ตอนที่ 432 จงใจใกล้ชิด
“คุณชาย เปียกฝนอย่างนี้จะเป็นหวัด ร่มนี้ข้าให้”
ฟู่เยว่อี้พูดพลางเอาร่มใส่มือให้กู้จื่อหยวน ใบหน้ายิ้มแย้ม ท่ามกลางสายฝนรอยยิ้มของนางยิ่งโดดเด่น
พร้อมกันนั้น ชิวซูซึ่งอยู่ข้างหลังฟู่เยว่อี้ก็กางร่มอีกคันหนึ่งให้นาง
กู้จื่อหยวนนึกไม่ถึงว่าจะมีแม่นางเอาร่มให้ เขาพยักหน้าให้ฟู่เยว่อี้ “ขอบใจแม่นางที่หวังดี”
“เดี๋ยวฝนจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ คุณชาย เราไปหลบฝนที่ชายคาบ้านข้างหน้าเถอะ!” ฟู่เยว่อี้เชิญอย่างกระตือรือร้น พูดจบก็เดินนำหน้าไปที่ชายคาบ้านริมทาง กู้จื่อหยวนลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตามไป
พอถึงใต้ชายคา ฟู่เยว่อี้ก็เก็บร่ม เอาผ้าเช็ดหน้าปัดน้ำฝนบนเสื้อผ้า เนื่องจากฝนตกหนัก แม้จะกางร่ม แต่ชายกระโปรงและแขนเสื้อก็เปียกฝน
ฟู่เยว่อี้สวมชุดสีเหลืองไข่ห่าน นางเป็นเด็กสาวที่สดใสน่ารักมีชีวิตชีวา มีรอยยิ้มเจิดจ้า จึงยากที่จะมีใครระแวงนาง
กู้จื่อหยวนเนื้อตัวเปียกมากกว่า เขายืนอยู่ข้างๆ ฟู่เยว่อี้ ขอบใจฟู่เยว่อี้อีกครั้ง “เมื่อกี้ขอบใจแม่นางมาก”
“คุณชายไม่ต้องเกรงใจ แค่เรื่องเล็กน้อย ว่าไปแล้วคุณชายโชคดีมาก เมื่อกี้พอดีข้าเอาร่มมาเพิ่มอีกคันหนึ่ง คงเป็นวาสนาของข้ากับคุณชาย ข้าฟู่เยว่อี้ ไม่ทราบว่าจะเรียกคุณชายว่าอย่างไร”
ฟู่เยว่อี้กระตือรือร้นอย่างนี้ กู้จื่อหยวนจึงไม่กล้าเย็นชา เขาตอบอย่างสุภาพ “ข้ากู้จื่อหยวน”
“ฟังสำเนียงคุณชายเหมือนไม่ใช่คนตูเฉิง กลับไปแล้วคุณชายกู้ควรดื่มน้ำขิง จะได้ไม่เป็นหวัด ช่วงนี้ตูเฉิงฝนตกบ่อย ถ้าเป็นหวัดคงไม่ดีแน่”
นานแล้วที่ไม่มีคนมาเอาใจใส่กู้จื่อหยวนอย่างนี้ เขาเอียงหน้ามามองใบหน้าแสนสวยของนาง ความรู้สึกอ่อนโยนลงมาก พยักหน้า “ขอบใจแม่นางฟู่ที่เตือน”
เมื่อเห็นว่าได้เวลาสมควรแล้ว จู่ๆ ฟู่เยว่อี้ก็เอามือกุมศีรษะ ราวกับว่ากำลังจะเป็นลม นางยืนข้างกู้จื่อหยวน ชิวซูยืนอยู่ที่มุมห่างออกไป กู้จื่อหยวนจึงยื่นมือมาประคองฟู่เยว่อี้ไว้ “แม่นางฟู่ ไม่เป็นไรใช่ไหม!”
ขณะที่เขากำลังประคองฟู่เยว่อี้ ชิวซูก็วิ่งเข้ามา นางรีบประคองฟู่เยว่อี้ต่อจากกู้จื่อหยวน ต่อว่าอย่างรุนแรง “อันธพาล บังอาจล่วงเกินองค์หญิงของข้า คนของจวนซิ่นอ๋องเจ้าแตะต้องได้หรือ”
“ชิวซู อย่าเสียมารยาท เมื่อกี้ข้าเกือบล้ม คุณชายคนนี้ช่วยประคองข้าไว้” ฟู่เยว่อี้รีบแก้ตัวแทนกู้จื่อหยวนพร้อมกับต่อว่าชิวซู พูดจบก็ขออภัยกู้จื่อหยวน “หวังว่าคุณชายกู้จะให้อภัย ชิวซูคิดแต่จะปกป้องเจ้านาย เข้าใจคุณชายผิดไป”
“แม่นางฟู่เป็นคนของจวนซิ่นอ๋อง”
มาถึงแคว้นเจียง กู้จื่อหยวนย่อมรู้จักซิ่นอ๋อง และยังรู้ว่าซิ่นอ๋องเป็นคนสำคัญที่ขัดขวางการครองบัลลังก์ของฟู่เฉินหรง ถือเป็นศัตรูคู่อาฆาตของฟู่เฉินหรง
ในสมองของเขามีความคิดผุดขึ้นมามากมาย สวรรค์ให้เขาพบคนของจวนซิ่นอ๋องระหว่างทาง นี่ไม่ใช่โอกาสที่สวรรค์มอบให้หรอกหรือ
“ข้าเป็นคนของจวนซิ่นอ๋องจริงๆ คุณชายมาเยี่ยมญาติที่ตูเฉิง”
สาวใช้ที่ติดตามมาเรียกนางว่าองค์หญิง แสดงว่าแม่นางคนนี้เป็นลูกสาวของซิ่นอ๋อง ลูกสาวที่เกิดจากฮูหยินใหญ่เท่านั้นจึงจะเป็นองค์หญิง จวนซิ่นอ๋องมีลูกสาวสองคน คนหนึ่งแต่งงานแล้ว ถ้าเช่นนั้นแม่นางคนนี้คงเป็นลูกสาวคนเล็กของซิ่นอ๋องแน่
พอรู้ฐานะของฟู่เยว่อี้ กู้จื่อหยวนก็ไม่ปิดบังฐานะของตน ท่าทีต่อฟู่เยว่อี้จึงเปลี่ยนไปทันที “ข้าเป็นทูตแคว้นเว่ย มาตูเฉิงเพื่อถวายพระพรฝ่าบาทโดยเฉพาะ”
ตอนที่ 433 แค้นเข้ากระดูก
“เจ้าเป็นคนแคว้นเว่ย ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เป็นน้องชายขององค์รัชทายาทใช่หรือไม่?”
รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของฟู่เยว่อี้เลือนหายทันที สีหน้าห่างเหิน “คุณชายกู้มาที่ตูเฉิง องค์รัชทายาทคงดีใจมาก พี่ชายของเจ้าก็เปิดร้านเหล้า คราวนี้พี่น้องคงได้พบกันพร้อมหน้า”
“ใช่ พี่น้องพบกันพร้อมหน้า”
กู้จื่อหยวนยิ้มหยัน เขามาตูเฉิงไม่ใช่เพื่อนมาพบกันพร้อมหน้า และไม่รู้ทำไมฝ่าบาทจึงส่งเขามาเป็นทูต
“ข้าขอลาก่อน เชิญคุณชายกู้ตามสบาย”
พอรู้ฐานะของกู้จื่อหยวน ฟู่เยว่อี้สีหน้าเย็นชาทันที นางพยักหน้าให้กู้จื่อหยวนแล้วเตรียมจะไป กู้จื่อหยวนรู้ว่าจวนซิ่นอ๋องกับวังตะวันออกมีอิทธิพลไม่แพ้กัน แต่นึกไม่ถึงว่าองค์หญิงจวนซิ่นอ๋องจงเกลียดจงชังฟู่เฉินหรงปานนี้
“วันหลังข้าจะไปคารวะซิ่นอ๋อง”
“ไม่จำเป็น ท่านพ่อข้าไม่อยากพบเจ้า ฟู่เฉินหรงไม่ใช่คนดี เจ้าเป็นน้องชายของเขา คงไม่ต่างกับเขา คิดต่างกันไม่อาจร่วมมือกัน คุณชายกู้ไม่ต้องไปคารวะท่านพ่อข้า ท่านพ่อไม่ต้อนรับเจ้าแน่”
คำพูดนี้ทำให้กู้จื่อหยวนประหลาดใจมาก ฟู่เฉินหรงทำอะไรกับองค์หญิงจวนซิ่นอ๋องหรือ
“ทำไมองค์หญิงจึงมั่นใจว่าเราคิดต่างกันไม่อาจร่วมมือกัน บางทีเราอาจจะคิดเหมือนกันก็ได้ ข้ากับองค์รัชทายาทตัดความสัมพันธ์กันนานแล้ว องค์หญิงเข้าใจผิด เวลานี้องค์รัชทายาท ข้าเอื้อมไม่ถึง และไม่อยากเอื้อม”
ฟู่เยว่อี้มองกู้จื่อหยวนด้วยความประหลาดใจ แก้มป่องออกมา “ฟู่เฉินหรงไม่ปล่อยแม้กระทั่งเจ้าซึ่งเป็นน้องที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก? ฟู่เฉินหรงช่างเลวร้ายจริงๆ ตอนเปิดร้านเหล้าเทียนหยา ข้ากับพี่สะใภ้ตั้งใจไปร่วมงาน แต่กลับถูกรังแก ต่อมายังบีบคั้นพี่สะใภ้จนเกือบฆ่าตัวตาย”
ฟู่เยว่อี้หน้าตาไร้พิษสง ทั้งร่าเริงสดใส คำพูดที่ออกจากปากนาง ทำให้คนฟังเชื่อได้ง่าย
กู้จื่อหยวนมีอคติกับฟู่เฉินหรงอยู่แล้ว พอฟู่เยว่อี้พูดอย่างนี้ จึงเชื่อเป็นธรรมดา นึกไม่ถึงว่าฟู่เฉินหรงพอเป็นรัชทายาทก็วางอำนาจบาตรใหญ่ ถึงกับรังแกผู้หญิง
“ลำบากองค์หญิงแล้ว เดิมทีเขาก็เป็นคนเลว”
กู้จื่อหยวนประเมินฟู่เฉินหรงอย่างนี้ ในสายตาของเขา ฟู่เฉินหรงเป็นคนเลว ไม่เช่นนั้นคงไม่แย่งคู่หมั้นเขา และไม่กตัญญูต่อแม่เขา เกือบจะฆ่าแม่เขา คนอย่างนี้ก่อเรื่องรังแกผู้หญิง เขาไม่แปลกใจสักนิด
“ดูแล้วข้าเข้าใจคุณชายกู้ผิดไป การเปลี่ยนแปลงของตระกูลกู้ข้าก็เคยได้ยินมา เรื่องราวทั้งหมดคงไม่เกี่ยวข้องกับฟู่เฉินหรงทั้งหมด!”
กู้จื่อหยวนสีหน้าเครียดไม่ต่อคำ เขาไม่อยากพูดเรื่องอดีต
“ข้ารู้สึกผิดหวังแทนคุณชาย เวลานี้องค์รัชทายาทยังไม่ครองบัลลังก์ก็น่าผิดหวังอย่างนี้ วันข้างหน้าถ้าเป็นฮ่องเต้ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรอีก ข้าก็ได้แต่เป็นห่วง จวนซิ่นอ๋องเป็นหนามตำตาของเขา ดูสิ ข้าอยู่ดีๆ ทำไมพูดเรื่องนี้กับคุณชายกู้ก็ไม่รู้ คุณชายกู้ ข้ากลับก่อนละ ลาก่อน”
ฟู่เยว่อี้มองหน้ากู้จื่อหยวนพลางพยักหน้าด้วยสีหน้าวิตก แล้วกางร่มเดินออกไป
กู้จื่อหยวนพิงกำแพง กำหมัดชกที่กำแพงอย่างแรง นึกถึงฟู่เฉินหรงซึ่งกำลังรุ่งโรจน์ ความรู้สึกโกรธแค้นในใจยิ่งล้ำลึก ฟู่เฉินหรงมีทุกสิ่งทุกอย่าง ส่วนเขาไม่มีอะไรสักอย่าง
เขาไม่อาจเบิ่งตามองดูฟู่เฉินหรงสมหวังอย่างนี้ เขาสูญเสียอะไรไปมากมาย จนสิ้นไร้ไม้ตอก ฟู่เฉินหรงสมควรจ่ายค่าตอบแทนบ้าง จวนซิ่นอ๋องเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด