ตอนที่ 43 : ขึ้นสู่ตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงแห่งมหาจักรวรรดิโจว
*อยากจะเป็นทาสข้าไปชั่วชีวิตเนี่ยนะ?
โจวฉวนจีหยุดเดินและหันหลังกลับไป ก่อนจะเห็นจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจอยู่ในท่าคุกเข่าแล้วเขาก็ใจอ่อนนิดหน่อย
เขาเห็นเลือดที่ไหลซิบลงมาตามหน้าผากของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ ราวกับดอกไม้โลหิตที่เบ่งบานอยู่บนดิน
เจียงฉือน้อยเบ้ปากพลางพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเขาหยิ่งสุด ๆ ไปเลยหรอ?”
เขารู้สึกลังเลใจ ก็ดูจะไม่อันตรายอะไรนะ ถ้าจะเอาจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจมาอยู่ใต้อํานาจเขาน่ะ
เพราะยังไงซะ เขาก็ต้องทําตามแผนล้างแค้นที่วางไว้ต่อไปอยู่ดี
พอคิดแบบนั้นแล้ว เขาก็พูดกับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจว่า “10 วันหลังจากนี้ ถ้าข้าเจอเจ้าที่หน้าประตูทางเข้าหลักของเขตชายแดนอีกข้าจะรับเจ้ามาเป็นทาสของข้า เอง”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็จากไปพร้อมกับเจียงฉือน้อย
เมื่อจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกดีใจขึ้นมาเขารีบเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะร้องออกมาว่า “ขอบคุณท่านจริง ๆ นายท่านของข้า!”
แต่เส้นชีพจรสําคัญทั่วร่างของเขานั้นฉีกขาดหมดดังนั้นการจะไปยังเขตชายแดนภายใน 10 วันได้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย
โจวฉวนจีไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะรีบจากไปพร้อมกับเจียงฉือน้อย
เหล่าจอมยุทธและผู้คนทั่วไปไม่ได้ไล่ตามเขาไป เพราะกลัวว่าจะไปมีเรื่องกับเทพกระบี่โจว
–
หลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นเหตุการณ์เลวร้ายมาได้ด้วยดีข่าวเกี่ยวกับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจได้กลายมาเป็นทาสรับใช้ของเทพกระบโจวก็กลายเป็นข่าวดังไปในที่สุด
จางหรูหยูมองไปยังจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจพลางกรอกตาและคิดในใจ
การที่ได้มาเห็นจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มของเทพกระบีโจว มันก็ทําให้เขารู้สึกอิจฉานิดหน่อยเหมือนกัน
แต่การที่ต้องมากลายเป็นทาสจอมกระบี่มันก็หมายความว่าเขาจะสูญเสียอิสระเช่นกัน เพราะงั้นเขาจะไม่ทําแบบนั้นแน่นอน
เขาควรชื่นชมเทพกระบี่โจวแค่ภายในใจเท่านั้น
โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยรีบเดินน้ําอ้าวผ่านตรอกแห่งหนึ่งตรงไปยังประตูเมือง
“นี่เจ้าคิดจะเอาเขาไปด้วยจริง ๆ หรอ?”
เจียงฉือน้อยถามด้วยความรู้สึกไม่เต็มใจ เธอรักช่วงเวลาที่ได้อยู่สองต่อสองกับโจวฉวนจีมาก เลยรู้สึกไม่สบายใจสักเท่าไหร่ที่จะมีคนอื่นมาร่วมทางไปด้วย
โจวฉวนจีพูด “ไม่ต้องห่วงหรอก พอถึงเวลาจริง ๆ ข้าจะปล่อยให้เขาอยู่ด้านนอกหุบเขาเป็นยามเฝ้าที่ให้พวกเราเอง”
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนั้นมีพรสวรรค์และค่อนข้างจะเก่งทีเดียว
ถึงแม้จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจจะเป็นภัยต่อราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจวไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้แย่อะไรถ้าเขาจะมีคนคอยวิ่งงานให้เขาสักคนล่ะนะ
เจียงฉือน้อยเริ่มเข้าใจและรู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผลดี
ด้วยความสามารถของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจถ้าทั้งสองเจออันตรายเข้าเมื่อไหร่ เขาก็จะกลายเป็นโล่ให้กับพวกเขาได้
พวกเขายังคงมุ่งหน้าต่อไป
หลังจากที่เดินผ่านถนนมาได้ 2 เส้น โจวฉวนจีก็หยุดลงกระทันหัน
แววตาของเขาลุกโชนไปด้วยความโกรธเคืองเขาหันกลับไปและตะโกนขึ้นว่า “ใครตามข้ามาอีกกันห้ะ?”
