“เยี่ยเทียน เข้ามาได้ยังไง?”
เยี่ยตงจู๋ที่เพิ่งรับทารกมาจากพยาบาลเห็นเข้าก็ตกใจ รีบไล่เขาออกไป
“รีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย ผู้ชายเข้ามาในห้องคลอดไม่เป็นมงคล เร็วๆ!”
“นั่น….นั่นลูกผมนี่นา?”
เห็นทารกหน้าเหี่ยวย่นในอ้อมอกของป้าใหญ่ที่กำลังแหกปากร้องเสียงดัง เยี่ยเทียนแทบไม่ได้ยินที่ป้าใหญ่เตือน เขาไม่สนใจว่าเด็กทารกยังไม่ได้ล้างตัวก็รีบเดินเข้าไปอุ้ม
“เยี่ยเทียน แก…”
“พี่ใหญ่ เดี๋ยวนี้ยุคสมัยไหนแล้ว อย่าพูดเรื่องนี้เลย!”
ซ่งเวยหลันเห็นว่าเยี่ยตงจู๋ยังเอ่ยปากไล่เยี่ยเทียนต่อจึงรีบห้ามไว้ เยี่ยเทียนเก็บอารมณ์เก่งตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ซ่งเวยหลันอยู่กับบุตรชายมายังไม่เคยเห็นเขาแสดงออกด้วยความจริงใจแบบนี้ เธอไม่อยากให้เยี่ยตงจู๋รบกวนลูกชาย
“พวกเธอนี่จริงๆ ไม่เชื่อฟังคำคนแก่!”
ป้าใหญ่ถอนหายใจ แต่ไม่ได้ว่าอะไรต่อ พ่อเด็กกับย่าเด็กเป็นแบบนี้ เธอเป็นเพียงย่าห่างๆจะว่าไปก็ไม่ดี
“นี่ลูกชายของผม?”
ไม่ว่าเยี่ยเทียนจะฝึกวิชาขั้นสูงแค่ไหน มีสถานะสูงส่งเพียงใด ตอนนี้เขาเหมือนกับพ่อคนอื่นๆทั่วไปที่กำลังอุ้มลูกน้อย ซึมซับสายสัมพันธ์ทางสายเลือด ความรู้สึกอบอุ่นเต็มล้นอยู่ภายในอก
“ฮ่าๆ เด็กผู้ชาย!”
เยี่ยเทียนคว้าตัวทารกมาอุ้มไว้คลำลงไปใต้ผ้าแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงหัวเราะของเขาทำให้ทารกน้อยหยุดร้องไห้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยย่นค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
“ดี เกิดเป็นคนต้องยิ้มรับทุกสถานการณ์!”
เยี่ยเทียนดูแล้วลูกของเขาดีทุกอย่าง ต่อให้บนหน้าของเด็กน้อยมีสิ่งสกปรกเปื้อนอยู่ เยี่ยเทียนก็มองว่าหอม
“ดูนายสิ เยี่ยเทียน รีบส่งลูกให้น้าหวังได้แล้ว จะได้ล้างตัวทำความสะอาด!”
อวี๋ชิงหย่ามองดูเยี่ยเทียนอุ้มลูกของพวกเขาไว้อย่างกับแก้วตาดวงใจ เธอยิ้มอย่างปลาบปลื้ม เยี่ยเทียนได้ใช้พลังปราณแท้คุ้มครองร่างกายของเธอไว้ หลังจากคลอดเสร็จนอกจากอ่อนเพลียเล็กน้อยแล้ว เธอไม่มีอันตรายอันใด
“ใช่ ใช่ หมอหวัง ลำบากคุณแล้ว!”
เยี่ยเทียนได้ยินที่ภรรยาเตือนแล้วก็นึกได้ รีบส่งตัวทารกในอ้อมอกให้ศาสตราจารย์หวังผู้ทำคลอดอย่างระมัดระวัง เขาเดินเข้าไปที่เตียงของอวี๋ชิงหย่า จับมือภรรยาไว้ แล้วพูดว่า
“ชิงหย่า ลำบากเธอแล้ว เธอเห็นไหม ลูกของเราเกิดมาแล้ว!”
“นายนิสัยไม่ดี!”
อวี๋ชิงหย่าถูกเยี่ยเทียนล้อจนเขินอาย ลูกชายเธอคลอดออกมาเองจะไม่รู้ได้อย่างไร ดูท่าสามีที่ฉลาดหลักแหลมและสุขุมเยือกเย็นของเธอก็มีวันเสียจริตได้เหมือนกัน
“เยี่ยเทียน อั่งเปาที่นายเตรียมไว้ล่ะ?” อวิ๋ชิงหย่าแอบกระซิบถามเยี่ยเทียนเบาๆ
เพื่อให้อวี๋ชิงหย่าคลอดอย่างปลอดภัย มีหมอและพยาบาลเข้ามาพักอาศัยในเรือนสี่ประสานมากถึงแปดคน ทุกวันจะคอยผลัดเวรกันดูแลด้วยความเหน็ดเหนื่อย อวี๋ชิงหย่าบอกให้สามีเตรียมอั่งเปาไว้ให้พร้อมแล้ว
“เตรียมไว้แล้ว เตรียมไว้นานแล้ว!”
เยี่ยเทียนลุกขึ้นยืนอย่างหน้าระรื่น หยิบซองสีแดงออกมาจากกระเป๋า บนนั้นต่างเขียนชื่อเอาไว้แล้ว ซองแรกแน่นอนว่าต้องให้หมอหวังผู้ชราแล้ว
“หมอหวังครับ นี่เป็นสินน้ำใจเล็กน้อย กรุณาอย่าปฏิเสธเลยนะครับ!”
“เสี่ยวเยี่ย เธอเกรงใจเกินไป เอาเถอะ ฉันรับไว้แล้วกัน เธออยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวอวี๋ พวกเราจะอาบน้ำให้หนูน้อย!”
หมอหวังเกษียณอายุมาสิบกว่าปีแล้ว แต่ในวงการแพทย์สาขาสูตินารีเวชนั้นท่านมีตำแหน่งสูงมาก ทั้งยังถูกเชิญให้กลับไปทำงานในโรงพยาบาลต่อ ครั้งนี้ได้ทำคลอดให้อวี๋ชิงหย่า หญิงชราวัยเจ็ดสิบกว่ายังทำคลอดด้วยความชำนาญ
หมอชราเข้าใจความตั้งใจของเยี่ยเทียน อีกอย่างอั่งเปาที่ได้รับนั้นดูจะบางมาก น่าจะเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยจากเยี่ยเทียน จึงรับมาแบบไม่ได้คิดอะไรมาก เธอเป็นมืออาชีพในงานชนิดนี้ไม่อยากถูกใครครหาว่าเธอรับเงินซองแดง
“พยาบาลหลิว อันนี้ของคุณ พี่จ้าว นี่ของคุณ….”
เยี่ยเทียนแจกซองแดงให้ทุกคนอย่างครบถ้วน ด้วยว่าการคลอดที่ราบรื่น เหล่าพยาบาลจึงออกไปดูแลทารกกันหมด
“พี่จ้าว มีบ้านหลังใหญ่โต ทำไมขี้งกจัง?”
ออกจากห้องคลอดมาแล้ว พวกพยาบาลที่เพิ่งเข้าทำงานในโรงพยาบาลได้ไม่นานเริ่มกระซิบนินทา เธอใช้มือบางจับซองดู ด้วยประสบการณ์ของเธอ ข้างในอย่างมากคงมีธนบัตรไม่เกินยี่สิบใบ ยังน้อยกว่าอั่งเปาที่เธอเคยได้รับในโรงพยาบาล
“เสี่ยวโจว อย่าเอ็ดไป พวกเราเป็นทหารนะ!”
พี่จ้าวถูกพยาบาลสาวพูดเข้าก็ตกใจ พวกเธออยู่ในโรงพยาบาลค่ายทหาร ทุกคนมียศทหารทั้งนั้น พวกเธอได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ที่นี่ ถ้าไม่ใช่เห็นว่าหมอหวังก็รับอั่งเปา อย่าว่าแต่สองร้อยหยวนเลย แค่ร้อยเดียวเธอยังไม่กล้ารับ
พี่จ้าวทำงานมานาน ประสบการณ์ทางสังคมสูงกว่าพยาบาลสาว
เธอไม่รู้ว่าครอบครัวของเยี่ยเทียนมีฐานะแบบไหน แต่การที่สามารถให้พวกเธอที่เป็นคณะจากโรงพยาบาลสูตินารีเวชที่ดีที่สุดในประเทศ อีกทั้งคนระดับศาสตราจารย์หวังมาทำคลอดให้ถึงบ้าน คนหนุ่มแซ่เยี่ยคนนี้ต้องไม่ธรรมดา
“ขี้งกก็ขี้งกสิ….”
พยาบาลสาวยังบ่นต่อเล็กน้อยแล้วไม่พูดต่อ พี่จ้าวเป็นหัวหน้าแผนกของเธอ การแสดงกิริยาไม่ดีต่อหน้าหัวหน้านั้นไม่คุ้ม
“อั่ง….อั่งเปาไม่ใช้เงิน แต่เป็นเช็คเงินสด!”
เมื่อเข้าไปในห้องอาบน้ำที่เตรียมไว้แต่แรกแล้ว พยาบาลอีกคนหนึ่งแอบเปิดอั่งเปาออกดู เห็นสิ่งที่อยู่ด้านในแล้วอึ้งไป มือที่ถือซองอยู่สั่นไหว
“เสี่ยวหลิว มีเรื่องอะไร? รีบเทน้ำร้อนได้แล้ว ต้องลองให้อุ่นพอดี!”
หมอหวังได้ยินเสียงตื่นตระหนกของพวกพยาบาลแล้วหันมามองพวกเธอด้วยแววตาไม่พอใจ ทำให้พยาบาลพวกนั้นรีบเก็บซองแล้วหันมาล้างตัวทำความสะอาดตัวทารกอย่างขมีขมัน
ล้างตัวเสร็จแล้วหมอหวังยังนวดตัวให้เด็กกับมือ แล้วนำเด็กวางลงในรถเข็น เธอเช็ดเม็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วพูดว่า
“พวกเธอก่อนมาที่นี่ได้เซ็นสัญญาเก็บเป็นความลับไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ห้ามพูดออกไป ไม่เช่นนั้นต้องถูกตัดสินในศาลทหาร
“ศาสตราจารย์หวัง พวกเราเข้าใจแล้ว”
ทุกคนตอบรับพร้อมกัน แต่พยาบาลที่เปิดอั่งเปาออกดูคนนั้น ใบหน้ายังมีแววตกใจหลงเหลืออยู่ ถามอ้ำๆอึ้งๆต่อว่า
“ศาสตราจารย์หวังคะ อั่งเปาเรายังต้องรับอยู่ไหม?”
“เอาสิ ทำไมล่ะ ไม่เป็นไร พวกเธอรับไว้ มันไม่ผิดกฎ!”
ศาสตราจารย์หวังไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เธอรู้ว่าเยี่ยเทียนเป็นหลานชายของซ่งเฮ่าเทียน เมื่อเขาให้อั่งเปามา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปเรียกร้องความรับผิดชอบจากพวกเธอ อีกอย่าง….ศาสตรจารย์หวังได้ยินที่พยาบาลหลิวพูดไม่ชัดว่าในอั่งเปานั้นเป็นอะไร ยังคงเชื่อว่าเป็นเพียงเงินไม่กี่ร้อยหยวนเท่านั้น
“แต่….แต่ว่า…..”
ได้ยินคำพูดของหมอหวังแล้วพยาบาลหลิวหน้าแดงขึ้นมา
“แต่คุณเยี่ยเทียนให้เป็นเป็นเช็คเงินสด…จำนวนหนึ่งแสนแปดหมื่นแปดพันแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน!”
“อะไรนะ?”
พยาบาลหลิวเอ่ยออกไปแล้ว คนอื่นๆในห้องได้ยินแล้วตกใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหนูอยู่ในรถเข็นเด็กแล้ว อาจจะลื่นหลุดจากมือของใครบางคนก็เป็นได้
“ของฉันก็หนึ่งแสนแปดหมื่นแปดพันแปดร้อยแปดสิบแปดเหมือนกัน”
“ของฉันก็ด้วย….”
“ของฉันสองแสนแปดหมื่นแปดพันแปดร้อยแปดสิบแปด!”
เหล่าพยาบาลหยิบซองของตัวเองออกมาเปิดออกดู นอกจากพี่จ้าวกับศาสตราจารย์หวังที่ยังไม่ได้เปิดซองแล้ว คนอื่นๆต่างได้เงินจำนวนเท่ากัน คือหนึ่งแสนแปดหมื่นแปดพันแปดร้อยแปดสิบแปด พี่จ้าวได้มากกว่าคนอื่นหนึ่งแสนหยวน
สายตาของทุกคนหันมองจ้องมองที่ศาสตราจารย์หวัง การเป็นหมอสูติทำคลอดนั้น ศาสตราจารย์หวังต้องได้มากกว่าใคร ซองที่ใส่ยังใหญ่กว่าของคนอื่น ทุกคนต่างอยากรู้อยากเห็นทั้งนั้น
“เสี่ยวจ้าว เธอดูเถอะ”
ศาสตรจารย์หวังส่ายหัว เธอเป็นหมอสูติทำคลอดมาทั้งชีวิต ทำคลอดให้เด็กมานับไม่ถ้วย ปฏิเสธอั่งเปาไปก็หลายครั้ง แต่ยังไม่เคยเห็นใครให้อั่งเปาเป็นเช็คเงินสดมาก่อนเลย
“ศาสตราจารย์หวัง แปดแสนแปดหมื่นแปดพันแปดร้อยแปดสิบแปด!”
เปิดซองออกแล้วหัวหน้ากลั้นหายใจไปครู่หนึ่ง บนเช็คนั้นจำนวนเงินมีแต่เลขแปดเรียงกัน หัวหน้าจ้าวตกใจมาก แค่ทำคลอดเด็กคนเดียวต้องให้ถึงขนาดนี้เชียว จำนวนเงินที่มากมาย เกรงว่าทั่วประเทศจะมีก็แต่บ้านนี้บ้านเดียว?
“เงินนี้ รับไว้ไม่ได้!”
ศาสตราจารย์หวังยื่นมือไปรับเช็คเงินสดกลับมา เธอเป็นหมอสูติมาทั้งชีวิต ลูกอมมงคล ไข่มงคลเคยรับมาไม่น้อย แต่ไม่เคยรับเงิน
ตอนแรกศาสตราจารย์หวังไม่อยากปฏิเสธความหวังดีของเยี่ยเทียน แต่เงินจำนวนนี้มากเกินไปต่อให้เป็นเงินพิเศษจากรัฐ แต่สำหรับเงินเดือนในยุคนี้ เงินจำนวนนี้เท่ากับเงินเดือนของเธอสิบปีรวมกัน
ทุกคนได้ยินดังนั้นแล้วทั้งกลุ่มได้คืนเช็คเงินสดกลับไปด้วยท่าทีเสียดาย สำหรับพยาบาลสาวที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นานนั้น เงินหนึ่งแสนแปดหมื่นกว่าหยวนนี้ถ้าเพิ่มเงินอีกเล็กน้อยสามารถซื้อบ้านใกล้ๆโรงพยาบาลหลังหนึ่งได้เลย
“เฮ้อ ผมก็ว่า นี่มันอะไรกัน?”
ตอนที่ทุกคนรวบรวมซองแดงยื่นส่งให้ศาสตราจารย์หวังอยู่นั้น ประตูถูกเปิดออก เยี่ยเทียนชะโงกหน้าเข้ามาดูท่าทางมีลับลมคมใน เขากลัวว่าจะรบกวนการทำงานของหมอและพยาบาล กลับไม่คิดว่าพวกเธอกำลังเปิดอั่งเปาที่เขาให้ไปอยู่
“คุณเยี่ย เจ้าหนูอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ฉันได้นวดตัวให้เขาด้วย ตอนนี้เขาหลับปุ๋ยเลย!”
ศาสตราจารย์หวังต้อนรับเยี่ยเทียนให้เข้าไป
“คุณเยี่ย คุณมาพอดีเลย ความตั้งใจของคุณพวกเราเข้าใจ แต่เงินจำนวนนี้ พวกเรารับไว้ไม่ได้จริงๆ มันผิดกฎ ต่อให้ท่านซ่งออกปาก พวกเราก็ไม่กล้ารับ!”
ถ้าเป็นแค่ไม่กี่ร้อยกี่พัน ศาสตราจารย์หวังยังจะเห็นแก่หน้าหลานชายของท่านซ่ง แต่เงินหลายแสนเธอไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้ารับ หากถูกพูดออกไปชีวิตบั้นปลายเธอจะไม่เป็นสุข!
………………………..