ตอนที่ 37 : ผู้แข็งแกร่งไม่จําเป็นต้องเข้าใจผู้อ่อนแอ
2 วันต่อมา
ณ เมืองกลืนเมฆา จัตุรัสสนามฝึกซ้อม
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจยังคนยืนอยู่บนดาบเช่นเดิม แต่คราวนี้เขากลับลืมตาอยู่
รอบสนามฝึกนั้นรายล้อมไปด้วยผู้คนไม่ต่ํากว่าพันคน
“ข้าได้ยินมาว่าเทพกระบี่โจวจะตอบรับคําท้าวันนี้ใช่มั้ย?”
“ใช่แล้ว ข่าวมันแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองแล้ว”
“ชิ แล้วเจ้าคิดว่าใครจะแกร่งกว่ากันล่ะ? ระหว่างเทพกระบี่โจว กับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจน่ะ?”
“จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจน่าจะแกร่งกว่านะ ยังไงเขาก็ดังมาได้สักพักแล้วหนิ”
“แถมพวกโจรที่พ่ายแพ้ให้กับเทพกระบี่โจวทั้งหมดก็ยังเป็นแค่ระดับสร้างรากฐานอยู่เลย พวกมันไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นซักหน่อย”
ผู้คนต่างเริ่มพูดคุยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการของแต่ละฝ่าย ถึงแม้ส่วนใหญ่จะไม่เข้าข้างเทพกระบี่โจวแต่พวกเขาก็ยังรอและหวังว่าเขาจะปรากฏตัวออกมา
เสี่ยวเฉิงเฟิง คุณจายจือฉุย และจางหรูหยูก็อยู่ในหมู่ฝูงชนด้วยเช่นกัน
นอกเหนือจากพวกเขาแล้ว ตาแก่ชิงและชายในชุดสีม่วงจากเผ่าปีศาจก็มองสนามฝึกผ่านหน้าต่างบนห้องอยู่
“นายน้อย เจอเจ้าหญิงฉวนหยายัง?”
ตาแก่ชิงถามด้วยความสงสัย การต่อสู้ในวันนี้นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อเมืองกลืนเมฆามากที่สุดแล้ว เพราะงั้นเจ้าหญิงฉวนหยาที่ค่อนข้างจะแก่นแก้วและร่าเริงก็ควรจะมาอยู่ที่นี่ด้วย
ชายในชุดสีม่วงส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ยังไม่เจอ”
ในเวลาเดียวกัน
ท่ามกลางฝูงชน มีชายหนุ่มร่างผอมบางที่สวมเสื้อสีเทาขาดๆคนหนึ่งกําลังพยายามเบียดตัวไปข้างหน้า
“ขอโทษที! ขอทางหน่อย!”
ชายหนุ่มคนนั้นพยายามเบียดตัวไปข้างหน้าพลางตะโกนบอก ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะสกปรกไปบ้าง แต่เขาหล่อใช้ได้ทีเดียว ดวงตาของเขาทั้งสดใสและเปล่งประกายเผยออร่าความหล่อเหลาออกมา
ไม่นานนัก เขาก็เบียดตัวขึ้นไปข้างหน้าได้ และมองตรงไปยังจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจที่ยืนอยู่บนสนามฝึก ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เขามองซ้ายขวาเพื่อดูว่าเทพกระบี่โจวมารียัง
ทันใดนั้น เขาก็เห็นเสี่ยวฉิงเฟิงและคุณนายจือฉุย ก่อนจะหันกลับมาด้วยความหวาดกลัว และรีบหันหลังกลับทันที
“ทําไมทั้งสองคนนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” เขาบ่นพึมพํา พลางเม้มริมฝีปาก
คนนึงเป็นถึงลูกสมุนขององค์ราชินี ส่วนอีกคนนั้นเป็นสาวใช้ของนางสนมเฉิน
หรือว่าจะมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นกันนะ?
พอคิดแบบนั้น เขาก็กลอกตามองด้วยความตื่นเต้น
และเขาก็เริ่มแอบมองเสี่ยวเฉิงเฟิงและคุณนายจือฉุยบ่อย
ที่สนามฝึกซ้อม จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจยืนพลางขมวดคิ้ว ตอนนี้ก็เที่ยงตรงแล้ว แต่ทําไมเทพกระบี่โจวถึงยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก?
เขาไม่ได้ท้าทายเทพกระบี่โจวเพื่อชื่อเสียงหรือเพื่อแก้แค้นอะไร
แต่เขาทําเพียงเพราะได้ยินมาว่าเทพกระบี่โจวนั้นเป็นถึงสุดยอดผู้ที่สามารถบรรลุได้หลายจิตดาบ อีกทั้งเขายังสังหารศัตรูทั้งหมดของเขาได้ในดาบเดียวเท่านั้น เขาเลยอยากจะท้าประลองเทพกระบี่โจวสุดๆ
วิถีแห่งกระบี่ที่เขาไล่ตามอยู่มีเพียงหนทางแห่งการต่อสู้เท่านั้น!
ทางเดียวที่เขาจะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดแห่งวิถีกระบี่ได้ก็คือ การเอาชนะจอมกระบี่ผู้ทรงพลังทีละคนๆ
แต่เขาก็ไม่ได้นับว่าเทพกระบี่โจวเป็นคู่ต่อสู้ด้วยหรืออะไร เลยเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงไม่ค่อยกังวลนัก
ยังไงซะก็ดูเหมือนว่าเทพกระบี่โจวจะเทียบเขาไม่ได้เลยสักนิด
ถึงเขาจะไม่มา ก็พอจะเข้าใจได้ล่ะนะ
แต่เมื่อ 2 วันก่อน ข่าวได้แพร่กระจายไปทั่วว่าเทพกระบี่โจวกําลังมา ซึ่งมันก็กระตุ้นให้เขาเริ่มสนใจในตัวเทพกระบี่โจวมากขึ้น
“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นเทพกระบี่โจวหรือเทพกระบี่ไหน ภายใต้ดาบราชันย์ของข้า ข้าจะทําให้เจ้าหวาดกลัวเสียจนไม่กล้าจะถือดาบอีกต่อไปเลย”
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจคิดอย่างมั่นใจ และภาพเงาก็สะท้อนผ่านขึ้นมาในใจเขา
ชายผู้เป็นเป้าหมายสูงสุดของเขา
จอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ เสี่ยวจิงหงยังไงล่ะ!
เมื่อไหร่ก็ตามที่เขานึกถึงเมื่อหลายปีก่อนตอนที่เขาได้พ่ายแพ้ให้กับเสี่ยวจิงหง เขาก็อดที่จะกัดฟันแน่นไม่ได้
ฝูงชนที่สังเกตเห็นสีหน้าของเขา ก็คิดว่าเขาเริ่มจะหมดความอดทน
“นี่เทพกระบี่โจวจะมาหรือไม่มาเนี่ย?!”
เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความฉุนเฉียวดังขึ้นมาท่ามกลางฝูงชน แต่เพราะคนที่พลุกพล่านอยู่มาก เลยไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดกันแน่
จางหรูหยูที่ได้ยินก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธเกรี้ยว “ถ้าเทพกระบี่โจวบอกว่าเขาจะมา เขาก็ต้องมาแน่ๆ! เขาน่ะคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด!”
ผู้คนที่อยู่รอบๆตัวเขา ทั้งหมดต่างหันมามองเขาด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
นี่มันลูกชายของจางเถียนเจียนไม่ใช่หรอ?
ไม่ใช่ว่าจางเถียนเจียนอคติกับเทพกระบี่โจวสุดๆหรอ?
หรือว่าคนทรยศนั่นจะมาจากตระกูลจางกัน?
จางหรูหยูไม่ได้สนใจความเห็นของผู้คนสักเท่าไหร่ เขาเคารพในตัวเทพกระบี่โจวจริง และกล้าที่จะแสดงออกมาด้วยเสียงที่ดังสนั่น!
ฟิ้ววววว
ในตอนนั้นเอง เสียงที่บินลอยตัดผ่านลมก็ดังขึ้นแทรกเสียงโหวกเหวกที่อยู่รอบๆสนามฝึก
ดาบเล่มบางลอยข้ามอาคารและร่อนลงห่างออกไป 5 หลา ต่อหน้าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ ใบมีดปักลงสู่พื้น และสั่นสะเทือนอย่างไม่หยุด
ดาบผ่าวายุ!
เมื่อได้เห็นดาบนี้ จอมกระบี่แดนเหนือถึงกับหรี่ตาลงและอุทานออกมาด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ดาบดีนี่!”
ทั้งสถานที่ตกอยู่ในความเงียบ ผู้คนเริ่มหันไปมองราวกับคลื่น และมองดูว่าดาบนั้นมาจากไหน
พวกเขาเห็นเพียงเงาเล็กๆ ที่กําลังลอยอยู่บนดาบ
เขาสูงประมาณ 4 ฟุตและสวมเสื้อคลุมยาวสีดําปักลูกไม้ลิ่มทอง หน้ากากสีเงินสวมอยู่บนใบหน้า ขณะที่เขาไพลมือไว้ข้างหลัง และยืนอยู่บนดาบยาวสีเงินดําที่แสนจะงดงาม
เขานั้นคือโจวฉวนจีนั่นเอง!
ด้วยดาบราชาโลกันตร์แล้ว เขาก็สามารถไปถึงสนามฝึกได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองลงไปยังจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ
“เทพกระบี่โจวอยู่ที่นี่แล้ว!”
จางหรูหยูตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้โจวฉวนจีจะสวมหน้ากากอยู่ แต่เขาก็ยังรู้ได้ในทันที
จอมกระบี่เพียงผู้เดียวที่มีรูปลักษณ์และออร่าที่พิเศษยิ่งกว่าใคร จะเป็นใครไปได้อีกถ้าไม่ใช่เทพกระบี่โจว?
ความตื่นเต้นของเขาได้ปลุกระดมคนอื่นๆขึ้นมาด้วยเหมือนกัน
แม้ว่าคนอื่นจะไม่อยากให้เทพกระบี่โจวดูน่าประทับใจสักเท่าไหร่
แต่พวกเขาก็อยู่ที่นั่นเพียงเพื่อสนุกกับโชว์ที่กําลังจะเกิดขึ้นเท่านั้น
“งั้นนี่ก็คือเทพกระบี่โจวหรอ? เขาดูเหมือนกับเด็กเลยนะนั่น”
“เจ้าพูดอะไรนะ? เขาย้อนคืนวัยต่างหากล่ะ!”
“เขาสวมหน้ากากอยู่นี้ ดูเหมือนเขากลัวจะขายขี้หน้ามากเลยนะนั้น”
“ดาบของเขาดูทรงพลังมากเลย ถึงข้าจะไม่แน่ใจว่าระดับอะไรก็เถอะ”
“ฮ่า ๆ มันก็แค่การแสดงเปิดตัวเท่านั้นแหละ ถ้าเกิดเขาคุกเข่าขอขมาขึ้นมา มันจะน่าอับอายสักแค่ไหนกันนะ?”
เหล่าผู้ชมเริ่มพูดคุยกันทีละคนๆ และสายตาทั้งหมดก็จับจ้องไปยังโจวฉวนจี
ชายในชุดสีม่วงส่ายหัวและพูดขึ้นว่า “ระดับสร้างรากฐาน ขั้นที่ 6 ท้าทายระดับบรรลุญาณขั้นที่ 3 งั้นหรอ เขากําลังรนหาที่ตายอยู่ชัดๆ”
ถึงโจวฉวนจีจะใช้อาคมซ่อนปราณอยู่ แต่ชายคนนั้นก็ยังมองเห็นระดับวรยุทธของเขาได้อยู่ดี
ตาแก่หัวเราะเบาๆ “พวกเด็กวัยรุ่นบ้าบิ่นมันก็มีอยู่ทั่วโลกนั่นแหละ”
นอกจากพวกเขาแล้ว เสียวเฉิงเฟิงและคุณนายจือฉุยก็ส่ายหัวเช่นกัน
เสี่ยวเฉิงเพิ่งหัวเราะกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าข้าจะคาดหวังมากเกินไปสินะ”
เขาคิดว่ามันจะต้องเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมแน่
แต่ดูจะเสียเวลาเปล่าซะแล้ว
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจมองเห็นระดับวรยุทธของโจวฉวนจีได้ทันที ก่อนจะพูดพลางขมวดคิ้วว่า “นี่เจ้าไม่รู้หรอว่า ข้าขึ้นระดับบรรลุญาณแล้วน่ะ?”
ระดับรักษาปราณ ระดับสร้างรากฐาน ระดับบรรลุญาณ ระดับบัวภายใน ระดับผุดวิญญาณ ระดับราศีกําเนิด ระดับราศีคาดการณ์ ระดับขัดเกลาวิญญาณ และระดับนิพพาน!
ความต่างในแต่ละระดับนั้นมีมากเสียจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเหนือกว่าอีกฝ่ายนึ่งได้
โจวฉวนจีจ้องมองไปยังเขาและพูดว่า “ผู้แข็งแกร่งนั้นไม่จําเป็นต้องเข้าใจผู้อ่อนแอหรอก”
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจทํานิ่ว นี่หัวของเจ้านี่มัน ผิดปกติไปแล้วรึไงกัน?
เหล่าผู้ชมรอบๆสนามฝึกต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ
ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นกระพริบตาปริบๆ มองไปยังโจวฉวนจีด้วยความสงสัย
ชายคนนี้นี่หยิ่งซะจริง!
ขณะเดียวกัน แววตาของจางหรูหยูก็เปล่งประกาย นี่มันเทพกระบี่โจวแน่นอน เขาคือคนที่โดดเด่นที่สุดในยุคของพวกเราเลยล่ะ
ชายในชุดสีม่วงหัวเราะพลางส่ายหัวและพูดว่า “ไอเด็กนี่ มันพิเศษซะจริง”
คําว่า “พิเศษ” ของเขานั้นแฝงความหมายเชิงดูถูกเอาไว้
“หึ!”
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจถอนหายใจ เขาหยิ่งพอที่จะทนต่อคําดูถูกของผู้อื่นได้ยังไงกัน?
เขากระโดดลงมาทันที และดาบที่อยู่ใต้เท้าของเขาก็ดึงขึ้นมาจากพื้นและร่อนลงสู่มือเขา ด้วยการเคลื่อนไหวนั้น เขาก็ฟาดฟันเข้าใส่โจวฉวนจีทันที
เขาว่องไวมาก การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขานั้นใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวิเลยด้วยซ้ํา
โจวฉวนจีพุ่งไปยังด้านหลังของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่ เขายกมือขวาขึ้น และดาบราชาโลกันตร์ก็ลอยมาอยู่ในมือเขา
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจร่อนลงขณะที่หันไปไปถามด้วยความประหลาดใจ “นี่เจ้าใช้วิชาเคลื่อนไหวอะไรกัน?”
ฟิ้ววววว
พืบบบบ!
ประกายแสงที่เย็นเฉียบสว่างวาบขึ้นมา จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจจึงเอี้ยวหัวหลบตามสัญชาตญาณ แต่แก้มของเขาก็ยังโดนดาบผ่าวายุเฉือนเข้าจนเลือดไหลออกมาอยู่ดี
ก่อนหน้านี้ดาบผ่าวายุยังปักอยู่ที่พื้นอยู่ จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเลยไม่ได้สนใจมัน เพราะงั้นเขาเลยเสียเปรียบยังไง
สีหน้าของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเริ่มซีดหยั่งกับเป็นศพในทันที และแววตาของเขาก็เริ่มปล่อยจิตสังหารออกมา
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! – ตอนที่ 37 : ผู้แข็งแกร่งไม่จําเป็นต้องเข้าใจผู้อ่อนแอ
Posted by ? Views, Released on December 30, 2021
, I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!
Type: นิยาย
บทนำ
หลังจากได้กลับชาติมาเกิดในฐานะ โจวฉวนจี องค์ชายแห่งจักวรรดิ เขาก็คิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่สุขสบายอย่างหรูหราไปได้ชั่วชีวิต แต่เรื่องที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาต้องเข้าไปพัวพันกับการเมืองและเป็นปฏิปักษ์ราชินีผู้โหดเหี้ยม ทำให้เขาต้องจำใจหลบหนีออกจากราชวัง
แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ โปรแกรมโกงที่เขาเคยสร้างขึ้นในชาติก่อนกลายมาเป็นของจริงในชีวิตนี้
เมื่อเขาอายุได้ 2 ปี เขาก็ได้รับดาบมังกรสีชาดซึ่งมีจิตวิญญาณมังกรสีชาดสถิตอยู่
เมื่ออายุได้ 3 ปี เขาก็ได้รับดาบในตำนานเล่มที่ 2!
นั่นก็คือ เขาจะได้รับดาบในตำนานทุก ๆ ปีที่เขาโตขึ้น!
และหลังจากมีชีวิตมาได้ 100 ปี โจวฉวนจีก็ได้ออกผจญภัยไปทั่วโลกอย่างหาญกล้าพร้อมกับดาบในตำนานนับร้อยเล่ม!
และหมื่นปีต่อมา ดาบในตำนานนับหมื่นเล่มของเขาก็ทำให้สรวงสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน จนในที่สุดเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่บังลังก์แห่งตำนานในฐานะจักรพรรดิกระบี่!
ติดตามการเดินทางจากเด็กน้อยวัยกระเตาะ ขึ้นสู่ตำนานจักรพรรดิกระบี่ได้แล้ว ใน
“หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์” I Have Countless Legendary Swords!