เจียงฉือน้อยที่ได้ยินเหมือนกัน ก็หันไปมองด้วยความกังวล
และเธอก็เห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงสีดําคนหนึ่งเดินออกมาจากมุม นางดูสวยมาก เรือนผมยาวสลวยถูกม้วนรวบขึ้นไว้ด้านบนศรีษะแม้ใบหน้าของนางจะดูเย็นชา แต่โดย รวมกลับดูมีเสน่ห์เหลือเกิน
“เจ้าเป็นใครกัน?” โจวฉวนจีถามด้วยเสียงต่ํา
เขามองออกว่าหญิงสาวคนนี้มีวรยุทธอยู่แค่ระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 1 เท่านั้นนางเลยไม่ได้เป็นอันตรายอะไรกับเขา
หญิงสาวในชุดสีดํากัดฟันเดินตรงไปหาเขา ก่อนจะคุกเข่า ลงและพูดขึ้นว่า“คารวะท่านพวกเราเคยเจอกันมาก่อนข้าคือคนที่อยากจะเป็นสาวใช้ให้แก่ท่านแต่ท่านก็ปฏิเสธข้าไปเจ้าค่ะ”
“เจ้านั่นเอง!”
เจียงฉือน้อยเบิกตากว้างตกใจ ในตอนนั้น ใบหน้าของ นางเปื้อนฝุ่นเต็มไปหมดเธอเลยไม่คิดว่านางจะดูสวยขนาด
หญิงสาวในชุดสีดําพยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ข้ามีนามว่า ฮวงเหลี่ยนชิ้นข้าอยากให้ท่านพาข้าไปด้วยจริง ๆ เพราะตอนนี้ข้าไม่มีที่ไปแล้วเจ้าค่ะ”
โจวฉวนจีพูดพลางขมวดคิ้ว “บอกข้ามาตรง ๆ เจ้าต้องการอะไรกันแน่!”
หญิงสาวมุ่งมั่นที่จะมาเป็นสาวใช้ของเขาให้ได้จริง ๆ ดังนั้นมันต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่เป็นแน่
ฮวงเหลี่ยนชินก้มหน้าลงและหายใจเข้าลึก ๆ “ข้าอยากจะล้างแค้นเจ้าค่ะ” นางกล่าว
กะไว้แล้วเชียว!
โจวฉวนจีสบถภายในใจ ข้ายังไม่ได้ล้างแค้นในส่วนเรื่องข้าเลยสักนิดแล้วมาตอนนี้เจ้าอยากจะให้ข้าช่วยเนี่ยนะ?
“ความจริงก็คือ ข้ามีความแค้นฝังลึกกับคนในราชวงค์ของมหาจักรวรรดิโจวเจ้าค่ะ”
ฮวงเหลี่ยนชินยังคงพูดต่อไปโดยไม่รู้เลยว่าโจวฉวนอีกำลังคิดบางอย่างอยู่
กับคนในราชวงศ์ของมหาจักวรรดิโจวงั้นหรอ?
“อ้อ?” โจวฉวนจีหรี่ตาลงก่อนจะถามว่า “คนไหนในราชวงศ์ของมหาจักรวรรดิโจวล่ะ”
“โจวหยาหลงเจ้าค่ะ!” ฮวงเหลี่ยนชินกัดฟันของนางพลางพูดต่อว่า “เมื่อตอนที่ข้ายังเด็ก โจวหยาหลงได้มายังเมืองที่ข้าอาศัยอยู่แต่เขากลับเสียสติจากการฝึกวรยุทธและ ไล่ฆ่าคนทั้งเมืองพ่อของข้าได้ซ่อนข้าไว้ในห้องใต้ดิน ข้าเลย รอดมาได้เจ้าค่ะ”
“ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยเพลิงโหมกระหน่ําและซากศพเกลี่อนกลาด… ข้าไม่มีทางลืมเหตุการณ์ในวันนั้นได้เลย…”
โจวฉวนจีรู้สึกตกใจ โจวหยาหลงเสียสติจากการฝึกวรยุทธเนี่ยนะ?
ทําไมข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนั้นมาก่อนเลย?
แต่หลังจากที่ลองคิด ๆ ดูมันก็ดูมีเหตุผลอยู่ถ้าข่าวแบบนี้แพร่กระจายออกไป มันจะต้องส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของโจว หยาหลงแน่นอนเพราะงั้นก็เป็นไปได้ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่ง ที่เกิดขึ้นในวันนั้นจะถูกปิดบังเอาไว้
มีเมืองอยู่มากมายในมหาจักรวรรดิโจว การทําลายแค่เมีอง ๆ เดียวยังไงก็ไม่ได้มีผลกระทบสําคัญอะไรต่อทั้งจักรวรรดิอยู่แล้ว
“แต่นั่นคือ โจวหยาหลง เลยนะ เจ้าอยากให้ข้าไปตายรีไง?”
โจวฉวนจีดูจะไม่แยแสนักขณะที่พูดเจียงฮือนน้อยมองไปยังฮวงเหลี่ยนชิ้นด้วยความระแวง
ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนที่เธอถูกพวก 17 อสูรวายุทองคําจับตัวไปเธอก็เคยได้ยินตํานานเกี่ยวกับโจวหยาหลงมาเหมือนกัน
โจวหยานั้นมีพลังที่มากกว่าจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ เสี่ยวจิงงนัก
ที่สําคัญกว่านั้น เขาก็มีแนวโน้มจะได้สืบทอดเป็นองค์จักรพรรดิแห่งมหาจักรวรรดิโจวด้วยและทั่วทั้งมหาจักรวรรดิโจวก็จะตกไปอยู่ในกํามือเขา
จักรพรรดิแห่งมหาจักรวรรดิโจวนะ ยังมีอํานาจมากกว่าราชวงศ์ปีศาจกู่หลานเสียอีก
ฮวงเหลี่ยนชินเงยหน้าขึ้นและพูดตอบ “เพราะว่าท่านนั้นมีพรสวรรค์มากเป็นไหน ๆ ข้าได้เห็นมากับตาตนเองแล้วว่าถึงท่านจะยังอายุไม่ถึง 10 ขวบแต่ท่านก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว จริง ๆ และด้วยพรสวรรค์ของท่านแล้วข้าแน่ใจว่าท่านจะต้องต่อกรกับโจวหยาหลงได้แน่นอนเจ้าค่ะ”
โจวฉวนจีขมวดคิ้วและถามขึ้นมา “แล้วเจ้าแน่ใจได้ยังไงว่าข้าอายุน้อยกว่า 10 ขวบน่ะ?”
ฮวงเหลี่ยนชินตอบด้วยความจริงใจว่า “ข้ามีความสามารถพิเศษตั้งแต่จําความได้ ข้าก็สามารถมองทะลุชีพจรสําคัญทั่วร่างและกระดูกของมนุษย์ได้เจ้าค่ะและจากประสบ กาณ์ของข้า ข้าเลยตัดสินอายุของท่านจากกระดูกได้ว่าท่านมีอายุไม่ถึง10 ปีเจ้าค่ะ”
โจวฉวนจีรู้สึกตกใจเช่นเดียวกับเจียงฉือน้อย
สายตาที่มองทะลุได้งั้นหรอ?
โจวฉวนจีมองนางด้วยความชื่นชม นางคนนี้ช่างโชคดีซะจริง
ถ้านางมีความสามารถแบบนั้นจริง งั้นนางก็มีค่าพอที่จะเลี้ยงดู
เขาก็ได้ทาสจอมกระบี่มาด้วยแล้ว ทําไมเขาจะมีเพิ่มอีกสักคนไม่ได้ล่ะ?
ยังไงเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจวในอนาคตด้วยอยู่ดี เพราะงั้นมันก็เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องสู้กับโจวหยาหลงด้วย
ในเวลานั้น ฮวงเหลี่ยนชินก็มั่นใจว่าเขาจะต้องพานางไปด้วยอย่างแน่นอน
เขาบ่นพึมพํา “ลุกขึ้น แล้วตามพวกข้ามา”
เมื่อนางได้ยินแบบนั้น ฮวงเหลี่ยนชินก็เงยหน้าขึ้นด้วย ความดีใจ
เจียงฉือน้อยเบิกตากว้าง และเริ่มมโนถึงเรื่องที่โจวฉวนจีเคยบอกว่าอยากจะมีภรรยาสวย ๆ และนางสนมมารายล้อมเขาเยอะ ๆ ตอนโตเธอก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีก่อนจะ หยิกเอวของโจวฉวนจี
ซี้ดดด
โจวฉวนจีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เป็นเพราะฮวงเหลี่ยนซินอยู่แถวนี้เขาเลยไม่กล้าร้องเจ็บออกมาและได้แต่ทนเอา
และแล้วฮวงเหลี่ยนชิน จึงได้กลายมาเป็นสาวใช้ของเขา
หลังจากออกมาจากเมืองกลืนเมฆา ทั้ง 3 ก็ยังคงมุ่งหน้าไปยังเมืองถัดไป
ฮวงเหลี่ยนชินซื้อรถม้ามาด้วยเงินของนางเอง เพื่อให้โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยได้รักษาบาดแผลของตนเองกันด้วยท่าทางที่ดูจะเข้าใจกันแบบนี้นางเลยเอาชนะใจเจียงอน้อยได้
นางคนนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะเนี่ย
เมื่อโจวฉวนจีมองไปยังทั้งสองที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานเขาก็ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ ช่างเป็นเด็กสาวที่ซี่ อซื้ออะไรขนาดนี้นะดูเหมือนว่าเขาจะต้องคอยจับตาดูเธออย่างใกล้ชิดซะแล้วไม่งั้นมีหวังเธอคงโดนใครก็ไม่รู้จับ ตัวไปขายแหง
2 วันต่อมา พวกเขาก็ได้มาถึงอีกเมืองหนึ่งและตอนนี้ใจวฉวนจีก็ฟื้นตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
ส่วนทางด้านร่างกายของเจียงฉือน้อยอาจจะยังไม่ดีขึ้นเท่าเขาเธอเลยยังมีเดินกะเผลกอยู่บ้าง แต่ก็โชคดีที่ฮวงเหลี่ยนชินคอยอยู่ด้วยดูแลเธอให้
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในเมืองแล้ว ก็เริ่มซื้อข้าวของที่จําเป็นเช่นอาหารหรือวัสดุต่าง ๆ
โจวฉวนจีเองก็เขียนเนื้อย่างจืดๆที่ไม่ใส่เกลือเต็มทนแล้ว
8 วันต่อมา
พวกเขาก็มาถึงยังขอบชายแดน จากที่ไกล ๆ โจวฉวนจีก็มองเห็นจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจยืนอยู่ที่ประตู
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจก็เห็นพวกเขาเหมือนกันและเริ่มรู้สึกตื่นเต้นทันที
ในตอนนั้น โจวฉวนจีถอดหน้ากากออกไปแล้วแต่เขายังจําเจียงฉือน้อยได้
เขาไม่ได้ตกใจอะไร แต่คอยเฝ้ามองอยู่เงียบๆขณะที่โจวฉวนจีกําลังเดินผ่านไป
“จี ๆ เจ้าได้ยินข่าวยัง? เทพกระบี่โจวตอนนี้ขึ้นตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงแห่งมหาจักรวรรดิโจวแล้วนะ!”
“มันแน่อยู่แล้วสิ ฆ่าได้ตาแก่ชิงแถมยังทําลายกายหยาบของเจ้าชายปีศาจได้อีก จะไม่ดังได้ไงล่ะ?”
“ใช่ ๆ! แม้แต่จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจก็ยังก้มหัวให้เขาด้วย”
“หลังจากการต่อสู้ที่เมืองกลืนเมฆา เทพกระบี่โจวก็ดังไปทั่วมหาจักรวรรดิโจวแล้ว”
“ละข้าได้ยินมาว่าเทพกระบี่โจวมีร่างกายเป็นคนแคระเนี่ยจริงดิ?”
ขณะที่พวกกําลังผ่านประตูเมืองไปโจวฉวนจีก็ได้ยินเสียงยามเฝ้าประตูพูดคุยกันเกี่ยวกับเทพกระบี่โจว
หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! – ตอนที่ 43 : ขึ้นสู่ตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงแห่งมหาจักรวรรดิโจว
Posted by ? Views, Released on January 7, 2022
, I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!
Type: นิยาย
บทนำ
หลังจากได้กลับชาติมาเกิดในฐานะ โจวฉวนจี องค์ชายแห่งจักวรรดิ เขาก็คิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่สุขสบายอย่างหรูหราไปได้ชั่วชีวิต แต่เรื่องที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาต้องเข้าไปพัวพันกับการเมืองและเป็นปฏิปักษ์ราชินีผู้โหดเหี้ยม ทำให้เขาต้องจำใจหลบหนีออกจากราชวัง
แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ โปรแกรมโกงที่เขาเคยสร้างขึ้นในชาติก่อนกลายมาเป็นของจริงในชีวิตนี้
เมื่อเขาอายุได้ 2 ปี เขาก็ได้รับดาบมังกรสีชาดซึ่งมีจิตวิญญาณมังกรสีชาดสถิตอยู่
เมื่ออายุได้ 3 ปี เขาก็ได้รับดาบในตำนานเล่มที่ 2!
นั่นก็คือ เขาจะได้รับดาบในตำนานทุก ๆ ปีที่เขาโตขึ้น!
และหลังจากมีชีวิตมาได้ 100 ปี โจวฉวนจีก็ได้ออกผจญภัยไปทั่วโลกอย่างหาญกล้าพร้อมกับดาบในตำนานนับร้อยเล่ม!
และหมื่นปีต่อมา ดาบในตำนานนับหมื่นเล่มของเขาก็ทำให้สรวงสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน จนในที่สุดเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่บังลังก์แห่งตำนานในฐานะจักรพรรดิกระบี่!
ติดตามการเดินทางจากเด็กน้อยวัยกระเตาะ ขึ้นสู่ตำนานจักรพรรดิกระบี่ได้แล้ว ใน
“หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์” I Have Countless Legendary Swords!