ตอนที่ 312 กู้ชิงเฉิงโทษตัวเอง
ตั้งแต่กู้ชิงเฉิงลืมพระองค์ พระองค์ทรงพยายามทุกวิถีทางเพื่อใกล้ชิดกู้ชิงเฉิง แต่เสียดายที่ได้ผลน้อยมาก ดูเหมือนกู้ชิงเฉิงไม่ได้รักพระองค์ เย็นชาต่อพระองค์มาก ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของซูเหลียงอิน นางคงไม่มาเข้าเฝ้า
“เพคะ หม่อมฉันจะไปวังจื่อจิงกง”
ซูจิ่วซือออกจากวังเจี้ยนจางกง ตรงไปที่วังจื่อจิงกง
การตายของซูเหลียงอิน ทำให้กู้ชิงเฉิงโทษตัวเองมาตลอด ตั้งแต่ได้ข่าวการตายจนถึงเดี๋ยวนี้ นางยังไม่กินอะไรเลย ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง
เสี่ยวเหลียนกำลังร้อนใจ พอเห็นซูจิ่วซือมา ก็รีบดึงนางไปนอกห้อง “พระสนม องค์หญิงมาแล้วเพคะ”
“ให้นางเข้ามาเถอะ!”
มีเสียงกู้ชิงเฉิงดังจากในห้อง แต่อ่อนแรงมาก
ซูจิ่วซือผลักประตูแล้วเดินเข้าไป
ท้องฟ้าข้างนอกมืดครึ้ม ในห้องแสงค่อนข้างมืด กู้ชิงเฉิงอยู่ริมหน้าต่าง นั่งนิ่งไม่ไหวติง
ซูจิ่วซือไม่ได้คารวะกู้ชิงเฉิง กู้ชิงเฉิงเองก็ไม่ใส่ใจแบบแผนเหล่านี้ นางไม่ได้หันหน้ามา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกกผิด “จิ่วซือ ขอโทษนะ ข้าไม่ได้ดูแลเหลียงอินให้ดี เจ้าฝากนางให้ข้าดูแล ข้าไม่ได้คืนนางให้เจ้าดีๆ ข้าทำร้ายนาง”
ซูจิ่วซือเดินมาที่ข้างหลังกู้ชิงเฉิง “เรื่องนี้ป้องกันไม่ได้ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ชิงเฉิง อย่าโทษตัวเองเลย”
“กู้เฝิ่นไต้โหดเ**้ยมจริงๆ”
กู้ชิงเฉิงกัดริมฝีปาก เห็นได้ชัดว่าเคียดแค้นกู้เฝิ่นไต้
นางลืมเรื่องราวมากมาย แต่กลับจำได้ว่ากู้เฝิ่นไต้ห่างเหินกับนางมากขึ้นทุกวัน แต่จำไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดกู้เฝิ่นไต้จึงค่อยๆ ห่างเหินไป รู้แต่ว่าไม่ใช่พี่สาวน้องสาวกันอีกแล้ว
“ชิงเฉิง เจ้าเคยตรวจสอบไหมว่ากู้เฝิ่นไต้ออกจากวังเว่ยยางกงได้อย่างไร นางไม่ควรหนีไปได้”
เฟิ่งหลิงอวี่เป็นคนเห็นเหตุการณ์นี้ เดิมซูจิ่วซือสงสัยเฟิ่งหลิงอวี่ แต่เพราะเป็นเรื่องในวัง นางจึงไม่สะดวกที่จะตรวจสอบ จึงถามกู้ชิงเฉิงโดยตรง นางเป็นพระสนม ตรวจสอบเรื่องนี้ได้ง่าย
“ข้าให้คนตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เดิมตั้งใจจะบอกให้เจ้ารู้ บังเอิญคืนนั้นตรงกับเทศกาลวันที่เจ็ดเดือนเจ็ด การรักษาความปลอดภัยในวังหย่อนยาน นางกำนัลส่วนใหญ่ลาพัก ได้รับอนุญาตให้ไปลอยกระทง
ข้าตรวจสอบพบว่าวันนั้นยามที่รักษาการณ์หน้าวังเว่ยยางกง ก่อนหน้านั้นวันหนึ่งเขาได้ไปที่หอฟังฝน ข้าได้จับยามคนนั้นไว้ บังคับให้เขาสารภาพ เขาปฏิเสธเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่ได้พบองค์หญิงสาม พูดจาหนักแน่นไม่เหมือนโกหก”
ซูจิ่วซือครุ่นคิด เมื่อเป็นเช่นนี้ก็มีความเป็นไปได้สองประการ นั่นคือยามคนนั้นไม่ได้โกหก หรือไม่ก็ไม่กลัวตาย
กู้ชิงเฉิงเห็นซูจิ่วซือไม่พูดอะไร จึงถามต่อ “เรื่องนี้ เจ้ามีความเห็นอย่างไร”
“ข้าคิดว่าองค์หญิงสามเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่ นางเกลียดข้า เป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับกู้เฝิ่นไต้ คงจะคิดทำร้ายเหลียงอิน
นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง คือเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับองค์หญิงสาม แต่มีคนจงใจโยงเรื่องนี้ไปยังองค์หญิงสาม เพื่อให้เราไขว้เขว”
“งั้นเป็นใคร ในวังไม่น่าจะมีคนอย่างนี้”
กู้ชิงเฉิงสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของเฟิ่งหลิงอวี่มากกว่า แต่คิดไม่ถึงว่าองครักษ์คนนั้นจะปากแข็งเช่นนี้
ซูจิ่วซือนึกถึงคนคนหนึ่ง คือพระสนมโหรว ถ้านางจะทำเรื่องนี้ความจริงทำได้ง่ายมาก ทหารยามขึ้นตรงต่อหลี่ซั่ว แต่นางนึกไม่ออกว่าพระสนมโหรวทำเพื่ออะไร ไม่มีเหตุผลแม้แต่น้อย
——
ตอนที่ 313 เป็นกุ้ยเฟยอย่างแท้จริง
พระสนมโหรวกับซูจิ่วซือมีความแค้นต่อกัน แต่กับชิงเฉิงไม่มีบุญคุณความแค้นกัน นางหลงรักหลี่ซั่ว เป็นไปได้ยากที่จะทำร้ายกู้ชิงเฉิงเพื่อชิงความเป็นที่โปรดปราน นางไม่อาจหาเหตุผลที่พระสนมโหรวจะทำเช่นนี้
ซูจิ่วซือครุ่นคิด แล้วบอกเรื่องของพระสนมโหรวกับหลี่ซั่วให้กู้ชิงเฉิงรู้ ถ้าพระสนมโหรวจะเล่นงานกู้ชิงเฉิงจริงๆ กู้ชิงเฉิงจะได้เอาเรื่องนี้มาเล่นงานพระสนมโหรว
กู้ชิงเฉิงตะลึงงัน ครู่หนึ่งจึงถามขึ้น “พระสนมโหรวใจกล้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
“ก็เป็นไปแล้ว ชิงเฉิง เรื่องนี้เอามาเล่นงานพระสนมโหรวได้ เจ้าอย่าให้นางรู้ว่าเจ้ารู้เรื่องนี้ นางเป็นคนเล่ห์เหลี่ยมจัด รับมือได้ยาก”
กู้ชิงเฉิงพยักหน้า นางไม่อยากเป็นพระสนมคนโปรด และไม่เคยคิดที่จะเป็นพระสนมคนโปรด แต่เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงผลักนางขึ้นมาที่ตำแหน่งนี้แล้ว ทำให้นางกลายเป็นกุ้ยเฟยที่ทุกคนจับตามอง มีเรื่องมากมายที่นางไม่อาจทำตัวเป็นคนนอกได้แล้ว
การตายของซูเหลียงอินทำให้นางนึกโทษตัวเอง นางไม่อยากให้ใครพลอยเดือดร้อนไปด้วย และไม่สามารถวางตัวเป็นคนนอกได้
วันหลังถ้านางต้องการยืนอย่างมั่นคงในวังใน ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงเรื่องต่างๆ อย่างที่ผ่านมา นางไม่กลัวตาย แต่กลัวว่าคนอื่นจะตายเพราะนาง
จะให้เกิดซูเหลียงอินคนที่สองไม่ได้
“เจ้าเองก็ต้องระวังตัว จิ่วซือ อย่าให้เกิดเรื่องกับเจ้าอีก”
ซูจิ่วซือพยักหน้าอย่างหนักแน่น นางยังต้องกลับไปจัดการเรื่องราวหลังจากซูเหลียงอินเสียชีวิต จึงไม่อาจอยู่วังจื่อจิงกงนาน พูดคุยครู่หนึ่งก็ลากลับ
หลังจากซูจิ่วซือกลับไปแล้ว กู้ชิงเฉิงก็กลับมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ร้องเรียกด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เสี่ยวเหลียน ช่วยหวีผมให้ข้าหน่อย”
“พระสนม…”
เสี่ยวเหลียนแปลกใจ นี่เวลาไหนแล้ว กู้ชิงเฉิงหวีผม จะไปไหนหรือ คงไม่ใช่ไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทหรอกนะ!
“ข้าจะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท คราวก่อนจิ่วซือเกือบตายเพราะข้า คราวนี้ยังทำให้เหลียงอินตาย
ข้าอยู่ที่สูง กลับคิดจะที่จะปลีกตัวออกไป คิดว่าจะรักษาความดีไว้ได้ ข้าไร้เดียงสาเกินไป ในเมื่อเป็นกุ้ยเฟยแล้ว ข้าก็ต้องทำตัวเป็นกุ้ยเฟยอย่างแท้จริง มีแต่ทำเช่นนี้ จึงจะปกป้องพวกเขา ไม่ให้ใครมาทำร้ายคนรอบข้างอีก”
ความจริงแล้วเสี่ยวเหลียนดีใจมาก นี่หมายความว่าในที่สุดกุ้ยเฟยของนางก็คิดตกยอมรับฝ่าบาทแล้วไม่ใช่หรือ
นางรู้เรื่องราวในอดีตของกู้ชิงเฉิงดี กระทั่งเคยบอกกู้ชิงเฉิง แต่จนใจที่กู้ชิงเฉิงจำอะไรไม่ได้เลย แต่ถึงจะรู้เรื่องราวเหล่านั้นแต่จิตใจก็ไม่หวั่นไหว กระทั่งไม่เชื่อด้วยซ้ำ
เฟิ่งอวิ๋นหล่างเสด็จมาทุกวัน ทรงทุ่มเทเอาใจใส่กู้ชิงเฉิง ถึงขั้นที่ละเอียดรอบคอบ แต่จนแล้วจนรอกกู้ชิงเฉิงยังคงเย็นชา ไม่รู้สึกรู้สา ราวกับว่านางไม่ได้ชอบเฟิ่งอวิ๋นหล่างเลย ยังพูดเรื่องนี้กับเสี่ยวเหลียนไม่ใช่เพียงครั้งเดียว อยากให้เฟิ่งอวิ๋นหล่างเสด็จมาที่วังจื่อจิงกงน้อยหน่อย
บัดนี้กู้ชิงเฉิงเป็นฝ่ายไปเข้าเฝ้าเฟิ่งอวิ๋นหล่าง ไม่แน่หรอกทั้งสองอาจอยู่ด้วยกันนานจนเกิดความรักต่อกัน
ที่นี่คือวังใน เสี่ยวเหลียนเข้าใจความรู้สึกของกู้ชิงเฉิงที่เคยมีต่อเฟิ่งอวิ๋นหล่าง นางอยากให้กู้ชิงเฉิงอยู่กับเฟิ่งอวิ๋นหล่างอย่างรักใคร่จนแก่เฒ่า ได้ครองตำแหน่งฮองเฮาที่ควรจะเป็นของนาง
เสี่ยวเหลียนถือหวีไม้ท้อยืนอยู่ข้างหลังกู้ชิงเฉิง ช่วยหวีผมให้ นางยิ้มแล้วพูดว่า “กุ้ยเฟยคิดได้อย่างนี้ก็ดีแล้ว ด้วยความรักที่ฝ่าบาทมีต่อกุ้ยเฟย ตำแหน่งฮองเฮาคงอีกไม่นาน”
ก่อนหน้านี้กู้ชิงเฉิงไม่อยากเป็นฮองเฮา แต่เวลานี้นางปรารถนาที่จะเป็นฮองเฮา ถึงอย่างไรนางก็กลายเป็นเป้าหมายความริษยาในวังในแล้ว ต่อให้นางไม่ทำอะไร ก็ยังมีคนอยากฆ่านาง มีแต่ต้องทำตัวให้เข้มแข็งยิ่งใหญ่ จึงจะตอบแทนบุญคุณและปกป้องคนรอบข้างได้
“เสี่ยวเหลียน ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ ข้าไม่อาจรักฝ่าบาทได้ เรื่องราวที่เจ้าเคยเล่าให้ข้าฟัง ข้าลืมหมดแล้ว เวลานี้เป็นอย่างนี้ก็ดี วังในเป็นสถานที่อย่างไร เป็นสถานที่ที่คนกินคน ผู้หญิงจำนวนมากมายอย่างนี้ ความรักทำให้แต่ละคนเคียดแค้นริษยา ไม่รักจึงปกป้องตัวเองได้”