บทที่ 40 ตรวจร่างกายให้แน่ชัด (1)
โดย
Ink Stone_Romance
ร้านค้าแห่งนี้ไม่เป็นที่สะดุดตา หากไม่ใช่เพราะอยู่ตรงข้ามร้านอัญมณีขนาดใหญ่ อิ่งลิ่วกับอิ่งสือซันก็อาจไม่สังเกตเห็น และแม้จะสังเกตเห็นก็ยังไม่ได้คาดหวัง ใครจะรู้ว่า…จะได้พบถูกคนจริงๆ!
“แม่กุญแจอายุยืนทั้งสองนี้…” ช่างฝีมือมีสำเนียงภาษาของคนต่างถิ่นที่ชัดเจน “ข้าเคยทำมาก่อน เจ้าดูด้านขวาของชิ้นนี้ รูปแบบตรงมุมข้าเป็นคนปรับให้ดีขึ้นเอง”
เขาคือคนที่ปรับปรุงหรือไม่ อิ่งลิ่วกับอิ่งสือซันไม่อาจรู้ ทว่าหลังจากอิ่งลิ่วให้เขาดูภาพแบบด้านหน้า แล้วขอให้เขาวาดแบบด้านหลัง เขาวาดออกมาได้ใกล้เคียงมาก เขาคือช่างฝีมือที่สร้างแม่กุญแจอายุยืนทั้งสองนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“เป็นรูปแบบเมื่อสองสามปีก่อน ตอนนี้ไม่ได้ขายแล้ว พวกเจ้าต้องการทำแม่กุญแจอายุยืนทั้งสองแบบนี้หรือ? เรามีรูปแบบที่ดีกว่านี้ ด้วยการฝังหยกน่ะ” ช่างฝีมือที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเจ้าของร้านครึ่งหนึ่งเอ่ยโน้มน้าว
“เราไม่ได้มาซื้อกุญแจอายุยืน พวกเรามาสืบข้อมูล” อิ่งลิ่วกล่าว
เมื่อได้ยินว่าพวกเขาไม่ได้มาซื้อแม่กุญแจ สีหน้าของช่างฝีมือก็เริ่มไม่สู้ดี
“ทว่าหากข้อมูลของเจ้าถูกต้อง” อิ่งลิ่วหยิบแท่งทองคำออกมาจากแขนเสื้อของเขา
ทันใดนั้นสายตาของช่างฝีมือก็กลับมาจดจ่ออีกครั้ง และยื่นมือออกไปหยิบทองคำ
“หือ?” อิ่งลิ่วเอ่ยเสียงยืดเตือนสติ พลางดึงทองกลับมาไว้ตรงหน้า
มือของช่างฝีมือคว้าได้เพียงอากาศ กระแอมเบาๆ “น้องชายเจ้ามีสิ่งใดอยากพูด ก็ถามมาเถิด!”
อิ่งลิ่วเอ่ยถาม “เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่กุญแจอายุยืนทั้งสองชิ้นนี้ เจ้าเริ่มทำแม่กุญแจอายุยืนนี้เมื่อใด และขายมานานเพียงใดแล้ว?”
ช่างฝีมือเอ่ยตอบ “แม่กุญแจอายุยืนทั้งสองนี้มิใช่รูปแบบที่ทำขึ้นในเมืองหลวง ทว่าถูกสร้างขึ้นในก้งเฉิงเมื่อสองสามปีก่อน เป็นรูปแบบพิเศษเฉพาะของร้านเรา และแม่กุญแจอายุยืนแบบนี้ก็ไม่มีขายในร้านอีกเมื่อข้าจากมา”
“เจ้าออกมาเมื่อใด” อิ่งลิ่วเอ่ยถาม
“ประมาณสองปีที่แล้ว”
อิ่งลิ่วหยุดชั่วคราว แล้วเอ่ยต่อ “เจ้าจำได้หรือไม่ว่าในบรรดาลูกค้าที่ซื้อแม่กุญแจอายุยืนนี้ มีสตรีตั้งครรภ์ผู้งดงามอยู่ด้วย?”
“เอ่อ…” ช่างฝีมือเกาหัว “ข้าไม่มั่นใจ”
“รบกวนแล้ว” อิ่งลิ่วมอบทองคำให้แก่ช่างฝีมือ และออกจากร้านไปพร้อมอิ่งสือซัน
“เจ้าคิดอย่างไร?” อิ่งลิ่วเอ่ยถาม
เมื่ออยู่ภายในร้าน อิ่งสือซันมิได้เอ่ยสิ่งใด แต่ก็มิได้หมายความว่าเขาไม่มีความคิด
อิ่งสือซันกล่าววาจาขัดแย้งกัน “คุณชายตกหลุมรักคุณหนูเหยียนที่เมืองสวี่โจว คุณหนูเหยียนก็ให้กำเนิดบุตรและเลี้ยงดูที่สวี่โจว จนกระทั่งกลับมาที่เมืองหลวง ในช่วงเวลานั้นคุณหนูเหยียนก็มิได้ไปที่อื่น เช่น หลูเฉิงที่อยู่ใกล้กับสวี่โจว นางได้พบกับแม่นางตู้ที่นั่น “
“เจ้าจะพูดอันใด?” อิ่งลิ่วเอ่ยตัดบทเกริ่นนำอันเยิ่นเย้อ
อิ่งสือซันเอ่ย “แม่กุญแจซื้อมาจากก้งเฉิง มีความเป็นไปได้ที่เด็กสองคนนั้นจะถือกำเนิดที่ก้งเฉิงถึงแปดในสิบส่วน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเถ้ากระดูกหลังจากที่ตาย ถูกส่งไปอยู่ในมือของเหยียนหรูอวี้ได้อย่างไร”
อิ่งลิ่วคิ้วขมวดมุ่นพลางเอ่ย “สองสามปีที่แล้ว เหยียนหรูอวี้ยังคงเลี้ยงบุตรอยู่ในสวี่โจวใช่หรือไม่? นางคงไม่เคยเดินทางไปยังก้งเฉิงที่อยู่ห่างออกไปหลายพันหลี่ด้วยตนเอง”
อิ่งสือซันทอดถอนใจ “ผู้ใดจะล่วงรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น? ช่างเถิด รีบกลับไปรายงานคุณชายให้เร็วที่สุดจะดีกว่า”
ทั้งสองกลับไปที่จวนคุณชายและเล่าถึงสิ่งที่ได้ยินมา
อิ่งลิ่วเอ่ย “…เด็กทั้งสองคนน่าจะถือกำเนิดที่ก้งเฉิง ทว่ายังไม่รู้ว่าบิดามารดาของพวกเขาคือใคร และมีความสัมพันธ์กับคุณหนูเหยียนอย่างไรขอรับ”
ในเมื่อเหยียนเซี่ยกล้าขู่ขวัญเหยียนหรูอวี้ด้วยเถ้ากระดูกของเด็ก แสดงให้เห็นว่าเถ้ากระดูกเหล่านั้นมีค่ามากสำหรับนาง ดังนั้นผู้ที่ฝากฝังให้กับเหยียนหรูอวี้ ต้องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญยิ่งในชีวิตของนาง
“คุณหนูเหยียนเติบโตที่เมืองหลวง หลังจากสกุลเหยียนเกิดเรื่อง นางก็หนีไปที่สวี่โจวทันที ไม่เคยได้ยินว่านางไปก้งเฉิงมาก่อน จะรู้จักคนที่ก้งเฉิงได้อย่างไร? หรือ…คนที่นางรู้จักมาก่อนจะย้ายมาที่ก้งเฉิง?”
เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยเบาๆ “พวกเจ้าไม่คิดว่า บางทีนางอาจไปที่ก้งเฉิงด้วยตัวเองหรือ?”
อิ่งลิ่วหายใจอย่างอ่อนแรงพลางเอ่ย “ไม่น่าเป็นไปไม่ได้กระมัง หากดูจากช่วงเวลา ขณะนั้นคุณหนูเหยียนกำลังตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรที่สวี่โจว”
เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยด้วยแววตาที่ลึกล้ำ “จะเป็นไปได้หรือไม่ ไปถามนางก็คงรู้”
“คุณชาย นายท่านเหยียนขอเข้าพบ” ด้านนอกห้องตำรา เสียงหอบหายใจของลุงวั่นดังขึ้น ลุงวั่นซึ่งถูกกลั่นแกล้งจากเด็กน้อยทั้งสามอย่างทุกข์ระทม จนอยากจะหยุดพักยาวไม่มีกำหนด!
“พวกเจ้าไปเถิด ให้เขาเข้ามา” เยี่ยนจิ่วเฉาส่งอิ่งลิ่วและอิ่งสือซันไป ‘ดูแล’ เหล่าเด็กน้อย เหยียนฉงหมิงถูกพาไปยังห้องรับแขกในสวนดอกไม้ของจวนคุณชายโดยคนรับใช้
“นายท่านเหยียนมาถึงนี่เพื่อกิจด้านการทหารหรือ?” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยถามขณะนั่งบนเก้าอี้
เหยียนฉงหมิงยิ้มอย่างสดใสในตำแหน่งที่ต่ำกว่า “จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ข้าเชื่อว่าท่านตัดสินใจในด้านกิจทางทหารได้อย่างยุติธรรม หากคุณชายเยี่ยนเป็นห่วงข้าเพราะท่านให้การช่วยเหลืออวี๋เซ่าชิงแล้วเกิดความพะวงในใจ นั่นไม่มีความจำเป็นหรอกขอรับ ข้าได้ยินอวี้เอ๋อร์กล่าวว่า บุตรสาวของอวี๋เซ่าชิงเป็นผู้ช่วยชีวิตเด็กๆ เหล่านั้น ก็เหมาะสมแล้วที่คุณชายเยี่ยนจะให้การดูแลเขา ข้าไม่อาจมีความคิดใด”
เปลือกตาเยี่ยนจิ่วเฉาแน่นิ่งไม่ไหวติง
เมื่อเหยียนฉงหมิงเห็นว่าคุณชายปฏิบัติต่อตนอย่างนิ่งเฉย จิตใจพลันพะว้าพะวง เขารวบรวมความกล้ามาที่จวนคุณชายเพื่อกิจทางทหาร ทว่าไม่อาจพูดอย่างตรงไปตรงมา เหล่าทหารในทุกสนามรบต่างกำลังตามหาโจวไหว เขาจึงสงสัยว่าคุณชายเยี่ยนจะเริ่มลงมือแล้วเช่นกัน
ทว่าทันทีที่คุณชายเยี่ยนเปิดปากก็พลันทำลายแรงจูงใจของเขาทันที เขาสูญเสียความมั่นใจ ปฏิเสธโดยไม่คิดสักนิด ยามนี้เขาเริ่มนึกเสียใจ
ทว่าเมื่อถูกปฏิเสธแล้ว จะกล่าวอีกก็คงดูเสแสร้ง
เหยียนฉงหมิงกลัดกลุ้มภายในใจ ได้รับความเสียหายทว่าพูดไม่ได้
แน่นอน เขาไม่คิดว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจงใจ เด็กน้อยที่อ่านหนังสือยังไม่ถูก จะมองทะลุความคิดของเขาได้อย่างไร? มันเป็นเพียงความผิดพลาด
“ข้ามาที่นี่…เพื่อมาพบหลานชายตัวน้อยของข้า” เหยียนฉงหมิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เหตุผลนี้ไร้ที่ติ เขาใช้เป็นข้ออ้างเพื่ออยู่ต่อ และรอให้ถึงเวลาอันเหมาะสมที่จะถามเขาอีกครั้ง!
หนุ่มรับใช้ตัวน้อยที่อยู่ด้านนอกห้องรับแขกเอ่ย “คุณชายน้อยถูกองค์รักษ์อิ่งพาออกไปจากจวนแล้วขอรับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น “น่าเสียดายยิ่ง ทำให้นายท่านเหยียนมาเสียเที่ยวแล้ว” เหยียนฉงหมิงเอ่ยตอกกลับเยี่ยนจิ่วเฉา “ข้า…ข้าก็มาเยี่ยมคุณชายแทนอวี้เอ๋อร์ด้วยเช่นกัน!”
…
ครึ่งชั่วยามต่อมาเหยียนฉงหมิงออกจากจวนคุณชายอย่างมีความสุข
“นายท่าน เราจะไปที่ใด?” คนขับรถม้าเอ่ยถาม
เหยียนฉงหมิงยิ้มพลางเอ่ย “แน่นอนว่ากลับจวน เร็วเข้า ข้ามีข่าวดีสำหรับอวี้เอ๋อร์!”
……………..
อย่างไรก็ตาม หลังจากปล่อยให้เหยียนหรูอวี้เอาโถเถ้ากระดูกทั้งสองใบที่เหยียนเซี่ยกอดไว้กลับไป เหยียนหรูอวี้ก็ปิดประตูสั่งสอนบทเรียนที่รุนแรงแก่เขา
ฮูหยินเหยียนไม่ทราบว่าเกิดสิ่งใดขึ้น นางตะโกนเรียกเท่าใด ประตูก็ไม่ยอมเปิดออก ทำให้นางรู้สึกกังวลยิ่ง
“ท่านแม่ ท่านแม่ช่วยข้าด้วย” เหยียนเซี่ยตะโกนเสียงดัง
“เรียกไปก็ไร้ประโยชน์!” เหยียนหรูอวี้ฟันดาบลงอีกครั้ง!
เหยียนเซี่ยบังศีรษะวิ่งหนี เก้าอี้ด้านหลังของเขาถูกแบ่งครึ่ง
ดาบที่ตกทอดจากบรรพบุรุษของสกุลเหยียน คมกริบจนสามารถตัดเหล็กให้ขาดได้ดุจสร้างจากโคลน เดิมทีมันเคยถูกส่งต่อให้บิดาของเขา ทว่าบิดาของเขาก็ไม่ได้ส่งต่อให้บุตรคนโตเยี่ยงเขา กลับมอบมันให้กับเด็กผู้หญิง มันทำให้เขาโกรธแทบคลั่ง น่าโมโหแทบตายทั้งเป็น!
“เหยียนหรูอวี้เจ้าเป็นบ้าอันใดกันแน่? ก็แค่เพียงโถขี้เถ้าสองใบมิใช่หรือ? ข้าหยิบไปดูแล้วเป็นเช่นไร?”
เหยียนเซี่ยร้อนรนจนเอ่ยทุกสิ่งที่เอ่ยได้
เหยียนหรูอวี้ตกใจ “ท่านพูดอันใดนะ?”
เหยียนเซี่ยอยากจะตบปากตัวเอง ทว่าเขาได้เอ่ยไปแล้ว เช่นไรก็คงไม่อาจนำมันกลับมาได้ เขาเพียงยืดเอวพลางเอ่ยว่า “อันใดรึ? ข้าพูดสิ่งใดผิด? เจ้าคิดว่าเจ้าซ่อนไว้ดีแล้วกระมัง? ฮึ! ข้าล่วงรู้ความลับของเจ้าหมดแล้ว! ข้าแนะนำให้เจ้าสุภาพกับข้า มิเช่นนั้นข้าจะทำลายเจ้าเสีย!”
เป็นเพียงคำพูดที่เกิดจากความโมโห เหยียนหรูอวี้เป็นน้องสาวของเขา แม้เขาริษยานาง ทว่าเขาก็ไม่อาจทำร้ายนางให้ตายได้ลง มากที่สุด… คงได้เพียงข่มขู่เพื่อเอาเงินจากนาง
เหยียนหรูอวี้ไม่ได้ใส่ใจใน ‘ความมานะ’ ของพี่ชายนาง สีหน้าของนางเยือกเย็นลงทันที นางไม่ได้ถามว่าเขาพบมันได้อย่างไร นางก้าวไปข้างหน้าและมองเขาด้วยสายตาเคร่งขรึม “เรื่องนี้ ยังมีผู้ใดที่ล่วงรู้อีก?”
ดรุณีตัวเล็กๆ คนนั้นที่ไม่รู้จัก เหยียนเซี่ยเคยทำเรื่องโง่เขลามาแล้วครั้งหนึ่ง และจะไม่ทำอีกเป็นครั้งที่สอง เขาหันหน้าและเอ่ยพึมพำ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนปากสว่างสินะ เรื่องแบบนี้จะเอาไปพูดเรื่อยเปื่อยได้เยี่ยงไร? กระทั่งท่านพ่อท่านแม่ ข้าก็ช่วยเจ้าปกปิด!”
เหยียนหรูอวี้ชูดาบขึ้น “เช่นนั้น ข้าฆ่าท่านก็รับประกันได้ว่าความลับจะไม่รั่วไหลสินะ?”
เหยียนเซี่ยพลันเบิกตากว้าง!
“อวี้เอ๋อร์!”
เหยียนฉงหมิงย่างกรายเข้าลานบ้านด้วยความเปรมปรีดิ์
ฮูหยินเหยียนโล่งใจจากความวิตกกังวล “ไอ้หยา นายท่าน ท่านกลับมาพอดี รีบไปดูอวี้เอ๋อร์เถิด ไม่ทราบว่าตอนนี้นางจะทำอันใดกับพี่ชายของนาง!”
การกลับมาของเหยียนฉงหมิง ทำให้เหยียนเซี่ยพอที่จะยื้อชีวิตกลับมาได้ เหยียนเซี่ยวิ่งออกมาด้วยความกลัวสุดขีดจนฉี่แทบราด เขาไม่รีรอ รีบวิ่งไปหลบที่ลานบ้านของฮูหยินเหยียน
เหยียนหรูอวี้โกรธจนขว้างดาบ!
…………………………………………………………………