ตอนที่ 17 : การคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจว
โจวฉวนจียืนกอดอกอย่างใจเย็นและถามขึ้นว่า “มันหายากนักรึไง?”
เขาแอบรู้สึกดีใจที่ได้เห็นสีหน้าของเพื่อนเก่าทำท่าอย่างกับเห็นผี
พอใจที่ได้เป็นอัจฉริยะมั้ยน่ะหรอ?
สุด ๆ ไปเลยน่ะสิ!
กั๋วไป่หลี่จับไหล่ของเขาก่อนจะสังเกตตัวของโจวฉวนจีราวกับกำลังมองสมบัติ
“ท่านปู่กั๋ว!” เสียงของเจียงฉือน้อยดังก้องมาแต่ไกล เธอวิ่งมาพร้อมกับวิหคมังกรทั้ง 2 ตัว
กั๋วไป่หลี่หันไปมอง แต่เมื่อเห็นวิหคมังกรก็ถึงกับตกใจค้าง
“ปีศาจทั้ง 2 ตัวนี้ดูไม่ธรรมดาเลยนะ ข้าคิดว่าข้าเคยเห็นตัวแบบนี้ที่ไหนมาก่อนนะ” กั๋วไป่หลี่พูด
เขาไม่คิดเลยว่าหลังจากที่เขาจากไป เด็กทั้ง 2 จะไปฝึกปีศาจให้เชื่องมาได้
และเมื่อเจียงฉือน้อยเอาวิหคมังกรทั้ง 2 ตัวเข้ามาใกล้ ๆ กั๋วไป่หลี่ เขาก็ต้องตกตะลึง
“วิหคมังกร? พวกเจ้าไปได้อินทรีปีศาจพวกนี้มายังไงกัน?”
กั๋วไป่หลี่มีประสบการณ์และความรู้มากพอที่จะระบุได้ว่าปีศาจทั้ง 2 ตัวนี้คืออะไร
เจียงฉือน้อยชี้ไปทางวิหคมังกรก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้านี่ชื่อ อาใหญ่ ส่วนเจ้านี่ชื่อ น้องสอง เป็นพี่ชายกับน้องสาวกัน”
อาใหญ่ กับ อาเล็ก…
กั๋วไป่หลี่ส่ายหัวก่อนจะหัวเราะขึ้น ยังไงซะพวกเขาก็ยังเป็นแค่เด็ก ชื่อที่ตั้งให้นี่ถ้าเป็นคนอื่นมาได้ยินก็คงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องให้ดีแน่ ๆ
แล้วจู่ ๆ กั๋วไป่หลี่ก็เหมือนจะนึกอะไรออกก่อนจะพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกเจ้าห้ามประมาทเด็ดขาด ยิ่งเป็นปีศาจหายากแบบนี้ มันจะยิ่งดึงดูดให้คนอยากได้มัน เมื่อปีก่อนก็มีจอมยุทธมากมายพยายามต่อสู้กับวิหคมังกรที่โตเต็มวัย บ้างก็บาดเจ็บ บ้างก็ล้มตาย แม้แต่กลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำที่โด่งดังก็ยังถูกฆ่าซะเหี้ยนระหว่างการต่อสู้เลย”
โจวฉวนจีเลิกคิ้วขึ้นและถาม “พวกกลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำตายหมดแล้วหรอ? เจ้าบอกเองไม่ใช่เหรอว่ามันเป็นพวกชั่วช้าที่แข็งแกร่งพอจะเทียบเจ้าได้?”
กั๋วไป่หลี่ลูบหัวเขา และหัวเราะพลางลูบเครายาว “ทั้งหมดมันเป็นเพราะความโลภน่ะสิ มีอีกคนที่โดดเด่นในการต่อสู้นั้นมาก ก็คือ แม่ทัพจางเถียนเจียนผู้ทรงพลังแห่งอาณาจักรเหมันต์แดนใต้ยังไงล่ะ เขาอ้างว่าวิหคมังกรถูกเซียนแห่งวิถีกระบี่ขโมยไปได้ แล้วเซียนคนนั้นยังเป็นคนฆ่านายหญิง 7 ราตรีแห่งกลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำได้ในพริบตาด้วย เลยคาดกันว่าเซียนคนนั้นน่าจะมีพลังมหาศาลอย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะ”
“และนั่นคือความแข็งแกร่งของจอมยุทธแห่งวิถีกระบี่ยังไงล่ะ จักรพรรดิกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวครั้งหนึ่งยังเคยทำลายอาณาจักรทั้ง 7 ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้ ดังนั้นแล้ว ฉวนจี เจ้าต้องฝึกฝนให้หนัก และอย่าปล่อยให้พรสวรรค์ในเส้นทางแห่งกระบี่ของเจ้าต้องสูญเปล่าล่ะ” หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หยุดคิดขึ้นมา
โจวฉวนจีสามารถขึ้นมาถึงระดับรักษาปราณขั้นที่ 10 ได้เพียงอายุ 6 ปี เพราะงั้นเขาไม่ใช่พวกเกียจคร้านและเอื่อยเฉื่อยหรอก
จะว่าไปแล้ว เซียนคนนั้นเป็นคนทิ้งวิหคมังกรทั้ง 2 ตัวไว้ให้หรอ?
เดี๋ยวก่อนนะ!
แล้วจู่ ๆ กั๋วไป่หลี่ก็นึกถึงช่วงเวลาอันโหดร้ายเมื่อตอนที่โจวฉวนจีแทงเยี่ยเฟยฟานได้จากการลอบโจมตี
แล้วตอนนั้น โจวฉวนจียังอายุแค่ 2 ขวบเท่านั้น…
หึก —
กั๋วไป่หลี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่เขาจะเผลอดึงมือกลับมาโดยไม่รู้ตัว และไม่กล้าแม้แต่จะแตะหัวโจวฉวนจีอีกต่อไป
เจียงฉือน้อยกระพริบตาปริบ ๆ เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป
โจวฉวนจีลูบคางของเขาพลางครุ่นคิด ก่อนจะถามขึ้นว่า “ท่านปู่กั๋ว แล้วข่าวลือนั่นแพร่กระจายไปทั่วรึยัง?”
“ก็พอสมควรเลย เพราะเดิมกลุ่ม 17 อสูรวายุทองคำเองก็มีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว และพวกมันยังถูกจัดอยู่ใน 200 อันดับแรกของการจัดอันดับฝั่งมารในมหาจักรวรรดิโจวอีก”
กั๋วไป่หลี่พยักหน้าและจ้องมองเขาด้วยความสงสัย ก่อนจะถามขึ้น “ฉวนจี บอกปู่มาซะ เจ้ามีดวงวิญญาณอื่นซ่อนอยู่ในตัวของเจ้า แถมยังอายุมากกว่าข้าด้วยใช่มั้ย…?”
ฉวนจีกลอกตาก่อนจะพูดตอบ “ท่านพูดถูก ข้ามีสุดยอดมหาปีศาจผู้ชั่วร้ายที่คอยกินคนอยู่ภายในตัวข้ายังไงล่ะ”
เขาทำหน้าตลกใส่กั๋วไป่หลี่
เจียงฉือน้อยเดินไปขึ้นขวางหน้าโจวฉวนจี ก่อนจะตะโกนใส่กั๋วไป่หลี่ “โจวฉวนจีไม่ใช่ปีศาจโบราณอะไรนั่นสักหน่อย!”
ถ้าโจวฉวนจีเป็นปีศาจโบราณจริง ๆ แล้วทำไมเขาต้องทำตัวให้ดูน่าสงสารต่อหน้านายหญิง 7 ราตรีด้วยล่ะ?
กั๋วไป่หลี่มองไปยังสาวน้อย และส่ายหัวให้พลางหัวเราะอย่างขมขื่น ช่างเป็นเด็กสาวที่โง่อะไรเช่นนี้
อาใหญ่และอาเล็กก็เดินเข้ามาใกล้ด้วยเช่นกัน ก่อนจะเตรียมตั้งท่าพร้อมที่จะจู่โจมกั๋วไป่หลี่
กั๋วไป่หลี่ยักไหล่ก่อนจะถอนหายใจ “ต่อให้ข้าจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับเจ้ายังไง ก็คงไม่มีใครเชื่อข้าหรอก แล้วด้วยพรสวรรค์ของเจ้า ข้ามั่นใจว่า อย่างเจ้าคงจะสามารถเข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวได้อยู่แล้ว”
เจ้าเด็กนี่มันเก่งหยั่งกับปีศาจจริง ๆ …
โจวฉวนจีที่ได้ยินอะไรแปลก ๆ ก็ถามขึ้น “ไอการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวนี่มันคืออะไรหรอ?”
แม้ว่าเขาจะเกิดในราชวังของมหาจักรวรรดิโจว แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก เพราะเขาไม่ค่อยมีอิสระในการไปไหนมาไหน และมีแค่บางคนที่สามารถเข้าหาเขาได้เท่านั้น
“งานคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวจะถูกจัดขึ้นในทุก ๆ 10 ปี จะมีสุดยอดอัจฉริยะมากมายจากมหาจักรวรรดิโจวและอาณาอื่น ๆ เข้าร่วมด้วย มันไม่เหมือนกับการสอบเข้าโรงเรียนของจักรวรรดิหรอกนะ เพราะนอกจากจะมีการทดสอบทักษะการเขียนแล้ว ยังมีการทดสอบความสามารถในการต่อสู้ด้วย”
“ผู้ชนะในแต่ละปีของการคัดเลือกแห่งสวรรค์มักจะได้ตำแหน่งนายพล ไม่ก็ได้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในมหาจักรวรรดิโจวทั้งนั้น และชื่อเสียงของเขาก็จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก”
“และเพราะความหฤโหดในการแข่งขันคัดเลือกแห่งสวรรค์นี่แหละ ที่ทำให้มหาจักรวรรดิโจวยังรุ่งโรจน์มาได้จนถึงทุกวันนี้”
ในทุก ๆ 10 ปี จะเกิดการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวขึ้นงั้นเหรอ!
โจวฉวนจีหรี่ตาลงและเริ่มคิดแผนในใจ
องค์ราชินีอาศัยอยู่ในวังหลวง และแทบจะไม่ออกมาเลย ดังนั้นถ้าเขาต้องการที่จะแก้แค้นจริง ๆ ก็ต้องเข้าไปในวังหลวงของมหาจักรวรรดิโจวให้ได้
ซึ่งการจะโถมบุกเข้าไปนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แต่จะเป็นไปได้มั้ย ถ้าเขาเข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจว แล้วแอบเข้าไปลอบสังหารนางน่ะ?
โจวฉวนจีเริ่มรู้สึกมีความหวัง ตั้งแต่ที่เขาสามารถควบคุมดาบผ่านพลังจิตได้ เมื่อเวลามาถึง เขาจะซ่อนดาบในตำนานเอาไว้ และจะลอบสังหารองค์ราชินีด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากระยะไกลให้ได้ภายในคืนเดียว
“แต่เจ้าเลิกคิดจะดีกว่านะ มันยากมากที่จะได้เข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจว ไม่ว่าเจ้าจะได้รับการเสนอชื่อจากองค์กรที่ทรงพลัง หรือแม้แต่จากสำนักกระบี่เร้นลับก็ตาม มันก็ไม่มากพอที่จะทำให้ทั้งโลกรู้จักเจ้าได้หรอกนะ ชื่อเสียงของเจ้าจะต้องมากพอที่จะทำให้ทั่วโลกสนใจ ถึงจะได้รับคำเชิญจากราชสำนักได้ หรือไม่ เจ้าก็ต้องติดอยู่ในตารางจัดอันดับยอดฝีมือของมหาจักรวรรดิโจวให้ได้”
กั๋วไป่หลี่มองไปยังท่าทางของเขาและพอจะเดาได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงตั้งใจพูดแบบนี้เพื่อขัดขวางเขาไว้
โจวฉวนจีนั้นมีพรสวรรค์มากก็จริง แต่เขาก็ไม่ควรรีบเปิดเผยความสามารถ ก่อนจะโตพอแล้วจริง ๆ
มันไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปที่เป็นคนมีพรสวรรค์
โจวฉวนจีพยักหน้าก่อนจะเดินไปทางอื่น เขาหยิบดาบคลื่นเหมันต์ออกมา ก่อนจะเริ่มฝึกวิชากระบี่เพลิงกัลป์ต่อ
กั๋วไป่หลี่ส่ายหัวเมื่อเห็นว่าโจวฉวนจีเริ่มหลงเข้าไปในความคิดตนเอง
ไม่นานหลังจากนั้น กั๋วไป่หลี่ก็พาเจียงฉือน้อยกลับมาที่หน้ากระท่อมไม้ และถามเธอว่าโจวฉวนจีสังหารนายหญิง 7 ราตรีได้ยังไง
เจียงฉือน้อยอธิบายอย่างร่าเริงและกล่าวถึงความสุดยอดในสิ่งที่เธอได้เห็น ด้วยความตกใจและประหลาดใจ มันก็ไม่ได้ทำให้กั๋วไป่หลี่กลัวสักเท่าไหร่ เว้นเสียแต่เจ้าอาใหญ่กับอาเล็กที่ทำให้เขากลัวบ้างในบางครั้ง
ในช่วงเย็นของวันถัดมา
โจวฉวนจีก็บรรลุจิตกระบี่เพลิงกัลป์ได้สำเร็จ ตัวเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวไฟราวกับว่าเขาถูกสร้างขึ้นมาจากไฟ เขาฟันดาบของเขาด้วยปราณกระบี่ และทำให้แม่น้ำถูกแบ่งออกด้วยคลื่นไฟที่รุนแรง กั๋วไป่หลี่ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ ได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจเท่านั้น
ไอเจ้าเด็กเหลือขอนี่มันพึ่งฝึกมั่ว ๆ มาแท้ ๆ แต่มาตอนนี้เขากลับบรรลุวิชาดาบอื่นได้งั้นหรอ?
สวรรค์ช่างลำเอียงเสียจริง!
ในตอนที่กั๋วไป่หลี่อยู่ใกล้ ๆ โจวฉวนจีจะไม่หยิบดาบในตำนานเล่มอื่นออกมา แต่จะมุ่งฝึกไปที่ปราณภายใน และพยายามไปให้ถึงระดับสร้างรากฐานให้ได้เร็วที่สุดแทน
…
3 เดือนผ่านไป
โจวฉวนจีที่กำลังขี่อาใหญ่อยู่กำลังหาสถานที่ ๆ ปีศาจมักปรากฎขึ้นบ่อย เพื่อที่จะได้ลองใช้ความสามารถของเขาในการต่อสู้จริง
โจวฉวนจีที่ได้ลองขี่วิหคมังกรเมื่อ 3 วันก่อนก็เกือบตกลงมา แต่โชคดีที่มีกั๋วไป่หลี่คอยอยู่รอบ ๆ และช่วยเขาเอาไว้ โจวฉวนจีจึงสามารถควบคุมตัวเองได้หลังจากฝึกขี่อยู่ 3 วัน และเริ่มสนิทกับอาใหญ่
เจียงฉือน้อยที่คอยมองเงาของอาใหญ่และโจวฉวนจีบินไกลออกไปจากข้างหลัง ก็รู้สึกชื่นชมพลางมองอาเล็กไปด้วย
กั๋วไป่หลี่ลูบหัวเธอและยิ้มอย่างพอใจ “ฉือเอ๋อ(เติมเอ๋อเวลาเรียกเด็กสาวน่ารัก) เจ้าไม่ต้องรีบร้อนหรอก รอจนกว่าเจ้าจะพัฒนาวรยุทธของเจ้าไปได้มากกว่านี้ เจ้าค่อยลองอีกครั้งก็ได้”
โจวฉวนจีนั้นบรรลุได้ถึง 2 จิตดาบ กั๋วไป่หลี่เลยไม่กังวลว่าเขาจะเจอกับอันตรายอะไรนัก
แต่เจียงฉือน้อยนั้นต่างออกไป เธอพึ่งจะบรรลุได้แค่ระดับรักษาปราณขั้นที่ 5 เท่านั้น หนทางนั้นยังอีกยาวไกลนัก และไม่ใช่แค่กั๋วไป่หลี่ที่กังวลเกี่ยวกับเธอ แต่รวมถึงโจวฉวนจีด้วย
“ก็ได้”
เจียงฉือน้อยหยักหน้าอย่างหนักแน่น และหันกลับไปก่อนจะเริ่มฝึกวรยุทธต่อ
ที่ปลายสุดพื้นที่ราบ โจวฉวนจียังคงมีความสุขกับการได้ขี่หลังของอาใหญ่ และรู้สึกได้ถึงลมที่ปะทะเข้าหน้า
เขาก้มศรีษะลงและมองลงไป ตอนนี้เขาอยู่สูงจากพื้นอย่างน้อย 1 ไมล์
โจวฉวนจีเงยหน้ามองขึ้นไป เทือกเขาที่ดูกว้างไร้ที่สิ้นสุด และทิศทัศน์อันแสนงดงามเบื้องหน้าเขานั้น ราวกับภาพวาด เมื่อได้เห็นเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมา “ราวกับฝูงปลาที่แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ราวกับฝูงนกที่โผบินบนท้องนภาได้อย่างตามใจ!”
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! – ตอนที่ 17 : การคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจว
Posted by ? Views, Released on September 21, 2021
, I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!
Type: นิยาย
บทนำ
หลังจากได้กลับชาติมาเกิดในฐานะ โจวฉวนจี องค์ชายแห่งจักวรรดิ เขาก็คิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่สุขสบายอย่างหรูหราไปได้ชั่วชีวิต แต่เรื่องที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาต้องเข้าไปพัวพันกับการเมืองและเป็นปฏิปักษ์ราชินีผู้โหดเหี้ยม ทำให้เขาต้องจำใจหลบหนีออกจากราชวัง
แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ โปรแกรมโกงที่เขาเคยสร้างขึ้นในชาติก่อนกลายมาเป็นของจริงในชีวิตนี้
เมื่อเขาอายุได้ 2 ปี เขาก็ได้รับดาบมังกรสีชาดซึ่งมีจิตวิญญาณมังกรสีชาดสถิตอยู่
เมื่ออายุได้ 3 ปี เขาก็ได้รับดาบในตำนานเล่มที่ 2!
นั่นก็คือ เขาจะได้รับดาบในตำนานทุก ๆ ปีที่เขาโตขึ้น!
และหลังจากมีชีวิตมาได้ 100 ปี โจวฉวนจีก็ได้ออกผจญภัยไปทั่วโลกอย่างหาญกล้าพร้อมกับดาบในตำนานนับร้อยเล่ม!
และหมื่นปีต่อมา ดาบในตำนานนับหมื่นเล่มของเขาก็ทำให้สรวงสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน จนในที่สุดเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่บังลังก์แห่งตำนานในฐานะจักรพรรดิกระบี่!
ติดตามการเดินทางจากเด็กน้อยวัยกระเตาะ ขึ้นสู่ตำนานจักรพรรดิกระบี่ได้แล้ว ใน
“หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์” I Have Countless Legendary Swords!