ตอนที่ 332 ความขัดแย้งคุกรุ่น
เวลานี้พระทัยของว่าฝ่าบาทอยู่ที่กุ้ยเฟย นานเข้า บ่าวกลัวว่าพระสนมจะไม่เป็นที่โปรดปรานอีกต่อไป”
“ข้ามีองค์หญิงใหญ่ กลัวอะไร คนอื่นต่างหากที่กลัว เราดูอยู่ห่างๆ ก็พอ ไม่ต้องใส่ใจเรื่องนี้”
พระสนมโหรวไม่ได้รักเฟิ่งอวิ๋นหล่าง นางเข้าวังมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่
ถ้าเฟิ่งอวิ๋นหล่างไม่ปรารถนาให้นางถวายการรับใช้ ก็เป็นเรื่องดีสำหรับนาง ตั้งแต่รักหลี่ซั่ว นางไม่อยากใกล้ชิดกับเฟิ่งอวิ๋นหล่างนัก โชคดีที่หลายเดือนมานี้เฟิ่งอวิ๋นหล่างไม่ได้ให้นางถวายการรับใช้แล้ว
ไฉ่ซือรู้เรื่องระหว่างพระสนมโหรวกับหลี่ซั่ว แต่นางไม่รู้ว่าพระสนมโหรวรักหลี่ซั่วจริงๆ เรื่องนี้พระสนมโหรวไม่ได้บอกให้ใครรู้ แม้แต่ไฉ่ซือ นางระวังตัวเสมอ ทำให้ไฉ่ซือคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นการแสดงละคร
คืนนั้น พระสนมโหรวได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง พออ่านเสร็จ นางก็เผาจดหมายในมือทันที นึกไม่ถึงว่าภารกิจต่อไปจะมาเร็วขนาดนี้
หลังจากซูเหมยตาย ตามแบบแผนแล้วซูจิ่วซือกับซูเหิงควรไปคารวะศพ เพราะเป็นอาของทั้งสอง ถ้าไม่ไปก็ถือว่าทำผิดแบบแผน อาจจะเป็นจุดอ่อนให้คนเอาไปพูด แม้ทั้งสองไม่อยากไป สุดท้ายก็ยังไปจวนสกุลกู้ด้วยกัน
ในห้องพิธีศพ กู้จื่อหยวนกับกู้หลียวนในชุดไว้ทุกข์สีขาวคุกเข่าอยู่ที่พื้น ซูจิ่วซือกับซูเหิงเดินตามกันเข้าไป ทั้งสองจุดธูปด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก หลังจากคารวะตามแบบแผนสามครั้ง ก็เอาธูปปักที่หน้าโลง
“พี่หลียวน พี่จื่อหยวน ระงับความเศร้าด้วย”
กู้จื่อหยวนอายุมากกว่าซูเหิงหนึ่งปี ซูเหิงพูดปลอบใจตามมารยาทอย่างราบเรียบ
กู้จื่อหยวนสงบมาก เงยหน้าขึ้น แววตาไม่มีความกระตือรือร้นอย่างเมื่อก่อน แต่เหมือนบ่อลึก ได้แต่พยักหน้า
“ข้ามีธุระ ขอลาก่อน”
คนพูดยังคงเป็นซูเหิง พูดจบก็เตรียมออกไปพร้อมกับซูจิ่วซือ ตลอดเวลาซูจิ่วซือไม่พูดสักคำ เวลานี้นางกับกู้จื่อหยวนไม่มีอะไรจะพูดกันแล้ว
กู้จื่อหยวนซึ่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นผุดลุกขึ้นทันที “จิ่วซือ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
“เจ้าอย่าทำให้พี่สาวข้าลำบากใจ มีอะไรก็พูดตอนนี้เลย”
เวลานี้ซูเหิงเอาใจใส่ซูจิ่วซือเป็นพิเศษ นางเป็นญาติใกล้ชิดเพียงคนเดียวของเขาในโลกนี้
เด็กหนุ่มอายุใกล้เคียงกันสองคนมองหน้ากัน ความขัดแย้งคุกรุ่น ทั้งสองผ่านเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างมากในครอบครัว ไม่มีใครยอมถอย ต่างโกรธแค้นอีกฝ่าย แต่พยายามควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนอย่างเต็มที่
“ซูเหิง เจ้ากลับไปก่อน เดี๋ยวพี่ตามไป”
“พี่…”
“พี่ไม่เป็นไรหรอก เจ้ายังต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทไม่ใช่หรือ กลับไปก่อน อย่าให้สาย”
พอถึงตอนนี้ซูเหิงจึงพยักหน้า พูดเตือนเสียงกร้าว “ถ้าเจ้าขืนไม่เคารพพี่สาวข้า ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าแน่”
ซูเหิงพูดทิ้งท้ายไว้ แล้วจากไป
“ออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ” กู้จื่อหยวนพูดจบ ไม่มองหน้าซูจิ่วซือ เดินออกไปจากห้องพิธีศพทันที
ซูจิ่วซือมองกู้หลียวนแวบหนึ่ง พยักหน้าให้เขา บอกให้รู้ว่านางไม่เป็นไร แล้วจึงเดินตามกู้จื่อหยวน กู้หลียวนยังคงคุกเข่าอยู่กับพื้นเผ่ากระดาษให้ซูเหมย พูดพึมพำ “ท่านแม่ สภาพเวลานี้ท่านแม่ก็เห็นแล้ว ท่านแม่เสียใจหรือไม่”
ซูจิ่วซือเดินตามกู้จื่อหยวนไปที่ใต้ต้นหวยนอกห้องพิธีศพ กู้จื่อหยวนหยุดเดิน สายตาจ้องซูจิ่วซืออย่างแข็งกร้าว “คนใช้ที่หอบอกว่าวันนั้นมีคนไปหาท่านแม่ที่ห้องพิเศษ คนนั้นเป็นเจ้าใช่หรือไม่”
“มีใครเห็นข้าไหม จื่อหยวน ถ้าเจ้าสงสัยว่าการตายของแม่เจ้าเกี่ยวข้องกับข้า ก็เอาหลักฐานมา ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่มีอะไรต้องพูด เจ้าเมืองย่อมจะสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด”
——
ตอนที่ 333 เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง
ซูจิ่วซือสงบเป็นพิเศษ เรื่องนี้นางไม่คิดจะบอกใคร นี่เป็นเรื่องระหว่างนางกับซูหลิ่ว
กู้จื่อหยวนบีบคั้นซูจิ่วซือ แววตานั้นทั้งดิ้นรนและปวดร้าว “แม่ข้าเคยคิดจะฆ่าเจ้าจริง แต่เจ้าก็ยังปลอดภัยดี
ข้าพยายามปกป้องเจ้าต่อหน้าท่านแม่ ซูจิ่วซือ ทำไมเจ้าถึงได้แค้นแม่ข้า ท่านแม่เคยคิดจะปล่อยเจ้า แต่เจ้าบีบคั้นท่านแม่ ถึงอย่างไรท่านแม่ก็เป็นอาของเจ้า เจ้าทำอย่างนี้กับผู้อาวุโสหรือ”
“เรื่องระหว่างข้ากับแม่เจ้าไม่เกี่ยวกับเจ้า ที่แม่เจ้าเป็นอย่างนี้ ข้าไม่มีอะไรจะพูด เป็นไปตามกรรม ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว จื่อหยวน ถ้าเจ้าไม่มีธุระอะไร ข้าไปก่อนละ”
ซูจิ่วซือสงบตลอดเวลา ไม่ได้หลบสายตาของกู้จื่อหยวน สายตาของนางก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ
“ซูจิ่วซือ วันนี้ที่ข้ามาหาเจ้าก็เพราะจะบอกเจ้าว่า ตั้งแต่นี้ไปข้ากู้จื่อหยวนไม่มีวันรักเจ้าอีก”
“เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว”
กู้จื่อหยวนเป็นอย่างนี้สำหรับซูจิ่วซือแล้วเป็นเรื่องดี นางเองก็ไม่อยากจะให้ชายอื่นมาติดพัน
กู้จื่อหยวนยิ้มหยัน “เจ้ากับพี่รองก็ไม่มีวันพบจุดจบที่ดี ถ้าไม่เชื่อ คอยดูก็แล้วกัน เวลานี้เขาเป็นรัชทายาทแคว้นเจียง ไม่ใช่คนที่เจ้าจะไขว่คว้าได้ สักวันหนึ่งเจ้าจะเสียใจภายหลัง”
“ข้าไม่เคยเสียใจเรื่องที่ตัวเองทำ กู้จื่อหยวน เจ้าไม่เข้าใจข้า หวังว่าวันหลังเจ้าจะพบคนที่รักเจ้าอย่างแท้จริง ข้าขอตัวก่อน”
พูดจบ ซูจิ่วซือก็จากไปไม่หันกลับ ไม่ลังเลแม้แต่น้อย
พอซูจิ่วซือไปแล้ว กู้จื่อหยวนก็ชกกิ่งต้นไหวอย่างแรง ดวงตาฉายแววดุดันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สักวันหนึ่งเขาจะทำให้นางเสียใจภายหลัง ให้นางมาขอร้องเขา
สองวันต่อมา ซูจิ่วซือเข้าวังไปบรรยายต่อ พอบรรยายจบ พระสนมโหรวก็เชิญซูจิ่วซือไปที่วังฉางชิวกง ทั้งสองเดินตามกันเข้าไปในวัง
ขณะที่เข้าไปก็เห็นเด็กน้อยอายุสี่ขวบกำลังเล่นลูกกลมสีรุ้งอยู่ที่สนาม ข้างๆ มีสาวใช้สองคนดูแลอยู่ เด็กน้อยที่เล่นอย่างสนุกสาน ก็คือองค์หญิงใหญ่ลูกสาวของพระสนมโหรวนั่นเอง
พอองค์หญิงใหญ่เห็นพระสนมโหรวกลับมา ก็รีบทิ้งลูกกลมสีรุ้งในมือ โผเข้าหาอ้อมอกของพระสนมโหรว พูดออดอ้อน “ท่านแม่ ท่านแม่กลับมาแล้ว ท่านแม่มาเล่นกับข้า”
พระสนมโหรวอุ้มลูกสาวขึ้นมา ลูบหัวองค์หญิงใหญ่ พูดเสียงอ่อนโยน “ตอนนี้แม่มีธุระ ให้แม่นมเล่นกับลูกก่อน ดีหรือไม่”
“ก็ได้ ข้าจะอยู่ข้างนอกรอท่านแม่”
พระสนมโหรวพยักหน้า วางองค์หญิงใหญ่ลง แล้วพาซูจิ่วซือเข้าไปในห้องโถง
ซูจิ่วซือได้แต่ดูอยู่ข้างๆ ไม่พูดไม่จา พอเห็นเด็กน้อยน่ารัก หัวใจก็อ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัว นึกถึงกู้หลียวนกับกู้ชิงเฉิงตอนเล็ก
องค์หญิงใหญ่หน้าตาน่ารักมาก คิ้วตาคล้ายพระสนมโหรว และเป็นเด็กคนเดียวในวัง เฟิ่งอวิ๋นหล่างกับไทเฮาจึงทรงรักใคร่เป็นพิเศษ
เมื่อเป็นองค์หญิง บรรดาพระสนมจึงไม่ถือเป็นศัตรู องค์หญิงใหญ่จึงเป็นศูนย์รวมความรักของทุกคน
พอเข้าไปในห้องโถง พระสนมโหรวก็ให้คนยกชามาให้ มุมปากมีรอยยิ้มน่ารัก “องค์หญิงช่างมีความรู้กว้างขวางจริงๆ วันนี้บรรยายได้ยอดเยี่ยม ข้าฟังอย่างเพลิดเพลิน
ว่าไปแล้วข้าชื่นชมองค์หญิงมาก ใช้เวลาไม่กี่เดือนก็สามารถได้รับตำแหน่งองค์หญิง และยังช่วยให้น้องชายแท้ๆ ได้ตำแหน่งอันผิงโหวกลับคืน เวลานี้สกุลกู้ตกต่ำแล้ว องค์หญิงเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง”