หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 74

“แล้วนักเวทย์ที่ดีควรทำตัวยังไงล่ะ?”

ที่ถามนั้นไม่ได้หมายความว่าโรแลนด์จะทำตามที่อีกฝ่ายพูด เขาแค่อยากรู้ว่านักเวทย์บนโลกนี้ควรวางตัวอย่างไรถึงจะเหมาะสม

จอห์นหัวเราะอย่างตรงไปตรงมา “นักเวทย์ที่ดีควรจะสร้างเครือข่ายและองค์กรของตัวเองโดยธรรมชาติ และสิ่งนี้เชื่อมโยงกับการได้รับความสนับสุนจากขุนนางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

“คุณช่วยอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมได้ไหม” โรแลนด์แสดงท่าทางให้เขาพูดต่อ “คุณก็รู้พวกเราบุตรทองคำมาจากมิติอื่นซึ่งมีวัฒนธรรมทางสังคมที่แตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับของคุณ”

“ขุนนางและนักเวทย์อย่างเป็นทางการมีความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน” จอห์นเอนหลังพิงเก้าอี้เล็กน้อยและพูดว่า “นักเวทย์อย่างเป็นทางการนั้นไม่สามารถแยกตัวออกจากขุนนางได้ ในขณะเดียวกันเหล่าขุนนางนั้นก็ต้องการความช่วยเหลือจากเหล่านักเวทย์ ความสัมพันธ์ของพวกเรานั้นเปรียบได้กับปลาและน้ำ”

“แล้วใครเป็นปลาและใครเป็นน้ำ?” โรแลนด์ถามด้วยรอยยิ้ม

จอห์นสะดุ้งครู่หนึ่งแล้วยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “จำเป็นต้องแยกแยะให้ชัดเจนขนาดนั้นเลยหรือ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ห้องเงียบไปชั่วขณะ ในท้ายที่สุดจอห์นก็ยืนขึ้นและกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “มิสเตอร์โรแลนด์ดูคุณจะมีอคติกับข้านะ”

“บางทีฉันอาจจะมีอคติกับขุนนางทั้งหมดในเมืองนี้!” โรแลนด์เริ่มหัวเราะเบา ๆ “มันก็แค่ปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารกันนิดหน่อยไม่ได้เกี่ยวกับคุณเลยแม้แต่น้อย”

“มิสเตอร์โรแลนด์มันง่ายมากที่จะเดินไปสู่หนทางอันเลวร้ายโดยการไม่โอนอ่อนต่อสิ่งใดเลย”

โรแลนด์ตะคอก “นั่นไม่ใช่ปัญหา อย่างแย่ที่สุดฉันจะย้ายไปเมืองอื่นเพื่อเรียนรู้เวทมนตร์ต่อไป ยังไงบนโลกนี้ก็คงมีสัดส่วนของขุนนางไม่เกิน 5% อย่างแน่นอน”

สีหน้าของจอห์นเปลี่ยนไปเป็นอธิบายได้ยาก “พวกบุตรทองคำต่างเป็นพวกไม่ยอมคนกันทั้งหมดเลยงั้นเหรอ?”

“ไม่หรอก จริงๆแล้วพวกเราส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นคนที่นอบโน้มเลยทีเดียว” แสงที่แหลมคมสะท้อนออกจากดวงตาของโรแลนด์ “ก็แค่พวกเรากำลังอดทนกับปัญหาอะไรสักอย่าง และพวกเรายังไม่มีโอกาสได้ระบายมันออกมาก็เท่านั้น”

เมื่อพูดถึงขนาดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก

จอห์นยังคงแสดงออกอย่างมีมารยาททางสังคม เขายังอดทนต่อคำพูดสองสามคำเพื่อมารยาททางสังคมจากนั้นก็ออกจากหอคอยเวทมนตร์

หลังจากนั้นไม่นานวิเวียนก็เคาะประตูและเดินเข้ามา

หญิงสาวมีสีหน้าที่เป็นกังวล เธอเดินไปยืนข้างโรแลนด์พร้อมกล่าวว่า “ท่านจอห์นเป็นบุตรชายของนายก ท่านรักษาการท่านอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้หากท่านไปยั่วยุเขา”

“ไม่ต้องกังวลถ้ามันมีปัญหาต่อผลประโยชน์ของหอคอยเวทย์มนตร์ฉันจะเป็นคนออกไปเอง” โรแลนด์พูดอย่างเฉยเมย

ตอนนี้วิเวียนรู้สึกกังวลอย่างแท้จริง เธอโบกมืออย่างแรง “ท่านรองประธานข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ข้าแค่เป็นห่วงท่าน!”

“ฉันรู้” โรแลนด์ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สีหน้าของเขาไม่มีร่องรอยของความโกรธหรือความหงุดหงิด

วิเวียนสำรวจดูเขาอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่โกรธจริงๆ จากนั้นในที่สุดเธอก็โล่งใจ

หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถามอย่างสงสัยว่า “ท่านรองประธาน ทำไมท่านถึงไม่ชอบท่านจอห์นกัน? เขานั้นเป็นคนดีที่พบเห็นได้ยากในหมู่ขุนนาง เขาดูแลสามัญชนเป็นอย่างดีเสียด้วยซ้ำ!”

“ดีงั้นเหรอ?“  โรแลนด์ถามด้วยน้ำเสียงสงบ “ดียังไงกัน?”

“เขาไม่สุ่มรังแกพวกสามัญชนและหลายครั้งเมื่อเห็นพวกนั้นอยู่ในความยากลำบาก เขาเองก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออีกด้วย นั่นเป็นสิ่งที่พบเจอได้ยากมาก”

“ฮ่าฮ่า!”

โรแลนด์เยาะเย้ยมุมริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มดูแคลน “เขาเป็นลูกชายของนายกเทศมนตรีเมืองนี้สินะ แล้วเมืองนี้จะเป็นของเขาในอนาคตใช่ไหม?”

 

วิเวียนพยักหน้ารับ

“ตามแนวคิดของพวกเราบุตรทองคำนั้น ถึงจะอยู่ในยุคที่มีการแบ่งชนชั้นและศักดินาเช่นนี้ นายกของเมืองก็ควรที่จะมีหน้าที่ปกครองสามัญชนและดูแลความปลอดภัยให้แก่พวกเขา” โรแลนด์ถอนหายใจและพูดว่า “ทว่าในเมืองนี้ขุนนางนั้นทำร้ายและผ่ากินหัวใจของประชาชนโดยง่าย หมอนั่นก็ไม่สนใจ ที่ข้างนอกเมืองนั่นมีฆาตรกรต่อเนื่องซึ่งเล็งเป้าหมายไปที่เด็กสาวอยู่ หมอนั่นก็ไม่ใส่ใจ มีขอทานมากกว่าหมืนคนภายในเมือง หมอนั่นก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น หรือแม้แต่ปัจจัยพื้นฐานของเมืองหรือภาพลักษณ์ หมอนั่นก็ยังคงไม่สนใจเหมือนเดิม ไม่ทำอะไรแม้งสักอย่าง เอาแต่ยิ้มอย่างอบอุ่นตลอดเวลา แล้วเรียกการกระทำพวกนี้ว่ามีเมตตา ขุนนางอย่างนี้มีค่าพอที่ฉันจะเสวนาด้วยงั้นเหรอ?”

“โอ้…ท่านรองประธานท่านช่างเคร่งครัดจริงๆ”

โรแลนด์ถอนหายใจ “นี่ไม่ใช่การเคร่งครัดหรอกนะ ทว่ามันเป็นอุดมการณ์ของบุตรทองคำส่วนมาก ไม่เพียงไม่ปกป้องคนของตัวเอง ทว่ากลับละเลยพวกเขาโดยสมบูรณ์ และเอาแต่เก็บภาษี ถ้าหากเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในเรื่องจริงละก็ … ฮ่า!”

หัวใจของวิเวียนเต้นรัวอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกว่าโรแลนด์ซึ่งในตอนนี้มีสีหน้าดูถูกและเหยียดหยามที่กำลังต่อว่าจอห์นอย่างรุนแรงช่างมีสเน่ห์เหลือเกิน

เธอหน้าแดงก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไป เธอไม่กล้าอยู่นานมากกว่านี้แม้เพียงน้อย

ภายในหอคอยเวทย์โรแลนด์ยังคงศึกษาความสามารถทางภาษาต่อไปและแล้วมันก็จบไปอีกวัน เมื่อปีนออกจากแคปซูลเสมือนจริง เขาก็ไปที่ฟอรั่มเพื่อดูการวิเคราะห์ของเกมและประสบการณ์ของผู้เล่นคนอื่น หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ไปกินอาหารเช้าก่อนขี่จักรยานสาธารณะไปยังพื้นที่ชนบท

