หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 111

ตอนที่ 111 : ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว

 

ความเชี่ยวชาญทางด้านมิติ : ลดความยากในการร่ายเวทย์มิติลงหนึ่งระดับ ลดมานาการใช้ลง 20% และเพิ่มเอฟเฟคของเวทย์ขึ้น 20%

 

ทั้งสามเอฟเฟคนั้นต่างมีประโยชน์ทั้งสิ้น ลดความยากในการร่ายเวทย์ลงนั่นหมายถึงโรแลนด์ สามารถเรียนเวทย์มิติระดับสูงได้ง่ายขึ้น ในการต่อสู้ การที่สามารถร่ายเวทย์ได้ง่ายขึ้นหมายถึง อัตราความสําเร็จของการร่ายเวทย์นั้นพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน

 

มันมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณาในการต่อสู้ ไม่ว่าใครก็สามารถร่ายเวทย์พลาดได้ หากพวกเขานั้นยังไม่คุ้นชินและชํานาญในเวทย์นั้นๆ นอกจากนี้พวกศัตรูก็สามารถมาขัดขวางนักเวทย์ได้ ดังนั้นความยากในการร่ายเวทย์จึงค่อนข้างสําคัญในการต่อสู้ ยิ่งร่ายได้ง่ายขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

 

นี่ถึงเป็นเหตุผลว่าทําไมมันถึงหาได้ยากที่นักเวทย์จะสามารถชํานาญเวทย์ระดับสูงได้ตั้งแต่แรก

 

เหตุผลว่าทําไมโรแลนด์ถึงเลือกความเชี่ยวชาญทางมิติทันทีเลยนั่นก็เพราะมันมีแบบจําลองเวทย์ของเวทย์มิติอยู่ภายในห้องสมุดของหอคอยเวทย์

 

เวทย์เคลื่อนย้าย!

 

มันเป็นเวทย์ระดับสาม แต่เพราะมันเป็นเวทย์มิติ ความยากของมันจึงเป็นแค่เวทย์ระดับสองสําหรับโรแลนด์

 

เวทย์เคลื่อนย้ายนั้นถูกถ่ายเก็บเข้ามาในระบบของเขามานานแล้ว หลังจากเรียนความเชี่ยวชาญมิติแล้วเขาก็รีบเรียนเวทย์เคลื่อนย้ายในทันที

 

เขานั้นต้องการเรียนรู้เวทย์นี้มานานแล้ว

 

เวทย์เคลื่อนย้ายนั้นจะช่วยพัฒนาความสามารถในการต่อสู้ของนักเวทย์ได้อย่างมาก อาทิเช่น พวกเขานั้นสามารถใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศเพื่อเข้าต่อสู้ระยะประชิดกับศัตรู

 

นอกจากนั้นมันยังสามารถใช้ในการเคลื่อนย้ายได้อีกด้วย

 

ในความเห็นของโรแลนด์ นั่นเป็นเวทมนตร์ที่นักเวทย์ทุกคนจําเป็นต้องเรียน

 

โรแลนด์มองไปยังแบบจําลองเวทย์ซ้ําไปซ้ํามาและเริ่มจดจํามันกว่า 200 จุดอย่างช้าๆ ในเวลาเดียวกัน เขานั้นก็เริ่มทําการคาดเดาความสามารถของจุดเวทย์แต่ละจุด

 

สองชั่วโมงต่อมา เขาก็เริ่มทดสอบการเชื่อมต่อกันระหว่างจุดเวทย์

 

ในชั้นสองนั้น วิเวียนกําลังใช้แขนเวทย์เล็กๆของเธอหยิบแก้วที่เต็มไปด้วยน้ําอย่างระมัดระวัง

 

นี่เป็นวิธีที่เธอใช้ในการฝึกฝน โดยแท้จริงแล้ววิธีนั้นถูกสอนโดยโรแลนด์

 

นักเวทย์ฝึกหัดทั้งหมดในหอคอยเวทย์นี้ปฏิบัติกับโรแลนด์ราวกับว่าเขานั้นเป็นอาจารย์ที่แท้จริงของพวกเขา

 

เพราะประธานนั้นมักจะไปอยู่ไหนก็ไม่รู้และยากที่จะพบเจอ ยิ่งไปกว่านั้นการสอนของประธานนั้นก็เลวร้ายเป็นอย่างมาก ก็แค่โยนแบบจําลองเวทย์ไว้ตรงหน้าพวกเธอและปล่อยให้พวกเธอฝึกฝนกันเอง พวกเธอนั้นต้องทําความคุ้นชินและเพิ่มความคุ้นเคยกับเวทมนตร์เพื่อเรียนรู้พวกมัน

 

ในขณะที่โรแลนด์นั้นต่างออกไปมาก เขานั้นคอยอธิบายทุกจุดเวทย์และสอนว่าพวกเรานั้นควรให้ความสําคัญในการเคลื่อนย้ายพลังเวทย์ไปยังแต่ละจุด

 

ในเวลาเดียวกัน เขานั้นก็สอนพวกเธอเกี่ยวกับเคล็ดลับในการเรียนเวทย์ เขานั้นกระทั่งสอนพวกเธอทุกคนตามระดับและพรสวรรค์ของแต่ละคน

 

มาตราฐานการสอนของพวกเขานั้นต่างกันราวกับกลางคืนและกลางวัน

 

ที่สําคัญไปกว่านั้น เมื่อโรแลนด์พบว่าหอคอยเวทย์อยู่ในอันตราย สิ่งแรกที่เขาทํานั้นไม่ใช่การส่งนักเวทย์ฝึกหัดที่แสนอ่อนแอไปยังแนวหน้า ทว่ากลับช่วยให้พวกเธอหลีกเลี่ยงจากอันตราย

 

แม้จะดีใจทว่าพวกเธอก็ยังเสียใจอยู่นิดๆเช่นกัน ทว่าไม่ว่าจะยังไง ในสายตาของพวกเธอ โรแลนด์นั้นมีภาพลักษณ์เป็นชายที่ “รักลูกน้อง”

 

ภายใต้ผลลัพธ์ของแขนเวทย์ แก้วค่อยๆลอยขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นมันก็เริ่มลงมาอยู่จุดเดิม

 

วิเวียนยกเลิกการร่ายแขนเวทย์ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างพึงพอใจ เธอนั้นคว้าผ้าขนหนูที่เธอได้เตรียมไว้และเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเธอ

 

เธอนั้นมองไปยังท้องฟ้าด้านนอก เธอได้ตั้งเวลาไว้แล้วและตอนนี้ก็น่าจะเป็นเวลาที่เธอต้องเตรียมอาหารเย็น ทว่าทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังเวทย์ที่เป็นเอกลักษณ์มาจากทางยอดของหอคอยเวทย์

 

นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนต่างมีพื้นฐานในการสัมผัสพลังเวทย์ ดังนั้นวิเวียนจึงมีนงงไปแค่สองสามวิเท่านั้น ก่อนที่เธอจะเข้าใจได้ทันทีว่ามันเป็นคลื่นพลังเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยพลังจิตของโรแลนด์

 

คลื่นพลังเวทย์นั้นแตกต่างจากครั้งก่อน ในตอนนี้มันแข็งแกร่งกว่าเดิม และความถี่ของการผันผวนก็เปลี่ยนแปลงไป

 

ดวงตาของวิเวียนเปิดกว้าง เธอเข้าใจว่ามันเป็นสัญญาณที่หมายถึงโรแลนด์นั้นแข็งแกร่งขึ้น เขานั้นเป็นนักเวทย์ชั้นแนวหน้าเรียบร้อยแล้ว

 

เธอผลักประตูออกไปอย่างตื่นเต้นและกําลังมุ่งหน้าเพื่อไปแสดงความยินดีกับโรแลนด์ ทว่าเมื่อเธอออกมา เธอก็พบว่านักเวทย์ฝึกหัดทั้งหมดก็ได้ออกจากห้องของพวกเขาไปเรียบร้อยแล้ว

 

พวกเขานั้นยืนขวางอยู่ตรงขั้นบันได

 

ทุกคนมองไปยังวิเวียน วิเวียนนั้นน่าจะเป็นตัวเลือกที่เยี่ยมที่สุดในหมู่พวกเขาที่จะไปแสดงความยินดีกับรองประธานโรแลนด์

 

กลุ่มของนักเวทย์ฝึกหัดนั้นคาดหวังกันว่าวิเวียนนั้นจะกล้าแสดงความยินดีอย่างมาก โดยให้ดีที่สุดคือให้เธอได้อยู่ร่วมกับเขาสักคืน

หน้าของวิเวียนนั้นแดงขึ้นเล็กน้อย ทว่าเธอก็กัดฟันรวบรวมความกล้าและเดินหน้าต่อไป

 

ความผันผวนของพลังเวทย์นั้นเริ่มลดลงทว่าความถี่ของมันกลับสูงขึ้น

 

นี่มัน…ความผันผวนของเวทย์มิติ?

 

นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนหันมามองหน้ากัน ดวงตาของพวกเขาเปิดกว้างขึ้น

 

เวทย์มิตินั้นเป็นเวทย์ที่ยากมากที่สุดเป็นรองแค่เพียงเวทย์ทํานายเท่านั้น ถ้าหากเวทย์ป้องกันหมายถึงการรอดชีวิตของนักเวทย์ เวทย์กระตุ้นแทนการโจมตีอันรุนแรงของนักเวทย์ เวทย์มิตินั้นก็หมายถึงสองสิ่งนั้นผสมกัน

 

เมื่อรองประธานโรแลนด์เชี่ยวชาญในเวทย์มิติ พวกเขานั้นก็สามารถเรียนรู้บางสิ่งจากเขาได้เช่นกัน

 

วิเวียนนั้นตั้งใจจะไปแสดงความยินดีกับโรแลนด์ ทว่าก็ละทิ้งความคิดนั้นไปทันที

 

เมื่อนักเวทย์ได้เริ่มทําการทดลองแล้ว พวกเขานั้นไม่ต้องการที่จะถูกรบกวน

 

นักเวทย์ฝึกหัดทั้งหลายต่างระงับความตื่นเต้นและกลับไปยังห้องของตัวเอง หลังจากนั้น บริเวณโถงทางเดินก็เหลือเพียงคลาอัสและวิเวียน

 

“วิเวียนข้านั้นมีบางสิ่งที่อยากจะคุยกับเจ้า” คลาอัสพูดขึ้นมาขณะเดินไปหาวิเวียน

 

วิเวียนนั้นมึนไปเล็กน้อย “อะไรงั้นเหรอ?”

 

ท่าทางของคลาอัสดูจริงจังเป็นอย่างมาก ทําให้วิเวียนสับสนเล็กน้อย

 

คลาอัสชี้ไปยังโต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ วิเวียนก็เข้าใจได้ทันที พวกเขาก็เริ่มเดินไปทางนั้น

 

วิเวียนนั้นนั่งลงก่อน

 

คลาอัสนั่งลงตรงกันข้ามกับวิเวียนพร้อมพูดว่า “ข้าสามารถบอกได้เลยว่ารองประธานยังไม่ได้สัมผัสเจ้าเลย”

 

วิเวียนหน้าแดงขึ้นมาและเริ่มโกรธเล็กน้อย “เจ้าต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ คลาอัส!”

“สิ่งที่ข้าต้องการจะบอก” คลาอัสพูดอย่างจริงจัง “รองประธานนั้นเป็นอัจฉริยะ อัจฉริยะที่แท้จริง พวกเรานั้นมีของไม่มากนักภายในหอคอยเวทย์แห่งนี้ที่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาไว้ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะดูไม่ร่ํารวยนัก แต่เขาก็ไม่ใช่คนโลภ”

 

วิเวียนขมวดคิ้ว เธอนั้นไม่เข้าใจว่าคลาอัสต้องการจะสื่ออะไร

 

“ยังไงเขาก็จะจากไป หลังจากรองประธานได้สร้างเวทย์ขึ้นมา เขานั้นจะต้องโด่งดังมากภายในทุกสมาคมอย่างแน่นอนในอนาคต เมื่อถึงตอนนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือเมื่องอื่นๆจะต้องพยายามเชิญชวนเขาไปอย่างแน่นอน” น้ําเสียงของคลาอัสนั้นแฝงไปด้วยความวิตกกังวล “พวกเรานั้นเป็นแค่สาขาย่อยเท่านั้น พวกเราไม่มีเงินมากนักรวมถึงทรัพยากร สิ่งที่พวกเราพอจะมีดีก็คือ เจ้านักเวทย์ฝึกหัดสาวแสนสวย ถึงแม้ว่าหอคอยเวทย์แห่งอื่นจะมีนักเวทย์ฝึกหัดหญิงเช่นกัน แต่มันก็ไม่ได้มีคนที่สวยและมีบุคลิกภาพที่ดีเท่าเจ้าแล้ว”

 

วิเวียนนั้นเข้าใจสิ่งที่คลาอัสต้องการจะสื่อทันที

 

คลาอัสพูดต่อว่า “รองประธานของเรานั้นจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มันต้องมีสักวันที่เขาจะจากที่นี่ไป ทว่าเจ้าก็ยังไม่ได้เริ่มเตรียมการใดๆเลย เจ้านั้นต้องรุกให้มากกว่านี้ จะเกิดอะไรขึ้นหากรองประธานจากไปแล้วเขาไม่ได้นาเจ้าไปกับเขาล่ะ?”

วิเวียนรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา

 

“ถ้าเจ้าพยายามตั้งแต่ตอนนี้ เจ้านั้นสามารถใช้ร่างกายของเจ้าดึงดูดรองประธานโรแลนด์ไว้ได้ เมื่อเป็นอย่างนั้นมันจะทําให้เขาพัฒนาได้ช้าลง นั่นจะช่วยขยายเวลาก่อนที่เขาจะจากพวกเราไปได้ พวกเรานั้นจะได้รับคําสอนและคําแนะนํามากยิ่งขึ้น”

 

วิเวียนรู้สึกอับอายเล็กน้อย ทว่าสายตาของเธอนั้นดูผิดปกติเป็นอย่างมาก “คลาอัส เจ้าดูเห็นแก่ตัวจังนะ”

 

คลาอัสหัวเราะออกมา “เพื่ออาจารย์ที่ดีขนาดนี้ใครกันบ้างที่จะไม่เห็นแก่ตัว? ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็เห็นแก่ตัวที่พยายามเข้าหารองประธานโรแลนด์หรอกหรือ?”

 

วิเวียนนั้นเงียบลงไปในทันที

 

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์
Score 6.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์ ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset