ตอนที่ 428 ข้ายินยอม
ฟู่เฉินหรงลุกขึ้นมาถอดปิ่นปักผมให้ซูจิ่วซือ เขาทำอย่างเบามือ กลัวว่าซูจิ่วซือจะเจ็บ
ซูจิ่วซือไม่ได้ห้าม ปล่อยให้ฟู่เฉินหรงทำให้
ฟู่เฉินหรงก้มหน้า ลูบผมซูจิ่วซือเบาๆ “จิ่วซือ ข้าไม่เคยเป็นทหาร แต่หลงใหลในตำราพิชัยสงคราม เคยอ่านตำรานี้ไม่น้อย”
“แค่วางแผนบนกระดาษยังใช้ไม่ได้”
ฟู่เฉินหรงหน้าบึ้ง “ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นคนที่วางแผนบนกระดาษหรือ ข้าเชื่อมั่นในตัวเอง แม้ไม่มั่นใจเต็มที่ แต่ข้าเชื่อว่าข้าสามารถทำได้ดี เจ้าต้องเชื่อข้า อย่าเป็นห่วงเกินไป ข้ามีแผนในใจอยู่แล้ว ข้ารู้ตัวว่าทำอะไรอยู่”
“ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้าเสมอ”
นางเพียงแต่เป็นห่วงฟู่เฉินหรง แม้นางไม่เคยออกสนามรบ แต่ความโหดร้ายของสงคราม นางรู้ดี
ฟู่เฉินหรงหยิบปิ่นอันสุดท้ายออกจากผมของซูจิ่วซือ แล้วกอดซูจิ่วซือทางด้านหลัง “ข้ารู้ว่าจิ่วซือเป็นห่วงข้าที่สุด วันนี้เหนื่อยหรือไม่ ข้าเอาปิ่นออกให้เจ้าถึงรู้ว่าเครื่องประดับผมหนักจริงๆ เมื่อยคอหรือไม่”
“นิดหน่อย”
“ข้านวดให้”
พูดจบก็ยื่นฝ่ามือใหญ่หนาไปนวดคอให้ซูจิ่วซือ ทำอย่างเบามือ ออกแรงพอเหมาะ ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไร ในห้องเงียบสนิท
“เฉินหรง ตระกูลมู่เอาใจใส่ข้ามาก”
“ข้ารู้ ข้าดูอยู่ อย่างนี้ข้าก็วางใจ รับเจ้ามาที่ตูเฉิง ข้ากลัวว่าจะทำให้เจ้าลำบาก ยังดีที่ตระกูลมู่ไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ”
“เพราะสวรรค์ทรงโปรด”
ตั้งแต่เป็นซูจิ่วซือ สวรรค์ก็เอาใจใส่นางมาตลอด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยสูญเสียไปก็ได้กลับคืนหมดแล้ว เวลานี้กู้เหยี่ยนอยู่ห่างไกลจากนางมาก ราวกับหายไปจากความทรงจำอย่างสิ้นเชิง
เมื่อก่อนนางแค้นกู้เหยี่ยน บางครั้งยังนึกถึงกู้เหยี่ยน แต่เวลานี้ไม่เคยเลย พอหลับตาลง คนที่นางคิดถึงก็คือฟู่เฉินหรง
ทุกซอกทุกมุมของหัวใจเต็มไปด้วยฟู่เฉินหรง ไม่มีที่ว่างคิดอย่างอื่นเลย
ชีวิตที่เหลือของนาง ล้วนเกี่ยวข้องกับฟู่เฉินหรง
ฟู่เฉินหรงหยุดนวด คุกเข่าข้างหนึ่งเบื้องหน้าซูจิ่วซือ กุมมือทั้งสองของซูจิ่วซือ “เส้นทางนี้เจ้าลำบากมาตลอด จิ่วซือ วันหลังข้าจะชดเชยให้เจ้า”
“ข้าไม่ต้องการให้ชดเชย ทั้งหมดนี้ข้ายินยอมเอง”
ซูจิ่วซือไม่ใช่คนที่อยากได้รับการชดเชย สิ่งที่นางต้องการไม่มีใครห้ามได้ ไม่ว่าจะลำบากเพียงใด นางก็จะทำ สิ่งที่นางไม่อยากทำ แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังบังคับไม่ได้
ฟู่เฉินหรงรู้ว่าการที่นางพูดออกมาว่ายินยอมเป็นเรื่องยาก เขาจ้องมองซูจิ่วซือด้วยแววตาทอประกาย ใบหน้ายิ้มกว้าง “เวลานี้เจ้ายินยอมให้ข้าจูบได้หรือไม่”
ซูจิ่วซือหน้าแดงทันที “เจ้า…”
ยังไม่ทันพูด ฟู่เฉินหรงก็จูบที่ริมฝีปากของซูจิ่วซือ กลืนคำพูดทั้งหมดของซูจิ่วซือลงไปในท้อง
นี่คือการอำลาที่เขาต้องการ
รุ่งขึ้น เรื่องของจูอวี้ซิ่วก็กระจายไปทั่วเมืองหลวง แม้แต่ชาวบ้านก็รู้เรื่องที่จูอวี้ซิ่วทำอะไรบ้าๆ ที่งานเลี้ยงคืนนั้น
แม้ไม่มีใครกล้าหัวเราะอย่างเปิดเผย แต่ลับหลังก็มีคนไม่น้อยที่หัวเราะเยาะฟู่อี้หานกับจูอวี้ซิ่ว
เรื่องนี้ทำให้จูอวี้ซิ่วไม่ได้ออกไปไหนหลายวัน หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ฟู่อี้หานหน้าดำเหมือนถ่าน ไม่พบหน้าจูอวี้ซิ่วหลายวันแล้ว
สาวใช้จวนซิ่นอ๋องรู้ว่าฟู่อี้หานอารมณ์ไม่ดี ต่างระมัดระวังแม้แต่จะเดิน กลัวว่าจะทำให้ฟู่อี้หานไม่พอใจ
ตอนที่ 429 พี่น้องพบกัน
หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน กู้จื่อหยวนก็มาถึงตูเฉิง
พอเข้ามาในตูเฉิง เขาก็หรี่ตามองท้องฟ้า ท้องฟ้าแจ่มใส แต่เวลานี้จิตใจของเขาไม่แจ่มใสเลย
เขารู้ว่าซูจิ่วซือกับกู้หลียวนอยู่ที่ตูเฉิง สองคนนี้ เขารู้สึกเคียดแค้นอย่างรุนแรง แววตาของเขาไม่ได้ใสซื่ออย่างแต่ก่อน เด็กหนุ่มที่กล้าหาญได้ตายไปแล้วท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตระกูลกู้
พอนึกถึงเรื่องราวเหล่านี้ มือที่ซ่อนในแขนเสื้อก็กำหมัดแน่น เฝิงชิงผู้คุ้มกันที่ติดตามเห็นกู้จื่อหยวนพอผ่านประตูเมืองเข้ามาก็ลงจากรถม้ายืนนิ่งไม่ขยับ สีหน้าเคร่งเครียด จึงเข้าไปเตือน “คุณชาย ไปกันเถอะ!”
“ไป! ไปโรงเตี๊ยม”
ในฐานะทูต เขาต้องพักโรงเตี๊ยม ที่นี่เป็นสถานที่เฉพาะสำหรับต้อนรับทูต พรุ่งนี้ต้องไปเข้าเฝ้าซุ่นตี้ในวัง
หลังจากเข้าไปติดต่อที่โรงเตี๊ยมแล้ว เขาก็ไปที่ร้านเหล้าเทียนหยา เพิ่งมาถึงตูเฉิง แต่เขารู้อยู่แล้วว่ากู้หลียวนเปิดร้านเหล้าที่ตูเฉิง และตั้งชื่อว่าร้านเหล้าเทียนหยา
ร้านเหล้าเทียนหยากิจการไม่เลว กู้หลียวนมีงานยุ่งทุกวัน และความที่เขาชอบพูดคุย จึงมีคนไม่น้อยคบหาเขาเป็นเพื่อน เวลานี้เขานั่งอยู่ที่ห้องโถงพูดคุยกับลูกค้าโต๊ะหนึ่ง ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นเป็นระยะ
กู้จื่อหยวนเพิ่งเข้าประตูไปก็ได้ยินเสียงหัวเราะของกู้หลียวน เขายืนที่หน้าประตูไม่เข้าไปต่อ ได้แต่มองดูกู้หลียวนที่พูดคุยอย่างสนุกสนาน
พวกนี้ร่วมมือกันทำลายตระกูลกู้ แล้วมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย น่าตลกจริงๆ
คนรับใช้ในร้านพอเห็นกู้จื่อหยวนเข้ามา ก็รีบเข้าไปต้อนรับอย่างกระตือรือร้น “นายท่าน จะรับอะไร นั่งห้องใหญ่หรือห้องพิเศษ”
กู้จื่อหยวนไม่ใส่ใจคนรับใช้ ยังคงจ้องมองกู้หลียวน
กู้หลียวนรู้สึกว่ามีสายตาจ้องตนอยู่ จึงหันหน้ามา เห็นกู้จื่อหยวนยืนอยู่ที่หน้าประตูพอดี
ความจริงแล้วเขาก็ได้ข่าวว่ากู้จื่อหยวนเป็นทูตมาที่แคว้นเจียง นึกไม่ถึงว่าจะมาถึงเร็วปานนี้ ทั้งๆ ที่เป็นพี่น้องโตด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก พอเห็นกู้จื่อหยวนเขากับรู้สึกไม่สบายใจ
เขาเดินเข้ามาหากู้จื่อหยวน ไม่รู้ทำไม รู้สึกอึดอัดมาก ได้แต่ทักทาย “จื่อหยวน มาแล้วหรือ ชั้นล่างเสียงดัง ไปนั่งข้างบนเถอะ!”
กู้หลียวนพูดจบก็เดินนำหน้าพากู้จื่อหยวนขึ้นไปข้างบน กู้จื่อหยวนไม่พูดไม่จา กู้หลียวนพาเขาไปที่ห้องพิเศษ สั่งอาหารมาให้
พอเห็นกู้จื่อหยวนยังไม่พูดไม่จา ก็เริ่มอึดอัด “นี่เป็นร้านเหล้าของข้าเพิ่งเปิดใหม่ ถ้าเจ้าไม่อยากพักโรงเตี๊ยม ก็มาพักที่นี่ได้ ร้านเหล้าข้ามีห้องว่างหลายห้อง”
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องจะมีช่องว่างที่ไม่อาจขจัดได้ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องชาย เขาจึงไม่มีอคติอะไรกับกู้จื่อหยวน การพบปะพูดคุยทั่วไปไม่มีปัญหา
“ดูแล้วพี่ใหญ่อยู่สุขสบายดี”
ในที่สุดกู้จื่อหยวนก็เปิดปากพูด
“คนเราก็ต้องทำมาหากิน แค่มีข้าวกินไปวันๆ”
“พี่ใหญ่เดินทางไกลมาอาศัยองค์รัชทายาท องค์รัชทายาทเลี้ยงดูพี่ใหญ่ไม่ไหวหรือ” กู้จื่อหยวนรินเหล้าให้ตัวเองจอกหนึ่ง พูดเย้ยหยัน
“จื่อหยวน พูดอย่างนี้ได้อย่างไร ข้ามีมือมีตีน ทำไมต้องให้เฉินหรงเลี้ยงดู ข้าไม่อยากให้ตระกูลกู้กลายเป็นอย่างนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนต้องยอมรับ นึกถึงแต่อดีตมีประโยชน์อะไร”
กู้จื่อหยวนยิ้มหยัน “เวลานี้ท่านพ่อยังถูกขังอยู่ในคุกหลวง ท่านพ่อฆ่าท่านแม่กับมือเพื่อแม่เจ้า เรื่องอย่างนี้จะปล่อยให้ผ่านไปได้หรือ”
“เรื่องของท่านพ่อข้าไม่อยากพูดถึง ตอนที่ข้าไปเยี่ยมท่านพ่อที่คุกหลวง ท่านพ่อบอกว่าต้องการไถ่โทษ นี่เป็นการตัดสินใจของท่านพ่อ เรื่องราวในอดีตเป็นอย่างไร ข้าไม่เข้าใจ และไม่อยากถาม จื่อหยวน เจ้าเป็นอย่างนี้ แล้วจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างไร”