หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 21

โรแลนด์เคยได้ยินเรื่องของลูกพี่ลูกน้องของชัคมาก่อน แต่พวกเขาไม่เคยเจอหน้ากัน โดยได้ยินมาว่าเขาอาศัยอยู่เมืองอื่นและไม่ได้ย้ายเข้ามาจนกระทั่งช่วงๆนี้

“สวัสดีเบทต้า” โรแลนด์ทักทายด้วยรอยยิ้มพร้อมถามว่า “นายรู้ได้ยังไงว่า นายมีจุดเกิดใกล้ ๆ ฉัน”

บางทีอาจเป็นเพราะไม่คุ้นชินกับคนแปลกหน้า ดังนั้นเบทต้าจึงมีรอยยิ้มที่อึดอัดเล็กน้อย “พอดีผมได้ยินเข้าตอนที่พี่คุยกับพี่ชัคเมื่อวานนี้ แล้วพอดีผมเกิดที่หมู่บ้านล็อคและชาวบ้านมักจะพูดถึงการไปค้าขายที่เมืองเรดเมาน์เทน”

“นายเข้าใจสิ่งที่พวกชาวบ้านพูดด้วยงั้นหรอ?” โรแลนด์ถามออกมา

เบทต้าพยักหน้าและพูดต่อ “ขุนนางผู้สูงศักดิ์ เป็นคลาสที่ผสมกันระหว่าง นักรบ และ พ่อมดสายเลือดมังกร โดยในคลาสนี้สามารถเลือกเวทย์ได้ 2 อย่างในตอนเริ่มต้น ผมเลยเลือก พ่นไฟ และก็ ความสามารถทางภาษา”

โรแลนตกใจไปครู่หนึ่ง “ขุนนางผู้สูงศักดิ์ ฟังดูเหมือนคลาสที่หายากเลย”

“ครับ มันเป็นอาชีพลับ” เบทต้ายิ้มและพูดว่า “เมื่อเพิ่มค่าสถานะทั้งหมดของตัวเองเป็น 7 แต้ม แต้มโบนัสที่ได้มาในตอนแรกก็เพียงพอแล้วสำหรับการที่จะเปลี่ยนอาชีพเป็น ขุนนางผู้สูงศักดิ์ คลาสนี้มีความสามารถพิเศษต่างๆและสกิลที่หลากหลาย ในฐานะมือใหม่แล้วแม้ว่าในภาพรวมของมันจะอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น แต่ทว่ามันก็ไม่ใช่คลาสที่แย่สำหรับมือใหม่อย่างผม ผมก็เลยเลือกคลาสนี้”

โรแลนด์ยิ้มและคิดว่าเจ้าลูกพี่ลูกน้องทั้งสองนี้นั้นค่อนข้างโชคดี

คนหนึ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเซนต์ซามูไร และอีกคนพบอาชีพลับอย่างง่ายดาย

พวกเขาเริ่มสนิทกันมากขึ้นหลังจากคุยกันสักพัก โรแลนด์พบว่าเบทต้านั้นค่อนข้างรอบรู้เลยทีเดียว

เขาไม่เหมือนกับเด็กที่พึ่งจบมัธยม แต่เหมือนกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาได้รับการศึกษาที่ดี

หลังจากนั้น ลี่หลินก็เดินเข้ามา

เขาทุบโต๊ะด้วยความเศร้าโศกและตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน!”

โรแลนด์และชัคถอนหายใจออกมาพร้อมกัน พวกเขาหยิบโทรศัพท์สีดำรุ่นเดียวกันออกมาวางไว้บนโต๊ะ

ลี่หลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเครื่องหนึ่งแล้วเขวี้ยงมันออกไป

โทรศัพท์กระแทกเข้ากับพื้นและแตกกระจาย

ลี่หลินคว้าโทรศัพท์อีกเครื่องและเขวี้ยงมันอีกครั้งหนึ่ง

โทรศัพท์เครื่องที่สองก็พังด้วยเช่นกัน

จากนั้นลี่หลินก็มองไปที่เบทต้าด้วยความโกรธ

เบทต้ามองไปยังโทรศัพท์สองเครื่องที่พังไปแล้วและมองไปยังลี่หลินด้วยความสับสน

ในตอนนั้นเอง ชัคเคาะโต๊ะและพูดอย่างสบายๆ ว่า “มอบโทรศัพท์ของนายไปให้เขา”

เบทต้ารู้สึกสับสนแต่เขาก็ทำตามคำสั่งของพี่ชาย เขาหยิบโทรศัพท์ที่ดูเก่าออกมา

เสียงแตกหักดังขึ้น….แล้วมันก็พังเหมือนสองเครื่องแรก

จากนั้นลี่หลินก็กระทืบโทรศัพท์อย่างบ้าคลั่งพร้อมพ่นคำสาปแช่งออกมา “นางตัวดี! ฉันดีกับแกขนาดนี้! แกกล้านอกใจฉันไปนอนกับชายคนอื่นได้ยังไง? ฉันหน้าตาไม่ดีงั้นหรอ”

ลี่หลินเหลือบไปมองหน้าหล่อๆของชัคโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นเขาก็กระทืบโทรศัพท์พังๆนั้นด้วยความบ้าคลั่ง “แต่ฉันมีเงินนะเว้ย….แกจะชอบอะไรได้นอกจากเงินกัน”

เบทต้าตกใจเป็นอย่างมาก

ทว่าชัคและโรแลนด์กลับดูไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย และยังพูดคุยกันปกติด้วยเสียงเบาๆ

ในที่สุดความโกรธของลี่หลินก็ถูกระบายออกหลังจากที่เขากระทืบเท้าเป็นเวลาหลายสิบนาที เขาหยิบซิมการ์ดจากโทรศัพท์ที่พังแล้วขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ

“หยวนหยวนหนีไปแล้วงั้นเหรอ?”

เมื่อเห็นว่าลี่หลินนั่งลงแล้ว ชัคก็ถามออกมาในขณะที่เขากำลังกินแตงโม

หลินตอบอย่างโกรธๆว่า “ฉันไม่อยากคุยกับพวกผู้ชายหน้าตาดี ไปให้พ้นเลย”

ชัคส่ายหัวและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันเกิดมาก็เป็นแบบนี้แล้ว ช่วยไม่ได้”

ลี่หลินรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากระเบิดอารมณ์เสร็จแล้ว เขาถอนหายใจและพูดว่า “ผู้หญิงทุกคนที่ฉันคบด้วย นอกใจฉันหมดเลย”

โรแลนด์พูดออกมาว่า “ทำไมนายถึงหาแฟนจากใน ไนต์คลับล่ะ ? โอกาสที่นายจะได้เจอกับผู้หญิงดีๆนั้นมีน้อยมาก ให้ฉันลองถามญาติฉันให้ไหมเผื่อจะได้คนที่จริงใจน่ะ”

หลี่หลินโบกมืออย่างแรง “ไม่! ผู้หญิงเหล่านั้นจริงจังเกินไป ฉันยังเด็กเกินไปที่จะแต่งงาน”

เบทต้านั่งฟังพวกเขาคุยกันแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่โทรศัพท์ของเขาต้องพบเจอเป็นอย่างมาก

แม้เขาจะมีเงินเก็บพอที่จะสามารถซื้อเครื่องใหม่ได้ แต่มันก็น่าหงุดหงิดอยู่ดีที่โทรศัพท์เขาพังเพราะเหตุผลไร้สาระ

ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่กับตัวเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นและลี่หลินก็เดินไปเปิดมัน

จากนั้นเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับกล่องสามใบในมือ

เขามอบกล่องให้ทุกคน

เบทต้ารับกล่องมา และพบว่ามันคือโทรศัพท์รุ่นล่าสุด

ชัคนั้นใส่ซิมการ์ดลงในโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเขาอย่างรวดเร็ว เขายิ้มแล้วพูดว่า “รับไปเถอะ หมอนี่มันรวย แค่นี้ไม่กระทบขนหน้าแข้งหรอก”

เบทต้าหันไปมองอีกด้านและพบว่าโรแลนด์ก็กำลังใส่ซิมการ์ดอยู่เช่นกัน เขาจึงรู้สึกโล่งใจจากนั้นก็ฉีกกล่องออกมา

เขานั้นกำลังอยากได้โทรศัพท์ใหม่อยู่พอดี เขาใช้เครื่องเก่านั้นมานานกว่า 5 ปีแล้ว

ลี่หลินกินแตงโมอยู่เงียบๆ ทันใดนั้นเขาก็หันไปพูดกับโรแลนด์ว่า “ฉันเห็นวิดีโอที่นายโพสต์ในเว็บบอร์ดแล้ว โคตรแรงเลย!”

โรแลนด์หัวเราะออกมาเบาๆ “ฉันสามารถโจมตีแบบนั้นได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ถ้าศัตรูไม่ถูกฆ่า ก็จะเป็นฉันที่ตายเอง”

ลี่หลินกลอกตา “แค่นั้นก็เกินพอแล้ว นายไม่คิดหรอว่าการโจมตีแบบนั้นจะทำลายศัตรูทั้งหมดในการต่อสู้แบบกลุ่ม?”

“มันจะโดนพวกพ้องไปด้วยนะสิ” โรแลนด์กล่าวอย่างหมดหนทาง “เกมนี้มันสมจริงมากๆ ไม่มีระบบระบุเป้าหมายด้วยซ้ำ”

ลี่หลินตะลึงไปในทันที “ก็ฟังดูสมเหตุสมผลดี งั้นฉันก็คงเป็นนักรบคลั่งต่อไปนั่นแหละ”

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางอย่างออกและพูดกับชัคว่า “ฉันจำได้ว่านายได้รับค่าจ้างในฐานะเซนต์ซามูไรใช่ไหม”

“ก็ใช่ 20 เหรียญทองต่อเดือน” ชัคกล่าว “เหรียญทองค่อนข้างมีค่ามากในเกมนี้”

ลี่หลินมองไปยังชัคอย่างอิจฉา “นายรู้ไหมว่าเหรียญทองในเว็บบอร์ดมีมูลค่าเท่าไหร่?”

“เท่าไหร่” ชัคดูไม่ได้สนใจนัก

“13 แกรนด์” (1 แกรนด์ราคาเท่ากับ 1000 เหรียญ)

โรแลนด์ที่กำลังดื่มน้ำแทบจะพ่นมันออกมา

ชัคก็ตะลึงไปเช่นกันและถามออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า “นายพูดจริงเหรอเนี่ย?”

“แน่นอนที่สุด!” ลี่หลินถอนหายใจและกล่าวว่า “ปัญหาหลักคือเหรียญทองเหล่านี้ได้รับยากเกินไป ทำไมนายไม่ขายให้ฉันสัก 10 เหรียญล่ะ?”

ชัคส่ายหัวออกมา “พวกเราเปรียบเหมือนพี่น้องกันน่า ฉันรับเงินของนายไว้ไม่ได้หรอก มาที่เมืองที่มีโบสถ์แห่งแสงสิ แล้วฉันจะให้คนเอาเหรียญทองไปให้นาย”

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์
Score 6.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์ ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset