หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 46

โรแลนด์ออกจากคฤหาสน์ของอัลโด้พร้อมกับตราทองแดง โดยมีอัลโด้คอยพูดย้ำๆให้เขาไปยังหอคอยเวทย์และรีบสมัครให้เร็วเท่าที่จะเป็นไปได้

โรแลนด์ไม่ได้ตรงไปยังหอคอยนักเวทย์ เขาตัดสินใจกลับไปพักที่แลมป์เกิร์ลก่อนเป็นอันดับแรก

ถึงแม้ว่าผู้เล่นไม่จำเป็นต้องนอน ทว่าพวกเขาก็อาจจะเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักเกินไปได้ โดยทั่วไปพวกเขาสามารถฟื้นฟูความเหนื่อยล้าได้ภายในยี่สิบนาที

ขณะที่โรแลนด์กำลังคิดเกี่ยวกับภารกิจ ก็มีใครบางคนเคาะประตูเข้ามา

เขาเปิดประตู และพบว่าคนที่เคาะเป็นผู้หญิง เขาจำได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เขาพบในเกรย์แซนด์ กระบนใบหน้าเธอค่อนจ้างเป็นที่จดจำ

เธอดูอึดอัดเมื่อได้พบกับโรแลนด์

“เธอต้องการอะไร?” โรแลนด์ถามหลังจากสังเกตเธออยู่ครู่หนึ่ง

หญิงสาวคนนี้เงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะก้มหัวให้เขา เธอรวบรวมความกล้าและพูดว่า “ลิซ่านั้นเป็นน้องสาวของข้าเอง ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นคนช่วยเธอจนกระทั่งเมื่อวาน ข้าขอขอบคุณท่านมาก”

หลังจากจากพูดจบเธอก็โค้งคำนับให้กับโรแลนด์

จากนั้นเธอก็กล่าวต่อ “แต่ครอบครัวของข้านั้นยากจนเกินกว่าที่จะจ่ายเงินสองเหรียญทองคืนแก่ท่าน สิ่งที่มีค่าที่สุดภายในครอบครัวของข้าคือร่างกายของข้า ดังนั้นข้าขอรับใช้ท่านช่วงหนึ่งเพื่อตอบแทนได้หรือไม่”

เมื่อมองไปยังเธอโรแลนด์ก็ส่ายหน้าออกมา “ไม่จำเป็น นอกจากนี้คนที่ช่วยเธอไว้คือเบทต้าเพื่อนของฉัน บางที…หมอนั่นอาจจะยอมรับค่าตอบแทนของคุณ”

จากที่โรแลนด์สังเกต เบทต้านั้นดูเหมือนยังบริสุทธิ์อยู่ นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้เรียนรู้วิธีเข้าหาผู้หญิง

ทว่าหญิงสาวกลับยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

โรแลนด์พูดปลอบเธอไป “มั่นใจได้ว่าพวกเราจะไม่เรียกร้องให้พวกเธอจ่ายเงินคืน มีอะไรอีกไหม?”

เธอส่ายหน้าออกมา

โรแลนด์จึงปิดประตู

เธอมองไปยังประตูที่ถูกปิดและหันกลับไปด้วยความผิดหวัง

จริงๆแล้ว เธอได้เสนอตัวเธอให้กับชายหนุ่มที่ดูหล่อเหลากว่าและดูเหมือนจะเป็นขุนนาง แม้เขาจะดูเขินอายแต่เขาก็ปฏิเสธเธออย่างจริงจัง

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่ เพื่อเสี่ยงโชคอีกสักครั้ง

เธอรู้สึกขอบคุณพวกเขาจากใจจริงที่ช่วยน้องสาวของเธอ ทว่าลึกลงไปในใจของเธอนั้น เธอรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่เธอจะได้เป็นภรรยาของขุนนาง ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะได้รับสิ่งต่างๆมากกว่าที่อยู่ในเกรย์แซนด์

ทว่าพวกเขาทั้งคู่ก็ปฏิเสธเธอ

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่น่ารักพอและไม่สามารถดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้

เธอได้รับการทักทายจากเพื่อนร่วมงานของเธอ ที่รู้ว่าเธอถูกปฏิเสธเพราะรูปลักษณ์ที่ไม่งดงาม พวกนั้นเข้ามาเพื่อปลอบเธอ

เธอยิ้มออกมาอย่างยินดี แต่ในใจจริงๆแล้วเธอรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก เธอรับรู้ได้ว่าจริงๆนั้นไม่มีใครเห็นใจเธอเลย ลึกเข้าไปในดวงตาของพวกเธอนั้นกำลังเยาะเย้ยเธออยู่

ในฐานะคนประเภทเดียวกันเธอย่อมรู้ดีกว่าใครๆ

เมื่อได้ยินคำปลอบประโลมทั้งหลาย เธอก็ยิ้มหวานขึ้นกว่าเดิมราวกับซึ้งใจในพวกเธอ

ในฐานะของเพื่อนร่วมงานมันเป็นเรื่องสำคัญที่เธอจะต้องรักษาความสัมพันธ์แบบผิวเผินกับพวกเธอเอาไว้

หลังจากพักอยู่ครู่หนึ่ง โรแลนด์ได้ฝึกฝนความสามารถทางภาษาต่อในห้องของเขา เวทย์นี้มีจุดเวทย์เยอะมากและมันไม่น่าจะมีผลเพียงแค่อย่างเดียว เช่นเดียวกับเวทย์บอลเพลิงนรกมันต้องมีเวทย์ที่พัฒนาแล้วของความสามารถทางภาษาอยู่อีกแน่ๆ

