สืบสวนเรื่องราวในอดีต
ทุกคนมีความเห็นพ้องกันว่าซูหลิ่วร่างกายอ่อนแอจึงติดโรคจากซูหมิง หมอในจวนก็บอกอย่างนี้
ต่อจากนั้นสุขภาพของซูหลิ่วก็ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ กู้เหยี่ยนเวลานั้นกำลังหวานชื่นกับซูเหม่ย ไม่ได้ใส่ใจซูหลิ่ว ทั้งยังมีงานราชการยุ่ง จึงไม่ได้ถามไถ่อาการของซูหลิ่ว
เขาเคยพาซูหลิ่วไปรักษาที่ซูโจว แต่หมอที่ซูโจววินิจฉัยไม่ออก ไม่รู้ว่าซูหลิ่วป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่
ทำไมซูจิ่วซือจึงมั่นใจว่าซูหลิ่วถูกวางยาพิษ ถ้าซูหมิงรู้ความผิดปกตินี้ตั้งแต่แรก ทำไมจึงไม่พูดเรื่องนี้กับเขา ด้วยนิสัยของซูหมิงต้องมาหาเขาแน่
พี่น้องคู่นี้รักใคร่กันดีมาก ซูหมิงปกป้องซูหลิ่วผู้เป็นพี่สาวเป็นพิเศษ ไม่บอกเรื่องนี้ให้ตนรู้ แต่กลับบอกซูจิ่วซือ ช่างไม่สมเหตุสมผลเลย
เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในอดีต ซูจิ่วซือเองก็แปลก เรื่องเหล่านี้ ดูเหมือนนางรู้อย่างชัดเจน ราวกับประสบกับตัวเอง
“จิ่วซือ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะใส่ใจ เรื่องของป้าเจ้า ข้ารู้ดีกว่าเจ้า ซูหมิงถ้านึกสงสัยอยู่ก่อน ทำไมปิดบัง เขาต้องมาบอกให้ข้ารู้ก่อน”
“ถ้าท่านลุงไม่เชื่อคำพูดของข้าก็ไปสืบดู แล้วดูว่าข้าพูดจริงหรือไม่ อาการป่วยของท่านพ่อในตอนหลังก็ไม่ต่างจากท่านป้า เดิมทีท่านพ่อคิดว่าโรคจากหนานเจียงกำเริบ ต่อมาท่านพ่อรู้จักคนหนานเจียงคนหนึ่ง เขาบอกท่านพ่อเองว่าไม่มีโรคนี้ แต่เป็นเพราะถูกวางยาพิษ
ท่านพ่อเหลือเวลาไม่มาก ไม่ทันตรวจสอบเรื่องนี้ก็เสียชีวิตก่อน ท่านพ่อกับท่านป้าถูกวางยาพิษชนิดเดียวกัน นี่ยังไม่ใช่คำตอบหรอกหรือ หลังจากที่ท่านป้าตาย สาวใช้คนสนิทของท่านป้าก็ไปอยู่กับอาซูเหมย ท่านลุงไม่รู้สึกว่าผิดปกติหรือ ไม่คิดหรือว่าอาซูเหมยติดสินบนหงเหลียนไว้แล้ว”
คำนี้ซูจิ่วซือพูดเอง ถ้าไม่ใช่เพราะซูเหมยบอกไว้ก่อนที่นางจะสิ้นลม นางคงไม่คิดว่าตนถูกวางยาพิษ
หลังฟื้นชีพ นางอยากสืบดูว่าเวลานั้นซูเหมยใช้ยาพิษอะไรให้ตน แต่เหตุการณ์ผ่านไปยี่สิบปีแล้ว ร่างของนางกับซูหมิงกลายเป็นกระดูกแล้ว ไม่อาจตรวจศพได้
การสืบสวนเรื่องนี้ไม่ใช่ง่ายๆ ไม่มีร่องรอยอะไรเลย ได้แต่เริ่มจากหงเหลียน แต่เมื่อก่อนซูจิ่วซือมีงานติดพันอยู่ จึงไม่มีเวลามาจัดการ อีกทั้งหงเหลียนเป็นคนใกล้ชิดซูเหมย นางจึงจัดการได้ไม่ถนัด ตอนนี้เริ่มจากการให้กู้เหยี่ยนตรวจสอบเรื่องนี้คงดีไม่น้อย
พอได้ยินคำพูดของซูจิ่วซือ กู้เหยี่ยนก็ไม่พูดต่อ สีหน้าครุ่นคิด เขาเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง
เขาไม่เคยสงสัยว่าการตายของซูหลิ่วเกี่ยวข้องกับซูเหมย เวลานี้พอได้ยินซูจิ่วซือพูด เขาจึงนึกสงสัย อยากตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด ถ้าเกี่ยวข้องกับซูเหมยจริง เขาไม่มีวันปล่อยซูเหมยแน่
เรื่องที่ควรพูดก็พูดไปแล้ว ซูจิ่วซือไม่อยากคุยกับกู้เหยี่ยนอีก นางยืนหน้าป้ายหลุมศพ พูดขึ้น “ข้าอยากคารวะท่านป้าตามลำพังสักครู่ ท่านลุงมาก่อนก็กลับไปก่อนเถอะ ถ้าอยากให้ท่านป้าสงบ ท่านลุงควรรีบตรวจสอบเรื่องนี้”
หมอที่เคยตรวจซูหลิ่วตอนนั้นตายไปนานแล้ว การจะรู้ความจริงเวลานั้น มีแต่ต้องเริ่มจากตัวหงเหลียน ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องทำเพื่อซูหลิ่วให้ได้
กู้เหยี่ยนไม่พูดไม่จา รีบเดินออกไป
ซูจิ่วซือมองป้ายหลุมศพ ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้หันกลับไปมอง นางคิดมาตลอดว่ากู้เหยี่ยนกับซูเหมยร่วมมือกันวางยาพิษตน เวลานี้แม้รู้แน่ชัดแล้วว่ากู้เหยี่ยนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่นางก็ไม่อาจให้อภัยกู้เหยี่ยนในเรื่องต่างๆ ที่เขาเคยทำ
——