ตอนที่ 778 สร้างของวิเศษ (1)
เส้นลมปราณวิเศษคืออะไร? แค่คำว่าพลังวิเศษคำเดียวก็หมายถึงสายแร่หินธรรมชาติที่กำเนิดพลอยวิเศษ มีอิทธิฤทธิ์ไม่ธรรมดา เหมือนกับโสมคนที่เป็นโสมเด็กทารกได้รวบรวมพลังฟ้าดินเข้ามาไว้ในตัวเอง
สำนักไหนที่ได้ครอบครองเส้นลมปราณวิเศษ ถ้าหากไม่ปฏิบัติดูแลคุ้มครองอย่างดีแล้ว เกรงว่าเส้นลมปราณวิเศษนั้นจะเหือดแห้งไป
ติงหงขุดเข้ามาในอุโมงค์อย่างช้าๆเพราะเกรงว่าถ้าขุดไปโดนแก่นของเส้นลมปราณวิเศษแล้วจะทำให้พลอยวิเศษพวกนั้นสูญเสียการหล่อเลี้ยงไป นักพรตทุกคนที่ฝึกวิชาเต๋าต่างมีความรู้เช่นนี้เป็นพื้นฐาน
แต่เยี่ยเทียนไม่ได้รู้มากขนาดนั้น ภายในชั่วเวลาครู่เดียวเยี่ยเทียนขุดทั้งเส้นลมปราณวิเศษขึ้นมาจนหมด ทำให้พลังธรรมชาติแห้งหายอย่างรวดเร็ว
ในโลกยุคนี้เส้นลมปราณวิเศษหลงเหลืออยู่น้อยมาก? เยี่ยเทียนถึงจะได้ครอบครองพลอยวิเศษชั้นยอดแล้วแต่ถ้าถูกผู้ฝึกเต๋าคนอื่นล่วงรู้เข้าจะถูกตำหนิอย่างร้ายแรงว่าเยี่ยเทียนเป็นผู้ทำลายของวิเศษ
“การฝึกวิชาเต๋าเป็นเรื่องอันตรายมาก ถ้าไม่มีอาจารย์คอยสั่งสอนภายหน้าเมื่อเดินต่อไปจะต้องระวังทุกฝีก้าว
หลังจากชื่นชมสภาพร่างกายใหม่เสร็จแล้วเยี่ยเทียนถอนหายใจออกมา การดูดซับพลังธาตุทองครั้งนี้ แม้จะทำให้ปราณแท้ของเขาแข็งแกร่งขึ้น พลังโจมตีเก่งกล้าขึ้น แต่ยังมีอันตรายซ่อนอยู่ทำให้เยี่ยเทียนยังกลัวไม่หาย
ถ้าไม่ได้ตันเถียนยินหยางที่ขับเคลื่อนแปรเปลี่ยนพลังธาตุทองได้ เกรงว่าป่านนี้เขาคงถูกพลังชีวิตอันดุเดือดรุนแรงนั้นเล่นงานจนเส้นลมปราณฉีกขาดไปหมดแล้ว
“ไม่งั้น….หาเวลาไปแสวงโชคที่ดินแดนแห่งทวยเทพหน่อยดีไหม?”
เยี่ยเทียนเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา แล้วก็ถูกระงับลง อย่าว่าแต่เรื่องการฝึกวิชาเต๋าที่เขาไม่มีความรู้เลย แม้แต่ความสามารถของตัวเองที่มีอยู่ เยี่ยเทียนยังไม่มั่นใจสักเท่าไหร่
ทั้งเก๋อข่ายที่ตายอยู่ที่สระมังกรดำ และติงหงที่ตายเมื่อวันก่อน ต่างเป็นผู้ที่เยี่ยเทียนไม่มีกำลังพอจะไปต่อกรด้วยได้ ถ้าเกิดในดินแดนแห่งทวยเทพมีแต่คนประเภทนั้น ไม่เท่ากับว่าเขารนไปหาที่ตาย?
“ไม่รู้ว่าข้างนอกผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว รีบกลับดีกว่า!”
เหม่อลอยครู่หนึ่งแล้วเยี่ยเทียนยืนขึ้นสะบัดเศษฝุ่นผงออกไปจากตัว เก็บพลอยวิเศษพวกนั้นขึ้นมา นี่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดจากการมาเยือนรัสเซียรอบนี้
ข้างๆพลอยวิเศษธาตุทองนั้นมีโลหะอีกชิ้นเป็นสีฟ้าทอง ขนาดใหญ่แค่เพียงหัวนิ้วโป้งเท่านั้น เยี่ยเทียนใช้มือบีบมันทีหนึ่ง สิ่งนี้ไม่เหมือนทองคำ แต่แข็งมาก
“เอ๋? อู๋…อู๋เหินทำไมมันแตกไปล่ะ?”
เยี่ยเทียนเก็บพลอยวิเศษจนหมดแล้ว ยื่นมืออกไปจับอู๋เหินแล้วอดใจหายไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเครื่องรางอู๋เหินที่ดูภายนอกจะสมบูรณ์ดี แต่เมื่อถูกมือของเยี่ยเทียนมันกลับแตกเป็นชิ้นส่วน
หลายปีมานี้ เยี่ยเทียนใช้มันน้อยลงเรื่อยๆ แต่มีความผูกพันกับมันมาก ทุกครั้งที่ออกเดินทางเยี่ยเทียนจะพกมันไปด้วย เมื่อเห็นมันแตกหักลงกับตา จึงสะเทือนใจไม่น้อย
“แปลกจัง อู๋เหินเป็นแค่วัสดุธรรมดา แต่ทนรับพลังธาตุทองไม่ไหวจนแตกหักก็เป็นเรื่องปกติ แต่มีดบินเล่มนี้สิไม่ธรรมดา ทำไมมันยังร้าวหนักกว่าเดิมอีก?”
เยี่ยเทียนหยิบเอามีดบินของติงหงขึ้นมาแล้วมองอย่างงุนงง มีดสั้นที่รับสายฟ้าอัสนีสวรรค์ได้โดยไม่เสียหาย กลับหักพังลงเป็นแผ่นๆจนเหลือแต่ด้ามมีดเปล่า
แต่ถึงมีดจะหักไปแล้ว แต่วัสดุของตัวมีดที่ยังหลงเหลือกลับยังเงางาม ปล่อยพลังออกมาอยู่เป็นระยะ แสดงว่าวัสดุที่ใช้ทำดาบนี้จะต้องเป็นของดีมีค่ามากแน่นอน
“น่าเสียดาย ยังคิดอยู่เลยว่าจะซ่อมแล้วเก็บเอาไว้ใช้เอง?”
มองดูเศษมีดนั้นแล้วเยี่ยเทียนทอดถอนใจอย่างเสียดาย เขาเคยเห็นมาก่อนว่าติงหงคายมีดออกมาจากปากแลดูน่าอัศจรรย์มากแค่ไหน จึงมีความคิดจะเก็บมีดอันนี้เอาไว้เอง
“ไม่รู้ว่าตำราสร้างของวิเศษบนแผ่นหยกที่ได้มาจากเก๋อข่ายยังจะใช้ซ่อมมีดเล่มนี้ได้อีกไหม?”
เยี่ยเทียนเกิดแนวคิดขึ้น ในตำราที่บันทึกบนแผ่นหยกห้อยเอวของเก๋อข่ายนั้นกล่าวถึงวิธีพื้นฐานของการสร้างของวิเศษ เพียงแต่ตอนนั้นเยี่ยเทียนยังไม่ได้เข้าสู่ระดับเซียนเทียน ไม่สามารถใช้พลังธาตุไฟได้ อ่านไปจึงไร้ประโยชน์
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว หลังจากดูดซับพลังธาตุทองเข้าไปในร่างกายเต็มที่ ปราณแท้ของเยี่ยเทียนมั่นคงขึ้นมาก ถ้าให้สร้างของวิเศษชั้นสูงอาจจะยังไม่พอ แต่ถ้าให้ซ่อมแซมมีดเล่มนี้เยี่ยเทียนคิดว่าน่าจะยังพอทำได้
“น่าจะต้องลองดูสักครั้ง!” เมื่อคิดได้ดังนี้ เยี่ยเทียนไม่อาจข่มความคิดนี้ได้อีกต่อไป
ในสถานที่รกร้างแห่งนี้ ไม่มีใครเข้ามารบกวนได้ เยี่ยเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาตั้งจิตมั่น ถอดจิตดั้งเดิมออกจากจุดกลางหน้าผาก
ถ้าเทียบกับเมื่อหลายเดือนก่อน จิตดั้งเดิมของเยี่ยเทียนชัดเจนขึ้นมาก เริ่มเห็นโครงหน้ามีตามีปากรูปร่างเหมือนร่างจริงชัดกว่าเดิม ถ้าจิตดั้งเดิมไม่ได้โปร่งแสงคงจะดูเหมือนเยี่ยเทียนตัวจริงขนาดย่อส่วน
ดวงจิตเข้าไปเก็บอู๋เหินกับมีดบินที่เสียหายห่อกลับเข้าไว้เหมือนเดิมแล้วนั่งขัดสมาธิกลางอากาศ อ้าปากพ่นลูกไฟออกมาจุดให้ส่องสว่างไปทั่วทั้งอุโมงค์
ลูกไฟมีขนาดเท่ากับเปลวเทียน แต่แสงสีแดงของมันปะปนไปด้วยลำแสงสีเขียว ทั้งสองสีผสมปนเปกันจนดูน่าขนลุก
“นี่คือเพลิงปราณ?”
หลังจากพ่นไฟออกไปแล้วจิตดั้งเดิมของเยี่ยเทียนเลือนรางลง แต่ประสาทยังคงแน่วแน่มั่นคง เขารู้อยู่แล้วว่าเมื่อฝึกจนถึงขั้นจิตดั้งเดิมจะสามารถใช้พลังธาตุไฟได้ แต่นี่เป็นการลองใช้ครั้งแรก
สิ่งที่เรียกว่าเพลิงปราณนั้นได้แก่ หัวใจเป็นเจ้าแห่งไฟ หรือเทพแห่งไฟ เรียกว่าปราณเบื้องบน พลังไฟจากไตเป็นพลังรองหรือไฟจิง ถูกเรียกว่าปราณเบื้องกลาง กระเพาะปัสสาวะเป็นพลังไฟที่อยู่ตรงจุดชี่ไห่ใต้สะดือเป็นไฟสามัญ เรียกอีกอย่างว่าปราณเบื้องล่าง
ทั้งสามรวมกันเป็นไฟ แยกกันเป็นปราณ หมุนวนอยู่เป็นวัฏจักร เมื่อเข้าถึงระดับเซียนเทียนแล้วลมหายใจสงบลงตรงกลาง รวมไฟทั้งสามเป็นหนึ่ง เพื่อใช้ต่อสู้กับศัตรูหรือสร้างอาวุธวิเศษ นี่เป็นเคล็ดลับวิชาของเต๋าที่ไม่มีใครเหมือน
คิดได้ดังนี้ เยี่ยเทียนเริ่มใช้ความคิดควบคุมเปลวไฟ ให้มันไปติดกับผนังอุโมงค์ข้างตัว แร่ทองคำสีแดงปลั่งนั้นค่อยๆละลายกลายเป็นน้ำ ภายในชั่วพริบตาเดียวกลายเป็นสารน้ำสีทองบริสุทธิ์
“สุดยอดขนาดนี้เชียว?”
เยี่ยเทียนไม่รู้สึกถึงความร้อนของไฟ แต่แร่ทองคำที่ละลายออกมาทำให้เขารู้ซึ้งถึงฤทธิ์เดชของไฟ มองดูแล้วเยี่ยเทียนจุ๊ปาก ความร้อนสูงหลายพันองศาในเตาหลอมยังทำให้แร่ทองหลอมละลายขนาดนี้ไม่ได้?
“เอ๋? สภาวะแบบนี้ไม่คงทนอยู่นาน ต้องรีบซ่อมมีดบินเสียก่อน!”
แร่ทองที่หลอมละลายแล้ว เยี่ยเทียนจู่ๆรู้สึกขึ้นมาว่าจิตดั้งเดิมอ่อนแอลง เขารู้ว่าลูกไฟตรงนี้สร้างจากพลังสะสมในร่างกาย ไม่ควรใช้อย่างสิ้นเปลือง
“เอ๋ นี่มันอะไรกัน?”
ตอนที่ใช้ความคิดอยู่นั้น ลูกไฟที่เยี่ยเทียนควบคุมอยู่ก็เข้าไปครอบคลุมทั้งมีดบินและเครื่องรางอู๋เหินเอาไว้
แต่สิ่งที่ทำให้เยี่ยเทียนคิดไม่ถึงคือ ดวงไฟที่สามารถหลอมละลายทองคำได้ แต่ไม่อาจหลอมวัสดุพวกนี้ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่รอยแตกของเครื่องรางอู๋เหิน ไฟยังไม่ทำให้มันแยกจากกัน
“น่าจะเป็นเพราะชนิดของวัสดุ ของที่เป็นของล้ำค่าของติงหงย่อมไม่ยอมถูกหลอมลงได้ง่าย?”
เยี่ยเทียนคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ในใจเกิดคำตอบขึ้นมาว่า มีดบินและอู๋เหินต้องหลอมมาจากแร่ธาตุหลายชนิด ไม่เช่นนั้นพวกมันจะซึมซับพลังพิฆาตจนกลายเป็นอาวุธได้อย่างไร
“ครั้งแรกของการสร้างของวิเศษ ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทาง!”
เยี่ยเทียนหงุดหงิด เรื่องที่เขาตัดสินใจทำลงไปแล้ว น้อยมากที่จะยกเลิกกลางคัน ของวิเศษธาตุทองตรงหน้าเหล่านี้ดูสภาพดี แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลจะให้วางมือ
ดวงจิตล่องลอยกลับเข้าสู่ร่างอีกครั้ง เยี่ยเทียนกำพลอยวิเศษชั้นยอดชิ้นนั้นเอาไว้ในมือ เริ่มเดินลมปราณอีกครั้ง พลอยวิเศษส่งพลังเข้าสู่ร่างกายของเขาไม่หยุดหย่อน
เมื่อผ่านกระบวนการจากตันเถียนเปลี่ยนเป็นปราณแท้แล้ว ยิ่งบำรุงให้จิตดั้งเดิมของเยี่ยเทียนเข้มแข็งขึ้น จนถึงจุดๆหนึ่งเยี่ยเทียนพ่นไฟออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้พ่นไฟไปที่ของที่เสียหาย
“โห ยังไม่ได้อีก?”
ไฟที่พ่นออกไปไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่เยี่ยเทียนหวังไว้ ตัวอู๋เหินดูเหมือนจะอ่อนนิ่มลง แต่ชิ้นส่วนมีดบินนั้นมันทำจากน้ำแข็งหมื่นปี ไม่ว่าความร้อนสูงแค่ไหนก็ทำอะไรมันไม่ได้
“ให้ตายสิ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฉันจะจัดการแกไม่ลง!”
เยี่ยเทียนรวบรวมความตั้งใจใหม่ เขาเพิ่มพลังโดยดูดซับพลังธาตุทองอีกครั้งเปลี่ยนเป็นปราณแท้แล้วพ่นลูกไฟออกมาถึงสามครั้ง
แม้ลูกไฟหลายๆอันรวมกันยังมีขนาดใหญ่ไม่เท่ากับกำปั้นเด็ก แต่ความร้อนเพิ่มขึ้นหลายเท่า ทำให้อุณหภูมิในอุโมงค์เพิ่มสูง ผนังทั้งสี่ด้านที่มีแร่ทองคำฝังอยู่เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกำลังจะหลอมละลายลงมา
หลังจากพ่นลูกไฟลูกที่ห้า ในที่สุดเศษชิ้นส่วนของมีดบินเริ่มหลอมตัวลง แต่เป็นไปอย่างช้าๆ ผ่านไปสิบกว่านาที เพิ่งจะละลายได้เพียงครึ่งเดียว ไม่เหมือนกับอู๋เหินที่ตอนนี้ละลายกลายเป็นน้ำแล้ว
“บ้าจริง หอประดิษฐ์วิเศษนี่ไม่ได้เรื่องเลย บอกว่าวัสดุเกือบครึ่งหนึ่งสามารถใช้พลังไฟหลอมสร้างได้ไม่ใช่หรือ?” เยี่ยเทียนตอนนี้เหงื่อแตกพลั่กทั้งตัว แต่ชิ้นส่วนที่เริ่มหลอมละลายทำให้เขามีความหวังขึ้น กัดฟันทำต่ออย่างอดทน
จะโทษเยี่ยเทียนก็ไม่ได้ มีดบินเล่มนี้สร้างจากเกล็ดน้ำแข็งหมื่นปี มีฤทธิ์ทนต่อไฟอย่างถึงที่สุด การจะหลอมมันจึงยากกว่าวัสดุทั่วไปหลายเท่า
อีกเหตุผลหนึ่งคือมีดบินได้ตกลงสู่บ่อทองจนพลังความเข้มแข็งของธาตุทองซึมเข้าสู่ภายใน แม้จะถูกพลังของธาตุทองทำลายจนแตกเป็นชิ้นส่วน แต่ในแต่ละชิ้นนั้นยังอาบด้วยความเข้มแข็งของคุณสมบัติธาตุทองเอาไว้อยู่ ดังนั้นจึงหลอมละลายได้ยาก
ถ้าเปลี่ยนเป็นนักพรตผู้สร้างของวิเศษคนอื่น จะต้องมองออกถึงจุดนี้ และจะไม่ดันทุรังทำแบบเยี่ยเทียนแน่ การใช้พลังไฟหลอมของวิเศษนั้นถ้าไม่ระวังอาจจะทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บได้
แต่เยี่ยเทียนเมื่อไม่รู้จึงไม่กลัว ทั้งยังเป็นคนมีโชคดีที่ในมือของเขาตอนนี้มีพลอยวิเศษคอยช่วยบำรุงกำลังให้เสมอ จึงทำให้ชิ้นส่วนของมีดบินเริ่มหลอมละลายมากขึ้นเรื่อยๆ
มีดบินแตกต่างจากอู๋เหินที่ละลายแล้วเป็นของเหลวสีทอง มีดนั้นเมื่อละลายแล้วกลายเป็นของเหลวใสไร้สีพร้อมกับปล่อยพลังความเย็นออกมาเป็นพักๆ
“ไม่รู้ว่าจะหลอมผสมรวมกับอู๋เหินได้ไหม? ใช่แล้ว โลหะสีน้ำเงินนั่นก็ไม่มีประโยชน์ ลองเอามาใส่รวมกันดู!”
คิดอย่างนี้แล้วเยี่ยเทียนส่งจิตไปหยิบเอาโลหะสีน้ำเงินห่อขึ้นมาหลอมรวมด้วย ผ่านไปครู่หนึ่ง โลหะชิ้นนั้นหลอมเป็นของเหลวรวมตัวเข้ากับอู๋เหิน
ตอนนี้เยี่ยเทียนใช้พลังไฟหลอมสร้างของวิเศษไปถึงสามชั่วโมงเต็ม จิตดั้งเดิมอ่อนเพลียมาก แต่เขารู้ว่าอาวุธชิ้นแรกที่เขาสร้างด้วยตัวเองกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญ