ความเป็นอมตะนั้นเป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ทว่าภายในโลกแห่งเกมนั้นมันเรียกว่าจะเป็นเรื่องราวพื้นฐานเลยทีเดียว
ไม่ต้องพูดถึงพวกเทพที่เป็นอมตะ ไม่ว่าจะเป็นเอลฟ์ที่มีอายุมากกว่าเก้าพันปีก็เพียงพอแล้วให้คนอิจฉา ภายในโลกนี้มีของวิเศษมากมายที่ช่วยยืดอายุไข ทว่ามันก็หาได้ยากมาก
อาทิเช่น ผลของต้นไม้โลกซึ่งจะออกดอกในทุกๆสามร้อยปีเท่านั้นหรือบางครั้งมันก็เพียงแค่ออกดอกและไม่ออกผล
มีข่าวลือว่าเผ่าพันธ์อื่นๆอย่าง มนุษย์ , ออร์ค , ถ้าหากพวกนั้นได้กินกลีบของดอกไม้โลกละก็ พวกเขาจะสามารถเพิ่มอายุขัยได้ราวๆ 10 ปีเลยทีเดียว หากกินดอกไม้เข้าไปสิบดอก พวกเขานั้นก็จะถือว่ามีอายุเทียบได้กับเอล์ฟเลยทีเดียว
ต้นไม้โลกนั้นเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงมากกว่า 600 เมตรและมีเส้นผ่านศูนย์กลางของยอดไม้ประมาณ 1.3 กม. ทุกๆครั้งที่มันออกดอกมันจะมีดอกไม้อย่างน้อยหนึ่งหมื่นดอก
ตามจริงแล้วในทุกๆครั้งของการผลิบานของต้นไม้โลก จะมีผู้คนจำนวนมากสามารถเพิ่มอายุขัยได้ราวร้อยถึงพันปี
ทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นดอกไม้ของต้นไม้โลกไม่เคยถูกนำออกไปจากป่าเอลฟ์ และเอลฟ์นั้นก็ไม่ได้เก็บดอกของต้นไม้โลกเลย
พวกเขาเพียงแค่ปล่อยให้ดอกไม้เหล่านี้ตกลงไปบนพื้นและกลมกลืนไปกับผืนดิน
หากมีบุคคลภายนอกพยายามขโมยดอกไม้จากเอลฟ์…พวกเขาก็จะเป็นศัตรูตัวฉกาจของเอลฟ์ทั้งหมด
เนื่องจากเอลฟ์ถือกำเนิดจากต้นไม้โลกในสายตาของพวกเขาดอกไม้แต่ละดอกของต้นไม้โลกอาจกลายเป็นเครือญาติของพวกเขา แม้ว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ดอกไม้เหล่านั้นก็ยังคงถูกนับเป็นซากศพของพี่น้องของพวกเขา ดอกไม้นั้นมาจากต้นไม้ซึ่งเป็นแม่ หลังจากพวกมันล่วงหล่นหลอมรวมกับผืนดิน พวกเขานั้นก็จะกลับมาเกิดใหม่บนต้นไม้โลกอีกครั้ง เพียงแค่รอเวลากลับชาติมาเกิดเป็นดอกไม้อีกคราก็แค่นั้น
นอกจากนี้ยังมีเนื้อสัตว์อสูรที่ทรงพลังหรือแขนขาของปีศาจที่มีให้ผลคล้ายกันเมื่อกินเข้าไป
อย่างเช่นสมองหรือหัวใจของมังกร
…หรือแกนกลางเพลิงสีเลือดของนกฟินิกส์
ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้โลกหรือเหล่าสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังหรือปีศาจสิ่งเหล่านี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ขุนนางเหล่านี้พวกนี้สามารถได้รับมันมาได้เมื่อต้องการ ทว่าหากเป็นบุตรทองคำล่ะ…ไม่ใช่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากมายนักไม่ใช่เหรอ? มันยังมีโอกาสที่สามารถจัดต้องได้”
“ฟังดูน่าสนใจทีเดียว” บาร์ดยิ้มอย่างมีความสุข
จอห์นกล่าวว่า “โดยส่วนตัวข้าไม่เชื่อในข่าวลือพวกนี้นัก นอกจากนี้การกินมนุษย์เหมือนกันยังดูน่าขยะแขยงอีกด้วย เพราะถึงอย่างไรเราก็เป็นมนุษย์ไม่ใช้ออร์ค
บาร์ดยกยิ้มอย่างเห็นด้วย
จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนไปคุยในเรื่องอื่น จอห์นยืนอยู่ที่ระเบียงและบอกกับบาร์ดว่าสตรีสาวคนไหนที่น่ารักและเข้าถึงง่าย รวมถึงว่าคนไหนค่อนข้างบริสุทธิ์
บาร์ดจดจำชื่อของแต่ละคนไว้ในใจ และจากนั้นเขาก็หาข้ออ้างเพื่อไปยังที่จัดงานเลี้ยง
จอห์นยังคงยืนอยู่ที่ระเบียงมองลงไปด้านล่างเมื่อเห็นบาร์ดมีปฏิสัมพันธ์กับสตรีชั้นสูงรอยยิ้มของเขายังคงอ่อนโยนและอบอุ่นเหมือนเช่นเคย
รอยยิ้มของเขานั้นราวกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก
หลังจากงานเลี้ยงจบลงบาร์ดผู้ซึ่งอาบไปด้วยกลิ่นน้ำหอมก็กลับไปยังห้องรับรองแขกที่เจ้าภาพจัดไว้ให้กับเขา
บาร์ดหัวเราะเบา ๆ บนเตียง
เขารู้อยู่แล้วว่าที่จอห์นเล่าเรื่องราวมากมายให้เขาฟังไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากพยายามให้เขานั้นมีปัญหากับพวกบุตรทองคำ ต้องไปขัดแย้งกับกลุ่มคนที่เป็นอมตะ หมอนั่นคิดจริงๆงั้นเหรอว่าเขาโง่ขนาดนั้น?
แน่นอนเขาอยากลองลิ้มลองเนื้อของบุตรทองคำ ถ้าหากมันได้ผลจริงๆละก็ เขาจะส่งมันไปให้ยังท่านปู่ ทว่าปัญหาก็คือเขาจำเป็นต้องสู้กับบุตรทองคำพวกนั้นเพื่อเนื้องั้นเหรอ? เขาสามารถซื้อมันด้วยทองได้ไหม?
เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถซื้อเนื้อของโรแลนด์ได้อย่างแน่นอน โรแลนด์นั้นหยิ่งทระนงเกินไป และหากเขาเข้าไปใกล้โรแลนด์ เขาจะต้องถูกทำให้อับอายอย่างแน่นอน ทว่าเขายังสามารถลองกับบุตรทองคำที่เหลืออีกสามคนได้
จากนั้นเขาก็หลับตาลงเพื่อพักผ่อน
ในไม่ช้ายามเช้าก็มาถึงอีกครั้ง เพราะไม่จำเป็นต้องนอน ดังนั้นโรแลนด์จึงศึกษาเวทย์ความสามารถทางภาษาของเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้เขาอยู่ห่างอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นสำหรับการควบรวมผลของการฟังและการอ่าน
ทว่าเขาก็ยังคงติดอยู่ตรงส่วนนี้ เขาพบว่าเขานั้นขาดข้อมูลบางอย่างและหลังจากพยายามทดลองอยู่หลายครั้งมันก็ยังคงผิดพลาด เขาไม่สามารถหาวิธีแก้ปัญหาได้ ถ้าหากเขาลองใช้วิธีตัดออกที่ละช้อย เวลาที่เขาเสียไปกับการทดลองคงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ในเมื่อมันมีจุดเวทย์เหลืออยู่เยอะเกินไปและมันยังมีการผสานกันมากกว่าอีกหมื่นครั้ง
ตอนนี้โรแลนด์รู้สึกว่าตัวเองขาดความรู้และความเข้าใจในคณิตศาสตร์
เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ตัวเองไม่ได้เข้าเรียนปริญญาโทและสอบเข้าปริญญาเอก
แล้วถ้าหาก…ลองขอความช่วยเหลือจากพวกชาวเน็ตในเว็บบอร์ดดูล่ะ?
ชาวเน็ตคนที่สามารถบอกได้ว่าเขานั้นมีความสามารถพิเศษซ่อนอยู่นั้นค่อนข้างน่าประทับใจเลยทีเดียว ทันใดนั้นเองเขาก็ออกจากเกมและไปที่ฟอรั่มจากนั้นเขาก็ทัก @หมอนั่นไปเพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการคำนวน
เนื่องจากวิเวียนไม่ได้อยู่ที่หอคอยเวทมนตร์ โรแลนด์จึงทำได้แค่ออกไปหาอาหารกินข้างนอกด้วยตัวเอง
เมื่อเขามาถึงทางเข้าหอคอยเวทมนตร์เขาก็เห็นฮอว์กลิงค์และชายคนหนึ่งในชุดเกราะโซ่เดินเข้ามา
ในตอนแรกนั้นโรแลนด์คิดว่าเขานั้นน่าจะเป็นนักรบ ทว่าเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังจิตที่แผ่ออกมาจากร่างของชายคนนั้น
นี่คือสัญลักษณ์ของผู้ใช้เวทย์
ยิ่งไปกว่านั้น ชายคนนี้นั้นร่างกายค่อนข้างตั้งตรง และถึงแม้ว่าในรูปลักษณ์ของเขาจะมีอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น ทว่าการแสดงออกในดวงตาของเขานั้นค่อนข้างสุขุมเลยทีเดียว
ผู้เล่น?
เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ เนื่องจากบรรยากาศขอผู้เล่นเมื่อเทียบกับ NPC นั้นค่อนข้างชัดเจนกว่ามา
เช่นเดียวกับคนจีนส่วนใหญ่พวกเขาสามารถแยกความแตกต่างระหว่างผู้คนในอาณาจักรสวรรค์ 1 กับผู้คนใน ฟูซาง2 ได้อย่างง่ายดาย
หมอนี่ก็จากปีกสีเงินงั้นเหรอ?
เมื่อโรแลนด์กำลังคิดอย่างนี้เขาก็ได้ยินฮอว์กพูดว่า “โรแลนด์หมอนี่เป็นนักบวชที่นายรับสมัครมาจากทางออนไลน์ พอดีหมอนี่หาตัวพวกเราเจอก่อน ดังนั้นพวกเราจึงพาหมอนี่มาหานาย”
นักบวช?
เดี๋ยวก่อนนี่คือนักบวช?
ชายคนนี้อยู่ในชุดเกราะหนักตั้งแต่หัวจรดเท้าถือโล่ทรงสี่เหลี่ยมที่ทำด้วยเหล็กบนหลังของเขาโดยมีคทาเหล็กขนาดเล็กห้อยอยู่ที่เอวของเขา กระทั่งคทาของเขายังมีตะปูถูกปักไว้และดูอันตรายเป็นอย่างมาก
คอของชายคนนี้และข้อมือนั้นไม่ได้ถูกป้องกันอยู่ภายในชุดเกราะ และมีรอยเส้นเลือดเห็นอย่างเด่นชัด
กล้ามเนื้อบริเวณนี้ค่อนข้างยากในการฝึก หากชายคนนี้สามารถฝึกกล้ามเนื้อเหล่านี้ให้มีความโดดเด่นได้ถึงขั้นนี้ เช่นนั้นกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็คงไม่เลวเช่นกัน
“เห็นได้ชัดว่าหมอนี่เป็นพวกอาชีพต่อสู้ระยะประชิดแต่นายยังพยายามบอกว่าเขาเป็นนักบวชงั้นเหรอ?”
โรแลนด์คิดว่านี่มันไม่น่าเชื่อถือแม้แต่น้อย ในความคิดของเขานักบวชควรจะคล้ายๆกับฟอลเคิล สวมชุดคลุมเวทย์และถือไม้เท้า
“ผมเป็นนักบวชจริงๆ” ชายที่อยู่ในชุดเกราะหนักนั้นพูดขึ้นอย่างจริงจัง “ฉันเป็นนักบวชสายต่อสู้หรือแบทเทิลพรีส และคุณโรแลนด์ คุณไม่สามารถนำประสบการณ์ในเกมอื่นๆมาตัดสินเกมนี้ได้หรอกนะ ฉันอยู่ในโบสถ์แห่งชีวิตมาเป็นเวลากว่าสองเดือน ฉันสามารถบอกได้อย่างมั่นใจเลยว่าถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นในโบสถ์ พวกเรานักบุญนั้นถือเป็นแนวหน้า ทั้งการต่อสู้ระยะประชิด การสนับสนุน และการรักษา พวกเรานั้นชำนาญในทุกสิ่ง นักบวชที่คุณหมายถึงนั้นเป็นนักบวชที่ปฎิบัติตามทฤษฎี พวกเขานั้นมีหน้าที่ในการยึดมั่นตามหลักคำสอน และเผยแพร่ความศรัทธา และเทศนาเหล่าสาวก พวกเขานั้นเกือบจะไม่เคยต่อสู้เลย ถ้าหากพวกเขาต้องมาเข้าร่วมการต่อสู่ละก็นั่นหมายความว่านั่นเป็นเวลาของการต่อสู้เป็นตายเพื่อนิกายเท่านั้น
เข้าใจละ…โรแลนด์พูดด้วยรอยยิ้ม “โทษที พอดีฉันอยู่ในหอคอยเวทย์และพัฒนาเวทย์อยู่เกือบตลอดเวลาและไม่ค่อยได้เห็นการต่อสู้ของคนอื่นนัก จึงไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากนัก”
“ไม่เป็นไร ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นมือใหม่ ยังมีอีกหลายเรื่องภายในเกมนี้ที่พวกเราต้องทำความเข้าใจ” ชายคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม “เรียกผมว่าเจ็ทก็ได้”
“เจ็ท…คุณทานอาหารเช้าหรือยัง?” โรแลนด์ถาม
เจทท์ส่ายหัว
ฮอว์กถามด้วยท่าทางตื่นเต้น “นายจะเลี้ยงพวกเราใช่ไหม พ่อคนรวย!”
โรแลนด์พยักหน้า “อ่าหะ งั้นไปที่เกรย์แซนด์กันเถอะ ที่นั่นค่อนข้างมีชีวิตชีวาเลยทีเดียว เดี๋ยวฉันจะได้เรียกหัวหน้าภารกิจด้วย”
เจ็ทมีสีหน้าสับสนขึ้นมา “โรแลนด์คุณไม่ใช้หัวหน้าภารกิจงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ฉันหรอกหัวหน้าภารกิจในครั้งนี้คือเพื่อนร่วมกิลด์ฉันเอง ฉันทิ้งข้อความให้หมอนั่นไว้ในระบบเรียบร้อยแล้ว”
ทันใดนั้นดวงตาของเจ็ทก็เบิกโพล่งขึ้น “ระบบกิลด์…กิลด์ F6?”
天朝 Tiāncháo = อาณาจักรสวรรค์ เป็นชื่อเรียกเก่าของเมืองจีนครับ
扶桑 Fúsāng = ฟูซาง มันเป็นชื่อที่นิยมใช้ในวรรณกรรมโบราณของจีน มักจะอ้างอิงถึงต้นไม้ในตำนานหรือแดนลึกลับ แต่ปัจจุบันมันใช้อ้างอิงในการกล่าวถึงญี่ปุ่นในบทกวีต่างๆ