เขาทดสอบจุดเวทย์ทีละจุดและจดลงบนสมุดของเขา สองชั่วโมงต่อมาเขานวดหัวที่มึนเล็กน้อยก่อนจะออกจากเมืองไปยังป่า

ด้วยความจำของเขา เขากลับมายังจุดที่พบรอยลากในป่าอีกครั้ง โชคดีที่พื้นที่เกิดเหตุยังไม่ถูกทำลาย เขาเดินวนรอบและอัดวีดีโอค้นหาเบาะแสที่เป็นไปได้

ทว่าเขาก็ไม่พบกับอะไรเลย

ไม่มีเลือด , ไม่มีเศษเสื้อผ้า และไม่มีคราบอสุจิ

หากที่นี่เป็นสถานที่เกิดเหตุ เมื่อพิจารณาจากบาดแผลของหญิงสาว เลือดควรกระจายไปทั่ว แต่น่าแปลกที่ไม่พบอะไรเลย

โรแลนด์เดินตามรอยลากเข้าไปในถ้ำอีกครั้ง

กลิ่นเหม็นรุนแรงมากขึ้นหลังผ่านไปหนึ่งวัน หลุมนั้นยังไม่ได้ถูกปิดและเมื่อดูจากรอยเท้าแล้วเหมือนยังไม่มีใครมาที่นี่

เขาปิดจมูกและถ่ายรูปศพอีกหลายรูปภายในถ้ำ จากนั้นเขาก็ปิดหลุมโดยใช้แขนเวทย์

“หลับให้สบาย ฉันจะล้างแค้นให้พวกเธอเอง” โรแลนด์พึมพำออกมา

โรแลนด์กลับไปยังเมืองและพบเข้ากับเบทต้า

เบทต้านั่งอยู่บนเนินเขาและจ้องมองไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ด้านล่าง

โรแลนด์เดินเข้าไปหาเขาและถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”

“เด็กสาวตื่นแล้วครับ” เบทต้ากล่าวออกมาด้วยท่าทางหมดหวัง “เหมือนที่พี่คิดไว้เลยครับ เหมือนเธอจะไม่เห็นคนร้าย คนร้ายเข้าโจมตีเธอจากทางด้านหลังและขู่จะฆ่าเธอหากเธอหันหลังกลับ เธอกลัวเกินกว่าที่จะขัดขืนและทำได้เพียงแค่หมอบลงและทำได้เพียงหลับตาและปล่อยให้ชายคนนั้นทำต่อไป แต่ท้ายที่สุดคนร้ายก็พยายามจะฆ่าเธอ เธอบอกว่าเธอรู้สึกเย็นบริเวณหน้าอกก่อนจะหมดสติไป มันน่าจะเป็นอาวุธเหล็กแน่ๆ”

ดวงตาของโรแลนด์เป็นประกายเมื่อได้ยินแบบนั้น “ดาบน้ำแข็ง!”

หลังจากงุนงงอยู่ครู่หนึ่งเบทต้าก็เข้าใจในที่สุด “ใช่เลยครับ! ในถ้ำและสถานที่เกิดเหตุต่างไม่มีเลือด ผมสงสัยว่าฆาตรกรทำได้ยังไง แต่ผมก็คิดไม่ออกเลยว่าเป็นไปได้ยังไง พี่นี่อัจฉริยะจริงๆครับ!”

ถ้ามันเป็นดาบน้ำแข็งเวทย์สาเหตุที่ไม่มีเลือดก็สมเหตุสมผล

โรแลนด์หัวเราะเบาๆออกมา “แน่นอน พี่ดูโคนันไปมากกว่าสามร้อยตอนเชียวนะ”

เบทต้าหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินดังนั้น สักพักเขาก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “แต่ที่เกิดเหตุไม่มีคราบอสุจินะครับ พี่จะอธิบายได้ยังไง”

อันที่จริงโรแลนด์ก็พอจะเดาได้อยู่ ทว่ามันก็ดูน่าขยะแขยงและดูโรคจิตเกินไป โรแลนด์จึงไม่คิดจะบอกกับเบทต้าที่ยังอ่อนต่อโลกอยู่

ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “พี่ไปหาอัลโด้มาเมื่อไม่นานมานี้”

“โอ้? พี่ตั้งใจจะเข้าร่วมสมาคมนักเวทย์?”

“นั่นเป็นเหตุผลหนึ่ง ตอนแรกพี่คิดว่าอัลโด้น่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยเนื่องเขาค่อนข้างตัณหาจัดและฉลาด” โรแลนด์มองไปที่ก้อนเมฆและพูดออกมา “ดังนั้นพี่เลยขอพบเขาโดยอ้างว่าเพื่อต้องการเข้าสมาคมนักเวทย์ แต่ท้ายที่สุดพี่คิดว่าเขาไม่น่าใช่ฆาตรกร เพราะบ้านเขานั้นเต็มไปด้วยสาวใช้สวยๆมากมาย มันไม่มีเหตุผลที่เขาต้องตามล่าหญิงสาวหน้าตาบ้านๆ ถึงอย่างนั้นด้วยความที่คนร้ายใช้เวทย์ดาบน้ำแข็ง ความเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นฆาตรกรก็สูงขึ้นอีก”

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์
Score 6.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์ ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset