ตอนที่ 360 ข้าจะให้เจ้าดูแลไปตลอดชีวิต
พอพูดจบ เผยปิงปิงก็ออกไป ซูจิ่วซือกลับเข้าห้อง หยิบหนังสือบนโต๊ะมาอ่านต่อ ได้พบเผยปิงปิงที่นี่ คงเป็นวาสนาระหว่างเผยปิงปิงกับกู้หลียวน นางรู้ว่าทั้งสองคงจะมีอนาคตร่วมกัน
ไม่แน่เผยปิงปิงอาจเป็นสะใภ้ของนางจริงๆ ได้สะใภ้อย่างนี้ นางพอใจมาก
ขณะที่เผยปิงปิงไปถึงเรือนที่กู้หลียวนอยู่ กู้หลียวนกำลังผ่าฟืนเหงื่อโชก พอเห็นกู้หลียวนผ่าฟืน เผยปิงปิงก็เอามือกุมท้องหัวเราะขึ้นมาทันที “ฮ่าฮ่าฮ่า…กู้หลียวน เจ้าผ่าฟืนท่าทางตลกจริงๆ ”
กู้หลียวนเงยหน้าขึ้นก็เห็นเผยปิงปิงกำลังหัวร่องอหงาย ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
ปกติเขาใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเองมาก เวลาอยู่ต่อหน้าผู้คนเขาจะเป็นคุณชายกิริยามารยาทเรียบร้อย เวลานี้ให้เผยปิงปิงมาเห็นท่าทางตกต่ำของตัวเองอย่างนี้ เขาทำหน้าบึ้ง กระอักกระอ่วน “ข้าผ่าฟืนไม่ได้หรือ”
“ผ่าได้ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าจงมั่วเจียงจะใจดำอย่างนี้ ไม่เอาใจใส่พี่ชายของคนที่เขารักเลย และไม่กลัวว่าเจ้าจะผ่าฟืนของเขาเสียหาย”
เผยปิงปิงพยายามกลั้นหัวเราะ นางเอามือกุมท้องมองกู้หลียวน ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย ราวกับนิลแวววาวสองเม็ด
กู้หลียวนมองเผยปิงปิง รู้สึกว่าดวงตาของนางสวยเป็นพิเศษ เวลายิ้มตาหยี ท่าทางมีชีวิตชีวา แปลกจริงๆ เมื่อก่อนทำไมไม่รู้สึกว่าเผยปิงปิงน่าดูอย่างนี้ พอมาเจอเผยปิงปิงอีกที จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่านางสวยขึ้น
พอเห็นกู้หลียวนไม่พูดไม่จา ได้แต่จ้องหน้าตน เผยปิงปิงก็หยุดหัวเราะ หัวใจเต้นรัว เพื่อปกปิดความรู้สึกขวยเขิน นางยื่นมือขึ้นจัดผมที่หน้าผากไปทัดหลังหู ท่วงท่าไม่ปกติ “เจ้ามองข้าทำไม”
“มองไม่ได้หรือ” จู่ๆ กู้หลียวนก็ยิ้มให้เผยปิงปิง เผยปิงปิงใจเต้นรัวขึ้นอีก กู้หลียวนเป็นอะไรไปหรือนี่ อยู่ดีๆ ก็ยิ้มให้ จนนางเขิน
“ดูได้อยู่แล้ว ถ้าเจ้าอยากดู ข้าจะให้เจ้าดูไปตลอดชีวิต”
เผยปิงปิงระงับความรู้สึก ทำใจกล้าตอบ
ช่วงที่นางกับกู้หลียวนห่างกัน นางพบว่าตัวเองยังคงคิดถึงกู้หลียวน อยากไปตามหากู้หลียวน แต่พอนึกถึงว่ากู้หลียวนไม่ได้คิดกับนางทำนองนั้น นางจึงเลิกคิด
แม้นางจะชอบกู้หลียวน แต่นางไม่มีวันรักด้วยความรู้สึกต้อยต่ำ และไม่มีวันกวนใจเขา ถ้าทำอย่างนั้นอาจจะชนะใจเขาได้ แต่ต่อไปคงไม่มีความสุข
กู้หลียวนตะลึง เผยปิงปิงยังเหมือนเดิม พูดจาตรงไปตรงมา
“อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไร”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน กู้หลียวนคงปฏิเสธเผยปิงปิง ครั้งนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ แต่เปลี่ยนเรื่องพูด
“คนฝึกวรยุทธไม่อ่อนแออย่างนั้นหรอก กู้หลียวน ข้าได้ข่าวว่าครอบครัวสกุลกู้เกิดเรื่อง เจ้าคิดจะกลับไปหาครอบครัวสกุลกู้หรือไม่”
กู้หลียวนส่งเสียงฮื่อ
เผยปิงปิงหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “วันหลังมาพึ่งข้าได้ ข้ายินดีรับเจ้าไว้ เห็นเจ้าทำงานขยันขันแข็ง มาช่วยข้าเลี้ยงแมงมุมแมงป่องก็ยังได้ วางใจเถอะ ข้าไม่ใจดำอย่างจงมั่วเจียงหรอก ไม่ปล่อยให้เจ้าทำงานหนักอย่างนี้”
“ข้าคิดว่าจะไปพึ่งน้องเขยข้า”
“ฟู่เฉินหรงยังเอาตัวไม่รอด เจ้ามั่นใจหรือว่าเจ้าจะไม่ตายพร้อมกับเขา จิ่วซือไปอยู่กับเขายังพอมีเหตุผล เพราะเขาเป็นคนที่นางรัก เจ้าทำอย่างนี้ไม่เท่ากับรีบไปตายหรือ”
“ถ้าเฉินหรงเกิดเรื่องจริงๆ คนตระกูลเผยก็ไม่มีจุดจบที่ดี พวกเราตอนนี้เป็นเหมือนมดบนเชือกเส้นด้วยกัน
แม่นางปิงปิง ถึงข้าจะตกต่ำอย่างไรก็ไม่ถึงขั้นให้ผู้หญิงรับเลี้ยง ข้าไม่อยู่กับครอบครัวสกุลกู้ก็เอาตัวรอด หาเลี้ยงตัวด้วยน้ำพักน้ำแรงได้
——
ตอนที่ 361 วิธีการต่ำทราม
ถึงจะตกต่ำอย่างไรกู้หลียวนก็ไม่มีวันให้เผยปิงปิงรับเลี้ยงเขา น่าขายหน้าเกินไป พอพ้นจากครอบครัวสกุลกู้ เขาก็นึกถึงคำที่ซูจิ่วซือเคยพูดกับเขาไว้เมื่อก่อน ซูจิ่วซือบอกว่าที่ผ่านมาเขาพึ่งพาอาศัยสกุลกู้ พอออกจากครอบครัวสกุลกู้เขาก็ไม่เหลืออะไร ไม่มีแม้แต่ความสามารถในการดูแลตัวเอง
เมื่อก่อนเขาไม่ได้ใส่ใจคำพูดนี้แม้แต่น้อย พอผ่าฟืนหลายวันมานี้ เขาจึงนึกออกว่าเป็นอย่างไร
เมื่อก่อนเขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไร้ความกังวล ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จวนสกุลกู้ไม่ได้จำกัดการใช้จ่ายของเขา เวลานี้เขาพ้นจากครอบครัวสกุลกู้ ไม่มีเงินทองติดตัว มีแต่มือเปล่าจริงๆ
เมื่อก่อนเขาเชื่อมั่นในตัวเองมาก รู้สึกว่าอาศัยตัวเอง ถึงอย่างไรก็ยังเลี้ยงตัวได้
เวลานี้จึงรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย งานหนักเขาทำไม่ไหว ผ่าฟืนไม่กี่วัน แต่ละวันพอล้มตัวลงนอนบนเตียงก็หลับสนิท รู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งตัว
เป็นขุนนางในราชสำนัก ไม่ใช่เรื่องที่เขาไม่ใส่ใจ ชาตินี้เขาไม่คิดจะรับราชการ
เขาต้องยอมรับ หลายปีมานี้ เขาพึ่งพาสกุลกู้ ถ้าไม่มีสกุลกู้ เขาก็ไม่มีอะไรเหลือ
หลายวันมานี้เขาครุ่นคิด ถ้าไปถึงเมืองหลวงตูเฉิง เขาจะทำอะไรบ้าง ไม่อาจทำตัวเป็นคนไร้แก่นสารพึ่งพาฟู่เฉินหรง
การถูกคนอื่นควบคุมเป็นความรู้สึกที่แย่จริงๆ เขาชอบชีวิตอิสระ แต่ก็ต้องเลี้ยงตัวได้ นี่เป็นข้อคิดที่เขาได้จากการผ่าฟืนไม่กี่วันมานี้
“คุณชายกู้ก้าวหน้าขึ้นมาก ข้าน้อยดีใจแทนคุณชายกู้ ต้องรอดูต่อไป เวลานี้ข้าไม่มีอะไรทำ ให้ข้ามาคุมเจ้าที่นี่ได้ไหม”
เผยปิงปิงหัวเราะร่ามองหน้ากู้หลียวน รอให้เขารับปาก
สายตาของทั้งสองประสานกัน กู้หลียวนหัวเราะ “แล้วแต่เจ้า”
“งั้นก็ตกลงตามนี้”
เผยปิงปิงสบายใจเป็นพิเศษ กู้หลียวนไม่ปฏิเสธ นี่แสดงว่าเขาอยากใกล้ชิดกับนางใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนี้ความสัมพันธ์ของนางกับเขามีความเป็นไปได้ พอคิดอย่างนี้ เผยปิงปิงก็รู้สึกสบายใจมาก บางทีกู้หลียวนอาจจะเป็นคนรู้ใจของนาง
“เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร”
“จงมั่วเจียงเป็นเพื่อนสนิทของข้า ข้ามาหาเพื่อนที่นี่ คนวงการนักเลงนี่นา ย่อมมีเพื่อนฝูงไม่น้อย เจ้าวางใจเถอะ จิ่วซือไม่เป็นไรหรอก จงมั่วเจียงไม่ทำร้ายจิ่วซือแน่ ถ้าช่วยได้ ข้าก็อยากช่วย”
แม้เผยปิงปิงไม่มั่นใจนักว่าจะพาซูจิ่วซือออกไปได้ทันที แต่ก็รับประกันได้ว่าซูจิ่วซือไม่มีอันตรายแน่นอน นางเองจะพยายามโน้มน้าวจงมั่วเจียง ให้ปล่อยซูจิ่วซือ
“เจ้าเป็นเพื่อนกับเขาจริงหรือ” กู้หลียวนพึมพำ ท่าทางไม่ชอบจงมั่วเจียงแม้แต่น้อย
เผยปิงปิงไม่ได้พูดคุยกับกู้หลียวนเรื่องจงมั่วเจียง นางหยิบฟืนดุ้นหนึ่งจากพื้น เอาไปรองนั่ง สองมือท้าวคาง “ข้าจะดูเจ้าผ่าฟืน”
กู้หลียวนไม่ได้ไล่เผยปิงปิงออกไป เขาหยิบขวานมาผ่าฟืนต่อ ทั้งสองพูดคุยกันเป็นระยะ ได้ยินเสียงหัวเราะของเผยปิงปิงดังกังวานขึ้นเป็นพักๆ
หลังอาหารเย็น ขณะที่ซูจิ่วซือกำลังอ่านหนังสือ จู่ๆ ก็รู้สึกตัวร้อนขึ้นมาทันที นางเปิดหน้าต่าง ยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง ลมเย็มพัดเข้ามา นางจึงรู้สึกสบายขึ้น แต่ความร้อนในตัวยังไม่หาย กลับร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ นางรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่รัดตัว
นางเดินไปที่หน้ากระจกสัมฤทธิ์ ในกระจกสะท้อนภาพใบหน้าแดงระเรื่อ
ซูจิ่วซือเอามือจับโต๊ะเครื่องแป้ง ระงับใจตัวเองให้สงบ ในใจเริ่มมีแผน
จากการใกล้ชิดช่วงไม่กี่วันมานี้ นางรู้สึกว่าจงมั่วเจียงเป็นคนดี นึกไม่ถึงว่าตนประเมินจงมั่วเจียงสูงเกินไป เขาใช้วิธีการต่ำทราม