หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 49

สิบเหรียญทองทุกเดือนไม่มากเท่ากับที่ชัคได้รับจากโบสถ์แห่งแสงซึ่งเป็นเหรียญทองยี่สิบเหรียญต่อเดือน

อย่างไรก็ตามควรรู้ไว้ว่าเซนต์ซามูไรเป็นหนึ่งในผู้นำในโบสถ์แห่งแสงและมีอำนาจมากมาย แม้ว่าพวกเขาจะต้องปฏิบัติตามพระสันตะปาปา แต่พวกเขาก็มีสิทธิ์สั่งสมาชิกของโบสถ์ได้

เซนต์ซามูไรเท่าเทียมกับสุภาพสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง

ดังนั้นยี่สิบเหรียญทองนั้นไม่มากเกินไปสำหรับตำแหน่งที่มีอิทธิพลเช่นนั้น

ในการเปรียบเทียบโรแลนด์เป็นเพียงรักษาการ เท่าที่เขารู้สมาคมนักเวทย์มีสาขาในหลายเมือง ตำแหน่งรักษาการนั้นจะได้รับเงินสิบเหรียญทองต่อเดือน และสามารถใช้ทรัพยากรอื่นๆได้

นี่เป็นสมาคมที่ร่ำรวยอย่างแน่นอน

โรแลนด์สงบสติอารมณ์และถามว่า  ถ้าอย่างนั้นฉันควรเริ่มทำอะไรก่อนดี”

“ลองทำความคุ้นเคยกับหอคอยเวทย์ก่อนดีไหม” คลาอัสถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ตอนนี้ประธานเป็นคนจัดการงานทั้งหมด ทำให้เขาค่อนข้างยุ่งเป็นอย่างมาก”

“เอาล่ะ” โรแลนด์พยักหน้าและพูดว่า “ฉันยังอ่านภาษาของพวกคุณไม่ได้ ขอใครสักคนมาช่วยสอนฉันหน่อยได้ไหม?”

วิเวียนสาวสวยที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ก้าวออกมาและเป็นอาสาออกมาด้วยรอยยิ้ม “ รักษาการข้าสามารถสอนท่านได้”

อืม…โรแลนด์มองไปที่คนอื่นๆแต่พวกเขาต่างก็หลบสายตา

“เอาหละงั้นเธอก็แล้วกัน” โรแลนด์ไม่ใช่คนอวดเก่ง นอกจากนี้เขายังใหม่ที่นี่และไม่ควรจะเอาแต่ใจเกินไป

วิเวียนยิ้มหวานออกมา

จากนั้นนักเวทย์ฝึกหัดคนอื่นๆก็แยกย้ายกันออกไป วิเวียนพาโรแลนด์ไปรอบๆหอคอยเวทมนตร์

เธอแนะนำพื้นที่สำคัญๆ เช่นห้องเก็บอุปกรณ์เวทย์ที่ชั้นสามห้องทดลองชั้นห้าแกนควบคุมที่ชั้นหกห้องสมุดชั้นเจ็ดและชั้นแปดชั้นที่เก้าและชั้นที่สิบ ชั้นที่เป็นที่อยู่อาศัยของผู้นำสมาคมนักเวทย์

โรแลนด์อยู่ในห้องสมุดเป็นเวลานาน เขาไม่สามารถเข้าใจหนังสือได้แม้แต่คำเดียว

จากนั้นเขาก็เลือกชั้นแปดเป็นที่อยู่ของเขา เพราะมันอยู่ใกล้ห้องสมุดมากที่สุด

หลังจากการเยี่ยมชมวิเวียนได้แนะนำกิจการปัจจุบันของหอคอยเวทมนตร์และงานวิจัยในชั้นแปด

ในที่สุดโรแลนด์ก็รู้ว่าทำไมหอคอยเวทย์มนตร์ถึงร่ำรวยมาก

ประการแรกสำนักงานใหญ่ของสมาคมนักเวทย์จะจัดสรรเหรียญทองหนึ่งร้อยเหรียญให้กับหอคอยเวทมนตร์สองครั้งต่อปี นายกท้องถิ่นจะมอบเงินให้หอคอยเวทมนตร์สิบเหรียญทองทุกเดือนเนื่องจากหอคอยเวทมนตร์ได้เซ็นสัญญากับเมืองไว้เพื่อช่วยในการป้องกันเมือง

นอกจากนี้ยังได้เงินจากหอการค้าและขุนนาง โดยเฉลี่ยแล้วหอคอยเวทมนตร์ซึ่งสามารถสร้างรายได้มากกว่ายี่สิบเหรียญทองในแต่ละเดือน

สุดท้ายนี้ยังมีภารกิจพิเศษ เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์เวทมนตร์สำหรับทหารรับจ้างหรือมือสังหาร หรือแม้แต่การส่งนักเวทย์ฝึกหัดเพื่อช่วยกำจัดมอนสเตอร์ งานนี้ให้รายได้มากกว่าสิบเหรียญทองต่อเดือน

โดยรวมแล้วรายได้ต่อเดือนของหอคอยเวทมนตร์นั้นมากกว่าหกสิบเหรียญทอง โรแลนด์ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดที่โรแลนด์จะได้รับเงินเดือนสิบเหรียญทอง

ในทางกลับกันนักเวทย์ฝึกหัดค่อนข้างยากจน พวกเขาได้รับเพียงสองสามเหรียญเงินในแต่ละเดือน

โรแลนด์ถามด้วยความประหลาดใจ “เธอไม่รู้สึกว่าได้เงินน้อยเกินไปหรือ?”

