีวิตของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนับสิบชีวิต คำแนะนำของผู้สังเกตการณ์จึงถูกปฏิเสธไปเพราะเหตุนี้
เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ไม่พูดต่อ เขารู้ว่าการตัดสินใจของผู้สั่งการนั้นถูกต้องแล้ว เพราะชั้นที่ 80 ขึ้นไป ยังคงระเบิดอย่างต่อเนื่อง กำแพงที่แตกเป็นแผ่นใหญ่ ๆ อาจตกลงมาถูกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทุกเมื่อ
และเพราะมีการสนทนาของสองคนนี้ นักข่าวที่อุ้มกล้องเอาไว้ด้านหลังผู้สั่งการ จึงขยับกล้องไปยังหน้าต่างที่มีท่อดับเพลิงโยนลงมา
“แม่ครับ ไม่ต้องกลัวนะครับ เดี๋ยวแม่ปิดตาลง กอดคอของผมเอาไว้ให้แน่น ห้ามปล่อยมือเด็ดขาด!”
เวลาเยี่ยเทียนทำอะไร เขาไม่เคยคิดจะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น และเขาไม่หวังให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของอเมริกามาช่วยอยู่แล้ว ตอนนี้เขาอุ้มไอลีนไว้ด้านหน้า แบกแม่ไว้ข้างหลัง จากนั้นนำท่อดับเพลิงมัดไว้กับตัว
“เสี่ยวเทียน แม่อยู่กับลูก แม่ไม่กลัว!”
ซ่งเวยหลันกอดคอของลูกชายเอาไว้แน่น เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ เด็กชายที่เคยห่อด้วยผ้าอ้อมคนนี้ ตอนนี้เขาโตขึ้นจนกลายเป็นผู้ชายที่พึ่งพาได้แล้ว เวลานี้ ซ่งเวยหลันรู้สึกภูมิใจลูกของเธอมากที่สุด
“กอดไว้ให้แน่นนะ ไป!”
เยี่ยเทียนยิ้มอ่อน ๆ ใช้มือขวาจับท่อดับเพลิงเอาไว้ มองดูฝูงชนที่เดินวุ่นกันอยู่ข้างล่าง เขาหันตัวกลับมา และกระโดดลงไปทันที
ช่วงเวลานี้ ถูกนักข่าวจับภาพไว้ได้ทั้งหมด เดิมทีเขาอยากจะถ่ายการกระทำของเยี่ยเทียนเอาไว้ทั้งหมด แต่การกระทำของเยี่ยเทียนมันเกิดคาดไปหมด
อันดับแรกเขาไม่ได้กระโดดลงจากหน้าต่างเพียงคนเดียว แต่เป็นผู้ใหญ่สองคนกับเด็กอีกหนึ่งคนรวมทั้งหมดเป็นสามคน
ต่อมา การสไลด์ลงตามท่อดับเพลิงแบบนี้ น่าจะต้องใช้สองมือไขว้กันเอาไว้ ค่อย ๆ สไลด์ลง
แต่เยี่ยเทียนใช้เพียงสองขาหนีบท่อดับเพลิงเอาไว้ มือขวาแทบจะไม่ใช้แรง ทั้งสามคนลงไปข้างล่างด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นไม่น้อยไปกว่าการกระโดดลงไปเลยแม้แต่น้อย
แต่ตอนที่ลงไป 40 เมตรแล้ว สองขาของเยี่ยเทียนใช้แรงดันเล็กน้อย ทำให้ความเร็วของการลงช้าลงทันที
ภาพที่เกิดขึ้น ทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึงกันถ้วนหน้าพวกเขามีความสงสัยว่า เป้ากางเกงของเยี่ยเทียนหนีบเหล็กสองแผ่นเอาไว้หรือเปล่า? ถ้าไม่อย่างนั้น การถูแบบนั้น สามารถทำให้เนื้อของขาทั้งสองข้างของเขาไหม้ได้
“แย่แล้ว มีแผ่นหินกำลังตกลงมา ตกลงมาตรงนั้นด้วย!”
ที่ความห่างพื้นอีกแค่ 10 กว่าเมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งหมดที่กำลังเตรียมตัววิ่งเข้าไปช่วยคน จู่ ๆ ผู้สังเกตุการณ์ก็ส่งเสียงตกใจออกมา
หลังจากมีเสียงระเบิดดังสนั่น สิ่งที่ถูกอุดไว้ที่ชั้นที่ 90 ไม่อาจทนแรงสั่นสะเทือนกับไฟไหม้ได้ ในที่สุดมันก็ร่วงลงมา
แผ่นพื้นหนา 10 กว่าเมตร น้ำหนักของมันอย่างน้อยก็เป็นตัน ๆ กำลังร่วงลงมา ซึ่งความเร็วการร่วงของมันเร็วกว่าเยี่ยเทียนมาก เกือบจะร่วงลงมาพร้อม ๆ กับเสียงเรียกของผู้สังเกตการณ์เลยก็ว่าได้ และแผ่นพื้นนั้นห่างจากหัวของเยี่ยเทียนไม่ถึง 30 เมตร
ความเร็วในการร่วงของมัน อาจจะตกใส่เยี่ยเทียนและคนอื่น ๆ ในเวลาอีก 1-2 วิเท่านั้น สิ่งที่ทำให้คนอื่น ๆ บีบหัวใจที่สุดคือ คนหนุ่มคนนั้นมองแต่ข้างล่าง และไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าภัยพิบัติกำลังจะมาถึง
เวลาถูกกำหนดไว้แล้ว ใจของทุกคนเหมือนถูกบีบจนจะถึงลำคออยู่แล้ว พวกเขาไม่รู้จะช่วยเยี่ยเทียนได้ยังไง แต่ก็มีคนเริ่มตะโกนขึ้นมา ตะโกนเพื่อเตือนให้เยี่ยเทียนรับรู้ถึงอันตรายที่อยู่บนหัว
……………………………………