ตอนนี้ยังคงเช้าอยู่ มันพึ่งเจ็ดโมงกว่าๆก็เท่านั้น

ภายใต้หลังคาสังกะสีในสนามฝึก ตอนนี้มีนักเรียนสี่คนเริ่มฝึกดาบกันเรียบร้อยแล้ว

เมื่อเห็นโรแลนด์มาถึงประตูทางเข้าฉีเฉาชู่ก็เดินเข้ามาหาเขา

“ดูเหมือนว่านายจะตัดสินใจเรียนดาบแล้วสินะ ไม่งั้นนายก็คงไม่มาในเวลานี้หรอก” ฉีเฉาชู่นำบุหรี่ออกมาจุดไฟจากนั้นสูบมันเข้าไปก่อนพ่นควันออกมา “ฉันยังคงคำพูดเดิม 30,000 หยวน สำหรับค่าเรียน ไม่มีส่วนลด”

โรแลนด์นั้นชอบความตรงไปตรงมาของฉีเฉาชู่ “ฉันมีคำถาม คุณสกุล ‘ฉี’…คุณเกี่ยวข้องอะไรกับแม่ทัพฉีกัน? อย่าบอกนะว่าคุณเป็นลูกหลานของเขา”

“แน่นอนว่าไม่ใช่ ตามประวัติของตระกูลฉัน ฉันนั้นเป็นลูกหลานขององครักษ์ส่วนตัวของแม่ทัพฉีผู้ซึ่งได้รับอนุญาติให้ใช้สกุลนี้ได้” ฉีเฉาชู่เกาหัวของเขาอย่างหงุดหงิด “บางทีนายอาจจะไม่อยากเรียนที่นี่ก็ได้หลังจากรู้เรื่องพวกนี้แล้ว จริงๆแล้วฉันสามารถหลอกนายว่าฉันเป็นลูกหลานของแม่ทัพฉีก็ได้ แต่ฉันคิดว่าบรรพบุรุษของพวกฉันไม่เคยแอบอ้างมาก่อนว่าเกี่ยวข้องกับพวกชนชั้นสูง พวกเราบุตรหลานก็ไม่ควรทำเช่นกัน”

โรแลนด์หัวเราะในใจ “ไม่ล่ะ ฉันยิ่งอยากเรียนมากขึ้นไปอีก ถ้าหากคุณบอกว่าคุณเป็นเชื้อสายของแม่ทัพฉีละก็ ฉันคงจากไปในทันทีแล้ว”

ฉีเฉาชู่หรี่สายตามองมายังเขา “นายเป็นคนที่ค่อนข้างแปลกนะ เข้ามาสิ”

โรแลนด์เข้าไปยังสนามฝึก ตามหลังฉีเฉาชู่ไปและเดินมายังบ้านอิฐที่ดูเหมือนยังสร้างไม่เสร็จซึ่งตั้งออยู่ถัดจากสนามฝึกไป

บ้านหลังนี้ไม่ได้ทาสี แต่ติดตั้งหน้าต่างเอาไว้ เขาสามารถมองเห็นหญิงสาวที่กำลังวุ่นอยู่ข้างในอย่างชัดเจน

หลังจากเข้าไปใกล้โรแลนด์ก็ได้กินหอมๆลอยออกมา

ใช่มันคือกลิ่นของบะหมี่ลวก ดูเหมือนจะมีสมุนไพรผสมอยู่

แม้ว่าโรแลนด์จะกินอาหารเช้าไปแล้ว แต่จริงๆแล้วเขาก็รู้สึกหิวเล็กน้อยหลังจากได้กลิ่นหอมนี้

“น้องสาว วันนี้มีคนมาสมัครเรียนด้วย” ฉีเฉาชู่เปิดประตูก่อนจะเดินเข้าไปแล้วตะโกน “มารับเงินจากทางโทรศัพท์หน่อย!”

โรแลนด์เดินเข้าไปข้างในและพบหม้อสีดำขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนเตาในครัวตรงหน้าเด็กสาว

ก๋วยเตี๋ยวกำลังเดือดอยู่ข้างในหม้อ น้ำซุปเป็นสีน้ำตาลอ่อน ข้างเตาในครัวมียาจีนสองลูกห่อด้วยผ้าฝ้ายสีขาว ชั้นนอกของผ้าฝ้ายนั้นเปียกและปล่อยไอน้ำลอยออกมาเล็กน้อย

ก๋วยจั๊บเคี่ยวยาจีน?

โรแลนด์ค่อนข้างแปลกใจกับอาหารตรงหน้า

เด็กสาวหันกลับมาและมองไปที่โรแลนด์สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสับสน “มีคนรวยโง่ ๆ ที่ยอมจ่ายค่าเรียนถึง 30,000 หยวนจริงๆหรือ?”

เมื่อเธอพูดคำเหล่านี้ใบหน้าของฉีเฉาชู่ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความหงุดหงิด

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์

Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์
Score 6.9
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Mage are too Op หฤโหดโคตรนักเวทย์ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์ ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset