หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 105

การขู่ฆ่าผู้เล่นเป็นสิ่งที่น่าขันและอุกอาจที่สุดเท่าที่โรแลนด์เคยเห็นมา

 

ภายใต้แสงจันทร์ที่อาบลงมา รอยยิ้มของโรแลนด์นั้นดูลึกลับอยู่ภายใต้ความมืด เอ็ดเวิร์ดที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ขึ้นมาในหัวใจของเขา

 

เอ็ดเวิร์ดนั้นค่อนข้างฉลาด เขานั้นมักจะสังเกตุถึงสิ่งต่างๆที่คนอื่นไม่เห็น อย่างเช่น…พี่ชายคนโตของพวกเขาซึ่งมักจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ในสองวันก่อนที่เขาจะไป

 

และไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากเงินห้าสิบเหรียญทองที่ถูกเก็บอยู่ในบ้านพวกเขา

 

เมื่อประกอบกับสิ่งที่เขาได้ยินและได้เห็นมาเมื่อสองวันก่อน เขาก็เข้าใจได้ทันที

 

พี่ชายของเขานั้นตกหลุมพรางของใครสักคน

 

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดามากสําหรับขุนนางราวกับเป็นกฏตั้งต้น

 

เมื่อใครสักคนทําบางอย่างพลาดก็มักจะถูกสอบสวนด้วยคนที่มีฐานะใกล้เคียงกัน ถ้าหากทั้งสองฝ่ายจบลงด้วยการต่อสู้ละก็ทั้งสองฝ่ายจะไม่มีทางที่จะชนะ และจากนั้นมาหมาป่าที่ดูการแสดงอยู่ก็จะมากอบโกยผลประโยชน์เล็กๆจากเรื่องนี้ ในตอนนี้นั่นเองผู้ที่ผิดจะสามารถโยนความผิดไปให้คนที่ต้อยต่ำกว่าได้และปล่อยให้พวกนั้นรับความผิดแทน และจบปัญหาความขัดแย้งด้วยความตาย ถ้าหากผู้สอบสวนมีความตั้งใจที่จะลดความเสียหายให้น้อยที่สุด ทั้งฝ่ายนั้นก็อาจจะสามารถเจรจาและปล่อยผ่านไปได้

 

หลังจากยิ้มเสร็จ โรแลนด์มองไปที่เด็กชายซึ่งยังอายุน้อยและไร้ประสบการณ์ในชีวิตทว่ากลับดูมีนิสัยที่ดูสุขุมและพูดว่า “ฉันรู้ว่าพี่ชายของนายเป็นชายที่ถูกใส่ร้าย พวกเรานั้นได้ตั้งใจที่จะฆ่าเขา พวกเรานั้นอยากจะช่วยเขาด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าเขานั้นระแวงเกินไป เขานั้นรีบฆ่าตัวตายทันที พวกเรานั้นรู้สึกว่าพวกเราต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้เล็กน้อย แต่ว่าพวกเราจะไม่ขอโทษหรอกนะ”

 

“ข้าเข้าใจ”

 

เอ็ดเวิร์ดนั้นเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกบุตรทองคํา

 

แม้ว่าบุตรทองคํานั้นจะค่อนข้างมีชื่อเสียในหมู่ขุนนางในเรื่องที่ไม่ให้เกรียติและไม่สนใจสิทธิพิเศษของเหล่าขุนนาง ทําให้เหล่าขุนนางนั้นโกรธเคืองพวกเขา ทว่าพวกเขานั้นก็ยอมรับว่าบุตรทองคํานั้นล้วนแล้วแต่เป็นเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ค่อนข้างดี

 

มีบุตรทองคําทั้งหมดห้าคนในเดลพอนในช่วงสองถึงสามเดือนที่ผ่านมา พวกเขานั้นไม่เคยรังแกคนโดยไร้เหตุผล ไม่ต้องพูดถึงการทําสิ่งชั่วร้ายหรือการทําเรื่องร้ายแรง

 

พวกเขานั้นแค่สังหารครอบครัวที่กินหัวใจมนุษย์ ช่วยเด็กสาวชั้นต่ำในราคาที่สูง และตอนนี้ก็พยายามหาทางช่วยเหล่าขอทานให้มีที่อยู่ นี่เป็นแค่สามสิ่งเท่านั้นที่พวกเขาทําและทุกอย่างนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ดี

 

บุตรทองคํานั้นเป็นคนดี ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม ทว่ามันแค่โชคร้ายที่มันดันเป็นพี่ชายของพวกเขา

 

เขานั้นเป็นผู้เสียสละในการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย

 

“ฉันอยากถามนายว่าที่พี่ชายนายมีท่าทีแปลกไปในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขานั้นได้ไปพบใครมาเป็นพิเศษหรือเปล่า”

 

เอ็ดเวิร์ดส่ายหัวออกมา “ไม่ พี่ชายคนโตของพวกเขานั้นไม่ได้บอกพวกเราเลย เขานั้นไม่ต้องการให้พวกเราเครียดมากเกินไป ถ้าเกิดเขาออกไปทําธุระ”

 

โรแลนด์ถามคําถามต่อไปที่อยู่ภายในใจของเขามานานแล้ว “แล้วพ่อแม่พวกนายละ?”

 

“ตายไปนานแล้ว” เสียงของเอ็ดเวิร์ดแผ่วลง “พี่ชายนั้นดูแลพวกเรามาตลอด พวกเรานั้นเป็นเพียงแค่ลูกหลานของพ่อค้า ตําแหน่งขุนนางของพวกเรานั้นก็เป็นเพียงแค่เสมือนขุนนางเท่านั้น มันก็แค่ชื่อปลอมๆที่ไร้ซึ่งอํานาจใด”

 

อํานาจที่แท้จริงของคนชั้นสูงมีเพียงสองสิ่งเท่านั้น: ฐานันดร, ฐานันดรเล็ก ๆ นับได้และสิทธิในการเกณฑ์ทหาร

 

อํานาจที่แท้จริงของขุนนางนั้นมีอยู่สองอย่างคือ ที่ดิน ที่ดินเล็กๆนั้นก็ถูกนับรวมด้วยเช่นกัน , และสิทธิ์ในการรับสมัครทหาร

 

สิทธิในการเกณฑ์ทหารจะแตกต่างกันไปตามตําแหน่ง จํานวนทหารสูงสุดที่สามารถคัดเลือกได้นั้นไม่เท่ากัน ตั้งแต่เมื่อถึงตําแหน่งเอิร์ลขึ้นไปจะไม่มีการจํากัดจํานวนในการรับสมัคร

 

สําหรับสิทธิพิเศษอื่นๆอาทิเช่นเหรียญตราและการยกเว้นภาษี สิ่งพวกนี้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นผลประโยชน์เล็กน้อย

 

สําหรับตําแหน่งเสมือนขุนนางนั้นเป็นตําแหน่งทั่วไปที่ได้รับจากการที่พ่อค้าบริจาคเหรียญทองเป็นจํานวนมาก

 

โรแลนด์ถอนหายใจ เขาคิดว่าฆาตกรนั้นเอาเด็กหนุ่มทั้งสองมาเป็นเครื่องต่อรองเพื่อเข้าใกล้พี่ชายของพวกเขาและให้เขาทําเรื่องเลวร้ายแน่นอนว่ามีการเสนอรางวัลเป็นจํานวนมาก

 

ห้าสิบเหรียญทอง….นั่นถือว่าเป็นเงินจํานวนมาก

 

“ทําไมนายถึงบอกให้ฉันมาที่นี่ ในเมื่อนายก็ไม่รู้อะไรเลย?” โรแลนด์ถามออกไปตรงๆ 

 

“ข้าไม่รู้อะไรเลยก็จริง แต่ข้านั้นอยากให้อะไรบางอย่างแก่คุณ” เอ็ดเวิร์ดหยิบแผ่นไม้สี่เหลี่ยมเล็กๆ ออกมาจากด้านในเสื้อของเขา มันมีขนาดประมาณฝ่ามือของเขา “พี่ชายคนโตของข้าทิ้งมันไว้บนโต๊ะทํางาน ข้าคิดว่ามันอาจจะมีประโยชน์สําหรับคุณ”

 

โรแลนด์รับแผ่นไม้มาและพบว่ามันค่อนข้างแข็งและมีสีฟ้าอ่อนโดยมีลายเมฆสีขาวอยู่ด้านหน้าและลายเกลียวคลื่นสีดําอยู่ที่ด้านหลัง

 

หลังจากสํารวจมันเล็กน้อย โรแลนด์ก็เก็บแผ่นไม้ลงในกระเป๋ามิติ

 

จากนั้นเขาก็นําแบบวาดจํานวนมากขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ “นี่เป็นเคล็ดลับเวทย์และการทดลองบางส่วน เก็บมันไว้กับนายให้ดีๆ”

 

โรแลนด์นั้นพบว่าพลังจิตของเอ็ดเวิร์ดนั้นตื่นขึ้นแล้ว และจํานวนมันน้อยกว่าวิเวียนแค่เล็ก น้อยเท่านั้น

 

ตอนนี้วิเวียนนั้นเชี่ยวชาญในการใช้แขนเวทย์แล้วและเธอสามารถเปลี่ยนมันให้เป็นหอกเวทย์ได้แล้ว เอ็ดเวิร์ดเองก็น่าจะทําได้เช่นกัน

 

แน่นอน…โรแลนด์นั้นไม่ได้จะสอนเขา เพราะถึงอย่างไร หากเอ็ดเวิร์ดติดต่อกับเขามากเกินไป คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะเบนไปเป้าหมายไปที่เอ็ดเวิร์ด

 

“ลองดูก่อน เพราะยังไงฉันก็ไม่คิดเงินอยู่แล้ว ต่อให้นายพลาดแรงสะท้อนของเวทย์ระดับศูนย์ก็ไม่ทําให้นายตายหรอก”

 

เมื่อพูดจบโรแลนด์ก็ออกไปทันที

 

เอ็ดเวิร์ดนั้นมองแบบวาดที่อยู่บนโต๊ะด้วยความเงียบ จากนั้นเขาก็เช็ดน้ำตาของตัวเองและเมื่อกําลังจะเก็บแบบวาดประตูก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง เด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาก็เดินเข้ามาขณะกําลังขยตา

 

“พี่รอง ท่านมาอยู่นี่เองงั้นเหรอ ท่านทําให้ข้ากลัวนะ ข้าคิดว่าท่านเองก็ไม่ต้องการข้าแล้วออกไปแล้วเสียอีก” ชายหนุ่มอายุน้อยมีท่าทางวิตกกังวลบนใบหน้า

 

“อย่ากังวลไปเลย พวกเราสองพี่น้องนั้นจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” เอ็ดเวิร์ดมองไปที่น้องชายคนเล็กของเขา จากนั้นก็มองไปยังแบบวาดที่อยู่บนโต๊ะ เขานั้นตัดสินใจแล้ว

 

โรแลนด์นั้นย่องกลับไปยังหอคอยเวทย์และเปลี่ยนชุดกลับมาใส่ชุดคลุมเวทย์ดังเดิม

 

จากนั้นวิเวียนก็เดินเข้ามา ที่ขอบตาของเธอมีรอยดําเล็กๆขึ้นอยู่ เธอเสิร์ฟขนมและเครื่องดื่มผลไม้ จากนั้นก็มองไปที่โรแลนด์และพูดว่า “รองประธาน ท่านน่าจะทํางานมาหนักนี่อาหารเช้าของท่าน”

 

อาหารเช้า? นี่มันพึ่งตีสองตีสามเองนะ มันยังไม่ใช่เวลาอาหารเช้าสักหน่อย!

 

ทว่าท้องของโรแลนด์ก็ร้องขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองก็หิวนิดๆเช่นกัน

 

ดังนั้นเขาจึงยิ้มและขอบคุณวิเวียนไป

 

วิเวียนเดินออกจากห้องวิจัยของโรแลนด์ด้วยรอยยิ้ม

 

รองประธานนั้นไม่ได้มีกลิ่นผู้หญิงบนตัวเขา และเขาก็ไม่ได้มีท่าทีที่อ่อนแรงนั่นหมายความว่าเขาไม่ได้ทําเรื่องอย่างว่ามา

 

ดีมาก ดีมากๆ!

 

วิเวียนคิดว่าเธอนั้นน่าจะได้นอนหลับฝันดีสักที

 

หลังจากกินขนมอบ โรแลนด์ก็เริ่มที่จะศึกษารูปแบบเวทย์ที่พัฒนาแล้วของหุ่นเวทย์ต่อ

 

ความสามารถของเวทย์นั้นค่อนข้างจํากัด ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีที่จะใช้ความสามารถที่จํากัดนี้ของหุ่นเวทย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

เขาเริ่มศึกษาไปแบบนั้น จากนั้นเวลาก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง และเวลาภายในเกมก็หยุดลงอีกครั้ง

 

เขาปืนออกจากแคปซูลเสมือนจริง จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองเพื่อเข้าไปยังหน้าเว็บหลักของเกม และพบเข้ากับการประกาศอัปเดต

 

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์
Score 6.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์ ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset