เมื่อเขาเปิดเว็บไซต์อย่างเป็นทางการบนโทรศัพท์เขาก็เห็นประกาศที่ถูกปักหมุดไว้ทันที “เกี่ยวกับข้อผิดพลาดของเวทย์สมาธิ”
“เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว ผู้เล่นนักเวทย์โรแลนด์ได้รายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของนักเวทย์เวทย์สมาธิเข้ามา เมื่อพวกเราได้รับเรื่องพวกเราได้เร่งทำการตรวจสอบในทันทีและพบว่าเป็นไปตามที่โรแลนด์ได้กล่าวอ้างมาว่า ความสามารถพิเศษของนักเวทย์เวทย์สมาธินั้นไม่สามารถเรียนรู้ได้ภายในเกม ดังนั้นพวกเราจึงได้ทำการตัดสินใจอันยากลำบาก ในอนาคตเวทย์สมาธิจะกลายเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะเหล่า NPC เท่านั้น ในขณะเดียวกันเวทย์สมาธิของผู้เล่นนั้นจะถูกเปลี่ยนเป็น ‘ผนึกพลังแห่งโรแลนด์’ ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษแบบติดตัวซึ่งมีผลเฉพาะสำหรับนักเวทย์เท่านั้น โดยมีผลช่วยในการฟื้นฟูพลังงานเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าจากเดิมและจะช่วยเพิ่มค่าความต้านทานทางจิตขึ้น 3 เท่า”
“ในขณะเดียวกัน ระดับของความสามารถพิเศษนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นระดับยูนีคพิเศษ ผู้เล่นโรแลนด์ผู้ซึ่งเป็นคนค้นพบสิ่งนี้ดังนั้นเขาจะสามารถได้รับผลของสกิลนี้เป็นสองเท่า รูปปั้นโรแลนด์จะถูกนำเข้ามาภายในเกม ณ ที่ใดที่หนึ่งที่นอกเมืองหลวงของฮอลเลวิล มันจะถูกจัดเป็นสิ่งปลูกสร้างชนิดพิเศษซึ่งไม่สามารถทำลายหรือถูกย้ายได้ สำหรับผู้เล่นนักเวทย์ที่ต้องการความสามารถพิเศษนี้สามารถได้รับด้วยการโยนเหรียญทองหนึ่งเหรียญเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการแก่รูปปั้นของโรแลนด์ เหรียญทองนั้นจะไปปรากฎภายในกระเป๋ามิติของผู้เล่นโรแลนด์โดยอัตโนมัติเป็นค่าบรรณาการ นี่เป็นความสามารถที่มีเพียงเฉพาะนักเวทย์เท่านั้นที่สามารถเรียนผ่านการจ่ายเงิน ด้วยความเคารพอย่างสูง”
หลังจากเขาอ่านจบ เขาก็รู้ว่าต้องมีคนพูดถึงเขาอีกมากมายแน่นอน ไม่แปลกใจว่าทำไมชัคถึงโทรหาเขา
เขาถอนหายใจรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
แม้ว่าการมีชื่อเสียงอาจถือเป็นเรื่องดี แต่การมีชื่อเสียงด้วยวิธีนี้มันทำให้รู้สึกราวกับว่าผู้วางแผนต้องการผลักเขาลงไปในกองไฟ
เขาไม่มั่นใจว่าพวกนักเวทย์คนอื่นจะตีตัวออกจากเขาหรือไม่
โรแลนด์ไม่อยากเห็นฟอรัมของเกมในตอนนี้ แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ยังคงเปิดมัน
การหลบหนีไม่มีประโยชน์อะไร สุดท้ายเขาต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว
ตามคาด…ผู้เล่นจากหลากหลายอาชีพต่างมาร่วมวงดูเรื่องนี้ โดยกลุ่มหลักที่ออกมาโวยวายนั้นคือนักเวทย์
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นหละ?
