หมอหญิงจ้าวดวงใจ – ตอนที่ 174 รักษาองค์ชาย ขอผลประโยชน์ (5)

ตอนที่ 174 รักษาองค์ชาย ขอผลประโยชน์ (5)
“หมอเซียนเหยา… หมอเซียนเหยา!” ลี่ลี่ซือรีบไล่ตามมา “อยากถามท่านว่าครั้งหน้าท่านจะมา…ฝังเข็มให้กับองค์ชายเมื่อใด”

เหยาเยี่ยนอวี่ยืนอยู่ตรงบันไดตรงประตูแล้วไม่พูดไม่จา

ชุ่ยเวยคลี่ยิ้มอันเย็นชา “องค์ชายไม่ต้องฝังเข็มอีก คุณหนูของพวกข้ายุ่งยิ่งนัก ไม่มีเวลาว่างเว้นมาที่นี่ หากพวกเจ้าต้องการอะไร ก็ไปหาคนของสำนักหมอหลวงก็พอแล้ว” กล่าวจบ จึงพยุงเหยาเยี่ยนอวี่แล้วกำลังจะจากไป

“ได้โปรดช้าก่อน!” ลี่ลี่ซือรีบสาวเท้าไปข้างหน้าสองก้าวแล้วขวางทางเหยาเยี่ยนอวี่เอาไว้ จากนั้นก็โค้งลำตัวก้มลงต่ำ หากยังมองไม่ออกว่าหมอเซียนเหยาโกรธ นางก็คงไม่ต้องติดตามอยู่ข้างกายองค์ชายเตี้ยนเซี่ยะอีกต่อไป

“หมอเซียนเหยา ได้โปรดยกโทษให้พวกเราที่เสียมารยาท พวกเรา…”

ชุ่ยเวยถูกเหยาเยี่ยนอวี่ปลูกฝังจนรู้แจ้งทุกอย่าง จึงคลี่ยิ้มพลางพูดด้วยเสียงนิ่งเฉย “ช่างเถอะ พวกเจ้าทั้งเผ่าอาเอ่อร์เข้อรวมไปถึงองค์ชายของพวกเจ้าก็เหลือทั้งหมดสิบห้าคนเท่านั้น คุณหนูของพวกข้ายังจะเรียกร้องอะไรจากเจ้าได้อีก พวกเรายังมีธุระ ได้โปรดหลีกทาง”

“หมอเซียนเหยา!” ลี่ลี่ซือคุกเข่าลงอีกครั้ง แล้วกอดชายประโปรงของเหยาเยี่ยนอวี่ไว้ พร้อมกับเอ่ยถาม “ต้องทำอย่างไรท่านถึงจะยอมรักษาอาการป่วยขององค์ชายต่อ”

เหยาเยี่ยนอวี่ก้มตัวลงไปพยุงลี่ลี่ซือให้ลุกขึ้น แล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “องค์ชายของพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องฝังเข็มไปชั่วคราว เจ้าให้เขาดื่มยาต้มแก้พิษเหล่านั้นตามเวลาที่กำหนดก็พอแล้ว”

“แต่ว่า! ยาต้มแก้พิษของจงหยวนไม่สามารถรักษาพิษขององค์ชายได้! ไม่เช่นนั้นพวกเราจะไปลักพาตัวท่านตอนเทศกาลโคมไฟเพื่ออะไร!” ลี่ลี่ซือรู้สึกกระวนกระวายจนแทบจะโดดกำแพง

เหยาเยี่ยนอวี่คลี่ยิ้มอย่างประหม่า แล้วพูดขึ้น “ข้าช่วยชีวิตเขาให้รอดแล้ว”

ลี่ลี่ซือจับเหยาเยี่ยนอวี่ไว้ไม่ปล่อย แล้วอ้อนวอนด้วยความทุกข์ “แต่พิษในร่างกายของเขายังไม่ได้ถูกกำจัด ตอนที่พิษกำเริบ องค์ชายรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก…นี่…หมอเซียนเหยา! ได้โปรด!”

เหยาเยี่ยนอวี่หันไปมองม่านประตูที่อยู่ด้านหลังเพียงพริบตา แล้วอุทานด้วยเสียงเบา “เช่นนั้นก็ต้องให้องค์ชายของพวกเจ้าเป็นคนมาเสวนากับข้าด้วยตนเอง”

“หมอเซียนเหยา…” ลี่ลี่ซือรู้สึกไร้ซึ่งหนทางขึ้นมาทันที

เหยาเยี่ยนอวี่ถือโอกาสตอนที่ลี่ลี่ซือสติหลุด สาวเท้าจากไปโดยเร็ว

ตอนที่ลี่ลี่ซือได้สติกลับมา เหยาเยี่ยนอวี่และชุ่ยเวยต่างก็พาชุ่ยผิงจากไปตั้งนานแล้ว

ระหว่างทางกลับ ชุ่ยเวยเอ่ยถามเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยความกังวลใจ “คุณหนูเจ้าคะ ท่านว่าองค์ชายท่านนั้นจะตกลงคำขอของพวกเราหรือไม่”

เหยาเยี่ยนอวี่คลี่ยิ้มบางๆ “แค่เขาอยากจะกลับไปถิ่นของเขา ก็ต้องมาหาข้าแน่นอน”

ชุ่ยผิงถามด้วยความกระวนกระวาย “ทว่า ฮ่องเต้ทรงให้พวกเรารักษาอาการของเขา คุณหนูไม่สนใจเขา ฮ่องเต้จะลงโทษหรือไม่”

“เขาไม่ตายหรอก” เหยาเยี่ยนอวี่หัวเราะเสียงเบา “แค่ฮ่องเต้ให้เขามีชีวิตอยู่รอดเท่านั้น สำหรับพิษในร่างกายจะแก้ได้หรือไม่ ฮ่องเต้จะมีกระจิตกระใจมาสนใจได้อย่างไร”

ชุ่ยผิงเอ่ยถามด้วยความอัดอั้นใจ “คุณหนูรู้ได้อย่างไรเจ้าคะ”

เหยาเยี่ยนอวี่แค่ยิ้มแล้วไม่พูดไม่จา แน่นอนว่านางไม่สามารถบอกว่านี่เป็นสิ่งที่เว่ยจางบอกนาง ฮ่องเต้ไว้ชีวิตอาปาเข้อช่า ก็แค่เพื่อที่ต้องการให้ซีเจวี๋ยมีวันที่เลื่องชื่อทางด้านการใช้ทหาร แต่ไม่ใช่เรื่องหมาป่าที่จ้องจะแว้งกัดคนได้ทุกเมื่ออยู่ข้างกายเยี่ยงนี้

ส่วนหันซังเกอใช้ตัวเองเป็นที่จะล่อจับกุมอาปาเข้อช่า ภายในใจก็รู้สึกผิดยิ่งนัก แน่นอนว่าต้องแอบช่วยเหลือตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลับๆ อยู่แล้ว

อีกอย่าง เหยาเยี่ยนอวี่อยากได้สูตรลับการทำกระจกก็แค่ต้องการมาประดิษฐ์เครื่องมือทางการแพทย์เฉกเช่นเข็มฉีดยา ภาชนะ และขวดทดลองและหลอดทดลองตอนทำการวิจัย ฯลฯ

ภาชนะโลหะไม่โปรงใส่ จึงไม่สะดวกต่อการทำงานวิจัยยาที่เป็นของเหลว อีกทั้งไม่สามารถวัดค่าได้อย่างแม่นยำ การทดลองจึงไม่ได้มาตรฐาน…

พอนึกถึงอุปกรณ์ของการทดลองวิจัยในห้องการแพทย์ในสมัยปัจจุบัน เหยาเยี่ยนอวี่ก็รู้สึกน่าเสียดายยิ่งนัก อีกทั้ง เหยาเยี่ยนอวี่ก็ไม่ชอบหน้าต่างที่ใช้เพียงกระดาษปิด ไม่เพียงแต่ทำให้ในเรือนมืดมัว แล้วตอนลมพัดผ่านก็ยังทำให้เกิดเสียงรบวนจนทำให้คนไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนดีๆ

นางว่าสมัยโบราณนี้ดีไปหมดทุกอย่าง แค่ว่าทางจีนและฝั่งยุโรปไม่ไปมาหาสู่กัน ทำให้ของดีๆ มากมายไม่สามารถสร้างออกมาได้! หากแคว้นต้าอวิ๋นสามารถผลิตกระจกเป็นจำนวนมาก ก็คงจะทำเงินได้มหาศาลใช่หรือไม่

ข่าวคราวที่อาปาเข้อช่าฟื้นขึ้นมา แน่นอนว่าต้องปิดบังฮ่องเต้ไว้ไม่อยู่ ดังนั้นหลังจากที่เหยาเยี่ยนอวี่จากไป เฉิงอ๋องก็มาเยือน

ลี่ลี่ซือรู้จักท่านอ๋องท่านนี้ ยิ่งไม่กล้าเมินเฉย จึงน้อมคำนับและกล่าวทักทายอะไรเหล่านี้ด้วยความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง

เฉิงอ๋องถามถึงสภาพร่างกายของอาปาเข้อช่า และก็ได้ปลอบโยนเขาแทนฮ่องเต้ไปไม่กี่คำ บอกว่าให้เขาพยายามทำใจให้สงบแล้วพักฟื้นตัวอยู่ที่นี่ รอให้หายดีแล้วค่อยวางแผน ต่อให้คนเผ่าอาเอ่อร์เข้อจะเคยทรยศหักหลังแคว้นต้าอวิ๋น ทว่าฮ่องเต้ต้าอวิ๋นทรงมีจิตใจที่กว้างขวาง และเห็นเผ่าอาเอ่อร์เข้อเปรียบดั่งประชากรของตนเอง และจะให้โอกาสพวกเขาได้แก้ตัวใหม่

หลังจากที่กล่าวคำพูดดิบดีออกมา เฉิงอ๋องมองสีหน้าของอาปาเข้อช่ายังพอได้ จึงสั่งให้หมอหลวงตรวจจับชีพจรให้อีกครั้ง พอรู้ว่าองค์ชายผู้โชคร้ายองค์นี้มีสภาพร่างกายที่ฟื้นฟูได้ไม่เลว จึงบอกว่าฮ่องเต้จะทรงรอคอยข่าวคราวในวันนี้ เขาจะเข้าวังหลวงไปรายงานเรื่องในวันนี้

ลี่ลี่ซือจึงรีบเดินเข้ามาคุกเข่าลง แล้วบอกเรื่องที่เหยาเยี่ยนอวี่ไม่ยอมทำการรักษาต่อให้กับองค์ชาย

หลังจากเฉิงอ๋องฟังจบ จึงอุทานด้วยความลำบากใจเล็กน้อย พร้อมกับตรัสขึ้น “คุณหนูเหยาท่านนี้ เป็นผู้ที่มีฝีมือการแพทย์ที่ไร้เทียมทานจริงๆ ทว่านางก็เป็นเพียงสตรีผู้หนึ่งเท่านั้น ประการแรก นางไม่ใช่หมอหลวงในสำนักหมอหลวง จึงไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงจากราชสำนัก ประการที่สอง นางก็ไม่ได้ติดค้างอะไรพวกเจ้า จึงไม่มีภาระหน้าที่ที่ต้องแก้พิษให้กับองค์ชายของพวกเจ้า อีกทั้งข้าได้ยินมาว่า หลังจากที่คุณหนูเหยารักษาผู้ป่วย ตนเองก็มักจะป่วย ดังนั้นหากไม่ใช่เรื่องที่ฉุกเฉินมากจริงๆ คนในครอบครัวของนางก็ไม่อนุญาตให้นางรักษาคน ตอนนี้นางรักษาแผลขององค์ชายแล้ว แล้วยังจ่ายยาแก้พิษ ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้พวกเจ้าลักพาตัวนางมา นางใช้คุณธรรมในการตอบแทนก็ถือว่าดีเพียงใดแล้ว! ตอนนี้ชีวิตขององค์ชายก็ไม่มีอะไรน่ากังวล เรื่องนี้…เปิ่นอ๋องก็ไม่ควรแทรกแซง”

โดยทั่วไป ท่าทีในตอนนี้ของเฉิงอ๋องก็ถือว่าเป็นท่าทีของฮ่องเต้เช่นกัน

สำหรับเรื่องของอาปาเข้อช่า เฉิงอ๋องและเจิ้นกั๋วกงก็ได้ทูลฮ่องเต้ตามความจริง รวมไปถึงสิ่งที่เหยาเยี่ยนอวี่ขอ พวกเขาสองคำไม่ปิดบังแม้แต่คำเดียว

ถ้อยคำเดิมของฮ่องเต้ ‘แม่นางตัวน้อยๆ ชอบลองเชิงก็ปล่อยนางไปเถอะ แค่ไม่ทำอะไรที่เกินเลยก็พอ คนพวกอาเอ่อร์เข้อเป็นพวกที่เย่อหยิ่งตลอดมา ให้ยัยหนูน้อยคนนี้ไปลิ้มลองความฮึกเหิมของเขาดูก็ดี อีกอย่าง แม่นางผู้นั้นถูกพวกเจ้าหลอกใช้ ภายในใจก็รู้สึกขุ่นเคือง หากไม่ระบายอารมณ์ให้กับอาปาเข้อช่าหน่อย แล้วจะระบายให้ใคร

เพราะว่าคำพูดเหล่านี้ที่ปูทางไว้ให้แล้ว ดังนั้นเฉิงอ๋องจึงจะพูดคำพูดข้างต้นออกมา

ลี่ลี่ซือฟังจบก็ทำได้เพียงมองเฉิงอ๋องจากไปอย่างประหม่า แล้วแก้ไขอะไรไม่ได้

ดังนั้น เหยาเยี่ยนอวี่รออยู่ในจวนไปหนึ่งวันครึ่ง ลี่ลี่ซือก็พาองครักษ์มาเยือนสองคน เหยาเยี่ยนอวี่สั่งให้คนเชิญสตรีต่างแดนท่านนี้เข้ามาด้วยความเกรงอกเกรงใจ แล้วยังยกชา น้ำและของว่างชั้นดีให้นาง

ลี่ลี่ซือจะมีกระจิตกระใจกินและดื่มได้อย่างไร ตอนบ่าย พิษของอาปาเข้อช่ากำเริบอีกแล้ว ทำให้เขาเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง แผลที่ใกล้จะติดกันก็ฉีกอีกครั้ง ลี่ลี่ซือจึงรู้สึกสงสารจวนจะขาดใจ

ดังนั้น หลังจากที่เจอกับเหยาเยี่ยนอวี่ ลี่ลี่ซือไม่พูดจามากความและก็พูดไม่ทันเช่นกัน จึงพูดขึ้นอย่างชัดเจนโดยตรง “หมอเซียนเหยา ท่านอยากจะให้เราอาเอ่อร์เข้อทำอะไร ก็เชิญพูดมาตามตรงเถอะ แค่พวกเรามี ก็ต้องถวายให้กับท่านอยู่แล้ว”

เหยาเยี่ยนอวี่ก็รู้สึกปลื้มปริ่ม จึงพูดขึ้นตรงๆ “ข้าต้องการภาชนะกระจกส่วนหนึ่ง และอยากจะหลอมด้วยตนเอง ดังนั้นจึงต้องการสูตรลับของพวกเจ้า”

ลี่ลี่ซือได้ยินจึงนิ่งงันไปชั่วขณะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset