ตอนที่ 127: ต้องใช้วิธีการที่เฉพาะ
โรแลนด์ไม่รีบร้อนที่จะออกไป เนื่องจากผู้เล่นมีระยะห่างจากเมืองมอลลีแตกต่างกันไป พวกเขาจึงตกลงเวลากันในฟอรั่มและนัดเจอกันในป่าทางตะวันออกของมอลลี่ภายใน 10 วัน
ขณะนี้มีผู้เล่นมากกว่าร้อยคนได้บอกว่าพวกเขานั้นเอาด้วย แต่โรแลนด์คาดว่าน่าจะมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่จะมาจริงๆโดยไม่มีปัญหาอะไร
นี่ไม่ใช่โลกในยุคปัจจุบันที่ไม่ว่าใครๆต่างก็มีรถให้ขับและเดินทางไปได้หลายร้อยกิโลเมตรบนถนน หรือนั่งรถไฟความเร็วสูงหรือเครื่องบินและมาถึงในไม่กี่ชั่วโมง
นี่คือโลกของมนุษย์ที่ต่างออกไปมีการเดินทางแบบล้าหลังมาก ยิ่งไปกว่านั้นนอกเหนือจากระยะทางแล้ว พวกเขานั้นยังคงต้องประสบอันตรายจากสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ระหว่างเมือง, ทั้งเหล่าสัตว์ปาหรือสัตว์อสูร
โรคภัย, สภาพอากาศ และเหตุฉุกเฉิน สิ่งเหล่านี้นั้นจะทําให้ผู้คนหายไประหว่างการเดินทาง
ที่นักเดินทางและพ่อค้าสามารถทําเงินได้จํานวนมาก เนื่องจากพวกเขาต่อสู้กับพวกมันด้วยชีวิตของพวกเขา
ไม่เหมือนกับโรแลนด์ที่เข้าร่วมกับองค์กรและได้รับเงินเดือน ผู้เล่นส่วนใหญ่นั้นต่างยากจน ดังนั้นพวกผู้เล่นที่ฉลาดพอมักจะใช้ประโยชน์จากกระเปามิติของระบบ
ในทางกลับกันมันสบายเป็นอย่างมากสําหรับพวกผู้เล่นที่จะเดินทางไปพร้อมกับพ่อค้า สําหรับพวกเขาเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ในกลุ่มสามถึงห้าคน ความแข็งแกร่งของเขาถือว่าอยู่ในอีกระดับหนึ่งโจรธรรมดาไม่กล้าที่จะทําอะไรทุ่มบ่ามกับพวกเขา
และต่อให้พวกเขาถูกปล้น สินค้าทั้งหมดก็ถูกเก็บไว้อยู่ในกระเป๋ามิติและไม่มีทางสูญหาย มันปลอดภัยเป็นอย่างมากและอย่างแย่ที่สุดพวกเขาก็แค่ไปทางอ้อมเท่านั้น
กระเป๋ามิตินั้นสามารถเก็บของไว้ได้เป็นจํานวนมาก สิ่งที่พวกเขาต้องทําก็แค่หาของที่เล็กและมีค่าเพื่อขนย้ายมัน
ถ้าหากทําเช่นนี้ภายในหนึ่งเดือนพวกเขาก็จะสามารถได้หนึ่งถึงสองเหรียญทองได้
จากนั้นหากมีผู้เล่นคนอื่นต้องการหาเงินด้วยวิธีดังกล่าวในช่วงสั้นๆ แนวโน้มของ “การดําเนินธุรกิจ” ก็เกิดขึ้น
โดยใช้ฟอรั่มพวกเขานั้นสามารถพูดคุยเกี่ยวกับสินค้าที่สูญหายไประหว่างทางและระบุชัดเจนว่าอยู่ตรงไหนของประเทศ
โรแลนด์นั้นทุ่มเวลาของเขาอยู่ในเดลพอนเพื่อศึกษาเวทย์และไม่ได้ออกไปข้างนอกมากนัก ดังนั้นเขาเลยไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องของผู้เล่นในปัจจุบันมากนัก
ตอนนี้นอกจากฉายาสองฉายาอมตะ และบุตรทองคําแล้ว พวกเขานั้นจะถูกเรียกด้วยอีกฉายาหนึ่งด้วยว่า “พ่อค้าผู้ยอดเยี่ยมจากต่างโลก”
พวกผู้เล่นที่เป็นพ่อค้าที่เดินทางนั้นเป็นเพียงแค่ “แรงงานที่ไร้ทักษะเท่านั้น” และอยู่ในชนชั้นที่ต่ําที่สุด ขณะที่ผู้เล่นระดับสูงนั้นต่างสามารถควบคุมราคาของไอเทมพิเศษบางอย่างในเมืองของพวกเขาได้แล้ว
อาทิเช่นพวกคนรอบๆตัวประธานหวงหรือฟ้านลิวยี
แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรแลนด์นัก
หลักจากเขาตอบกลับกระทู้นั่นไป เขาก็ยังคงอยู่ในหอคอยเวทย์ต่ออีกสองวันเพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างนั้นเรียบร้อยหลังจากที่จอห์นคนพ่อนั้นกลับมา อีกฝ่ายนั้นยังไม่ได้ทําอะไรที่รุนแรงนัก เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้นเขาเลยเลือกที่จะออกเดินทางไปในที่สุด
แต่ก่อนที่เขาจะออกจากเมืองไปเขาได้เดินทางไปหาฮอร์กและลิงค์
ตอนนี้ที่ท่าเรือของที่นี่นั้นเริ่มขยายขนาดขึ้นแล้วแ ละส่วนต่อไปคือสิ่งที่ยากที่สุด คือการดึงดูดนักลงทุนและขยายช่องทางการค้า
ฮอร์กนั่งอยู่บริเวณที่สูงและมองลงมาที่ท่าเรือซึ่งตอนนี้เริ่มสมบูรณ์แล้ว
สําหรับวิศวกรอย่างเขาการเป็นผู้นําในการทําโครงการที่ใหญ่ขนาดนี้ได้สําเร็จ เป็นสิ่งที่เขาสามารถเอาไปใช้คุยโม้ได้ทั้งชีวิต
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่เกมก็ตาม
โรแลนด์นั้นพบเข้ากับฮอร์ก เขาหยิบเหรียญทองออกมาเต็มสองกํามือจากกระเป๋ามิติของเขา และน้ํามันวางไว้ในแขนขนาดใหญ่ของฮอร์ก “นี่ 20 เหรียญทอง นายนับเอาได้เลย”
“รอบนี้มากขนาดนี้เลยเหรอ?” ดวงตาของฮอร์กเบิกกว้างขึ้น
ตอนนี้ปีกสีเงินนั้นกําลังตะกุยทางสู่อนาคตของพวกเขาด้วยเงิน ดังนั้นพวกเขาจึงรับซื้อเหรียญทองทุกเหรียญที่โรแลนด์มี
โรแลนด์นั่งลงและพูดว่ “ในช่วงหลายวันก่อน มีคนเจอรูปปั้นของฉันในเมืองหลวงแล้วและเริ่มเรียนสกิลของฉันแล้ว ตอนนี้มีหนึ่งถึงสองเหรียญทองเข้ามาในบัญชีของฉันในทุกๆวัน”
“ชิ โคตรดีเลยแค่นอนอยู่เฉยๆก็ได้เงินแล้ว” ฮอร์กถอนหายใจออกมา
“เมื่อปีกสีเงินเตรียมพร้อมเสร็จ พวกนายจะได้เงินมากกว่าฉันเยอะ” โรแลนด์มองไปเหล่าขอทาน “ฉันเดาได้เลยว่าหัวหน้าของพวกนายอาจจะต้องการสร้างบริษัทโลจิสติกด้านการขนส่งทางน้ําขึ้นมาในต่างโลก”
ฮอร์กยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
กิลด์ขนาดใหญ่นั้นต่างก็ยอดเยี่ยมในเรื่องพวกนี้ พวกเขานั้นมีคนที่มีพรสวรรค์และทรัพยากรจํานวนมาก และพวกเขาก็สามารถทําสิ่งใหญ่โตขึ้นได้อย่างมั่นใจ
“นายกของเมืองนั้นกลับมาแล้ว พวกนายจะทํายังไงต่อ?” โรแลนด์ถามออกมา
ฮอร์กซื้ออกไปและพูดว่า “จ่ายภาษีมากขึ้นเพื่อแลกกับการปกครองตนเองได้อย่างเต็มที่ พวกเราตั้งใจจะทําตามกฏของที่นี่ แต่ถ้าพวกเขานั้นโลภเกินไปและพยายามทําตัวมาเป็นเสาหลักของบริษัทโลจิสติกของกิลด์ปีกสีเงิน นั่นไม่มีทางเป็นไปได้ พวกผู้เล่นระดับแนวหน้าของหลด์ปีสีเงินนั้นกําลังจะมาที่นี่ นายคิดว่าต้องใช้ผู้เล่นที่คนในการทําลายเมืองกัน?”
“ฉันคงตอบว่าห้าสิบ” โรแลนด์พูดคิดหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ผู้เล่นนั้นเป็นอมตะ ยิ่งไปกว่านั้นผู้เล่นจากกิลด์ขนาดใหญ่ต่างมีระเบียบและผู้บัญชาการของพวกเขาต่างก็มีประสบการณ์กับ “แผนการรบ”
ด้วยเกมการต่อสู้แบบกลุ่มขนาดใหญ่อย่างชาโดว์เบนและแพลนเน็ตไซด์ ต่างช่วยยกรดับความสามารถทางกลยุทธ์และการบัญชาการของพวกแม่ทัพของกิลด์ขนาดใหญ่
สลับสับเปลี่ยน, แบ่งทัพ และจัดทําเกมสงครามในโทรศัพท์นั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาถนัดอยู่แล้ว
นอกจากนี้แผนการรบของจ้าวคั่วก็ไม่ได้แย่นัก เขาแค่โชคร้ายเท่านั้นที่เจอไปซี่
พวกเขานั้นได้ศึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์ของจ้าวคั่วที่มีพื้นที่ให้เติบโตอีกมากมาย แต่สิ่งที่พวกเขาโชคดีกว่าจ้าวคิ้วคือพวกเขานั้นมีโอกาสได้ลองถูกลองผิดมากมาย
NPC นั้นมีโอกาสเดียวเท่านั้น
ที่โรแลนด์ตอบมาว่าห้าสิบคนนั้นถือเป็นการคาดการณ์ที่ใกล้เคียง
ในตอนนั้นฮอร์กก็ยิ้มออกมา “พวกเรามีสมาชิกกิลทั้งหมด 83 คน”
เมื่อได้ยินดังนั้นโรแลนด์ก็หัวเราะออกมา
ผู้เล่น 83 คน ผู้เชี่ยวชาญ 83 คน ไม่ว่าจะเป็นนายกของเมืองไหนก็คงต้องหวาดกลัว
“นอกจากที่ฉันเอาเงินมาให้นายแล้ว ฉันอยากขอให้นายช่วยดูแลหอคอยเวทย์ให้หน่อย!” เขามองไปที่แม่น้ําที่ทอดยาวไปสุดขอบฟ้า โรแลนด์ก็พูดออกมาอย่างช้าๆว่า
“ฉันว่าแล้ว” ฮอร์กถอนหายใจออกมา “ฉันอ่านกระทู้นั่นแล้วและก็เห็นข้อความของนายด้วย ฉันเองก็อยากไปเหมือนกันแต่ฉันไม่สามารถออกไปจากตรงนี้ได้”
น้ําเสียงของเขาดูผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่สามารถเข้าร่วมเหตุกาณ์ที่พิเศษที่จะถูกทิ้งไว้ให้เป็นประวัติศาสตร์ภายในเกมได้ และนั่นทําให้เขารู้สึกแย่เป็นอย่างมาก
โรแลนด์ยิ้มและพูดว่า “ฉันจะช่วยแทนส่วนของนายเอง”
“ขอบใจมาก” น้ําเสียงของฮอร์กนั้นแอบซ่อนความขมขื่นไว้ภายใน มันน่ารังเกียจมากที่เห็นนักกล้ามที่ตัวราวกับเหล็กทําท่าทางอย่างนี้ออกมา
ด้วยท่าทางเสียใจบนใบหน้าของเขา โรแลนด์ก็ตบไปที่ร่างกายของเขาก่อนจากไป
เขานั้นจ้างรถม้าและคนขับรถภายในเมืองและออกไปจากเมืองเดลพอนอย่างช้าๆ
ถนนบนโลกนี้นั้นไม่ดีนัก เลยจําเป็นต้องเดินทางไปอย่างช้าๆแต่กลับดูไม่มั่นคง
การสั่นสะเทือนทําให้โรแลนด์รู้สึกอึดอัด จากนั้นเขาก็หันไปสนใจตรงบริเวณด้านหน้าของเขา และสังเกตุเห็นคนขับรถม้าที่พยายามขับอย่างตั้งใจ
คนขับม้านั้นเป็นชายชราผิวดําที่ดูไม่แข็งแรงนัก
โรแลนด์สงสัย “ทําไมนายถึงยอมออกเดินทางมากับฉันละ? ไม่ใช่ว่ามันค่อนข้างอันตรายหรอกเหรอ”
เสียงของคนขับรถม้าไม่ได้ดังนัก เสียงของเขานั้นแผ่วเบา “ตายบนท้องถนนก็ยังดีกว่าหิวตาย ครอบครัวของข้านั้นกําลังขาดแคลนอาหาร”
ไม่เกรงกลัวอันตรายเพื่อครอบครัวงั้นเหรอ?
เพราะว่าโลกนี้นั้นอันตรายเกินไป อัตราการเสียชีวิตนั้นสูงมากที่จะจ้างคนคุ้มกัน หรือคนขับรถม้าและอื่นๆนั้นต่างต้องจ่ายค่ามัดจําครึ่งหนึ่งก่อน
โรแลนด์นั้นได้จ่ายสิบเหรียญเงินให้แก่คนขับเรียบร้อยแล้วก่อนที่เขาจะออกมา เงินสิบเหรียญนั่นคงอยู่ในมือของครอบครัวเขาเรียบร้อยแล้ว
ค่าใช้จ่ายสําหรับการจ้างคนขับรถม้านั้นคือ 20 เหรียญเงินต่อรอบ
มันค่อนข้างแพงทว่าโรแลนด์กลับคิดว่ามันถูกเกินไปสําหรับชีวิตของมนุษย์
โชคดีที่ไม่ได้เกิดอะไรร้ายแรงนักตามทาง มีเพียงแค่สัตว์ปาไม่กี่ตัวออกมาจากทางปาด้านข้างถนนและจากนั้นมันก็ถูกแช่แข็งโดยโรแลนด์ในทันที
และจากนั้นมันก็กลายเป็นเสบียงในมือของคนขับรถ
สี่วันต่อมาเมื่อโรแลนด์มาถึงชานเมืองมอลลี่ เขาก็มอบเหรียญเงินที่เหลืออีกสิบเหรียญให้แก่คนขับไว้พร้อมพูดว่า “ถ้านายไว้ใจฉันให้นายไปรอฉันที่เมืองมอลลี่ซะ ในอีกไม่กี่วันฉันจะกลับไปเมืองเดลพอน ดังนั้นนายสามารถจะรับฉันกลับได้อีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าฉันจะหาตัวนายเจอได้ที่ไหน
“ท่านนักเวทย์ ท่านสามารถไปหาข้าที่คอกม้าได้ ข้าจะอยู่ที่นั่น”
โรแลนด์พยักหน้าและปล่อยให้คนขับรถม้าจากไป โรแลนด์เบิดฟอรั่มและพบกับแผนที่ของเมืองมอลลี่ที่ถูกโพสต์ไว้โดยผู้เล่นคนหนึ่ง เขานั้นตามแผนที่ไปและพบเข้ากับจุดรวมตัวในป่าภายในภูเขา
มีกระท่อมถูกสร้างขึ้นมา และมีผู้เล่นหลายคนรวมตัวกันอยู่หน้ากองไฟ พวกเขาย่างเนื้อของสัตว์อสูรที่ไม่มีใครรู้จักพร้อมทั้งพูดคุยและหัวเราะกันออกมา
โรแลนด์นั้นเดินเข้าไป พวกเขานั้นเริ่มสังเกตุเห็นเขา
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ก็มีผู้เล่นบางคนพูดออกมาด้วยความปราบปลื้มว่า “โอ้ นักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่โรแลนด์อยู่ที่นี่แล้ว มาเร็วมานั่งกินบาร์บีคิวด้วยกันก่อน ฉันจะออกไปซื้อส้มมาเพิ่ม…”
โรแลนด์หัวเราะออกมา “ไสหัวไป นายทําเหมือนว่าฉันไม่เคยเรียนชั้นประถมยังไงอย่างงั้น ฉันเข้าร่วมฮงซิงตั้งแต่ตอนอยู่ประถมหกแล้ว”
ผู้เล่นคนอื่นๆต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะเข้าพวกกับพวกงี่เง่านี้ ด้วยมีมง่ายๆ เขานั้นสามารถเข้ากลุ่มกับพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขาเป็นเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
จากนั้นโรแลนด์ก็ร่วมกินเนื้อย่าง
ในขณะนั้นโรแลนด์ก็มองเห็น “เหยื่อ” ที่พวกเขาต้องช่วยเหลือในครั้งนี้ เธอนั้นเป็นผู้หญิงที่งดงาม
คนที่เพิ่มค่าเสน่ห์นี่ต่างออกไปจริงๆ ผู้เล่นคนนี้สวยมาก ถึงขนาดสวยกว่าวิเวียนเล็กน้อยด้วย
ทว่าเมื่อคิดไปว่าเธอนั้นหน้าตาธรรมดาในโลกจริงก็ทําให้ความสวยของเธอลดลง
ผู้เล่นสาวคนนั้นยิ้มให้กับโรแลนด์เมื่อเห็นโรแลนด์มองสารวจมาทางเธอ
มีความขุ่นเคืองปรากฏบนใบหน้าของเธอ
“พวกเราจะรอกันอีกสี่วัน สี่วันหลังจากนนี้ ผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะมาถึงแล้ว เมื่อมีคนมากพอ พวกเราจะบุกเมืองกัน”
“ พวกเราควรแยกออกไปสองสามทางไหม? เพื่อทําให้แยกตัวออกจากกัน”
ผู้เล่นโดยรอบกองเพลิงนั้นเริ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
โรแลนด์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ไอออกมา พวกคนที่เหลือต่างพากันหยุดในทันที
“คนที่พวกเรากําลังจะไปฆ่าคือนายกของเมือง” โรแลนด์มองไปโดยรอบและพูดต่อ “นี่ไม่ใช่ขุนนางตัวน้อย ทว่าเป็นชายที่ถูกจัดว่าเป็นคนสําคัญ ถ้าหากพวกเราฆ่าเขาอย่างโจ่งแจ้ง นั่นต้องเกิดปัญหาตามมาระหว่างขุนนางอย่างแน่แท้”
ทุกคนต่างขมวดคิ้ว พวกเขานั้นคิดว่าโรแลนด์อาจจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาเลิกแผนการนี้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ขัดออกมาเพราะกลัวจะเดาผิด พวกเขานั้นรอให้โรแลนด์พูดให้จบก่อน
“มันจะไม่ดีต่อการพัฒนาของพวกเราในโลกนี้” โรแลนด์กล่าวต่อว่า “ถ้าเราแค่สังหารนายกโดยไม่สนใจสายตาจากภายนอก พวกนายกคนอื่นๆจะต้องโกรธแค้นอย่างแน่นอน จากนั้นพวกเราเหล่าผู้เล่นก็จะกลายเป็นหนามตําใจของพวกขุนนาง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พวกเรายังไม่แข็งแกร่งพอ ถ้าเราทําให้ขุนนางร่วมมือกันจะมีปัญหามากมายตามมา”
ในที่สุดก็มีใครบางคนทนไม่ไหว “นายหมายถึงพวกเราไม่ควรฆ่าเขาใช่ไหม?”
“ไม่พวกเราจะฆ่าเขา แต่พวกเราต้องมีวิธีการที่พิเศษหน่อย”
***
Zhaokud = ผู้นําทัพสี่แสนคนไปทําศึกที่ฉางปิง
bai qi = แม่ทัพที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ชนะศึกฉางยิ่ง
ส้ม = เป็นมีมเกี่ยวกับพ่อออกไปซื้อส้มให้ลูกชาย ตอนนี้ใช้แทนการเล่นมุขว่า ข้าเป็นพ่อของเจ้า คือมุขนี้จะประมาณว่าคนพูดบอกว่าจะไปซื้อส้มให้ = ข้าเป็นพ่อของเจ้า
ฮงซิง = หนังของจีนเกี่ยวกับเด็กและอันธพาล