ตอนที่ 750 แดร็กคูล่า
กลางคืนในไซบีเรีย เป็นเวลาเที่ยงวันของลาสเวกัส แสงแดดฤดูใบไม้ผลิเดือนมีนา ส่องเข้ามายังห้องนอน ให้ความ รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
แต่คนกลุ่มหนึ่งที่กำลังดูภาพเคลื่อนไหวอยู่ในห้อง กลับมีความรู้สึกเย็นยะเยือกและหาความจริงไม่ได้ รูดอล์ฟนั่งอยู่บนโซฟา โกรธจนหน้าเขียวไปหมด
“บัดซบ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ? ”
รูดอล์ฟรู้สึกขนลุกซู่ เมื่อเห็น “ตนเอง” เงยหน้ายิ้มให้กับกล้องวงจรปิดท่ามกลางศพที่นอนเกลื่อนในห้องนั้น เพราะใบหน้าของคน ๆ นั้น คล้ายกับตัวเองมาก
เขาขว้างรีโมตใส่หน้าจอทีวีอย่างจัง โต๊ะน้ำชาตรงหน้าถูกปัดจนของตกหมด ตะโกนอย่างเสียงดังว่า “ใคร ใครเป็นคนทำ ? เขาต้องการอะไร ? ”
ถึงแม้ว่าเมื่อสองชั่วโมงก่อน รูดอล์ฟแสดงหลักฐานว่าตัวเองไม่อยู่ที่รัสเซียให้กับตำรวจสากลที่มาตรวจสอบ และคนในห้องทั้งหมดสามารถเป็นพยานได้แล้วนั้น
แต่ความโกรธที่เหลืออยู่ กลับเป็นความหวาดกลัวซะมากกว่า เขากลัวว่าวันหนึ่ง คน ๆ นี้จะมายืนอยู่ตรงหน้าเขา
“โอ้ว รูดอล์ฟ คุณทำให้ผมผิดหวังมาก นี่ไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายควรทำ ! ”
ในตอนที่รูดอล์ฟกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ประตูห้องถูกคนที่อยู่ด้านนอกเปิดออก เป็นคนผิวขาวรูปร่างไม่สูงมากใส่สูท ในมือถือไม้เท้าเดินเข้ามา
อายุราว 37-38 หน้าตาหล่อเหลา เบ้าตาลึก มีเพียงสีผิวใบหน้าที่ขาวซีดไปหน่อย ดูแล้วคล้ายคนป่วย
ชายผิวขาวคนนี้เดินเข้ามาในห้อง รูปดอล์ฟที่นั่งอยู่ตรงโซฟาแทบจะดีดขึ้นเหมือนแมวที่โดนเหยียบหาง พูดด้วยความตกใจออกไปว่า “ดยุกแดร็กคูล่า ขอโทษครับ ! ”
“รูดอล์ฟที่รัก ความทรงจำของคุณแย่ขนาดนี้เลยหรือ ? ”
ชายผิวขาวใช้ไม้เท้าวาดวงกลม และพูดออกไปอย่างเปิดเผยว่า “เรียกผมว่าดยุกแดร็กคูล่า ผมเคยเตือนคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ? หวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไป ! ”
“ครับ ๆ ท่านดยุก จะไม่มีครั้งต่อไปครับ ! ”
รูดอล์ฟเหงื่อไหล่ท่วมตัวเพราะเพิ่งจะนึกถึงสิ่งต้องห้ามของคนนี้ ภาพในจอเมื่อครู่ถึงแม้จะแปลก แต่มันไม่กดดันเท่าคนตรงหน้าเขาเลย
รูดอล์ฟเคยเห็นกับตา ลูกน้องของเขาเคยเรียกชายคนนี้ผิดสองครั้ง เขาใช้ไม้เท้าทุบกระโหลกของคนนั้นจนแหลก
ถ้ามีคนสัญชาติอังกฤษอยู่ตรงนี้ จะต้องรู้สึกแปลกใจมาก เพราะมีเพียงญาติสนิทของราชวงศ์ (อาทิเช่น พี่น้องของพระราชาหรือสามีของพระราชา เป็นต้น) ถึงจะมียศเป็นดยุก
แต่ชายวัยกลางคนตรงหน้าไม่เคยปรากฏตัวในที่สาธารณะ แต่การวางตัวแบบราชวงศ์ผู้ดีอังกฤษของเขา กลับเป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถทำได้
“รูดอล์ฟ เกิดอะไรขึ้น เหตุใดคุณถึงตกใจจนทำผิดขนาดนั้น ? ”
ดยุกแดร็กคูล่าเดินไปที่โซฟา เดินหลบถังขยะอันน่ารังเกียจ ยื่นมือไปปิดผ้าม่าน และนั่งลงที่โซฟา “แสงแดดนี่มันไม่ดีเลย รูดอล์ฟ หรือคุณไม่ยินดีกับการมาของผม ? ”
“ไม่ครับ ๆ ท่านดยุก ผมมีปัญหานิดหน่อย พวกแก…ออกไปทั้งหมด ! ”
รูดอล์ฟตกใจที่เห็นดยุค จนต้องรีบสั่งให้คนในห้องออกไปทั้งหมด เขาชี้ไปที่หน้าจอทีวีและพูดว่า “ไม่รู้ว่ามันกล้าปลอมตัวเป็นผม แล้วฆ่าคนสองร้อยกว่าคนที่รัสเซียได้ยังไง ! ”
”สองร้อยกว่าคน ? น่าเสียดายจริง ๆ ! “
แดร็กคูล่าได้ยินรูดอล์ฟบอกแบบนั้น เขาเลียที่ปาก แต่หลังจากที่เขามองดูหน้าจอ เขาก็ตะลึงไปเหมือนกัน เขามองไปที่รูดอล์ฟและพูดว่า “รูดอล์ฟ คุณแน่ใจว่าไม่มีพี่น้อง ? ”
”ท่านดยุกครับ ผมเกิดมาได้สองเดือนพ่อผมก็เสียทันที เขาไม่มีทางมีพี่น้องให้ผมแน่ ๆ “
รูดอล์ฟลังเลครู่หนึ่งและพูดว่า “แต่ว่า แม่ของผมอาจจะไม่แน่ครับ ท่านก็รู้ แม่ของผมเต็มที่กับชีวิตมาก แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่น่าจะมีหน้าตาเหมือนผมขนาดนั้นหรอกมั้ง ? ”
รูดอล์ฟไม่เคยคิดจะปิดบังแดร็กคูล่า แม้แต่ชีวิตส่วนตัวของแม่เขาก็กล้าเล่า
ถึงแม้เวลาอยู่ด้านนอก เขาไม่เคยแคร์สายตาใคร แต่ในใจของรูดอล์ฟนั้นรู้ดีว่า เงินทองและชีวิตของเขาที่มีทุกวันนี้ เป็นเพราะผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขามอบให้มาทั้งหมด เพราะชายผู้นี้แค่ดีดนิ้ว ก็สามารถทำให้เขาหายไปจากโลกนี้ได้ทันที
“อืม ถ้าดูจากสายเลือด คงมีแค่พ่อของคุณเท่านั้นที่สามารถทิ้งยีนส์นี้ไว้ได้”
ดยุกแดร็กคูล่าพยักหน้าตามคำพูดของรูดอล์ฟ เขาจ้องมองรูดอล์ฟ จู่ ๆ ใบหน้าของเขาก็สั่น
ไม่กี่วินาทีผ่านไป ใบหน้าที่หล่อเหลาก็มีเนื้อปูดขึ้นเป็นเส้น ๆ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นหน้าของรูดอล์ฟที่มีความคล้ายเกือบเจ็ดสิบเปอร์เซ็น
ถ้าอยู่ด้านหน้ากล้องวงจรปิด แดร็กคูล่าก็คล้าย ๆ กับรูดอล์ฟในหน้าจอ ถ้าไม่ขยายภาพ ก็ยากนักที่จะเห็นความแตกต่างของคนสองคน
“เอ่อ…เอ่อ ? ”
รูดอล์ฟขนลุกซู่เมื่อเห็นแดร็กคูล่า ราวกับอุณหภูมิในห้องลดลงไปหลายองศา หนาวปากสั่นไปหมด
“รูดอล์ฟสูดหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมความกล้าและถามออกไปว่า “ท่านดยุก หรือว่า…คน ๆ นี้จะเป็นแบบคุณ ? ”
รูดอล์ฟรู้ดีว่า สิ่งที่ตนเองเรียกว่าอำนาจ ไม่มีน้ำหนักอะไรเลย เมื่ออยู่ตรงหน้าคนนี้ แดร็กคูล่ามาจากครอบครัวที่มีประวัติยาวนาน กุมอำนาจมืดทั่วอเมริกาและยุโรปเพียงคนเดียว
“ไม่ ถึงแม้เขาไม่สนใจเลือดสดสกปรกพวกนี้ แต่เขาไม่เหมือนกับพวกเรา…”
แดร็กคูล่าส่ายหัว ตาจ้องไปที่หน้าจออย่างไม่ละสายตา และพูดช้า ๆ ว่า “การเปลี่ยนกล้ามเนื้อบนใบหน้า มีหลายคนที่ทำได้ โดยเฉพาะคนที่อยู่ที่นั่นในประเทศจีน ! ”
รูดอล์ฟส่งเสียงครางออกมา สมองมือขยี้ไปที่หัว และพูดอย่างปวดหัวว่า “ประเทศจีน ? พระเจ้า ผมเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ได้ยังไงเนี่ย ? ”
“อย่าเอ่ยนามพระเจ้าต่อหน้าผม มิฉะนั้นผมจะส่งคุณไปเจอเขา ! ” แสงสีแดงปรากฏขึ้นในดวงตาของแดร็กคูล่า ไม้เท้าเคาะที่ไหล่ของรูดอล์ฟอย่างแรง
“ขอโทษครับ ท่านดยุก ผมพูดผิดไปแล้วครับ ! ”
รูดอล์ฟไม่มีเวลาสนใจความเจ็บตรงไหล่ เขาตบหน้าตัวเองอย่างแรง เอ่ยถึงพระเจ้าต่อหน้าแดร็กคูล่า นี่กลัวตายช้าเกินไปใช่มั้ย
“ว่ามา คนนี้จะนำความลำบากอะไรมาให้คุณ เขาอยู่ยุโรปเหรอ ? ”
แดร็กคูล่าจ้องรูดอล์ฟด้วยสายตาเย็นชา รินไวน์ใส่แก้วให้ตัวเอง และเริ่มเล่นแก้ว
“ท่านดยุก ผมไม่รู้ครับว่าเขาเป็นใคร แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ตุรกี”
รูดอล์ฟพูดด้วยเสียงสั่น “เขาน่าจะอยู่ที่ไซบีเรีย และกำลังแก้แค้น แก้แค้นที่ผมทำร้ายคนจีนเมื่อไม่นานมานี้”
ที่จริงเมื่อเทียบกับคาสิโนในลาสเวกัสแล้วธุรกิจของตุรกีก็ไม่มีอะไรเลย แต่เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงได้หาเรื่องรวมตัวกับฟรุสไปจัดการสมาคมหงเหมิน
แต่รูดอล์ฟคิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะเป็นคนที่ทำให้คนคล้ายแดร็กคูล่าปรากฏตัวขึ้น หลายปีที่ผ่านมาความกลัวที่เกิดขึ้นในใจเวลาเจอแดร็กคูล่า ทำให้รูดอล์ฟรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ทำลงไป
“คนจีน…”
แดร็กคูล่าเริ่มทบทวนความจำ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาส่ายหัวและพูดว่า “ผมจะให้เคิร์ทไปไซบีเรีย คนในสมัยนั้น ไม่มีทางออกมาแน่ ๆ ”
แดร็กคูล่าเป็นเจ้าของปราสาทกว่ายี่สิบแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี แค่ค่าซ่อมแซมประจำปีก็สูงถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์แล้ว
ดังนั้นเขาจึงต้องมีตัวแทนเพื่อช่วยให้เขามีรายได้เพียงพอ รูดอล์ฟพอจะเป็นคน ๆ นั้นได้ ดังนั้นแดร็กคูล่าจึงไม่ต้องการเห็นปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นกับเขา
“เคิร์ท เข้ามา ! ” ชายชราร่างผอมในชุดบัตเลอร์สีดำปรากฏกายอย่างน่ากลัวในห้อง ตามเสียงเรียกของแดร็กคูล่า
แดร็กคูล่าชี้ไปที่หน้าจอและพูดว่า “ไปไซบีเรีย ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถ้าแกโชคดีนะ ไม่แน่ แกอาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นมาร์ควิส ! ”
“ครับเจ้านาย ! ” เคิร์ทมีสีหน้าดีใจออกมา แต่ก็ถูกเขาปกปิดเอาไว้อย่างดี จากนั้นเขาก็หายไปจากห้องอย่างเงียบ ๆ
……………………
มีอาคารคล้ายค่ายทหารใกล้ทางเข้าภูเขาที่ทอดยาวกว่าสองร้อยกิโลเมตรใกล้ชายแดนซาฮา อาคารนี้มีลักษณะโค้งกลมและมีรั้วเต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้า มีทหารรักษาการณ์อยู่รอบ ๆ คุ้มกันอย่างแน่นหนา
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ รอบ ๆ อาคารขนาดใหญ่แห่งนี้ มีทหารพร้อมกระสุนจริงและยังมีรถหุ้มเกราะสี่คันที่หันหน้าเข้าหาอาคารตามมุมต่าง ๆ
“ฟรุส เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงโดนทหารล้อมรอบแบบนี้ ? ”
ในห้องวงจรปิดของค่ายทหาร มีคนสี่ห้าคนมีใบหน้าหมองหม่น หนึ่งในนั้นเป็นชายชราชาวญี่ปุ่นที่มีหนวดเคราโค้ง กำลังซักถามสุภาพบุรุษชาวอังกฤษฟรุสอยู่
ฟรุสจ้องกล้องวงจรอย่างเคร่งเครียดและพูดว่า “คุณอิโตะ ซากิ ใจเย็น ๆ ครับ ผมคิดว่า ฝั่งกองบัญชาการเคลมลินคงแค่อยากเอาตัวรอดก็เท่านั้น เราส่งคนจีนให้พวกมันก็จบ ! ”
“ไม่ได้ ห้ามส่งคนจีนให้พวกเขา มิฉะนั้นพวกเราจะโดนข้อหาลักพาตัว ! ”
คนญี่ปุ่นส่ายหัวอย่างต่อเนื่องและพูดว่า “จัดการคนจีนคนนั้นเดี๋ยวนี้เลย ถึงแม้จะเป็นฝ่ายรัสเซีย ก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้อยู่ดี ! ”
ฟรุสแสดงสีหน้าเยาะเย้ยใส่คนญี่ปุ่นหลังจากได้ยินแบบนั้น และพูดออกไปว่า “คุณอิโตะ ซากิ การปะทะกับรัฐบาล นี่คุณมั่นใจมากเกินไปหรือเปล่า ? ”
ในสายตาของฟรุส ชายแก่คนนี้ต้องมีปัญหาที่มุมมองแน่ ๆ เพราะแค่ส่งต่งต้าจ้วงให้พวกเขา จากนั้นก็จ่ายเงินก้อนหนึ่งให้นายพลพวกนั้นหน่อย พวกเขาก็ออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว