ตอนที่ 392 ร้านเหล้าของหลียวน
ซูจิ่วซือสวมเสื้อสีฟ้า ดูเรียบง่ายสง่างาม เป็นธรรมชาติ มีรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้า เห็นก็รู้ว่าเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ที่ไม่ธรรมดา
เผยปิงปิงสวมชุดสีแดง ดูมีชีวิตชีวาเหมือนไฟ ตัดกับผิวขาวผ่อง ท่าทางกระตือรือร้น ดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คน
นางกับซูจิ่วซือมีลักษณะพิเศษของตน ไม่มีใครเหนือใคร
มู่หยางสนใจเผยปิงปิงก่อน เขาเห็นคุณหนูตระกูลใหญ่มามาก แต่ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่มีชีวิตชีวาอย่างเผยปิงปิง นางดูคล่องแคล่ว ราวกับเทพธิดาแห่งขุนเขา
“แม่นางทั้งสองเป็น”
กู้หลียวนรีบเข้ามาแนะนำ “คนนี้เป็นญาติผู้น้องของข้าชื่อซูจิ่วซือ คนนี้ชื่อเผยปิงปิง เป็นเพื่อนของข้า” พูดจบก็หันไปแนะนำต่อ “จิ่วซือ ปิงปิง นี่คือมู่หยางคุณชายรองตระกูลมู่ที่ข้าเคยเล่าให้ฟัง”
“สวัสดีคุณชายมู่ คารวะคุณชายมู่”
ซูจิ่วซือพยักหน้าให้มู่หยาง กิริยามารยาทงามสง่า
“สวัสดีคุณหนูซู”
มู่หยางคารวะตอบอย่างสุภาพ
เผยปิงปิงเป็นคนวงการนักเลง ไม่เข้าใจแบบแผนของตระกูลใหญ่ นางรู้จุดหมายในการมาครั้งนี้ จึงกระตือรือร้นต่อมู่หยางเป็นพิเศษ ยิ้มให้มู่หยางอย่างเปิดเผย “คุณชายมู่หน้าตาหล่อเหลาจริงๆ”
“คุณหนูเผยชมเกินไปแล้ว คุณหนูเผยเหมือนเทพธิดา”
มู่หยางเริ่มเขิน พูดชม
กู้หลียวนหน้าบึ้ง ปิงปิงหนอ พอเห็นผู้ชายก็บอกว่าหล่อ ไม่รู้จักสำรวมสักนิด เขาหัวเราะขึ้นมาทันที “พี่มู่ เทพธิดาที่ไหนไม่สำรวมเลย”
“หุบปากนะ” เผยปิงปิงถลึงตาใส่กู้หลียวน
“เจ้าก็เห็นแล้วนะ นางดุจริงๆ ข้านึกสงสัยว่าชาติก่อนนางเป็นผู้ชาย” กู้หลียวนใส่ร้ายเผยปิงปิงให้มู่หยางฟังอย่างไม่ไว้หน้า
มู่หยางยังงุนงงอยู่ เผยปิงปิงโกรธกู้หลียวนจนอยากเข้าไปบีบคอให้ตาย คนคนนี้ทำไมทำตัวน่าเกลียด อย่างน้อยนางก็เป็นผู้หญิง ไม่ไว้หน้ากันเลยหรือ
ซูจิ่วซืออยู่ข้างๆ อดปิดปากหัวเราะไม่ได้ ถ้านางเดาไม่ผิด เมื่อกี้กู้หลียวนหึง อย่างนี้ก็ดี กู้หลียวนจะได้เข้าใจชัดเจนว่าเผยปิงปิงครองพื้นที่ในหัวใจของเขา
“พี่กู้โชคดีจริงๆ มีคนดีสองคนอยู่ด้วย”
มู่หยางพูดด้วยน้ำเสียงอิจฉา
กู้หลียวนสั่นหัว “พี่มู่เข้าใจผิดแล้ว ทั้งสองเป็นน้องสาวข้า ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด”
พอได้ยินอย่างนี้ แววตาของมู่หยางก็ทอประกายขึ้นทันที นี่แสดงว่าเขามีโอกาสแล้ว คนดีไม่แย่งของรักคนอื่น ในเมื่อเป็นน้องสาวของกู้หลียวน เขาก็จะลองดูสักครั้ง
“คุณชายมู่ เชิญข้างใน”
ซูจิ่วซือเชื้อเชิญ มู่หยางพยักหน้า
“คุณชายมู่เป็นแขกคนแรกของร้านเหล้าเทียนหยา หลียวนพูดถึงเจ้าบ่อยๆ เขาบอกว่าพบเจ้าเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน อยากพาข้ามาพบเจ้าด้วย ข้ามาตูเฉิงครั้งแรก ไม่ค่อยคุ้นเคย เจ้าอยู่ตูเฉิงตั้งแต่เล็ก หวังว่าคงจะช่วยแนะนำให้พวกข้ารู้ว่าตูเฉิงมีที่กินที่เที่ยวที่ไหนบ้าง”
เผยปิงปิงพูดเก่งอยู่แล้ว จึงพูดคุยกับมู่หยางทันที
“ดีนี่ ถ้าแม่นางเผยมีเวลา ข้าจะพาแม่นางเผยไปเอง”
“ดีจริงๆ ขอบใจ คุณชายมู่”
มู่หยางยิ้ม “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
“ปิงปิง ไปทำงานได้แล้ว”
กู้หลียวนเห็นทั้งสองพูดคุยกันสนุกสนาน ก็อดไม่ได้รีบพูดแทรก ซูจิ่วซือมองกู้หลียวนแวบหนึ่ง แล้วรีบละสายตาทันที
“พี่กู้ ทำไมให้แม่นางเผยทำงาน”
“นางติดหนี้ข้า ทำงานใช้หนี้” กู้หลียวนตอบอย่างไม่ใส่ใจ พูดจบก็รินเหล้าให้มู่หยาง
ตอนที่ 393 แผนการแอบอ้าง
เผยปิงปิงรู้สึกว่าวันนี้กู้หลียวนไม่ค่อยปกติ เรียกใช้นางเหมือนคนงาน แต่เนื่องจากมีธุระสำคัญต้องทำ นางจึงไม่ทะเลาะกับกู้หลียวน จัดการธุระเสร็จแล้วค่อยว่า
“วันนี้พ่อครัวทำอาหารครั้งแรก ให้คุณชายมู่ชิมพอดี ปิงปิง เราสองคนไปยกกับข้าว”
เผยปิงปิงพยักหน้า ก่อนไปนางถลึงตาใส่กู้หลียวน
“พี่กู้ เจ้ากับแม่นางเผยเข้าใจผิดกันหรือไม่”
“ไม่ ข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งมีหรือจะเข้าใจผิดกัน ดื่มเถอะ จะได้ชิมกับข้าวที่นี่ด้วย”
ซูจิ่วซือกับเผยปิงปิงเข้าไปในครัวด้วยกัน ระหว่างทางเผยปิงปิงบ่น “วันนี้กู้หลียวนทำไมแปลกจริงๆ ข้าทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือ พูดกับข้าน้ำเสียงไม่ดีเลย”
“เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ”
เผยปิงปิงสั่นหัว “ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย ทำตัวเหมือนผู้หญิงระดูไม่ปกติ”
ซูจิ่วซือหัวเราะ “ไม่แน่เขาอาจจะบอกเจ้าเอง เดี๋ยวทำตามแผน”
“เรื่องที่ข้าทำ เจ้าวางใจเถอะ ไม่มีปัญหาแน่”
ทั้งสองไปที่ครัว ซูจิ่วซือยกจานอาหารออกไปก่อน
กู้หลียวนกับมู่หยางกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่กำลังเดินใกล้จะโต๊ะ จู่ๆ ซูจิ่วซือก็ลื่นล้มอย่างแรง จานอาหารในมือกระเด็นออกไป ได้ยินเสียงเพล้ง จานแตกกระจัดกระจาย อาหารในจานเกลื่อนพื้น
พอได้ยินเสียง กู้หลียวนกับมู่หยางก็หันมา เห็นซูจิ่วซือล้มลงกับพื้น กู้หลียวนรีบถลาไปหาซูจิ่วซือ ประคองซูจิ่วซือขึ้น “จิ่วซือ ไม่เป็นไรใช่ไหม ทำไมไม่ระวังหน่อย”
มู่หยางก็ลุกตามมา
ซูจิ่วซือขมวดคิ้ว “ข้าไม่เป็นไร พื้นครัวมีน้ำมัน รองเท้าอาจจะเลอะน้ำมัน แย่จริงๆ เนื้อผัดหกหมด”
“กับข้าวทำใหม่ได้ เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
สายตาของมู่หยางจ้องมองจี้หยกที่ตกพื้น เขาก้มลงหยิบจี้หยก
เสียงของเผยปิงปิงดังมาแต่ไกล “จิ่วซือ ระวังหน่อย พื้นครัวเลอะน้ำมัน ระวังลื่นล้ม”
มู่หยางจับจี้หยกรูปผีเสื้อไว้แน่น สีหน้าแสดงความดีใจ “แม่นางซู จี้หยกนี้เป็นของเจ้าใช่หรือไม่”
ซูจิ่วซือทำท่าเหมือนงุนงง พยักหน้า “จี้หยกนี้เป็นของข้า ตั้งแต่เล็กข้าก็ห้อยติดคอ คุณชายมู่เอาคืนให้ข้าเถอะ”
“ข้ามีน้องสาวคนหนึ่งหายไป ตอนหายไปนั้นมีจี้หยกติดตัว”
ซูจิ่วซือทำท่างุนงงอีก สั่นหัว “ข้ามีพ่อแม่ มีพี่น้อง คุณชายมู่จำผิดคนแล้ว จี้หยกอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ”
ตอนที่มู่หยางยังเล็กเคยเห็นจี้หยกรูปผีเสื้อนี้ แต่จำไม่ได้แล้ว ตอนที่มู่ซือซือหายไปนั้นอายุเพียงสามขวบ เขาเพิ่งหกขวบ จี้หยกรูปร่างเป็นอย่างไรเขาจำไม่ได้ เรื่องนี้ต้องให้พ่อกับแม่ดู
กู้หลียวนทำท่าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “พี่มู่ ตอนเล็กอาจจะจำผิด ถึงข้าไม่ค่อยเห็นญาติผู้น้องคนนี้บ่อย แต่นางเป็นลูกสาวคนโตของลุงข้า เจ้าคงจำผิดแน่”
“แม่นางซู ข้าเอาจี้หยกนี้ไปให้แม่ข้าดูได้ไหม ดูเสร็จแล้วค่อยคืนให้เจ้า แม่ข้าตามหาน้องสาวมาหลายปี เรื่องนี้เป็นปมในใจของแม่ ไม่รู้ว่าแม่นางซูยินยอมหรือไม่”
ซูจิ่วซือยังลังเล กู้หลียวนพูดขึ้น “จิ่วซือ แค่จี้หยก เอาไปดูไม่เป็นไรหรอก ข้าไว้ใจพี่มู่ ไม่มีวันทำจี้หยกหายแน่ เห็นแก่หน้าข้าเถอะ”
ซูจิ่วซือลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้ารับ
“ขอบใจแม่นางซู”