หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 42 เริ่มลงมือ

บทที่ 42 เริ่มลงมือ
โดย
Ink Stone_Romance

ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วยาม เด็กน้อยทั้งสามก็หลับไปในอ้อมแขนของเยี่ยนจิ่วเฉา หัวเล็กๆ ซบลงบนท่อนแขนและแผงอก มือน้อยๆ กำที่สาบเสื้อไว้แน่น หยดน้ำตาใสดุจเพชรพลอยยังคงเปียกขนตา
“คุณชาย”
ลุงวั่นเดินเข้ามาในห้อง “ฟ้าใกล้สางแล้ว อุ้มคุณชายน้อยกลับห้อง แล้วท่านก็ไปพักผ่อนเสียหน่อยเถิด”
เหนื่อยมาทั้งคืน อีกทั้งยังมิได้แข็งแรงประดุจเหล็กกล้า ถึงเวลาที่ต้องพักผ่อนแล้ว
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่เอ่ยสิ่งใด อุ้มเด็กน้อยทั้งสามกลับไปยังห้องของตนเอง และวางพวกเขาลงบนเตียงอ่อนนุ่ม แต่ไหนแต่ไรเขานอนเตียงแข็ง ทว่าเจ้าตัวน้อยทั้งสามชอบเตียงนุ่มๆ แม้นพวกเขาจะไม่ได้มาหาเขาที่นี่บ่อยนัก เขาก็เตรียมไว้ให้เสมอ
ทันทีที่เด็กน้อยทั้งสามคนออกจากอ้อมแขนของบิดา ก็กลิ้งตัวไปมาด้วยความรู้สึกไม่สบาย จนกระทั่งสามพี่น้องตัวแนบชิดกัน ก็พลันขดตัวหลับไป
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้เห็นเด็กๆ นอนหลับมากนัก ไม่รู้ว่าเด็กในครอบครัวอื่นจะมีท่านอนที่รู้สึกขาดความปลอดภัยเช่นนี้หรือไม่
“คุณชาย?” ลุงวั่นเอ่ยเตือนให้เขาพักผ่อน
สายตาของเยี่ยนจิ่วเฉาจ้องมองเด็กน้อยทั้งสามที่กำลังนอนหลับ พลางเอ่ยเบาๆ “พวกเขาทั้งดื้อด้านและก่อกวน ร่างกายผอมบาง ข้าทำให้แม่ลูกสี่คนต้องทนทุกข์ทรมานเสียแล้ว”
ลุงวั่นเข้าใจในความหมายของเขาและรู้สึกแบบเดียวกันก่อนหน้านี้ ทว่ายามนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แม่ลูกสี่คนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน หากแต่เป็นคุณชายน้อยทั้งสามเสียมากกว่า
การเติบโตมาข้างกายสตรีที่ไม่ใช่มารดาแท้ๆ หากจะกล่าวว่าเป็นเรื่องดีก็คงโกหก อายุสองขวบแล้วแต่ยังปฏิเสธที่จะพูด หากมิใช่ว่าเคยได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเขาในบ้านสกุลอวี๋ ก็เกือบจะคิดว่าพวกเขาเป็นใบ้
ทั้งหมดนี้เพราะเหตุใดเล่า? ผู้ใดจะรับรู้ได้ว่าพวกเขาต้องทนทุกข์กับความขมขื่นเช่นไร?
“รับกลับมาทั้งหมดแล้ว ต่อไปคงไม่ต้องทุกข์ทรมานอีก” ลุงวั่นเอ่ยอย่างโล่งใจ
“ข้าคือคนที่กำลังจะตาย” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ย
ตาลุงวั่นจ้องไม่วางตา ยามนี้จะไม่เอ่ยให้เสียขวัญกำลังได้หรือไม่? เขาอายุเยอะแล้ว กว่าจะดีขึ้นก็ไม่ง่าย แล้วมีผู้ใดเอ่ยแช่งตัวเองเช่นนี้กัน?
ลุงวั่นระงับโทสะ พลางเอ่ยอย่างจริงใจ “คุณชายกล่าวอันใด…”
“ยี่สิบห้า ยังมีเวลาอีกสองปี ทว่าพวกเขาไม่อาจรอถึงสองปีได้” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยขัดลุงวั่น
ลุงวั่นไม่อาจเอ่ย
เขารู้เรื่องนี้ในคืนก่อนที่พระชายาจะแต่งเข้าสกุลเซียว หากมิใช่เพราะเซียวเจิ้นถิงขวนขวายหายามารักษาหลอดเลือดหัวใจของเขาอย่างไม่ย่อท้อ มิต้องเอ่ยถึงอายุถึงยี่สิบห้า เกรงว่าแปดขวบก็คงไม่อาจรอดมาได้
คุณชายอดทนกับสิ่งที่เขาไม่สมควรจะได้รับในวัยนั้น เยี่ยนอ๋องก็เช่นกัน
เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยต่อ “ใครกะเกณฑ์ข้า ข้ามิได้สนใจ หลายปีมานี้ คนที่อยากให้ข้าตายมีน้อยเช่นนั้นหรือ? มีวันใดที่ข้าไม่อยู่ในการกะเกณฑ์เหล่านั้น?”
ลุงวั่นก็ยิ่งเอ่ยสิ่งใดไม่ออก
แปดขวบถูกใส่ยาพิษลงในอาหาร เก้าขวบสัตว์มีพิษคลานออกจากที่นอน… สิบขวบ สิบเอ็ดขวบ ทุกขวบมีสิ่งน่าตกใจ ทุกปีมีแต่ความน่าหวาดกลัว
หลังจากอายุสิบเจ็ด คุณชายเติบโตขึ้น เหตุการณ์เช่นนี้ก็มีน้อยลง
เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ย “ทว่าข้ายังตายไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่ยอมตายง่ายๆ เช่นนี้ ข้าขวางหูขวางตาพวกมันได้ยามใด ข้าก็จะขวางหูขวางตาพวกมันยามนั้น ข้าไม่มีความสุข ผู้ใดก็อย่าหวังจะมีความสุข!”
“คุณชาย…” ลุงวั่นร้าวระทมใจ
“ก่อนหน้าข้าเคยคิดเช่นนั้น” น้ำเสียงของเยี่ยนจิ่วเฉาแผ่วลง เขาเหลือบมองเด็กน้อยทั้งสามที่กำลังหลับ “ต่อแต่นี้ไม่มีอีกแล้ว”
ดวงตาลุงวั่นทอประกายสว่างขึ้น ในที่สุดท่านก็คิดได้ และเลือกที่จะสร้างกำลังใจ รักษาอาการป่วยให้ดีและมีชีวิตที่ดีต่อไปใช่หรือไม่?
เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ย “ถ้าข้าต้องตาย ข้าก็จะลากทุกคนไปตายด้วยกัน!”
ลุงวั่นปากค้าง “…”
เยี่ยนจิ่วเฉาคลุมผ้าห่มให้ด็กน้อยทั้งสาม ดวงตาทอประกายความอ่อนโยนของพ่อผู้เปี่ยมด้วยความรัก ทว่าสีหน้ากลับเหมือนคนวิปลาส “ตายหมดแล้ว เมืองหลวงก็คงสะอาดเสียที”

ข้างกายเยี่ยนจิ่วเฉามีองครักษ์มืดผู้ทรงพลังสองคน เรื่องนี้มิใช่ความลับในเมืองหลวง อย่างไรเสียคนในความมืดของคุณชายเยี่ยนต่างก็เจิดจ้าอยู่ในที่สว่าง องครักษ์มืดของเขาจึงไม่ได้มีความมืดจริงๆ สักเท่าใด
ทว่าในวันนี้องครักษ์มืดผู้มีนามว่าอิ่งลิ่วได้อกตัญญูต่อคุณชายเยี่ยน และถูกคุณชายเยี่ยนลงโทษทัณฑ์ไปหลายร้อยที เกรงว่าเดือนหน้าคงได้แต่ใช้ชีวิตอยู่ในห้อง
โดยปกติอิ่งลิ่วไม่สามารถถูกตีได้จริงๆ เขาไปที่ก้งเฉิงอย่างเงียบๆ เขาต้องการทราบว่าเมื่อสามปีก่อน เกิดอะไรขึ้นกับเหยียนหรูอวี้ นางได้บุตรทั้งสามของเยี่ยนจิ่วเฉามาจากมือใคร
เป็นไปไม่ได้ที่จะกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้ตรวจสอบเหยียนหรูอวี้ ทว่ายามอยู่ในสวี่โจว สวี่โจวราวกับถูก ‘เก็บกวาด’ อย่างตั้งอกตั้งใจ สิ่งที่พวกเขาตรวจพบก็คือสิ่งที่คนอื่นต้องการให้พวกเขารู้
ยามนี้ ก้งเฉิงอยู่ในสายตาของพวกเขา และก้งเฉิงก็คงจะถูก ‘เก็บกวาด’ ไปแล้ว ทว่าคงมิได้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วนเยี่ยงสวี่โจว ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจะมาตรวจสอบที่ก้งเฉิง
ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ตีหญ้าให้งูกลัว อิ่งลิ่วก็สามารถหาช่องโหว่ในก้งเฉิงได้
“คุณชาย” หลังมื้อกลางวัน อิ่งสือซันมาที่ห้องทำงาน
เยี่ยนจิ่วเฉากำลังดูของเล่น ‘ข่งหมิงสั่ว[1]’ ที่ช่างฝีมือทำให้กับเด็กน้อยทั้งสาม เมื่อได้ยินเสียงของอิ่งสือซัน เขาก็รับคำเบาๆ “มีเรื่องอันใด?”
อิ่งสือซันคิดว่าบุรุษร่างสูงใหญ่อย่างคุณชายเล่นของเล่นชิ้นเล็กๆ เช่นนี้ดูน่าขันเล็กน้อย เขากระแอมในลำคอพลางเอ่ยว่า “อิ่งลิ่วออกเดินทางไปแล้ว ส่วนคุณหนูเหยียน คุณชายคิดว่า..ควรจะปลอบโยนนางหรือไม่?”
“เหตุใดต้องปลอบโยนนาง?” เยี่ยนจิ่วเฉาถามอย่างเหม่อลอย
อิ่งสือซันเอ่ย “จะให้นางทราบไม่ได้ว่าคุณชายกำลังสงสัยนาง คุณชายสามารถใช้ความงามทำให้นางเคลิบเคลิ้มก่อน!”
เยี่ยนจิ่วเฉาปรายตามองอิ่งสือซัน “หากคุณชายคนนี้สนใจนาง มันจะยิ่งทำให้ผู้คนสงสัยน่ะสิ”
อิ่งสือซันสะอึกทันที
ใช่แล้ว เขาลืมสันดานของคุณชายของเขาไปได้อย่างไร? หากเขาเอาใจใส่สตรีใดอย่างจริงจัง นั่นอาจทำให้ผู้คนหวาดกลัวเจียนตายได้
เมื่อวานที่ได้พบกับคุณหนูเหยียน เพราะเหยียนฉงหมิงใช้ ‘ทุกศาสตราวุธ’ และ ‘พรสวรรค์ในการพูดอันเลิศล้ำ’ อ้อนวอน คุณชายน้อย ‘บังเอิญ’ กลับมายังจวนพอดี ต่อหน้าบุตรชายของเขา จึงไม่อาจหักหน้า ‘ท่านตา’ ของพวกเขาได้
หากวันนี้ยังรีบให้เหยียนหรูอวี้ได้พบหน้าก็คงไม่มีเหตุผลอันใดอีก
ทว่าเหตุใด เขาจึงมักรู้สึกว่าคุณชายมิได้ไม่สนใจเหยียนหรูอวี้เพราะเหตุนี้? หากแต่คุณชายคร้านจะสนใจจริงๆ!
จู่ๆ เยี่ยนจิ่วเฉาก็ชี้ไปที่ไหเหล้าสองใบบนโต๊ะ “ส่งเหล้าเหล่านี้ไปที่จวนสกุลเหยียน”
“ท่านมิได้กล่าวว่าไม่สนใจเหยียนหรูอวี้หรอกหรือ?” อิ่งสือซันเอ่ยถามด้วยใบหน้าอึมครึม
เยี่ยนจิ่วเฉาฮึดฮัดเบาๆ “ใครว่าข้าจะมอบให้นาง?”
อิ่งสือซันงวยงง “เช่นนั้นให้ผู้ใดกันเล่า?”
……………………..
“คุณชาย! คุณชาย!” เด็กรับใช้คนหนึ่งมาที่ลานบ้านฮูหยินเหยียนด้วยหน้าตาตื่น ทว่าเขาเป็นชาย จึงถูกผู้เฝ้าประตูหยุดไว้
เด็กรับใช้เอ่ยด้วยท่าทีหงุดหงิด “เจ้าหยุดข้าไปใย? รีบตามคุณชายใหญ่ออกมา! องครักษ์อิ่งจากจวนคุณชายมาที่นี่แล้ว! นำเหล้าสองไหมามอบให้คุณชายใหญ่ของเรา!”
เหยียนเซี่ยซ่อนตัวอยู่ในบ้านของมารดาเพราะกลัวเหยียนหรูอวี้จะลอบสังหารตน เมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กรับใช้เอ่ย ก็รีบวิ่งออกมาอย่างสับสน “เจ้ากล่าวว่าอันใด? จวนของคุณชายส่งเหล้ามาให้ข้า?”
เซี่ยวซือและโหย่วหรงเยียนเอ่ย “ขอรับ คุณชาย! องครักษ์อิ่งมาส่งด้วยตนเอง!”
เซี่ยวซือจะมีโอกาสรู้จักอิ่งสือซันที่ไหน? เป็นอิ่งสือซันที่มารายงานตัวเอง
“อิ่ง องครักษ์อิ่ง? องครักษ์ข้างกายคุณชายเยี่ยนน่ะรึ?” องครักษ์ทั้งสองต่างมีชื่อสกุลอิ่ง ไม่ว่าจะเป็นคนใด ต่างก็เป็นคนสนิทของคุณชายเยี่ยนทั้งสิ้น แล้วคนสนิทของเยี่ยนจิ่วเฉาจะนำเหล้ามามอบให้เขาได้อย่างไร?
“องครักษ์อิ่งเขา…กล่าวอันใดหรือไม่?” เหยียนเซี่ยเอ่ยตะกุกตะกัก
ดวงตาเซียวซือเป็นประกายสว่างขึ้น พร้อมเอ่ยว่า “กล่าวสิ! กล่าวว่าคุณชายเยี่ยนให้นำมาให้!”
“คุณชายเยี่ยนให้นำเหล้ามาให้พี่ชายของข้า?” ไม่นานข่าวก็แพร่สะพัดมาถึงที่พำนักของเหยียนหรูอวี้ เหยียนหรูอวี้ยังคงไม่สร่างเมา หลังจากดื่มน้ำแกงแก้เมาก็ยังคงเวียนหัวเล็กน้อย ยามเอ่ยถามจบประโยค ก็พลันปวดศีรษะขึ้นมา
ไฉ่ฉินเอ่ยตามความเป็นจริง “หลีฮวากล่าวเช่นนั้น”
หลีฮวาเป็นสาวใช้ในที่พำนักของฮูหยินเหยียน มาจากหมู่บ้านเดียวกับไฉ่ฉิน
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นเหล้าชนิดใด?” เหยียนหรูอวี้ถาม
ไฉ่ฉินส่ายศีรษะ
“ช่างเถิด มิได้สำคัญอันใด” เหยียนหรูอวี้นวดคลึงศีรษะที่ปวดเล็กน้อย พลางเอ่ยพึมพำ “เหตุใดคุณชายจึงนำเหล้ามาให้พี่ชายของข้า? เขาไม่ค่อยถูกคอกับพี่ชายข้ามิใช่หรือ?
แม่หลินเอ่ย “หรือเมื่อคืน คุณชายจะรู้สึก…หวั่นไหนกับคุณหนู?”
เหยียนหรูอวี้เอ่ยอย่างครุ่นคิด “เจ้าหมายความว่า เขาชอบข้าแล้วและเริ่มทำให้ครอบครัวของข้าพอใจเช่นนั้นหรือ? หากเช่นนั้นเขาก็ควรเริ่มจากพ่อแม่ของข้าสิ”
บิดาของนางไปเยี่ยมเขาเมื่อคืนนี้ อย่างไรของขวัญนี้ก็ควรจะมอบกลับคืนให้เขา
เหยียนหรูอวี้ขมวดคิ้วมุ่นพลางเอ่ย “ไม่ว่าจะคิดเช่นไร ข้าก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีลับลมคมใน”
แม่หลินคลี่ยิ้ม “คุณหนู ท่านกังวลเกินไปแล้ว คุณชายสูญเสียบิดาไปตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนมารดาก็แต่งงานใหม่ ไม่มีผู้ใหญ่อยู่เคียงข้างคอยสั่งสอน เขาจะทราบมารยาทในการมอบของขวัญได้อย่างไร ส่งของขวัญมาให้ ก็ชัดเจนว่ามีใจ ไม่ว่าจะส่งให้ผู้ใด คุณหนูก็ไม่จำเป็นต้องสนใจหรอกเจ้าค่ะ”
เหยียนหรูอวี้รู้ดีว่าสิ่งที่แม่หลินกล่าวนั้นสมเหตุสมผล ทว่าภายในใจของนางก็ไม่อาจจะมีความสุข กลับกัน ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ “เจ้าคิดว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่เมื่อวานหลังจากเมาข้าจะเอ่ยสิ่งใดไปแล้วเขารู้สึกสงสัย…”
“คุณหนู” แม่หลินจ้องมอง
เหยียนหรูอวี้มองสายตาทาสรับใช้ที่อยู่ภายในห้องก็ต้องกลืนคำพูดที่วิ่งมากลับลงคอไป
……………………………………………………..

[1] ข่งหมิงสั่ว(孔明锁) คือ ของเล่นโบราณของจีน ทำจากไม้ ประกอบกันเป็นรูปร่างต่างๆ

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม

เธอคือหมอ(รักษาสัตว์)เทวดาคนแรกของอาณาจักร เริ่มจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้านผู้แสนยากจน ทางซ้ายมีท่านแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ทางขวาก็มีน้องชายตัวน้อยคอยให้ป้อนข้าว ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอถูกผู้ชายเฮงซวยยกเลิกการแต่งงาน… ให้ตายเถอะ! เสือไม่โอ้อวดพลังก็จริง แต่เห็นเธอเป็น HelloKitty หรืออย่างไร ถึงมารังแกกันแบบนี้?! สั่งสอนผู้ชายเฮงซวย รักษาอาการป่วยของท่านแม่ เลี้ยงดูน้องชายที่ผอมแห้งแรงน้อย บุกเบิกที่นารกร้าง ปลููกพืชบนที่ดินว่างเปล่า นั่งดูความอุดมสมบูรณ์ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข วันเวลาอันแสนสุขค่อยๆ ผ่านไป… วันหนึ่งก็ได้ยินว่าเทพแห่งความตายผู้น่าสะพรึงกลัวจะมาเยือนถึงหน้าบ้าน บังคับขู่เข็ญให้เธอแต่งงานด้วย? ถึงเธอจะชอบผู้ชายหน้าตาดีก็เถอะ แต่ได้ยินว่าท่านอ๋องผู้นี้… “ท่านอ๋อง พวกเราไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย!” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เหอะๆ” ท่านอ๋องยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วคว้าเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำสามคนออกมาจากด้านหลัง “เรียกแม่สิ” เธอล่ะอยากจะเป็นลม…

Options

not work with dark mode
Reset