“ไม่ค่ะ” วิเวียนพูดตามความเป็นจริง “หอคอยเวทมนตร์จ่ายค่าอาหารค่าที่พักและทรัพยากรการฝึกฝนของพวกเราและพวกเราแทบไม่ต้องทำงาน สามสิบเหรียญเงินที่ได้ต่อเดือนถือว่าดีอยู่แล้วค่ะ”

โรแลนด์เคาะลงบนโต๊ะทำงาน “แต่เงินเดือนของฉันสูงกว่าคุณหลายร้อยเท่า คุณไม่ขัดข้องใจหรือ?”

วิเวียนส่ายหัว เธอกล่าวว่า “มีนักเวทย์แท้จริงเพียงหนึ่งคนจากนักเวทย์ฝึกหัดนับร้อย พวกเราไม่รู้สึกขัดข้องอะไรค่ะ”

เข้าใจแล้ว!

ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาตื่นเต้นกับการมาถึงของเขาและชื่นชมเขามาก นักเวทย์แท้จริงนั้นหายากจริงๆ

“แล้วนักเวทย์ฝึกหัดกับนักเวทย์แท้จริงนั้นต่างกันตรงไหน?” โรแลนด์ถามออกมา

วิเวียนที่อยู่ในชุดคลุมวิเศษหลวมๆ อธิบายว่า “มีข้อกำหนดสองประการ ประการแรกต้องกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง ประการที่สองเพื่อร่ายเวทย์ระดับหนึ่งได้อย่างอิสระ”

นักเวทย์ระดับหนึ่ง? โรแลนด์มองไปที่วิเวียนและถามว่า “คุณอยู่ระดับอะไร”

“ศูนย์ค่ะ” วิเวียนถอนหายใจและพูดว่า “นอกจากนี้ข้ายังไม่สามารถร่ายบอลเพลิงนรกได้อย่างอิสระจนถึงทุกวันนี้”

ศูนย์! LV0?

โรแลนด์ถามออกมาอย่างอยากรู้อยากเห็น “คุณวัดระดับของได้ยังไง”

“ท่านไม่รู้จักการปลดปล่อยพลังทางจิต?” วิเวียนปิดปากด้วยความประหลาดใจ

โรแลนด์อ้าแขนของเขาออกมา

“แบบนี้ค่ะท่าน” วิเวียนหลับตาและสาธิต

กลิ่นที่อ่อนโยนและอ่อนหวานออกมาจากหน้าผากของวิเวียนและแตะหลังมือของโรแลนด์อย่างซุกซนก่อนที่มันจะไหลย้อนกลับไป

โรแลนด์สัมผัสได้ถึงพลังทางจิต

จากนั้นวิเวียนก็ลืมตาขึ้นและกล่าวด้วยความชื่นชมว่า “ท่านอยู่ในระดับสี่ ระดับห้าคือระดับแนวหน้าหรือหัวกะทิ ประธานของเราอยู่ที่ระดับนั้น พวกท่านทั้งคู่เป็นอัจฉริยะจริงๆ”

นี่คือการปลดปล่อยพลังทางจิต?

โรแลนด์หลับตาลงอย่างตกตะลึงชั่วครู่

เขาเพ่งความสนใจของตัวเอง และเขาก็รู้สึกได้ถึงสิ่งที่คล้ายกันอยู่ในจิตสำนึก เขารู้สึกราวกับว่าพลังจิตของเขานั้นยอดเยี่ยมกว่าของวิเวียนมาก

หากพลังทางจิตของวิเวียนเปรียบได้กับหยุดน้ำพลังจิตของเขาก็เปรียบได้กับบอลน้ำขนาดยักษ์

นี่คือพลังจิต

เขารู้สึกได้มานานแล้ว เมื่อเขาร่ายเวทย์ส่วนหนึ่งของ “ลูกบอลน้ำ” นี้จะถูกดึงออกมาเสมอและส่วนที่ขาดหายไปจะค่อยๆถูกเติมเข้าไปใจจนเต็ม

เขาคิดมาตลอดว่านั่นคือ MP ของเขา แต่มันก็เป็นพลังจิตของเขาด้วย

ถ้าจะให้พูดทั้ง MP และพลังจิตก็ไม่ต่างกันนัก

นี่ฉันจะสามารถปลดปล่อยมันออกมาได้จริงๆเหรอ?

โรแลนด์พยายามดึงบางส่วนของ “บอลน้ำ” ออกมา เขาเปลี่ยนรูปร่างมันให้เป็นหนวดและมัดตัววิเวียนเอาไว้

ตามจริงแล้วเขาไม่ควรจะมองเห็นเมื่อเขาหลับตา แต่เมื่อหนวดถูกดึงออกมาจากจิตใต้สำนึกของเขา เขาก็ “เห็น” สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา

ไม่ใช่มองเห็นจริงๆ แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึก เขาไม่รู้ถึงรูปร่างและลักษณะของสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่เขากลับรู้สึกได้ว่ามันคืออะไร

อย่างเช่น…ส่วนโค้งนูนที่งดงามของวิเวียนที่อยู่ใต้เสื้อคลุมเวทย์หลวมๆของเธอ

บ้าเอ้ย!

เขารีบถอนพลังจิตทันที

ที่อยู่ตรงข้ามกับเขา คือวิเวียนที่กำลังหน้าแดงฉ่า

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์
Score 6.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์ ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset