ตอนที่ 12 : วิหคมังกร
โจวฉวนหลง องค์ชายลำดับที่ 2 แห่งมหาจักรวรรดิโจว เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก และเริ่มฝึกวรยุทธตั้งแต่อายุ 6 ปี ก้าวขึ้นสู่ระดับสร้างรากฐานตอนอายุ 9 ปี และบรรลุระดับบัวภายในตอนอายุ 20 ปี
และก่อนที่เขาจะอายุครบ 50 ปี เขาก็กลายเป็นอันดับหนึ่งในตารางจัดอันดับยอดฝีมือ แต่พออายุของเขาเกินเกณฑ์ในการจัดอันดับ ชื่อของเขาก็ได้หายไปจากตารางจัดอันดับยอดฝีมือ
โจวฉวนจีเปล่งเสียงทางจมูกอย่างไม่พอใจ สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเหนือกว่าโจวฉวนหลงให้ได้!
เขาไม่เคยเจอพี่ชายของเขามาก่อน แต่ต้องเป็นเพราะการปรากฎตัวของโจวฉวนหลงแน่ ที่ทำให้ราชินีเริ่มทำตัวหยิ่งผยองมากขึ้น
ราชินีพูดถึงโจวฉวนหลงบ่อยมากขนาดที่ 10 ประโยคจะพูดครั้ง เพื่ออวดให้คนอื่น ๆ รู้ว่าลูกของเธอน่ะ สวรรค์เป็นคนส่งมา
“โหห? ไอเด็กเวรคนนี้มันกำลังฟังอย่างตั้งใจใหญ่เลยว่ะ นี่เจ้ารู้รึเปล่าว่าพวกข้าพูดเรื่องอะไรกัน? อยากได้นมสักหน่อยมั้ยล่ะ หื้มมม?”
ชายอ้วนที่เปลือยท่อนบนชี้มาทางเขาก่อนจะหัวเราะ ใบหน้าของเขาทั้งมันวาวและมีรูปร่างเหมือนภูเขาก้อนเนื้อ เนื้อหลายร้อยกรัมบนหน้าอกเขาก็สั่นกระเพื่อมไปด้วยขณะที่เขาพูด
ขอบปากของโจวฉวนจีกระตุกเล็กน้อย เขาแทบอยากจะฆ่าเจ้านั่นทิ้งเสียเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ
ไอ้หมูอ้วนนี่มันคงอยากโดนตบมากมั้ง!
เจียงฉือน้อยยืนขึ้นต่อหน้าโจวฉวนจีและกอดเขาไว้ราวกับแม่ไก่ที่พยายามปกป้องลูก
นายหญิง 7 ราตรีเปล่งเสียงทางจมูกด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เจ้าพยัคฆ์ร้าย เด็กนั่นเป็นของข้า อย่าแม้แต่จะคิดเอาเขาไปเด็ดขาด”
พยัคฆ์ร้ายงั้นเหรอ?
ไอ้หมอนั้นมันตือโป๊ยก่ายชัดๆ! (หมายเหตุ : เป็นตัวละครที่อ้วนมาก มีหัวเป็นหมู และตัวเป็นคน จากเรื่องไซอิ๋ว ชื่อไม่เหมาะกับตัวอย่างแรง)
โจวฉวนจีกลอกตามองไปรอบ ๆ และเริ่มคิดหาทางหนีจากกลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำ
ก่อนอื่น เขาต้องลดการป้องกันของกลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำลงเสียก่อน
ด้วยภายนอกที่เป็นเด็ก 4 ขวบ ก็น่าจะหลอกได้ง่ายอยู่
แถมเขายังไม่เคยแสดงพลังออกมาเลยสักนิด
และแน่นอน โจวฉวนจีอยู่แล้วรู้ว่าเจียงฉือน้อยไม่มีทางที่จะเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงของเขาให้กับพวกมันอย่างแน่นอน เพราะถ้าเธอบอก มีหวังจะถูกจับมัดทั้งคู่แน่
กลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำยังคงพูดคุยกันต่อ
โจวฉวนจีดึงเจียงฉือน้อยมาข้าง ๆ ก่อนจะนั่งลงข้างก้อนหินขนาดใหญ่
เจียงฉือน้อยเบิกตากว้างมองเขา และถามเป็นนัย ๆ ผ่านสายตานั้นว่า พวกเขาควรจะทำยังไงดี
โจวฉวนจีเข้าใจเป็นอย่างดีเกี่ยวกับสถานการณ์อันตรายแบบนี้ เพราะเขาเองก็เคยเกือบตายมาแล้วครั้งนึง
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โจวฉวนจีได้ฝึกจำลองสถานการณ์อันตรายกับเจียงฉือน้อยทุกคืน นั่นจึงทำให้ทั้งสองค่อนข้างที่จะรู้ใจกัน และมีสัญญาณลับไว้เผื่อสื่อสารกันอยู่จำนวนมาก
โจวฉวนจีกลอกตาและทำตาขวาง
ใช่แล้ว นี่คือสัญญาณลับที่เรียกว่า ทำตาขวาง ยังไงล่ะ
ซึ่งมันหมายความว่า ใจเย็น ๆ คอยสังเกตการณ์ และรอโอกาสก่อน
เจียงฉือน้อยกระพริบตา ซึ่งหมายความว่า ได้
นายหญิง 7 ราตรีสังเกตเห็นพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเขา แม้ว่านางจะไม่ได้หันไปมองพวกเขาเลยก็ตาม และนางก็แอบครุ่นคิด
“เจ้าเด็ก 2 คนนี้มันมีพลังวิญญาณอยู่ข้างในตัว แถมพวกมันก็ไม่ได้เดินทางอยู่กับพวกผู้ใหญ่อีก เพราะงั้นก็เป็นไปได้ที่ภูมิหลังของพวกมันจะไม่ธรรมดาเหมือนกัน” นายหญิง 7 ราตรีคิดอยู่ภายในหัว และถูกต้อง ยิ่งมีวุฒิภาวะมากเท่าไร ความฉลาดก็จะมากขึ้นเท่านั้น
แต่ถึงแม้เขาจะมีชีวิตมาแล้ว 2 ครั้ง เขาก็ยังเด็กกว่านายหญิง 7 ราตรีอยู่ดี ต่อให้จะนำเลขอายุของทั้ง 2 ชีวิตมารวมกันก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่า เขาเองก็ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่านายหญิง 7 ราตรีกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่
ไม่ใช่แค่นายหญิง 7 ราตรี แต่อสูรทั้ง 16 ตัวเองก็สงสัยภูมิหลังของโจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยเหมือนกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมทั้ง 2 คนถึงยังมีชีวิตรอดอยู่
พวกเขาไม่ได้คอยเฝ้ามองโจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยอยู่ใกล้ ๆ เพราะมั่นใจในความต่างของพลังที่มี
ในขณะที่พวกเขายังคงพูดคุยกันต่อ ในที่สุดโจวฉวนจีก็รู้เป้าหมายการเดินทางของพวกมัน
วิหคมังกร!
มันคือปีศาจอินทรีชนิดหนึ่งที่มีสายเลือดของมังกรที่แท้จริงไหลเวียนอยู่ มันทั้งทรงพลังและยังบรรลุถึงระดับบงกชอสูร ซึ่งเทียบเท่ากับระดับบัวภายในของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีระดับเทียบเท่า แต่ปีศาจก็ยังทรงพลังกว่าอยู่ดี แล้วนับประสาอะไรกับวิหคมังกรที่มีสายเลือดของมังกรที่แท้จริงอยู่ล่ะ
วิหคมังกรเป็นสัตว์ลึกลับและหายากมาก ๆ ทั้งร่างกายตั้งแต่หัวจรดเข้าของมัน นับเป็นสมบัติที่มีมูลค่ามหาศาล
และเมื่อไม่นานมานี้ วิหคมังกรก็ปรากฎตัวขึ้นแถวชายแดนของอาณาจักรเหมันต์แดนใต้ และสร้างความปั่นป่วนเป็นอย่างมาก คนมากมายต้องการที่จะครอบครองมัน และกลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำก็คือ 1 ใน นั้น
โจวฉวนจีคิดกับตัวเอง “ดูท่าว่าถ้าเราจะหนีกันจริง ๆ ก็คงต้องรอจนกว่าพวกมันจะไปไล่ล่าวิหคมังกรก่อน”
แต่เขาก็กังวลว่าก่อนที่จะได้ทำแบบนั้น เขาจะโดนต้มเป็นซุปซะก่อน
แค่คิดมันก็ทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัว
หลังจากคุยกันอยู่ 2 ชั่วโมง กลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำก็เริ่มแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่น บ้างก็ไปนอน บ้างก็เริ่มฝึก และนั่นทำให้บริเวณหน้าผานั้นตกอยู่ในความเงียบงัน
โจวฉวนจีแกล้งหลับอยู่ในอ้อมแขนเจียงฉือน้อย และเขาก็รู้สึกได้เลยว่าเจียงฉือน้อยดูจะกังวลเอามาก ๆ จากการที่เธอตัวแข็งและสั่นเทา
สำหรับเธอแล้ว 17 อสูรวายุทองคำนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าพวกปีศาจซะอีก
ก่อนหน้านี้ 17 อสูรวายุทองคำพูดถึงวิธีทรมาณคนของพวกเขา นั่นทำให้ใบหน้าน้อย ๆ ของเธอซีดลงด้วยความหวาดกลัว
โจวฉวนจีไม่ได้ปลอบเธอแต่อย่างใด เพราะเขาไม่ต้องการแสดงความเป็นผู้ใหญ่ที่มากเกินไปให้คนอื่นเห็น
และตลอดทั้งคืน ก็ไม่มีการพูดคุยใด ๆ กันเลย
จนกระทั่งรุ่งสาง ในยามที่แสงแรกของพระอาทิตย์สาดส่องลอยขึ้นมาเหนือเส้นขอบฟ้า กลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำก็เริ่มออกเดินทาง
นายหญิง 7 ราตรีอุ้มโจวฉวนจีไว้ราวกับอุ้มลูกเจี๊ยบ นางโยนเขาขึ้นม้าก่อนจะโยนเจียงฉือน้อยขึ้นตาม
กลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำดูจะไม่สามัคคีกันเท่าที่ควร และนายหญิง 7 ราตรีก็ดูค่อนข้างจะกังวลว่าพรรคพวกของนางจะแอบขโมยเด็กทั้งสองไป
นางนั่งอยู่ข้างหลังเจียงฉือน้อย ในขณะที่โจวฉวนจีนั่งอยู่ข้างหน้าเจียงฉือน้อยอีกที
เจียงฉือน้อยโอบแขนข้างหนึ่งรอบเอวโจวฉวนจี ในขณะที่อีกข้างจับต้นขาของนายหญิง 7 ราตรีเอาไว้ เพราะเธอกลัวว่าโจวฉวนจีจะตกจากหลังม้าได้
โจวฉวนจีสังเกตเห็นทิศทางที่กลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำกำลังมุ่งหน้าไป และช่างน่าตกใจ ที่มันคือเนินเขาจักรพรรดิกระบี่ หรือที่ ๆ พวกเขาเคยอาศัยอยู่นั่นเอง
เป็นไปได้มั้ยว่าเสียงคำรามที่น่าหวาดกลัวจนทำให้พวกเขาต้องวิ่งหนีมา คือ เสียงของวิหคมังกรน่ะ?
เขาเริ่มรู้สึกสับสน
หลังจากที่เดินเตร็ดเตร่มานาน สุดท้ายพวกเขาก็วนกลับมาที่เดิมน่ะหรอ?
เมื่อใกล้เที่ยง พวกเขาก็มาถึงรังของวิหคมังกรในที่สุด
เบื้องหน้าของพวกเขาคือภูเขาที่สูงเสียดฟ้า และที่ตีนภูเขานั้นเป็นผืนป่าที่กว้างใหญ่ราวกับไร้พรมแดน มีจอมยุทธจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ภายในป่า บางคนฝึกอยู่ใต้ต้นไม้ ในขณะที่บางคนยืนอยู่บนกิ่งไม้และมองไปยังภูเขา
แค่โจวฉวนจีคนเดียวก็นับได้มากกว่า 10 คนที่อยู่แถวนั้น พวกเขาทั้งหมดถูกดึงดูดโดยวิหคมังกร
กลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำเริ่มเข้ามาในป่า
นายหญิง 7 ราตรีอุ้มโจวฉวนจีไว้ที่มือซ้าย และอุ้มเจียงฉือน้อยไว้ที่มือขวา ก่อนจะนำพวกเขาไปยังข้างหน้าต้นไม้ใหญ่
นางหยิบเชือกสีแดงที่หนาเท่ากับแขนเด็กทารกออกมา ก่อนจะมัดโจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยไว้กับต้นไม้
หลังจากที่พวกเขาถูกมัดด้วยเชือกนั่น ก็รู้สึกได้เลยว่าเขาไม่สามารถควบคุมพลังวิญญาณของเขาได้เลย!
นี่มันวัตถุวิเศษหนิ!
โจวฉวนจีมองไปยังนายหญิง 7 ราตรีด้วยสายตาน่าสงสาร และหวังว่านางจะสงสารกันบ้าง
“พี่สาว ข้าเจ็บเหลือเกิน ช่วยคลายมันให้ข้าสักนิดได้มั้ย?” เขาถามด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อเจียงฉือน้อยได้ยิน ก็ทำท่าจะร้องไห้เช่นกัน
นายหญิง 7 ราตรีหยิกแก้มเขาเล็กน้อย ก่อนจะพูดพลางหัวเราะหยอกเย้าใส่ “แหม เจ้าหนูน้อย อย่าร้องไห้สิจ๊ะ เดี๋ยวก็เจ็บกว่าเดิมหรอก”
และเชือกสีแดงก็เริ่มรัดแน่นขึ้นและแน่นยิ่งขึ้น
โจวฉวนจีคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด
นายหญิง 7 ราตรีสำรวจรอบ ๆ ก่อนจะเลี้ยวกลับไปทางซ้ายยังที่ ๆ กลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำพักอยู่
พวกเขากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือป่าก่อนจะจ้องมองไปยังยอดเขา
“โฮกกกกกก —”
เสียงคำรามของวิหคมังกรดังมาจากเหนือเมฆ เสียงสนั่นลั่นราวกับเสียงคำรามของมังกร
โจวฉวนจีเมื่อได้ยินก็แน่ใจทันที ว่านั่นเป็นเสียงเดียวกับเสียงที่ทำให้พวกเขากลัว เสียงของวิหคมังกร
เจียงฉือน้อยแตะฝ่ามือของโจวฉวนจีด้วยนิ้วหัวแม่มือ และถามทางสายตาว่า จะทำยังไงต่อดี
ถึงแม้เธอจะกลัวมาก แต่ก็ยังสงบสติอารมณ์เอาไว้ จะได้ไม่สร้างปัญหาอะไรให้เขา
โจวฉวนจีส่งสัญญาณตาขวางอีกครั้ง
ใจเย็น และดูสถานการณ์ไปก่อน!
ด้วยความคมของดาบมังกรสีชาด การตัดเชือกสีแดงนี่ก็คงไม่ใช่เรื่องยากนัก
แต่ตอนนี้พวกเขาต้องรอจนกว่ากลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำจะเริ่มสู้กับวิหคมังกรก่อน ไม่อย่างนั้นพวกมันจะขัดขวางการหลบหนีของพวกเขาได้
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า
เสียงคำรามของวิหคมังกรเริ่มดังถี่ขึ้น และจำนวนจอมยุทธที่อยู่เหนือป่าก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 30 คนแล้ว
เหล่าจอมยุทธจับกลุ่ม 2-3 คนพูดคุยกัน
“มันกำลังจะวางไข่หรอ?”
“มังกรที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เส้นเอ็นและเนื้อของมันต้องมีสรรพคุณมากแน่ ๆ!”
“ระวังหน่อย ไอพวก 17 อสูรวายุทองคำมันก็อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน”
“ไอกลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำน่ะไม่เท่าไหร่หรอก ที่น่ากลัวที่สุดมันคือไอหมอนั่นต่างหาก เจ้าจางเถียนเจียนน่ะ”
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! – ตอนที่ 12 : วิหคมังกร
Posted by ? Views, Released on September 16, 2021
, I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!
Type: นิยาย
บทนำ
หลังจากได้กลับชาติมาเกิดในฐานะ โจวฉวนจี องค์ชายแห่งจักวรรดิ เขาก็คิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่สุขสบายอย่างหรูหราไปได้ชั่วชีวิต แต่เรื่องที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาต้องเข้าไปพัวพันกับการเมืองและเป็นปฏิปักษ์ราชินีผู้โหดเหี้ยม ทำให้เขาต้องจำใจหลบหนีออกจากราชวัง
แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ โปรแกรมโกงที่เขาเคยสร้างขึ้นในชาติก่อนกลายมาเป็นของจริงในชีวิตนี้
เมื่อเขาอายุได้ 2 ปี เขาก็ได้รับดาบมังกรสีชาดซึ่งมีจิตวิญญาณมังกรสีชาดสถิตอยู่
เมื่ออายุได้ 3 ปี เขาก็ได้รับดาบในตำนานเล่มที่ 2!
นั่นก็คือ เขาจะได้รับดาบในตำนานทุก ๆ ปีที่เขาโตขึ้น!
และหลังจากมีชีวิตมาได้ 100 ปี โจวฉวนจีก็ได้ออกผจญภัยไปทั่วโลกอย่างหาญกล้าพร้อมกับดาบในตำนานนับร้อยเล่ม!
และหมื่นปีต่อมา ดาบในตำนานนับหมื่นเล่มของเขาก็ทำให้สรวงสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน จนในที่สุดเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่บังลังก์แห่งตำนานในฐานะจักรพรรดิกระบี่!
ติดตามการเดินทางจากเด็กน้อยวัยกระเตาะ ขึ้นสู่ตำนานจักรพรรดิกระบี่ได้แล้ว ใน
“หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์” I Have Countless Legendary Swords!