ตอนที่ 292 รอข้ากลับมา
เผยไป๋ชวนไม่ได้รับปากทันที แต่ครุ่นคิด เขาพิจารณาคำพูดของกู้เฉินหรงอย่างละเอียด
ได้ข่าวว่าหลายปีมานี้พระวรกายของฝ่าบาทไม่เหมือนเมื่อก่อน การที่รีบร้อนตามเขากลับไป คงจะมีพระประสงค์ให้กู้เฉินหรงสืบทอดบัลลังก์ เขาเป็นลูกชายของรัชทายาทตวนฮุ่ย การสืบทอดบัลลังก์จึงเป็นไปตามแบบแผน
แคว้นเจียงต้องเป็นของกู้เฉินหรงหรือไม่ก็ซิ่นอ๋อง เวลานี้คนตระกูลเผยไม่อาจวางตัวอยู่ภายนอก เขาต้องเลือกใครคนหนึ่ง หากเลือกผิด คนตระกูลเผยก็จะประสบหายนะ
กู้เฉินหรงไม่ได้รบกวนเผยไป๋ชวน เรื่องนี้ควรให้เผยไป๋ชวนคิดให้ดี ในใจของเขาตึงเครียด กลัวว่าเผยไป๋ชวนจะปฏิเสธ หากเผยไป๋ชวนปฏิเสธ ชีวิตของเขาก็ตกอยู่ในอันตราย
ปิงอวิ๋นเตรียมการไว้แล้ว หากเผยไป๋ชวนปฏิเสธ นางจะลงมืออย่างรวดเร็ว ภารกิจของนางคือพากู้เฉินหรงกลับไป ต้องพากู้เฉินหรงกลับแคว้นเจียงอย่างปลอดภัยให้ได้
ไม่มีใครพูดจา คนที่เผยไป๋ชวนพามาก็จ้องหน้าอย่างดุดัน เตรียมลงมือ ถนนหลวงอันเงียบสงัดยิ่งเงียบสงัดขึ้นอีก
ในที่สุด เผยไป๋ชวนก็เปิดปากพูด “ได้ ข้าร่วมมือกับเจ้า”
หัวใจที่ตึงเครียดของกู้เฉินหรงผ่อนคลายลงแล้ว “จ้าวหุบเผยใจกว้าง วางใจเถอะ เรื่องที่ข้ารับปากไว้ต้องทำให้ได้ เวลานี้มีเรื่องหนึ่งจะขอร้องจ้าวหุบเผย
ข้าต้องรีบกลับแคว้นเจียง จ้าวหุบเผยยินดีพาจิ่วซือไปส่งเมืองหลวงหรือไม่ แม้จะมีคนอยู่ดูแล แต่ข้ากลัวว่าระหว่างทางอาจจะมีอันตราย ถ้าจ้าวหุบเผยยินดีไปส่งด้วยตัวเอง ข้าจะวางใจมาก”
“ข้าไปส่งซูหลิ่ว เรื่องนี้ไม่ต้องให้เจ้าบอก”
พูดจบเผยไป๋ชวนก็หันตัว เดินไปสองก้าวแล้วหยุด “ราชนัดดาต้องเร็วหน่อย ระหว่างทางอย่าให้เสียเวลา”
กู้เฉินหรงพยักหน้า เวลานี้สถานการณ์คับขัน เขาไม่อาจเสียเวลาระหว่างทางอีก ต้องกำจัดซิ่นอ๋องซึ่งเป็นอุปสรรค
พอเผยไป๋ชวนไปแล้ว ปิงอวิ๋นก็ขมวดคิ้ว ถามขึ้น “นายท่าน จ้าวหุบเผยอยากได้คุณหนูซู นายท่านให้จ้าวหุบเผยไปส่งคุณหนูซูกลับเมืองหลวงจะเหมาะหรือ?”
“วรยุทธสูงส่งปานนี้ ยังจะมีใครเหมาะกว่าเขา? จิ่วซือเป็นคนอย่างไร เจ้ายังดูไม่ออกหรือ ยี่สิบกว่าปีก่อนนางไม่ได้เลือกเขา ยี่สิบปีต่อมายิ่งเป็นไปไม่ได้”
ปิงอวิ๋นไม่พูดอะไรอีก คุณชายของนางพูดถูก ลูกสาวของเผยไป๋ชวนอายุใกล้เคียงกับซูจิ่วซือ ซูจิ่วซือไม่มีวันทอดทิ้งกู้เฉินหรง ไปรักตาแก่แน่
“ไปกันเถอะ อย่าเสียเวลาเลย”
กู้เฉินหรงพูดจบก็ขึ้นม้า ปิงอวิ๋นเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของกู้เฉินหรง พอขึ้นม้าแล้วจึงถามขึ้น “นายท่าน ขี่ม้าจะสะเทือน อาการบาดเจ็บ…”
“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”
พูดจบกู้เฉินหรงก็ตวัดแส้อย่างแรง ม้าดำทะยานออกจากอำเภอผีเซี่ยนอย่างรวดเร็ว
เวลานี้เขาหวังว่าจะไปตั้งหลักที่เมืองหลวงให้เร็วที่สุด ต้องทำอย่างนี้เท่านั้นจึงจะรับซูจิ่วซือกลับไปให้เร็วขึ้น จะได้แต่งนางกลับแคว้นเจียงอย่างสมเกียรติ
รุ่งขึ้นพอฟ้าเริ่มสาง ซูจิ่วซือตื่นขึ้น
นางเห็นบนโต๊ะมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ ก็คาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น รีบลุกเดินมาที่โต๊ะ เปิดจดหมาย ในนั้นเขียนข้อความไว้ประโยคเดียว “จิ่วซือ รอข้ากลับมานะ”
นางรู้ว่ากู้เฉินหรงกลับแคว้นเจียงแล้ว และรู้ว่าทางแคว้นเจียงสถานการณ์กำลังคับขัน กู้เฉินหรงต้องรีบกลับไป ไม่เช่นนั้นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การจากกันคราวนี้ไม่รู้ว่านานเท่าไร ในใจของซูจิ่วซืออาลัยอาวรณ์ เริ่มคิดถึงกู้เฉินหรงแล้ว
นางจับจดหมายไว้แน่น นึกไม่ถึงว่าเขาเพิ่งไป นางก็รอให้เขากลับมา
——
ตอนที่ 293 ร่วมมือกันอย่างราบรื่น
ความรู้สึกของทั้งสองล้ำลึกขึ้นอีกขั้นหนึ่งโดยไม่รู้ตัว กู้เฉินหรงมีตำแหน่งสำคัญในหัวใจของนางมากขึ้นเรื่อยๆ
กู้เฉินหรงควรรอให้ซูจิ่วซือตื่นก่อนค่อยไป แต่เขาเกรงว่าตนจะตัดใจไม่ได้ จึงเขียนจดหมายทิ้งไว้ก่อนไป ถ้าเห็นซูจิ่วซือจริงๆ ไม่แน่เขาอาจจะยืดเวลาไปอีก
ข้างนอกก็มีเสียงจื่อหลานดังขึ้น “คุณหนู ตื่นแล้วหรือ จ้าวหุบเผยมาแล้ว”
“ให้เขารอสักครู่”
ซูจิ่วซือนอนในเสื้อผ้าปกติ พอเก็บที่นอนเรียบร้อย หวีผมแล้วจึงให้เผยไป๋ชวนซึ่งอยู่นอกห้องเข้ามาข้างใน นางมองเผยไป๋ชวนไม่พูดไม่จา เผยไป๋ชวนทำเพื่อคนตระกูลเผย นางไม่มีเหตุผลที่จะกล่าวโทษเขา ถ้าเป็นนาง นางก็ทำอย่างนี้
เผยไป๋ชวนสีหน้าละอายใจ “ขออภัย ซูหลิ่ว ข้าลำบากใจ”
“เหตุการณ์รัชทายาทตวนฮุ่ยเกี่ยวข้องกับเจ้าหรือไม่”
ซูจิ่วซือคาดเดาไว้แล้ว เวลานี้พอเห็นเผยไป๋ชวน จึงถามตรงๆ
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เผยไป๋ชวนก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องราวเวลานั้น เขาพูดต่อ “เกี่ยวข้องกับข้าจริง เวลานั้นอาของข้ารับสินบน คดีนั้นองค์รัชทายาทเป็นคนจัดการ
รัชทายาทคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมา พ่อข้าพยายามวิ่งเต้น ใช้เส้นสายช่วยอา องค์รัชทายาทตวนฮุ่ยไม่ยอมไว้ชีวิตอาข้า ยืนยันให้ประหาร ย่าข้าทนรับแรงกดดันไม่ไหวจากโลกไป
เรื่องนี้พ่อข้าจำฝังใจ เกิดความแค้นต่อรัชทายาทตวนฮุ่ย
ต่อมาซิ่นอ๋องได้รวบรวมคนที่ไม่พอใจรัชทายาทตวนฮุ่ยใส่ร้ายรัชทายาทตวนฮุ่ยว่าก่อกบฏ เขามาหาพ่อข้า ข้ากับพ่อจึงเข้าร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น
เรื่องราวต่อมาเจ้าคงรู้แล้ว คนที่เข้าร่วมเหตุการณ์ครั้งนั้นถูกฝ่าบาทลงโทษประหารทั้งหมด มีแต่พวกข้าที่หายไปจากวงการนักเลงไปก่อนเพื่อหนีเคราะห์กรรม”
“ทั้งๆ ที่ซิ่นอ๋องเป็นคนวางแผน แต่สาวไม่ถึงเขาเลย”
“ซิ่นอ๋องเป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ทิ้งหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงเขาแม้แต่น้อย เวลานี้เขาตั้งหลักได้อย่างมั่นคง ฝ่าบาทไม่อาจทำอะไรเขาได้ง่ายๆ เรื่องนี้เป็นปมในใจของข้าตลอดมา อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด หนีไปไหนก็หนีไม่พ้น จิ่วซือ วันนี้ข้ามาพบกู้เฉินหรง ข้าคิดจะร่วมมือกับเขา”
“เฉินหรงเป็นคนยึดมั่นในสัญญา ไม่มีวันทรยศแน่”
“วันข้างหน้าถ้าเขาฆ่าข้า ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด เมื่อก่อนพวกข้าใส่ร้ายรัชทายาทตวนฮุ่ยจริง แต่คนตระกูลเผยไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรทำให้คนตระกูลเผยพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
“ซิ่นอ๋องเป็นคนที่รับมือได้ยากขนาดนี้เชียวหรือ”
ซูจิ่วซือไม่เคยพบซิ่นอ๋อง แต่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับซิ่นอ๋องไม่น้อย รู้ว่าซิ่นอ๋องเป็นคนโหดเ**้ยมทารุณ เป็นคนร้ายกาจ เวลานี้กู้เฉินหรงยังตั้งหลักไม่ได้ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่เข้มแข็งอย่างนี้จึงอันตรายจริงๆ เดิมทีนางควรไปช่วยกู้เฉินหรง แต่ธุระของนางยังไม่เสร็จ เวลานี้นางยังไปจากเมืองหลวงไม่ได้
“คนที่เจ้าถูกใจคงไม่เลวแน่ กู้เหยี่ยนตอนนั้นก็สิ้นไร้ไม้ตอก สุดท้ายก็กลายเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้า ทำให้สกุลกู้กลายเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ซูหลิ่ว ข้าพาเจ้ากลับเมืองหลวงเอง”
“เจ้าหิน ขอบใจเจ้า”
ซูจิ่วซือไม่ได้ปฏิเสธ เวลานี้นางต้องการความช่วยเหลือจากเผยไป๋ชวน
“เจ้าไม่โกรธข้า”
“ถ้าเฉินหรงเป็นอะไรไปจริงๆ แม้เจ้าลำบากใจอย่างไร ข้าก็ยังโกรธเจ้า เวลานี้ไม่จำเป็นแล้ว วันหลังเราคงได้ร่วมมือกัน ขอให้ร่วมมือกันอย่างราบรื่น”
“เจ้าเลือกเขาแล้วใช่หรือไม่”
ในใจของเผยไป๋ชวนยังไม่ค่อยผ่อนคลายนัก หลังจากได้ใกล้ชิดมาระยะหนึ่ง เขารู้สึกว่ากู้เฉินหรงไม่เหมือนกู้เหยี่ยน ตอนนั้นเขาเกลียดกู้เหยี่ยน