หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! – ตอนที่ 44 : เทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้ องอาจ!

ตอนที่ 44 : เทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้ องอาจ!
 
“ตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงคืออะไรหรอ?”
 
เจียงฉือน้อยถามด้วยความสงสัย เธอเคยได้ยินแค่ตารางจัดอันดับยอดฝีมือแห่งมหาจักรวรรดิโจวเท่านั้น เพราะเยี่ยเฟยฟาน อัจฉริยะที่ติดอันดับยอดฝีมือถูกโจวฉวนจีสังหารเมื่อ 7 ปีก่อน
 
ฮวงเหลี่ยนชินตอบกลับ “มันเป็นการจัดอันดับโดยมหาจักรวรรดิโจวเจ้าค่ะ จะมีการบันทึกชื่อเหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงในแต่ละปีจํานวน 100 คน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตอนนี้ท่านคือบุคคลที่มีชื่อเสียงมากเจ้าค่ะ”
 
เมื่อโจวฉวนจีได้ยินที่นางพูดก็คิดขึ้นมา นี่ตอนนี้ข้าดังขนาดนั้นเลยหรอ?
 
เขายังประมาทชื่อเสียงของฉวงฮุ้ยเฉิงเกินไป
 
เจ้าชายปีศาจที่ทําลายเมืองจนย่อยยับได้ แต่กลับพ่ายให้กับจอมกระบี่ไร้ชื่อ เรื่องแบบนี้นี่หยั่งกับละครจริง ๆ
 
ในตอนที่โจวฉวนจีกําลังเดินผ่านจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ
 
เขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงค่อยว่า “ตามพวกข้ามา”
 
จแทบจะปิดอาการประหลาด ใจไม่อยู่ ก่อนจะรีบตามหลังเขาไป
 
ยามเฝ้าประตูต่างเบิกตากว้าง และเริ่มหายใจถี่ขึ้น
 
เด็กคนนี้คือเทพกระบี่โจวอย่างงั้นน่ะหรอ!
 
ฮวงเหลี่ยนชินทิ้งรถม้าไว้ที่นั่น ใครจะเป็นคนเอามันไป ก็ให้มันขึ้นอยู่กับชะตาฟ้าลิขิต
 
ขณะที่เหล่ายามเฝ้ามองทั้ง 4 เดินจากไป พวกเขาทั้งหมดต่างก็แทบจะสติหลุด
 
“ท่านเทพกระบี่โจว!”
 
“งั้นนั่นก็เขานี่เอง ข้าเคยเจอเขามาแล้วครั้งนึงด้วย เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว ตอนที่เขาผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ข้าก็เป็นเวรกะนั้นพอดีด้วย!”
 
“เขายังดูเด็กกว่าลูกชายข้าอีก”
 
“จุ๊ ๆ อย่าคิดแบบนั้นสิ บางทีเขาอาจจะแก่กว่าปูเจ้าก็ได้ นะ”
 
“เจ้าเห็นรึเปล่า? จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจชื่อดังคนนั้นที่ตามหลังเทพกระบี่โจวไป ติดตามเขาหยั่งกับทาสจริง ๆ แหน่ะเนี่ยแหละความสุดยอดของเทพกระบีโจวล่ะ”
 
เหล่าผู้เฝ้าประตูต่างพูดคุยความเห็นกันและดูตื่นเต้นสุด
 
การที่ได้เจอพวกเขาในวันนี้ก็มากพอที่จะให้พวกยามเอาไปเม้าท์มอยกันบนโต๊ะอาหารได้อีกยาวเลยล่ะ
 
หลังจากที่พวกเขาออกจากเขตชายแดนอาณาจักรเหมันต์แดนใต้มาแล้ว ก็ยังคงมุ่งหน้าเดินทางต่อไป
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเริ่มดูจะกระวนกระวายมากขึ้น แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก
 
อีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยและฮวงเหลี่ยนชินก็ดูจะคุยกันอย่างมีความสุข
 
“อ่อใช่ จะว่าไปเจ้าชอบดาบมั้ย?”
 
จู่ๆ โจวฉวนจีก็ถามฮวงเหลี่ยนชินขึ้นมา ถึงมันจะดูไม่ใช่คําถามที่จริงจังมากนัก แต่นางก็กลัวจนเสียวสันหลังไปหมด
 
นางตอบทันทีว่า “ข้าชอบเจ้าค่ะ และข้าก็ยังรู้วิชาดาบอีกด้วย แต่มันก็เป็นระดับที่ต่ำเอามาก ๆ นะเจ้าค่ะ แทบจะเทียบกับขั้นที่ต่ำที่สุดของระดับอําไพยังไม่ได้เลย”
 
วิชาปราณ คาถา และศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่มีการจัดระดับและขันของมันเอง
 
โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับนภาระดับปฐพี ระดับทมิฬ และระดับอําไพ นอกจากนี้ ในแต่ละระดับยังแบ่งออกเป็นขั้นสูงสุด ขั้นสูง ขั้นกลาง และขั้นต่ำ
 
วิชาดาบกระเรียนขาวและวิชากระบี่เพลิงกัลป์ของโจวฉวนจีนั้นล้วนแต่อยู่ในระดับอําไพ มีเพียงวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรเท่านั้นที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับทมิฬ
 
ฮวงเหลี่ยนชินมองไปยังโจวฉวนจีด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยม หรือว่าเทพกระบี่โจวกําลังจะช่วยสอนวิชาดาบให้กับนางนะ?
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจมองไปยังฮวงเหลี่ยนชินอย่างแทบไม่เชื่อสายตาพลางชื่นชมนาง
 
ในขณะนั้นเอง โจวฉวนจีก็หันกลับมาและพูดกับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจว่า “เจ้าจงสอนวิชาดาบระดับทมิฬให้แก่นาง และจงช่วยให้นางบรรลุวิชาให้สําเร็จให้ได้ซะ”
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเบิกตากว้างด้วยความสับสนงุนงง
 
อีกด้านหนึ่ง ฮวงเหลี่ยนชินก็รู้สึกตกใจ วิชาดาบระดับทมิฬนั้นไม่ใช่วิชาคุณภาพต่ำเลยสักนิด ในจักรวรรดิแล้ว วิชาเหล่านี้จะถูกส่งต่อผ่านภายในตระกูลเท่านั้น และถึงแม้จะมีวิชาพวกนี้ขายในหอการค้าของมหาจักรวรรดิโจว แต่ก็ยังแพงเกินกว่าที่นางจะจ่ายไหวอยู่ดี
 
โจวฉวนจี
เชื่อว่าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจจะต้องมีวิชาดาบระดับทมิฬอยู่อย่างแน่นอน
 
เพราะถ้าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจไม่มีแล้วล่ะก็ โจวฉวนจีคงจะดูถูกเขาเอาสุด ๆ
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ได้ครับ นายท่าน!” เขาพูดตอบ
 
ตั้งแต่ที่เขากลายเป็นทาสของเทพกระบี่โจว เขาก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธอะไร
 
โจวฉวนจีพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และพูดว่า “เจ้ารู้จักวิชาดาบที่ข้าเคยใช้ล้มเจ้ารึเปล่า?”
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจส่ายหัว แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก ก่อนจะพูดพึมพําออกมา “นายท่านจะว่าไปวิชาดาบของท่านคล้ายกับวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรของจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์เลยครับ”
 
โจวฉวนจีพูด “เจ้าคิดถูกแล้ว มันคือวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรนั้นแหละ”
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเบิกตากว้าง และฮวงเหลี่ยนชินก็รู้สึกตกใจด้วยเช่นกัน
 
ชื่อของจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั้นดังไปไกลยิ่งกว่าจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจเสียอีก เขาอยู่ถึงอันดับที่ 3 ของตารางจัดอันดับยอดฝีมือแห่งมหาจักรวรรดิโจว และยังมีชื่ออยู่บนตารางจัดอันดับผู้มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานอีกด้วย เขานั้นเป็นจอมกระบี่ผู้ทรงพลังพอที่จะสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกได้อย่างแท้จริง
 
“ถึงวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรจะไม่ได้เป็นแค่ของจอมกระผู้สูงศักดิ์แต่เพียงผู้เดียว แต่วิชาดาบนี้ก็เป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดและเขาใช้บ่อยที่สุดแล้ว แล้วท่านไปเอาวิชาดาบสะบั้นสามชีพจรมาได้ยังไงกันครับ?” จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจถามด้วยความสงสัย
 
จอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ท้าทายจอมกระบี่ไปทั่วโลก และเขาไม่เคยแพ้ให้กับใครเลย เว้นเสียแต่จักรพรรดิกระบี่
 
และเขาก็คือหนึ่งในคนที่พ่ายแพ้ให้กับจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั่นเอง
 
ความหวังผุดขึ้นภายในใจของเขา เป็นไปได้มั้ยว่าเทพกระบี่โจวจะมีศักยภาพมากพอจะล้มจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์ได้นะ?
 
“อุ๊บส์–”
 
เจียงฉือน้อยกลั้นขําไม่ไหวอีกต่อไป
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจและฮวงเหลี่ยนชินมองไปที่เธอด้วยความแปลกใจ มีอะไรน่าขํางั้นหรอ?
 
เธอมองไปทางโจวฉวนจีและขําขณะที่เธอกําลังจะพูด หลังจากนั้นเมื่อโจวฉวนจีพยักหน้าให้เธอก็พูดออกมา “ศิษย์ของเขาน่ะคือจอมกระบี่ผู้สูงศักดิ์นั่นแหละ ในตอนนั้น เขาพนันกับเสี่ยวจิงหงเอาไว้…”
 
และเธอก็เริ่มร่ายยาว
 
ทั้งจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจและฮวงเหลี่ยนชินต่างก็รู้สึกตะลึงเมื่อได้ฟัง
 
โดยใช้แค่วิชาดาบอย่างเดียว เสี่ยวจิงหงก็พ่ายแพ้ให้กับเทพกระบี่โจวเนี่ยนะ?
 
ที่สําคัญที่สุดคือ โจวฉวนจีใช้เวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้นในการบรรลุจิตดาบสะบั้นสามชีพจร
 
วิถีกระบี่ของเขามันไปถึงขั้นไหนกันแล้วเนี่ย?
 
ในตอนนั้น ทั้งสองก็แทบจะอยากคุกเข่าลงต่อหน้าโจวฉวนจีเลยทีเดียว
 
“ฟิ้ดด–”
 
จู่ ๆ โจวฉวนจีก็ผิวปากออกมา ด้วยพลังวิญญาณของเขา เสียงผิวปากก็ดังไปได้ไกลมากสุด ๆ
 
อารมณ์ของจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจในตอนนี้ราวกับคลื่นทะเลที่ซัดสาดเข้ามา ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะสงบสติอารมณ์ลงได้
 
คู่ต่อสู้คนสําคัญที่สุดในชีวิตของเขาคือลูกศิษย์ของเทพกระบี่โจวงั้นหรอ
 
ตอนนี้เขารู้สึกดีใจสุด ๆ
 
ฮวงเหลี่ยนชินก็เช่นกัน
 
ด้วยพรสวรรค์ของเสี่ยวจิงหงแล้ว เขาสามารถที่จะเหนือกว่าโจวหยาหลงได้แน่นอน และถ้ารวมกับเทพกระบี่โจวที่เป็นสุดยอดของสุดยอดยิ่งกว่าแล้วเนี่ย ความหวังในการแก้แค้นของนางก็ดูจะไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว!
 
ไม่นานนัก วิหคมังกร 2 ตัวก็บินมา
 
ทั้งคู่ต่างรู้อยู่แล้วว่าเทพกระบี่โจวเลี้ยงวิหคมังกรเอาไว้เลยไม่ได้ตกใจอะไรกัน
 
โจวฉวนจีและจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจขอาใหญ่ ส่วนเจียงฉือน้อยและฮวงเหลี่ยนชินขี่น้องสอง และทั้งหมดก็บินตรงไปยังหุบเขาที่โจวฉวนจีอาศัยอยู่
 
พอพวกเขากลับมาถึงหุบเขา มันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนเสียแล้ว
 
ที่ทางเข้าหุบเขานั้น โจวฉวนจีได้ขอให้จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจสร้างบ้านของตัวเองอาศัยอยู่ข้างนอกแทน
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจไม่ได้ปฏิเสธอะไร และหันกลับไปก่อนจะเริ่มตัดไม้เพื่อสร้างบ้าน
 
ฮวงเหลี่ยนชินก็เริ่มสนิทกับเจียงฉือน้อยแล้ว และด้วยคําอ้อนขอของเด็กสาวตัวน้อย โจวฉวนจีเลยยอมให้นางเข้าไปในหุบเขาได้
 
ตอนนี้ก็มีผู้ร่วมอาศัยอยู่ด้วยกับโจวฉวนจีเพิ่มขึ้นมาอีก 2 คนแล้ว
 
ยามเช้าของวันที่ 2 โจวฉวนจีและอีกสองคนก็ออกมาจากหุบเขา
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนั้นมีทักษะที่ดีเลยทีเดียว และเขาก็สร้างบ้านไม้ที่ใช้เป็นที่พักของตัวเองเสร็จแล้ว
 
เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็ตื่นขึ้นมาจากการฝึกวรยุทธ
 
“งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ วันนี้เจ้าจะต้องสอนวิชาดาบของเจ้ากับฮวงเหลี่ยนชิน ส่วนข้าจะคอยเฝ้าดูเอง”
 
โจวฉวนจีเล่นกับเจ้าหนูทรายสามตาที่อยู่บนมือพลางพูดอย่างลวก ๆ
 
ฮวงเหลี่ยนชินยืนอยู่ข้างหลังเขา ท่าทางนางอาจจะดูนิ่ง ๆ แต่ความตื่นเต้นมันประกายออกมาทางสายตาของนางเลย
 
อีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยก็นั่งอยู่บนก้อนหินไกล ๆ อาใหญ่และน้องสองก็นอนอยู่ข้างหลังเธอ วิหคมังกรทั้งสองดูจะง่วงนอน พวกมันผงกหัวครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับพร้อมจะหลับได้ทุกเมื่อ
 
“ได้ครับ!”
 
จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจพยักหน้า เขาค่อนข้างจะตื่นเต้นที่เดียวเพราะรู้ว่าตัวเองกําลังถูกเทพกระบีโจวทดสอบอ
 
ดังนั้นเขาจึงเริ่มสอนวิชาดาบให้ฮวงเหลี่ยนชินทุกวัน ขณะที่โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยก็คอยฝึกปราณภายในอยู่ข้าง ๆ พวกเขา
 
พอมีโจวฉวนจีอยู่รอบ ๆ ด้วยแล้ว จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจก็ไม่กล้าขี้เกียจเลยแม้แต่นิดเดียว
 
เขาต้องยอมรับเลยว่า ฮวงเหลี่ยนชินนั้นค่อนข้างจะมีพรสวรรค์ในวิถีแห่งกระบี่ อย่างน้อย มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจนักที่จะสอนนาง
 
ในทุก ๆ เดือน โจวฉวนจีจะพาพวกเขาไปทําลายรังโจรด้วยกัน แม้แต่เจียงฉือน้อยและวิหคมังกรทั้งสองเองก็ร่วมต่อสู้และขัดเกลาวิชาการต่อสู้ไปด้วยเหมือนกัน
 
เป้าหมายของโจวฉวนจีนั้นไม่ใช่การทําลายรังโจรที่อยู่ระดับสร้างรากฐานอีกต่อไป แต่เปลี่ยนไปทําลายพวกโจรแข็งแกร่งที่อยู่ระดับบรรลุญาณแทน
 
ในขณะที่พวกเขาช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้นและมากยิ่งขึ้นชื่อเสียงของเขาก็กระจายไปไกลราวกับไฟป่า
 
หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
 
ชื่อของเทพกระบี่โจวก็แพร่กระจายไปไกลทั่วทั้งอาณาจักรที่อยู่ภายในมหาจักรวรรดิโจวแล้ว
 
“ผ่านฟากฟ้าที่กว้างใหญ่ วิหคมังกรต่างคํารามก้องไกลเทพกระบี่โจวทลายรังโจร ร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ!”
 

I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!

I HAVE COUNTLESS LEGENDARY SWORDS!

บทนำ หลังจากได้กลับชาติมาเกิดในฐานะ โจวฉวนจี องค์ชายแห่งจักวรรดิ เขาก็คิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่สุขสบายอย่างหรูหราไปได้ชั่วชีวิต แต่เรื่องที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาต้องเข้าไปพัวพันกับการเมืองและเป็นปฏิปักษ์ราชินีผู้โหดเหี้ยม ทำให้เขาต้องจำใจหลบหนีออกจากราชวัง แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ โปรแกรมโกงที่เขาเคยสร้างขึ้นในชาติก่อนกลายมาเป็นของจริงในชีวิตนี้ เมื่อเขาอายุได้ 2 ปี เขาก็ได้รับดาบมังกรสีชาดซึ่งมีจิตวิญญาณมังกรสีชาดสถิตอยู่ เมื่ออายุได้ 3 ปี เขาก็ได้รับดาบในตำนานเล่มที่ 2! นั่นก็คือ เขาจะได้รับดาบในตำนานทุก ๆ ปีที่เขาโตขึ้น! และหลังจากมีชีวิตมาได้ 100 ปี โจวฉวนจีก็ได้ออกผจญภัยไปทั่วโลกอย่างหาญกล้าพร้อมกับดาบในตำนานนับร้อยเล่ม! และหมื่นปีต่อมา ดาบในตำนานนับหมื่นเล่มของเขาก็ทำให้สรวงสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน จนในที่สุดเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่บังลังก์แห่งตำนานในฐานะจักรพรรดิกระบี่! ติดตามการเดินทางจากเด็กน้อยวัยกระเตาะ ขึ้นสู่ตำนานจักรพรรดิกระบี่ได้แล้ว ใน “หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์” I Have Countless Legendary Swords!

Options

not work with dark mode
Reset