“แล้วนักเวทย์ที่ดีควรทำตัวยังไงล่ะ?”
ที่ถามนั้นไม่ได้หมายความว่าโรแลนด์จะทำตามที่อีกฝ่ายพูด เขาแค่อยากรู้ว่านักเวทย์บนโลกนี้ควรวางตัวอย่างไรถึงจะเหมาะสม
จอห์นหัวเราะอย่างตรงไปตรงมา “นักเวทย์ที่ดีควรจะสร้างเครือข่ายและองค์กรของตัวเองโดยธรรมชาติ และสิ่งนี้เชื่อมโยงกับการได้รับความสนับสุนจากขุนนางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“คุณช่วยอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมได้ไหม” โรแลนด์แสดงท่าทางให้เขาพูดต่อ “คุณก็รู้พวกเราบุตรทองคำมาจากมิติอื่นซึ่งมีวัฒนธรรมทางสังคมที่แตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับของคุณ”
“ขุนนางและนักเวทย์อย่างเป็นทางการมีความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน” จอห์นเอนหลังพิงเก้าอี้เล็กน้อยและพูดว่า “นักเวทย์อย่างเป็นทางการนั้นไม่สามารถแยกตัวออกจากขุนนางได้ ในขณะเดียวกันเหล่าขุนนางนั้นก็ต้องการความช่วยเหลือจากเหล่านักเวทย์ ความสัมพันธ์ของพวกเรานั้นเปรียบได้กับปลาและน้ำ”
“แล้วใครเป็นปลาและใครเป็นน้ำ?” โรแลนด์ถามด้วยรอยยิ้ม
จอห์นสะดุ้งครู่หนึ่งแล้วยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “จำเป็นต้องแยกแยะให้ชัดเจนขนาดนั้นเลยหรือ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ห้องเงียบไปชั่วขณะ ในท้ายที่สุดจอห์นก็ยืนขึ้นและกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “มิสเตอร์โรแลนด์ดูคุณจะมีอคติกับข้านะ”
“บางทีฉันอาจจะมีอคติกับขุนนางทั้งหมดในเมืองนี้!” โรแลนด์เริ่มหัวเราะเบา ๆ “มันก็แค่ปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารกันนิดหน่อยไม่ได้เกี่ยวกับคุณเลยแม้แต่น้อย”
“มิสเตอร์โรแลนด์มันง่ายมากที่จะเดินไปสู่หนทางอันเลวร้ายโดยการไม่โอนอ่อนต่อสิ่งใดเลย”
โรแลนด์ตะคอก “นั่นไม่ใช่ปัญหา อย่างแย่ที่สุดฉันจะย้ายไปเมืองอื่นเพื่อเรียนรู้เวทมนตร์ต่อไป ยังไงบนโลกนี้ก็คงมีสัดส่วนของขุนนางไม่เกิน 5% อย่างแน่นอน”
สีหน้าของจอห์นเปลี่ยนไปเป็นอธิบายได้ยาก “พวกบุตรทองคำต่างเป็นพวกไม่ยอมคนกันทั้งหมดเลยงั้นเหรอ?”
“ไม่หรอก จริงๆแล้วพวกเราส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นคนที่นอบโน้มเลยทีเดียว” แสงที่แหลมคมสะท้อนออกจากดวงตาของโรแลนด์ “ก็แค่พวกเรากำลังอดทนกับปัญหาอะไรสักอย่าง และพวกเรายังไม่มีโอกาสได้ระบายมันออกมาก็เท่านั้น”
เมื่อพูดถึงขนาดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก
จอห์นยังคงแสดงออกอย่างมีมารยาททางสังคม เขายังอดทนต่อคำพูดสองสามคำเพื่อมารยาททางสังคมจากนั้นก็ออกจากหอคอยเวทมนตร์
หลังจากนั้นไม่นานวิเวียนก็เคาะประตูและเดินเข้ามา
หญิงสาวมีสีหน้าที่เป็นกังวล เธอเดินไปยืนข้างโรแลนด์พร้อมกล่าวว่า “ท่านจอห์นเป็นบุตรชายของนายก ท่านรักษาการท่านอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้หากท่านไปยั่วยุเขา”
“ไม่ต้องกังวลถ้ามันมีปัญหาต่อผลประโยชน์ของหอคอยเวทย์มนตร์ฉันจะเป็นคนออกไปเอง” โรแลนด์พูดอย่างเฉยเมย
ตอนนี้วิเวียนรู้สึกกังวลอย่างแท้จริง เธอโบกมืออย่างแรง “ท่านรองประธานข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ข้าแค่เป็นห่วงท่าน!”
“ฉันรู้” โรแลนด์ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สีหน้าของเขาไม่มีร่องรอยของความโกรธหรือความหงุดหงิด
วิเวียนสำรวจดูเขาอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่โกรธจริงๆ จากนั้นในที่สุดเธอก็โล่งใจ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถามอย่างสงสัยว่า “ท่านรองประธาน ทำไมท่านถึงไม่ชอบท่านจอห์นกัน? เขานั้นเป็นคนดีที่พบเห็นได้ยากในหมู่ขุนนาง เขาดูแลสามัญชนเป็นอย่างดีเสียด้วยซ้ำ!”
“ดีงั้นเหรอ?“ โรแลนด์ถามด้วยน้ำเสียงสงบ “ดียังไงกัน?”
“เขาไม่สุ่มรังแกพวกสามัญชนและหลายครั้งเมื่อเห็นพวกนั้นอยู่ในความยากลำบาก เขาเองก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออีกด้วย นั่นเป็นสิ่งที่พบเจอได้ยากมาก”
“ฮ่าฮ่า!”
โรแลนด์เยาะเย้ยมุมริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มดูแคลน “เขาเป็นลูกชายของนายกเทศมนตรีเมืองนี้สินะ แล้วเมืองนี้จะเป็นของเขาในอนาคตใช่ไหม?”
วิเวียนพยักหน้ารับ
“ตามแนวคิดของพวกเราบุตรทองคำนั้น ถึงจะอยู่ในยุคที่มีการแบ่งชนชั้นและศักดินาเช่นนี้ นายกของเมืองก็ควรที่จะมีหน้าที่ปกครองสามัญชนและดูแลความปลอดภัยให้แก่พวกเขา” โรแลนด์ถอนหายใจและพูดว่า “ทว่าในเมืองนี้ขุนนางนั้นทำร้ายและผ่ากินหัวใจของประชาชนโดยง่าย หมอนั่นก็ไม่สนใจ ที่ข้างนอกเมืองนั่นมีฆาตรกรต่อเนื่องซึ่งเล็งเป้าหมายไปที่เด็กสาวอยู่ หมอนั่นก็ไม่ใส่ใจ มีขอทานมากกว่าหมืนคนภายในเมือง หมอนั่นก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น หรือแม้แต่ปัจจัยพื้นฐานของเมืองหรือภาพลักษณ์ หมอนั่นก็ยังคงไม่สนใจเหมือนเดิม ไม่ทำอะไรแม้งสักอย่าง เอาแต่ยิ้มอย่างอบอุ่นตลอดเวลา แล้วเรียกการกระทำพวกนี้ว่ามีเมตตา ขุนนางอย่างนี้มีค่าพอที่ฉันจะเสวนาด้วยงั้นเหรอ?”
“โอ้…ท่านรองประธานท่านช่างเคร่งครัดจริงๆ”
โรแลนด์ถอนหายใจ “นี่ไม่ใช่การเคร่งครัดหรอกนะ ทว่ามันเป็นอุดมการณ์ของบุตรทองคำส่วนมาก ไม่เพียงไม่ปกป้องคนของตัวเอง ทว่ากลับละเลยพวกเขาโดยสมบูรณ์ และเอาแต่เก็บภาษี ถ้าหากเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในเรื่องจริงละก็ … ฮ่า!”
หัวใจของวิเวียนเต้นรัวอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกว่าโรแลนด์ซึ่งในตอนนี้มีสีหน้าดูถูกและเหยียดหยามที่กำลังต่อว่าจอห์นอย่างรุนแรงช่างมีสเน่ห์เหลือเกิน
เธอหน้าแดงก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไป เธอไม่กล้าอยู่นานมากกว่านี้แม้เพียงน้อย
ภายในหอคอยเวทย์โรแลนด์ยังคงศึกษาความสามารถทางภาษาต่อไปและแล้วมันก็จบไปอีกวัน เมื่อปีนออกจากแคปซูลเสมือนจริง เขาก็ไปที่ฟอรั่มเพื่อดูการวิเคราะห์ของเกมและประสบการณ์ของผู้เล่นคนอื่น หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ไปกินอาหารเช้าก่อนขี่จักรยานสาธารณะไปยังพื้นที่ชนบท
ตอนนี้ยังคงเช้าอยู่ มันพึ่งเจ็ดโมงกว่าๆก็เท่านั้น
ภายใต้หลังคาสังกะสีในสนามฝึก ตอนนี้มีนักเรียนสี่คนเริ่มฝึกดาบกันเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นโรแลนด์มาถึงประตูทางเข้าฉีเฉาชู่ก็เดินเข้ามาหาเขา
“ดูเหมือนว่านายจะตัดสินใจเรียนดาบแล้วสินะ ไม่งั้นนายก็คงไม่มาในเวลานี้หรอก” ฉีเฉาชู่นำบุหรี่ออกมาจุดไฟจากนั้นสูบมันเข้าไปก่อนพ่นควันออกมา “ฉันยังคงคำพูดเดิม 30,000 หยวน สำหรับค่าเรียน ไม่มีส่วนลด”
โรแลนด์นั้นชอบความตรงไปตรงมาของฉีเฉาชู่ “ฉันมีคำถาม คุณสกุล ‘ฉี’…คุณเกี่ยวข้องอะไรกับแม่ทัพฉีกัน? อย่าบอกนะว่าคุณเป็นลูกหลานของเขา”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ ตามประวัติของตระกูลฉัน ฉันนั้นเป็นลูกหลานขององครักษ์ส่วนตัวของแม่ทัพฉีผู้ซึ่งได้รับอนุญาติให้ใช้สกุลนี้ได้” ฉีเฉาชู่เกาหัวของเขาอย่างหงุดหงิด “บางทีนายอาจจะไม่อยากเรียนที่นี่ก็ได้หลังจากรู้เรื่องพวกนี้แล้ว จริงๆแล้วฉันสามารถหลอกนายว่าฉันเป็นลูกหลานของแม่ทัพฉีก็ได้ แต่ฉันคิดว่าบรรพบุรุษของพวกฉันไม่เคยแอบอ้างมาก่อนว่าเกี่ยวข้องกับพวกชนชั้นสูง พวกเราบุตรหลานก็ไม่ควรทำเช่นกัน”
โรแลนด์หัวเราะในใจ “ไม่ล่ะ ฉันยิ่งอยากเรียนมากขึ้นไปอีก ถ้าหากคุณบอกว่าคุณเป็นเชื้อสายของแม่ทัพฉีละก็ ฉันคงจากไปในทันทีแล้ว”
ฉีเฉาชู่หรี่สายตามองมายังเขา “นายเป็นคนที่ค่อนข้างแปลกนะ เข้ามาสิ”
โรแลนด์เข้าไปยังสนามฝึก ตามหลังฉีเฉาชู่ไปและเดินมายังบ้านอิฐที่ดูเหมือนยังสร้างไม่เสร็จซึ่งตั้งออยู่ถัดจากสนามฝึกไป
บ้านหลังนี้ไม่ได้ทาสี แต่ติดตั้งหน้าต่างเอาไว้ เขาสามารถมองเห็นหญิงสาวที่กำลังวุ่นอยู่ข้างในอย่างชัดเจน
หลังจากเข้าไปใกล้โรแลนด์ก็ได้กินหอมๆลอยออกมา
ใช่มันคือกลิ่นของบะหมี่ลวก ดูเหมือนจะมีสมุนไพรผสมอยู่
แม้ว่าโรแลนด์จะกินอาหารเช้าไปแล้ว แต่จริงๆแล้วเขาก็รู้สึกหิวเล็กน้อยหลังจากได้กลิ่นหอมนี้
“น้องสาว วันนี้มีคนมาสมัครเรียนด้วย” ฉีเฉาชู่เปิดประตูก่อนจะเดินเข้าไปแล้วตะโกน “มารับเงินจากทางโทรศัพท์หน่อย!”
โรแลนด์เดินเข้าไปข้างในและพบหม้อสีดำขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนเตาในครัวตรงหน้าเด็กสาว
ก๋วยเตี๋ยวกำลังเดือดอยู่ข้างในหม้อ น้ำซุปเป็นสีน้ำตาลอ่อน ข้างเตาในครัวมียาจีนสองลูกห่อด้วยผ้าฝ้ายสีขาว ชั้นนอกของผ้าฝ้ายนั้นเปียกและปล่อยไอน้ำลอยออกมาเล็กน้อย
ก๋วยจั๊บเคี่ยวยาจีน?
โรแลนด์ค่อนข้างแปลกใจกับอาหารตรงหน้า
เด็กสาวหันกลับมาและมองไปที่โรแลนด์สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสับสน “มีคนรวยโง่ ๆ ที่ยอมจ่ายค่าเรียนถึง 30,000 หยวนจริงๆหรือ?”
เมื่อเธอพูดคำเหล่านี้ใบหน้าของฉีเฉาชู่ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความหงุดหงิด