ตอนที่ 324 อุปสรรคของการได้น้ำมันงู (2)
เจ้าเซียนหลี่ไม่รู้ว่าตนเองถูกเปลี่ยนเจ้าของแล้ว ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่นนี้ ดวงตากลมโตทั้งสองข้างกำลังจับจ้องเสื้อปักลายของซูอวี้เหิง จากนั้นมันอ้าปากน้อยๆ แล้วกัดเสื้อนางเล่นด้วยความสนิทสนม
หลังจากยุ่งมาทั้งวัน จวนเหยาก็เข้าสู่สภาวะที่นิ่งสงบเหมือนที่ผ่านมาเสียที
เหยาเยี่ยนอวี่เปลี่ยนเสื้อที่ใส่ในจวนแล้วนอนฟุบบนโต๊ะ ด้านหน้ามีจานสีขาวหลายสิบใบวางอยู่ บนจานเป็นผงยาหลากหลายชนิด ทว่านางกลับไม่อยากทำ แค่จ้องผงยาด้วยความเหม่อลอย
“คุณหนูเจ้าคะ เวลาก็ล่วงเลยไปแล้ว ควรพักผ่อนแล้วเจ้าค่ะ” ชุ่ยเวยจัดที่นอนเสร็จจึงเข้ามาเกลี้ยกล่อมนาง
“อื้ม ยามใดแล้ว” เหยาเยี่ยนอวี่ยืดตัวตรง แล้วยกมือทุบหลังทุบเอวของตนเองไปสองที
ชุ่ยเวยรีบเข้าไปทุบให้นาง และเกลี้ยกล่อม “ยามหนึ่งแล้วเจ้าค่ะ วันรุ่งขึ้นยังต้องไปสำนักแพทย์อีก คุณหนูรีบพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ค่อยไปคิดสูตรปรุงยาที่สำนักแพทย์ต่อก็ไม่สาย”
“ได้” เหยาเยี่ยนอวี่ลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียง พร้อมทั้งถอดชุดคลุมออก สวมใส่แค่เสื้อผ้าชั้นใน แล้วขึ้นเตียงนอนลงไปในใต้ผ้าห่ม
ชุ่ยเวยแขวนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วหันไปห่มผ้าห่มให้เหยาเยี่ยนอวี่ให้กระชับ จากนั้นค่อยปล่อยม่านสองชั้นลง ดับแสงไฟในเรือนเสร็จ ก็ค่อยถอยไปด้านนอกอย่างเงียบๆ
เหยาเยี่ยนอวี่กลับไม่รู้สึกง่วงนอนแม้แต่น้อย นางนอนลงบนเตียงแต่ยังไม่หลับไปทันที ภายในใจยังคงคิดถึงแต่เรื่องยาทาแก้แผลเปื่อยเพราะอากาศที่หนาวเกินไป เหตุเพราะนึกถึงเรื่องนี้ นางจึงพลิกตัวไปมา นางดึงแขนที่วางข้างหมอนกลับมา จู่ๆ ผิวหนังก็สัมผัสถึงความเย็นยะเยือกของวัตถุบางอย่าง
กลับเป็นเพราะไข่มุกสีม่วงบนข้อมือของนางปล่อยให้อยู่นอกผ้าห่มนานเกินไป จึงทำให้ผิวหนังสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกของไข่มุก ดังนั้นนางจึงยกมือนับไข่มุกทีละเม็ด
นี่เป็นไข่มุกม่วงสามสิบสองเม็ดที่เว่ยจางคัดสรรมาให้นางโดยเฉพาะ ทำให้ใส่เป็นสร้อยข้อมือได้สองวง นางจับไข่มุกไว้ แน่นอนว่าต้องเฝ้าคะนึงถึงเว่ยจางอีกครั้งอยู่แล้ว ภาพตรงหน้าของนางมีเพียงใบหน้าของเขา และเหมือนจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันร้อนผ่าวของเขา
คนๆ นี้เหมือนเป็นอากาศที่สัมผัสไม่ได้ ทว่ากลับรู้สึกว่าเขาอยู่เคียงข้างตลอดเวลา
เหยาเยี่ยนอวี่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างที่เปลี่ยนเป็นบานกระจกทั้งหมด แล้วอดถอนหายใจไม่ได้ แม้กระทั่งเมืองอวิ๋นยังหิมะตก!
“คุณหนูเจ้าคะ วันนี้หิมะตก จะขี่ม้าไปด้วยหรือ” ชุ่ยเวยใส่เสื้อผ้าของเหยาเยี่ยนอวี่ไปพลางเอ่ยถาม
“ไม่ ยังตกเบาอยู่ ยังไม่ถือว่าหนาวมาก อีกอย่าง ขี่ม้าชมทิวทัศน์เหมันตฤดูก็ดีจะตายไป” เหยาเยี่ยนแย้มยิ้มพูดขึ้น
ชุ่ยเวยยังอยากโน้มน้าวนางให้นั่งรถม้า ทว่าชุ่ยผิงกลับใช้สายตาข่มขู่นางให้หยุดพูด
หลังจากแต่งกายและกินมื้อเช้าเสร็จ เหยาเยี่ยนอวี่จึงไปกล่าวอำลาฮูหยินน้อยที่เรือนของนาง ตอนนี้เหยาเหยียนอี้ไปว่าราชการช่วงเช้าที่ราชสำนักแล้ว ขุนนางที่เป็นหมอหลวงไม่ต้องเข้าว่าราชการที่ราชสำนักเช่นขุนนางอื่น นางจึงไม่ต้องลำบากไปว่าราชการทุกวัน
หิมะตกในช่วงเวลานี้ ฮ่องเต้จึงพระราชทานชุดคลุมขนสัตว์ ถ่านเงิน ถ่านไม้ไผ่ และเบี้ยเลี้ยงที่เข้ารับตำแหน่งย่วนลิ่งให้ผู้เฒ่าจาง พอถึงเหมันตฤดู ฮู่ปู้ก็จะจ่ายเงินซ่อมบำรุงสถานที่ในการรับมือกับอากาศที่แสนเหน็บหนาวให้เขา
ตอนนี้สำนักแพทย์ก็คือที่อยู่อาศัยของผู้เฒ่าคนนี้ ดังนั้นเรือนหลังของสำนักแพทย์นี้จึงอบอุ่นและสะดวกสบายยิ่งนัก
เหยาเยี่ยนอวี่เข้าไปถึงก็น้อมคำนับให้อาจารย์ก่อน จากนั้นถอนหายใจเสียงต่ำ แล้วยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ผู้เฒ่าจางเงยหน้าขึ้น แล้วเหลือบมองศิษย์รักเพียงชั่วพริบตา พร้อมทั้งเอ่ยถาม “เป็นอะไรไป หน้าบูดหน้าบึ้งแต่เช้า ฮู่ปู้จ่ายเบี้ยเลี้ยงให้เจ้าน้อยไปหรือ”
“เปล่า ข้าแค่อยากปรุงยาทาแผลเปื่อยเนื่องด้วยอากาศที่หนาวสะท้านเกินไป ทว่ากลับขาดของสิ่งหนึ่ง”
“ยาทาแผลเปื่อย? จะปรุงไว้ใช้ตอนนี้หรือ เจ้ามีแผลเปื่อยตรงจุดใดหรือไร”
“เปล่า ข้ากินอยู่อย่างสุขสบาย จะมีแผลเปื่อยเพราะหนาวสะท้านได้อย่างไรเล่า” เหยาเยี่ยนอวี่ส่ายหน้า “ข้าลองยาที่ปรุงออกมาแล้ว แต่เห็นผลช้าเกินไป”
“อ้อ ผลลัพธ์ของยาสมุนไพรที่มีอยู่มันไม่เข้าตาเจ้าน่ะสิ ทว่าเจ้าทำยาพวกนี้ออกมาทำอะไร ว่างจนไม่มีการใดทำแล้วหรือ”
เหยาเยี่ยนอวี่ไม่พูดจาอ้อมค้อมกับจางชางเป่ย นางจึงอธิบายวัตถุประสงค์ขึ้นทันที “ให้เหล่าทหารที่ไปออกรบได้ใช้”
“เจ้าแค่บอกว่าเป็นห่วงว่าที่สามีของเจ้าก็จบเรื่อง” ผู้เฒ่าแย้มยิ้ม แล้วยกมือลูบเคราสีขาวโพลน พร้อมทั้งเอ่ยถาม “ยังขาดอะไรอีก บอกอาจารย์มา”
“ขาดน้ำมันงู”
น้ำมันงูแก้พิษและลดอาการอักเสบ ทั้งยังบรรเทาผิวหนังที่แตกกร้าน สรรพคุณหลักคือบรรเทาแผลเปื่อยจากอากาศที่หนาวสะท้าน แผลโดนน้ำร้อนลวก แผลโดนไฟไหม้ ผิวพรรณแตกกร้าน ผื่นแดงเรื้อรัง และอื่นๆ
น้ำมันงูมีเนื้อละเอียด เหมาะแก่การผลัดเซลล์ผิวและฟื้นบำรุงสภาพผิวที่เกิดใหม่ให้แข็งแรง และซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ทั้งยังให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว จึงเหมาะแก่การนำไปเป็นยารักษาและทำเป็นเครื่องประทินบำรุงผิว
ทว่าน้ำมันงูกลับล้ำค่ามาก อีกอย่างเหยาเยี่ยนอวี่ไม่มีของในตอนนี้จริงๆ ทว่านางคิดดูแล้ว ตนเองไม่มีของ อาจารย์ต้องมีแน่นอน เขาติดตามฮ่องเต้มาหลายปีเช่นนั้น ต้องมีทุกอย่างอยู่แล้ว
“นี่เป็นเรื่องง่ายมาก” ผู้เฒ่าจางพูดอย่างไม่สนใจใดๆ “หอยาน่าจะมีหลายไห ข้าจะให้คนขนมาให้เจ้าละกัน”
หลายไห? ต้องขนมา!
เหยาเยี่ยนอวี่ได้ยินคำพูดนี้จึงยิ้มอย่างเบิกบาน จากนั้นก็พูดจาประจบประแจงผู้เฒ่า “มีเพียงอาจารย์นี่แหละที่เก่งที่สุด เมื่อคืนข้าครุ่นคิดเรื่องนี้จนนอนไม่หลับเชียวแน่ะ”
ผู้เฒ่ายิ้มในลำคอ “อย่ามาหาข้ออ้างเลย ใครจะไปรู้ว่าเจ้าคิดถึงน้ำมันงูหรือว่าที่สามีของเจ้า”
เหยาเยี่ยนอวี่ทำหน้ากวนประสาททันที แล้วยิ้มพูดขึ้น “ไหนๆ ยานี่ก็จะให้ราชสำนักใช้ มิเช่นนั้นข้าเขียนใบสั่งยา แล้วให้ท่านอาจารย์ไปขอสมุนไพรที่หอยาเถอะ ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหา หลังจากปรุงยาเสร็จจะได้ส่งไปพร้อมกับเสบียงเลยทีเดียว”
ผู้เฒ่าตอบกลับคำว่า ‘อืม’ แล้วพูดขึ้น “เจ้าคำนึงถึงบ้านเมือง ข้าที่เป็นอาจารย์ของเจ้าต้องสนับสนุนเจ้าเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว!”
ดังนั้น จางย่วนลิ่งยกพู่กันขึ้นอย่างไม่ลังเล แล้วเขียนนามของตนเองลงไปในลายน้ำที่เป็นใบสั่งยาของเหยาจู่ปั๋ว จากนั้นก็ประทับตรา
เหยาเยี่ยนอวี่พาหมอสองคนและบ่าวไพร่สองสามคนติดตามไปที่หอยา
หอยาเพิ่งจะเจอเรื่องคดโกง จึงเปลี่ยนผู้ที่รับผิดชอบดูแลทั้งหมด ทว่าทุกคนกลับยังคงเคารพจางย่วนลิ่งเป็นอย่างยิ่ง พอเห็นลายน้ำที่มีนามของเขาประทับอยู่ ผู้รับผิดชอบก็เอายาให้เหยาจู่ปั๋วโดยไม่ถามอะไรเลย
ต่อจากนี้นางต้องยุ่งกับงานอีกแล้ว เหยาเยี่ยนอวี่มองน้ำมันงูหลายไหและยังมีห่อยาสมุนไพรขนาดใหญ่ถูกขนขึ้นไปบนรถม้า จากนั้นนางจึงหันไปกล่าวอำลากับผู้ดูแลหอยาด้วยรอยยิ้ม
ว่าไปก็ช่างบังเอิญนัก นางเพิ่งจะออกจากที่นี่ ก็มีขันทีคนหนึ่งมารายงานว่าผิวขององค์ชายเจ็ดถูกไฟไหม้ จิ่นกุ้ยเหรินจึงสั่งให้คนมาเบิกน้ำมันงู
ขันทีที่ปฏิบัติงานในหอยาเปรยอย่างประหม่า “เหตุใดถึงไม่มาให้เร็วกว่านี้ น้ำมันงูถูกเหยาจู่ปั๋วเบิกไปหมดแล้ว”
ตอนมาขันทีคนนั้นก็ถูกจิ่นกุ้ยเหรินสบถหยาบไปหนึ่งยก พอได้ยินคำพูดนี้จึงกระวนกระวายใจนัก “คำพูดเหล่านี้ของพวกเจ้าหลอกพวกเราไม่ได้หรอก ตอนนี้องค์ชายเจ็ดต้องการใช้ยา! ขืนยังชักช้า อาจทำให้บาดแผลขององค์ชายไม่ทันรักษา ระวังหัวของพวกเจ้าไว้ให้ดีแล้วกัน!”
ขันทีในหอยาก็ไม่ใช่ตะเกียงที่ประหยัดน้ำมัน จึงแค่แสยะยิ้มอย่างเย็นชา “นี่มันน่าแปลกเกินไปหรือเปล่า! พวกเราก็แค่ทำตามหน้าที่ แล้วได้พูดจาหลอกลวงเจ้าเสียที่ไหนกัน หากเจ้าไม่เชื่อก็เข้ามาค้นเลย ถ้าเจอน้ำมันงูแม้แต่หยดเดียว เจ้าจะตัดหัวข้าเสียกี่ครั้งก็ได้!”