ราคาของเหรียญทองเพียงเหรียญเดียวตอนนี้ถูกผลักให้สูงถึงเกือบ 16,000 เหรียญสาวอ่อน [1] แม้ว่าโรแลนด์จะได้รับทิปมากมายจากในฟอรั่ม เขาได้รับทิปจากผู้เล่นกว่าพันหรือแม้กระทั่งหมื่นจากแต่ละกระทู้ของเขา
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้พัฒนาเกมในตอนนี้ทำก็คือการฉกเงิน 16,000 หยวนออกจากกระเป๋าผู้เล่นนักเวทย์ทุกคนโดยตรง
คงจะแปลกถ้าผู้เล่นไม่ออกมาบ่นกัน
ลองคิดดูสิ – มีผู้เล่น 500,000 คนแม้ว่าจะมีผู้เล่นนักเวทย์น้อยลงเรื่อย ๆ แต่ถ้าสมมุติว่ามีผู้เล่นนักเวทย์หมื่นกว่าคนที่เรียนรู้ทักษะนี้ นี้มันจะเท่ากับสามารถเติมเต็มเป้าหมายเล็กๆได้สองรอบเลยทีเดียว [2]
คงเป็นเรื่องแปลกสำหรับผู้เล่นที่จะไม่กินมะนาว [3]
บรรยากาศภายในฟอรั่มเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน ผู้เล่นบางส่วนก็อิจฉาเขา ผู้เล่นบางคนก็ต่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้ด้วยความโกรธ บ้างก็บอกว่าโรแลนด์นั้นเป็นพนักงานของเกมที่มาทดสอบวิธีหาเงินวิธีต่างๆ
แน่นอนว่ามีผู้เล่นที่ร่ำรวยบางคนออกมาแสดงความเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
จริงๆแล้วการแลกเงินเพียง 16,000 เหรียญเพื่อสกิลที่พิเศษแบบนี้นั้นถือว่าเป็นกำไรแล้ว
อาจกล่าวได้เพียงว่าโลกทัศน์ของคนปกติและคนรวยแตกต่างกันเกินไป
เมื่อรู้สึกว่าเขาถูกเล่นโดยนักวางแผนเกมคนหนึ่งชื่อหม่า โรแลนด์ก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาทันทีเขาปิดโทรศัพท์และเก็บมันไว้ในเสื้อ
จากนั้นเขาก็เดินไปหาชายหนุ่มที่รอเขาอยู่ “โค้ชจะให้ผมเรียกคุณว่าอะไรดี?”
“ฉันสกุลฉี เรียกฉันว่าฉีเฉาชู่ก็ได้” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย “นายสามารถดูการฝึกของเราก่อนก็ได้ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเรียนที่นี่ไหม”
โรแลนด์สะดุ้งไปชั่วขณะ เขาลองค้นข้อมูลดูอย่างง่ายๆมาก่อน ซึ่งได้ความว่าเหมียวเต๋านั้นเคยถูกเรียกว่าซินโหยวมาก่อนที่จะมีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามรายงานกล่าวว่า ฉีจี่กวง [4] ได้ได้สู้กับพวกโจรสลัดชาววา เขาลอกเลียนแบบเทคนิคดาบของพวกนั้นและสร้างเทคนิคดาบใหม่ขึ้นมาเพื่อคร่าทุกขีวิตในสนามรบ
ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้ก็มีสกุลฉีเช่นกัน…หรือเขาจะมีความเกี่ยวข้องกัน?
โรแลนด์มองไปที่นักเรียนสี่คนที่อยู่ในสนามฝึกจากนั้นก็ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เป็นไร ผมมั่นใจว่าคุณสอนได้ยอดเยี่ยม ทว่าผมขอเวลาพิจารณาอีกสักหน่อย เพราะถึงยังไงสามหมื่นหยวนก็แพงไปหน่อย”
“ได้เลยตามสบาย”
ภายใต้สถานการณ์ปกติเมื่อมีคนบอกว่าพวกเขาจะพิจารณาพวกเขาปฏิเสธด้วยวิธีการปลอมตัวเป็นเพียงวิธีการพูดคุยที่ค่อนข้างมีไหวพริบ
ฉีเฉาชู่ก็คิดว่าโรแลนด์ก็คงเป็นแบบนั้นเช่นกัน เขาจึงพยักหน้าและกล่าวว่า ”อ่าหะ ถ้างั้นฉันขอตัวกลับไปที่สโมสรก่อนก็แล้วกัน ใช่เวลาพิจารณาตามสบายเลย
ด้วยเหตุนี้ ฉีเฉาชู่จึงกลับมาที่สนามฝึกขนาดใหญ่ หญิงสาวที่กำลังรดน้ำลงพื้นอยู่เดินตรงเข้าไปหาฉีเฉาชู่ จากนั้นก็วางถังน้ำลง เธอยืนมือเท้าสะเอว จากนั้นก็พูดบางสิ่งที่ทิ่มแทงออกมา ฉีเฉาชู่ผู้ที่ไม่เคยแสดงท่าทางใดๆก็ทำท่าทางเลิกลั่ก ถ้าก้มหัวกราบได้คงกราบไปแล้ว
นี่…หมอนี่เชื่อถือได้ไหมเนี่ย?
โรแลนด์เริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เด็กสาวคนนี้ดูธรรมดา ผิวของเธอค่อนข้างขาวซึ่งทำให้เธอดูสวยขึ้นเล็กน้อย
เพราะยังไงการที่มีผิวขาวก็มีพลังมากพอที่จะซ่อนความผิดได้เจ็ดประการ
ดูเหมือนเธอจะรู้สึกได้ว่ามีใครมองเธออยู่ หลังจากเธอต่อว่าฉีเฉาชู่อีกไม่กี่คำเธอก็หันหน้ามาทางโรแลนด์
ระยะห่างระหว่างทั้งสองไม่ถือว่าไกลนัก โรแลนด์สามารถมองเห็นประกายระยิบระยับที่สวยงามและไม่ชัดเจนในดวงตาของหญิงสาว
มันค่อนข้างน่าหลงใหลเลยทีเดียว
โรแลนด์พยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการอำลาจากนั้นก็ออกไปพร้อมจักรยานสาธารณะ
หลังจากที่โรแลนด์อยู่ไกลออกไปเด็กสาวก็ถอนสายตาออกอย่างรวดเร็ว เธอมองไปที่ ฉีเฉาชู่และถามว่า “ฉันเพิ่งเห็นว่าพวกนายปะทะกัน”
“นั่นก็แค่ทดสอบ” ฉีเฉาชู่ยังคงไม่ได้ลบหน้าตาที่น่ารังเกียจบนใบหน้าของเขาออกจนหมด “ความเร็วในการตอบสนองของผู้ชายคนนั้นค่อนข้างเร็วดูเหมือนว่าเขาจะฝึกมวยมาอย่างน้อยห้าปีหรือมากกว่านั้น แต่ถ้าดูจากอายุของเขาก็คงยังฝึกมาไม่ถึงสิบปีหรอก”
“นายชนะเขาได้รึเปล่า”
“อาจจะไม่ถ้าหากมือเปล่า” ฉีเฉาชู่ลบหน้าตาที่น่ารังเกียจบนใบหน้าของเขาไปเรียบร้อยแล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยสมาธิและนิ่งสงบ “ทว่าหากฉันมีดาบเหมียวเต๋าอยู่ในมือละก็ต่อให้มีหมอนั่นสามคน ฉันก็สามารถหั่นครึ่งพวกเขาได้อย่างสบายๆ”
“มันไม่น่าภูมิใจหรอกนะที่จะใช้อาวุธรังแกคนที่มือเปล่า!” หญิงสาวต่อว่าออกมา
ฉีเฉาชู่หัวเราะเบา ๆ “การใช้อุปกรณ์เป็นทักษะที่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นถึงมีได้”
หญิงสาวตะโกน “ ใครกันที่ยังคงพึมพำบางอย่างเช่น ‘ตั้งแต่ยุคของอาวุธปืนมาถึงมันกลายเป็นยุคแห่งความเศร้าโศกสำหรับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้‘?”
ใบหน้าของ ฉีเฉาชู่เหี่ยวย่นลงเมื่อพูดคำเหล่านี้ เขาพูดอย่างเชื่องช้า “น้องสาวยังไงฉันก็เป็นพี่ชายเธอนะช่วยไว้หน้าฉันหน่อยได้ไหม?”
หญิงสาวร้องเสียงหลงและพูดอย่างไม่มีความสุขว่า “ฉันเคยบอกนายแล้วไงว่าค่าเรียน 30,000 หยวน ของนายนั้นแพงเกินไป ดูสิขนาดผู้เชี่ยวชาญตัวจริงยังหนีไปเลยหลังจากได้ยินตัวเลขนั่น ถ้าหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป พวกเราจะมีแต่รายจ่ายและไม่มีรายรับ”
ในตอนนั้นเอง ฉีเฉาชู่ก็ใช้ไฟแช็กจุดบุหรี่ให้กับตัวเองจากนั้นก็คาบไว้ที่ปากก่อนจะพ่นมันออกมาเบาๆ
ควันไฟสีขาวลอยขึ้นตรงไปยังบนฟ้า ฉีเฉาชู่กล่าวอย่างจริงจังว่า “อย่ากังวลไปเลย ถ้าฉันยังไม่สามารถรับสมัครนักเรียนจากข้างนอกได้ภายในครึ่งปีนี้ ฉันจะปิดสโมสรและหาเงินด้วยการเป็นบอดี้การ์ดให้ใครสักคน”
การแสดงออกของหญิงสาวผ่อนคลายลง “ฉันไม่ได้บังคับให้พี่ปิดสโมสรหรอกนะ ฉันแค่อยากจะเตือนให้พี่เตรียมใจให้พร้อมเผื่อความล้มเหลว”
“เข้าใจน่า” ฉีเฉาชู่ยิ้มออกมา ทว่าในรอยยิ้มของเขานั้นมีประกายของความเศร้าโศก
หญิงสาวไม่พูดอะไรอีก เธอหยิบถังขึ้นมาอีกครั้งและรดน้ำลงบนพื้นปูนต่อ
***
[1] ขออธิบายก่อนสักนิดนะครับว่าค่าเงินของจีนจริงๆแล้วไม่ได้ชื่อว่า ‘หยวน’ นะครับ ‘หยวน’ คือค่ายูนิตของเงินครับ
เงินจีนจริงๆแล้วจะเรียกว่า 人民币 หรือ rénmínbì เหรินเหมินปี้นะครับ
คืออาทิรูปแบบประโยคนะครับ เงินเหรินเหมินปี้จำนวน 100 หยวน
แล้วคราวนี้คือมุขของพาร์ทนี้ครับ คือ 人民币 หรือ rénmínbì จะย่อพินอินได้ว่า RMB ซึ่งมันไปตัวย่อมันสามารถเพี้ยนหรือเล่นคำไปเป็นคำว่า 软妹币 หรือ Ruǎn mèi bì หรือแปลว่าเหรียญสาวอ่อนได้ หรือตรงๆก็เหรียญของน้องสาวที่ดูนุ่มนิ่ม
[2] มันเป็นมีมของคนที่ชื่อ 王健林 หวางเจี่ยนหลิน คือแกเป็นโคตรอภิมหาเศรษฐีครับ แกเคยสัมภาษณ์หรือพูดทำนองไว้ว่าทุกคนต้องเริ่มจากเป้าหมายเล็กๆก่อน โดยเริ่มต้นเป้าหมายที่ 100 ล้านหยวน…ครับ
[3] กินมะนาวเหมือนคำอธิบายตอนที่ 65 ครับ แปลว่า ไอ้แม่***
[4] 戚繼光 ฉีจี่กวง เป็นแม่ทัพที่มีอยู่จริงภายในประวัติศาสตร์ของจีนครับ