หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 114

ตอนที่ 114 : ลางบอกเหตุ

 

บรรยากาศค่อนข้างมืดมน

 

ฟ่านลิ่วยี่มองมาทที่เขาพร้อมยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ดูเหมือนว่าฉันจะละลาภละล้วงเกินไปหน่อยสินะ ต้องขอโทษด้วย”

 

จากนั้นยืนขึ้นพร้อมเดินจากไป

 

นักกวีนักจากไปพร้อมกับฟ่านลิ่วยี่ ในขณะที่เขาเดินจากไปเขามองไปยังเบทต้าด้วยท่าทีที่รุนแรง

 

เมื่อสองคนนั้นออกไปแล้ว เบทต้าก็ถามอย่างสงสัยว่า “ทําไมพี่ถึงไม่ปฏิเสธเธอให้มีชั้นเชิงกว่านี้กันละครับ บางทีพี่อาจจะได้เป็นเพื่อนกับเธอก็ได้”

 

“มันไม่มีประโยชน์อะไรในการทําแบบนั้น เราทั้งคู่ถูกลิขิตให้อยู่ในโลกที่ต่างกัน” โรแลนด์ยิ้มพร้อมถามว่า “นายบอกไว้ในกิลด์ว่านายกําลังจะออกจากเมือง เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”

 

เบทต้าพูดอย่างมีความสุขว่า “ผมเลเวล 5 แล้วครับ”

 

โรแลนด์ม็นไปทันที “เร็วขนาดนั้นเลย?”

 

“ในช่วงนี้ผมนั้นทําภารกิจไปเป็นจํานวนมาก” เมื่อพูดเบทต้าก็มีท่าทีที่ตื่นเต้นเล็กน้อย “มันมีสายทั้งหมดสามสายสําหรับขุนนางผู้สูงศักดิ์ แต่ว่าไม่ว่าสายไหนก็ตาม พวกเขานั้นสามารถทําสัญญากับห้าอัศวินโต๊ะกลมเพื่อให้เขามาเป็นลูกน้องได้ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และพวกเขาจําเป็นต้องเป็น NPC ในเกมเท่านั้น ผู้เล่นนั้นไม่สามารถทําสัญญาด้วยได้”

 

“พี่รู้สึกเหมือนว่าการทําสัญญาอัญเชิญเลย?” โรแลนด์ถาม

 

เบทต้าพยักหน้าและพูดว่า “นั่นก็จริง ทว่าอัศวินโต๊ะกลมของผม แต่ละคนนั้นสามารถทําสัญญากับอัศวินระกับล่างได้อีกห้าคน และยิ่งกว่านั้นอัศวินระดับล่างสามารถทําสัญญากับอัศวินฝึกหัดได้อีกห้าคนเช่นกัน”

 

“เดี๋ยวก่อนนะ!” โรแลนด์มันงงไปทันที ท่าทางของเขานั้นดูประหลาดอย่างมาก “ทําไมพี่รู้สึกว่าอาชีพของนายเหมือนกับนักการตลาดแบบเครือข่ายบุคคลเลย?”

 

เบทต้ากางแขนออกอย่างสุภาพพร้อมยิ้ม “นี่เรียกว่าวิธีการที่ถูกต้องในการปลดล็อคอาชีพลับต่างหากล่ะครับ”

 

มันมีวิธีมากมายในการเล่นเกมนี้ โรแลนด์ยิ้มอย่างขมขึ้นและกล่าวว่า “ที่นายบอกพี่มานี้ ทําให้พี่อยากลบบัญชีและเริ่มฝึกฝนเพื่อเป็นขุนนางผู้สูงศักดิ์เลยแหะ พี่จะรวยและมีลูกน้องมากมาย เมื่อลองคํานวนในขั้นสุดท้ายแล้วขุนนางผู้สูงศักดิ์จะมีลูกน้องถึง 155 คนเชียวนะ และพวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการพัฒนาแล้ว”

 

“ถ้าตามสิ่งที่ผมเห็นในตอนนี้มันก็น่าจะเป็นอย่างงั้นแหละครับ” เบทต้าดื่มไวน์ผลไม้เข้าไปเต็มปาก

 

โรแลนด์เกาหัวของเขา “นายเลยจะออกจากเมืองเดลพอนเพื่อหาอัศวินโต๊ะกลมของนายสินะ?”

 

เบทต้าพยักหน้า “ใช่ครับ พวกจะลองไปหาพวกที่มีค่าสถานะในการเติบโตดีๆ มีบุคลิกภาพที่ดี เพื่อให้เขามาเป็นอัศวินของผม ผมไม่สามารถสุ่มเลือกพวกเขาได้”

 

ตรรกะนี้มันก็ไม่ผิดหรอก

 

ถึงแม้ว่าโรแลนด์จะยังกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับความจริงที่ว่าเบทต้านั้นยังเด็กและถูกหลอกได้ง่าย แต่ถูกหลอกภายในเกมมันก็คงไม่นักเท่าไหร่นัก มันคงไม่แย่หรอกมั้งถ้าเขาปล่อยให้เขาไปคนเดียว

 

ดังนั้นโรแลนด์จึงถามไปว่า “นายจะออกเดินทางตอนไหน?”

 

“ พรุ่งนี้ครับ” เบทต้าคิดไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับมา “ผมจะไปซื้อม้าไว้ช่วยขนของและพาลิซ่าไปด้วย สําหรับบ้านของผม ผมให้พี่เลยครับพี่โรแลนด์”

 

“ฉันจะดูแลแล้วเก็บเอาไว้ให้นาย” โรแลนด์ไม่อยากจะเอาผลประโยชน์มาไว้กับตัวเอง “การอาศัยอยู่ในหอคอยเวทย์นั้นทั้งสุขสบายและสะดวกอยู่แล้ว”

 

“แล้วแต่พี่เลยครับ” เบทต้าไม่ได้สนใจนัก

 

พวกเขาทั้งคู่ต่างไม่สนใจเรื่องเงินนัก บ้านหลังนั้นคงขายได้แค่ไม่กี่เหรียญทอง แต่ทว่าไม่มีใครสักคนในพวกเขาใส่ใจมันแม้แต่น้อย

 

แน่นอน…ถ้าหากคนเป็นคนนอก พวกเขานั้นจะได้กําไรอย่างมากแน่นอน

 

ทั้งสองคนชนแก้วและดื่มไวน์กัน เมื่อเวลาผ่านไปแขกที่หมดสติก็เริ่มได้สติขึ้นมา

 

กลุ่มคนต่างต่างส่งเสียงพูดคุยเกี่ยวกับนักเต้นสาวที่สวยอย่างน่าเหลือเชื่อกัน โดยอ้างว่าพวกเขานั้นจะขอเธอแต่งงานด้วย ทว่าเมื่อพวกเขาพูดขึ้น พวกเขาก็จะทําให้อีกคนโกรธและการทะเลาะวิวาทก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นความวุ่นวาย

 

ทว่าไม่ว่ามันจะวุ่นวายขนาดไหนคนเหล่านี้ก็ยังมีเหตุผลและไม่กล้าที่จะ “เล่นบริเวณ” ที่โรแลนด์และเบทต้าอยู่

 

เบทต้านั้นดื่มจนเขาเริ่มขึ้น จากนั้นเขาก็ถูกสาวใช้ของเขาลิซ่าพาตัวไป

 

โรแลนด์นั้นยังคงอยู่เพื่อที่จะจ่ายเงิน กลูนั้นเดินเข้ามา

 

เขาวางกระดาษสองสามแผ่นลงตรงหน้าโรแลนด์อย่างสุภาพพร้อมพูดว่า “นี่เป็นข้อมูลที่พวกข้าพบในการสํารวจข้อมูล ข้านั้นไม่สามารถรับรองให้ได้ว่าข้อมูลพวกนี้ล้วนถูกต้อง 100% ทว่าพวกข้านั้นพยายามอย่างเต็มที่แล้ว”

 

“ข้าจะนําทางท่านไปยังห้องลับในครั้งที่แล้ว”

 

สองนาทีต่อมา โรแลนด์นั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องลับและมองไปยังกระดาษที่อยู่ในมือของเขา

 

ยิ่งเขาอ่านมันมากเท่าไหร่เขายิ่งขมวดคิ้วมากขึ้นเท่านั้น ในท้ายที่สุดเขาก็ถามออกมาว่า “ไม่ใช่ว่ามันมีข้อมูลอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับแก๊งงูหางกระดิ่งใช่ไหม?”

 

หลังของกลุงอลงเล็กน้อยเขายิ้มอย่างขมขึ้นและพูดว่า “แก๊งงูหางกระดิ่งคือศัตรูของพวกข้า พวกข้านั้นรู้จักพวกมันดีกว่าพวกมันรู้จักตัวเองเสียอีก ดังนั้นโดยส่วนตัวข้าคิดว่าข้อมูลนี้ไม่น่าผิดพลาด”

 

แก๊งงูหางกระดิ่งลักพาตัวครอบครัวของลิซ่า และจากนั้นพวกมันก็ถูกทําลายล้างโดยบาร์ด

 

“เป็นเรื่องที่ฉันคาดไม่ถึงจริงๆ” โรแลนด์พึมพัมกับตัวเองเบาๆ

 

จากนั้นเขาสะบัดแขนของตัวเองเล็กน้อยไฟก็ถูกจุดติดขึ้นที่ปลายนิ้วของเขา เผากระดาษนั่นจนเป็นผุยผง

 

“เตรียมส่งเด็กมาหลายๆคนหน่อยละ ฉันจะเลือกไปเพียงแค่หนึ่งหรือสองคนเท่านั้นที่มีพรสวรรค์มากที่สุด บางทีอาจจะสองหรือสามคนเพื่อให้เป็นนักเวทย์ฝึกหัด” โรแลนด์ยืนขึ้น “นั่นเป็นข้อตกลงที่พวกเราตกลงกันไว้แล้ว”

 

กลูถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก เขานั้นกังวลอยู่ตลอดว่าโรแลนด์นั้นจะไม่พอใจกับข้อมูลของเขา ทว่าในที่สุดหัวใจของเขาก็กลับไปยังจุดเดิมของมันได้เสียที เขานั้นยิ้มขึ้นทันทีพร้อมกล่าวว่า “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้า พวกข้านั้นจะจัดการทุกสิ่งให้เสร็จสิ้นภายในสามวัน”

 

โรแลนด์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “อีกเรื่องการสอนของฉันค่อนข้างเข้มงวดและอาจจะมีการลงโทษเล็กน้อย ฉันหวังว่านายจะไม่ถือนะ”

 

เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของกลูกกลายเป็นเย็นชา “ท่านไม่จําเป็นต้องพูดถึงมันเลย หากเด็กๆเหล่านั้นเริ่มทําตัวไม่ดี ท่านสามารถจัดการพวกเขาได้เลย ทําตามที่ท่านต้องการ มันไม่เป็นอะไรต่อให้ท่านฆ่าพวกมันทิ้งไปก็ตาม”

 

กลูหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ

 

ในโลกนี้นั้น การได้รับโอกาสจากนักเวทย์อย่างเป็นทางการนั้นน้อยมากๆ หากมันมีโอกาสที่ดีปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา ทําไมพวกโง่เง่านั้นถึงต้องได้รับโอกาสให้มีชีวิตอยู่ต่อไปหากพวกมันไม่เชื่อฟังและปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือไป

 

ปล่อยให้เป็นปลิงไปอย่างงั้นเหรอ?

 

เมื่อมองดูใบหน้าที่จริงจังของกลู โรแลนด์ก็ถอนหายใจออกมา

 

เขาจําได้ว่าเมื่อตอนเขาอยู่ประถม พ่อของเขานั้นพาไปยังโรงเรียน และเมื่อเขาเห็นอาจารย์ เขาก็พูดว่า “อาจารย์ผมต้องรบกวนคุณแล้วเกี่ยวกับลูกของผม หากเขาเกเรละก็ ทุบตีเขาได้ตามสบาย ตราบใดเท่าที่เขายังไม่ตาย ต่อให้ข้าเขาหักก็ไม่เป็นไร อีกสองสามเดือนเขาก็ดีขึ้นเอง”

 

โรแลนด์ยังคงจําท่าทางที่จริงจังของพ่อเขาได้ มันไม่ดูเหมือนเป็นการเล่นมุกหรือหยอกล้อเลยแม้แต่น้อย

 

คนรุ่นเก่าส่วนมากต่างเชื่อว่าการลงโทษเด็กที่ไม่เชื่อฟังนั้นอาจารย์จะถือว่าเป็นฝ่ายถูก

 

แต่ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว หากการลงโทษของพวกอาจารย์ทั้งหลายถูกนําเข้าสู่ในโลกออนไลน์ อาจารย์เหล่านั้นก็จะโดนชาวเน็ตต่อว่า

 

หลังจากกลับมายังหอคอยเวทย์ โรแลนด์เอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมพยายามนึกถึงข้อมูลในกระดาษเหล่านั้น ปริศนามากมายที่ทําให้เขาชะงักไปได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว

 

เขานั้นได้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ที่เหลือก็แค่ตรวจสอบเท่านั้น

 

แต่ยิ่งมีการเปิดเผยมากขึ้นเท่าไหร่ โรแลนด์ก็ยิ่งเงียบมากขึ้นเท่านั้น เขานั้นไม่ได้พูดถึงคดีเด็กสาวที่หายไปตัวอีกต่อไปราวกับว่าคดีนี้ได้จบลงไปแล้ว

 

จากนั้นเขาก็ทุ่มเวลาของเขาไปกับการทดลองเวทย์

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วใน ตอนนี้มันก็ผ่านไปสองเดือนแล้ว

 

โรแลนด์นั้นเดินออกมาจากห้องทดลองเวทย์ด้วยทรงผมที่กระเซอะกระเซิง มันยากมากที่จะสร้างรูปแบบเวทย์ที่พัฒนาแล้วของเวทย์เคลื่อนย้าย เขานั้นไม่มีความคืบหน้าเลยแม้แต่น้อย และเขาก็ไม่ได้กินอะไรมากว่าสองวันแล้ว

 

ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าร่างกายของผู้เชี่ยวชาญนั้นแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามาก เกรงว่าเขาคงจะไม่สามารถอดทนได้ถึงขนาดนี้

 

เมื่อเขานั้นกําลังคิดที่จะออกไปหาอะไรกิน วิเวียนก็เดินเข้ามาพร้อมพูดว่า “ท่านรองประธาน มีออร์คที่ดูทรงพลังอยากจะพบท่าน”

 

ออร์คมาที่นึ่งั้นเหรอ!

 

ได้เวลาดึงตาข่ายจับเหยื่อแล้ว

 

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์
Score 6.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์ ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset