ตอนที่ 446 ประสาท
พอเห็นเผยปิงปิงประทับลายนิ้วมือแล้ว แม่เล้าหวงก็ดีใจ เตรียมจะสั่งคนข้างหลังให้พาเผยปิงปิงออกไป
มือขวาของเผยปิงปิงยังเจ็บเป็นพักๆ ถูกมัดมือทั้งสองข้างอย่างนี้ บาดแผลจึงมีเลือดซึมออกมา
นางแววตาเย็นชา รังสีอำมหิตเข้มข้น คุณหนูใหญ่แห่งหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซาน ถูกขายเข้าหอนางโลม จวนซิ่นอ๋องกับกู้จื่อหยวนเหยียดหยามนางปานนี้ หนี้แค้นครั้งนี้ หากนางยังมีชีวิตอยู่ ต้องทวงคืนพร้อมดอกเบี้ย
“รอเดี๋ยว ข้ายังมีอะไรจะพูดกับกู้จื่อหยวน”
เผยปิงปิงสะกดความรู้สึกเจ็บปวด พูดขึ้น
“ป้าหวง ไปรอข้างนอกสักครู่ ข้าคุยกับนางแล้วค่อยส่งนางออกไป”
แม้แม่เล้าหวงจะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ไม่ทันได้คิด พยักหน้าแล้วออกไป แต่เฝ้าอยู่ที่หน้าประตูห้อง จะได้วางใจ
เผยปิงปิงถูกมัดมือมัดเท้าขยับตัวไม่ได้ นางจ้องหน้ากู้จื่อหยวนอย่างเย็นชา ใบหน้านั้นดูเหมือนสดใจกลับเคร่งขรึม มองเผยปิงปิงอย่างเย็นชา “ไม่รู้ว่าแม่นางเผยยังมีอะไรจะพูด?”
“กู้จื่อหยวน เจ้าคนสารเลว เจ้าไม่คู่ควรที่จะเป็นน้องชายของหลียวน เรื่องในตระกูลกู้ ข้าเคยได้ยินมาบ้าง ข้าเคยเห็นใจเจ้า เวลานี้จึงรู้ว่าสมน้ำหน้าแล้ว
ข้ากับเจ้าไม่มีความแค้นต่อกัน ไม่เคยพบกันมาก่อน เจ้ายังขายข้าไปที่อย่างนั้น ข้าขอบอกเจ้า กู้จื่อหยวน ถ้าข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่ คนอย่างข้าแค้นต้องชำระ แค้นนี้ ข้าจะจำไว้”
“ถ้าเจ้าจะจำก็จำไว้ให้ดี แม่นางเผย ข้ากับเจ้าไม่มีความแค้นต่อกัน ถ้าจะโทษก็โทษที่เจ้าโชคไม่ดี ใครให้เจ้ามารับใช้ฟู่เฉินหรง เขาทำร้ายคนใกล้ชิดของข้ามาตลอด แย่งผู้หญิงที่ข้ารัก ข้าทำร้ายคนใกล้ชิดเขาบ้างผิดด้วยหรือ?”
“ประสาท บุญคุณความแค้นระหว่างเจ้ากับฟู่เฉินหรงเกี่ยวอะไรกับข้า เจ้ากับเขามีบุญคุณความแค้นอะไรกัน?
จิ่วซือกับฟู่เฉินหรงต่างก็รักกัน เดิมทีก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาว่าฟู่เฉินหรงแย่งผู้หญิงที่เจ้ารัก จิ่วซือเคยรักเจ้าหรือ?
เจ้าประสาทเองแล้วยังมาโทษคนอื่น แม่แท้ๆ ของเจ้าฆ่าพ่อแม่บุญธรรมของฟู่เฉินหรง หนี้แค้นของพ่อลูกทวงคืน ไม่ทวงกับเจ้าก็ดีแล้ว เจ้ายังมีหน้ามาโทษเขา”
เผยปิงปิงด่าอย่างไม่ไว้หน้า แม้จะด่าอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ แต่นางก็อยากด่ากู้จื่อหยวน คนคนนี้สมองเต็มไปด้วยอาจม
“ฟู่เฉินหรงมีวันนี้เพราะตระกูลกู้มอบให้ เขาไม่มีมีสิทธิ์มาโทษตระกูลกู้”
“พูดอย่างนี้เจ้าเองก็ไม่มีสิทธิ์มาโทษฟู่เฉินหรง ถูกแย่งผู้หญิงก็เพราะเจ้าไร้ความสามารถ แม่เจ้ากับพี่สาวเจ้าตายเป็นเพราะทำร้ายคนอื่นแล้วย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง จะโทษคนอื่นไม่ได้ เจ้ามีสิทธิ์อะไร
ขืนดึงดันอย่างนี้ต่อไป เจ้าจะมีหน้าไปพบบรรพชนตระกูลกู้ได้หรือ พอถึงตอนนั้นตระกูลกู้อาจจะถูกเจ้าทำลายจนย่อยยับ”
กู้จื่อหยวนไม่เถียงกับเผยปิงปิงต่อ “แม่นางเผยอยากด่าก็ด่าเถอะ แต่ต่อไปก็ไม่มีโอกาสแล้ว หวังว่าแม่นางเผยจะมีความกล้าใช้ชีวิตอยู่ต่อไป”
พูดจบ กู้จื่อหยวนก็เปิดประตูห้อง แม่เล้าหวงเข้ามา พาเผยปิงปิงอออกไป
หลังจากเผยปิงปิงออกไปแล้ว กู้จื่อหยวนก็กลับไปที่ห้อง เฝิงชิงยืนอยู่ข้างหลังกู้จื่อหยวน เห็นกู้จื่อหยวนดื่มชาสีหน้าเครียด เขารู้ว่ากู้จื่อหยวนอารมณ์ไม่ดี
“นายท่าน ต่อไปจะทำอย่างไร กลับโรงเตี๊ยมหรือไม่?”
กู้จื่อหยวนวางถ้วยชาในมือลง “พรุ่งนี้ค่อยกลับ! ฟู่เฉินหรงยังไม่รู้ว่าข้าอยู่ที่นี่”
ตอนที่ 447 ตัดขาดอย่างไร้เยื่อไย
เพื่อหลบสายตาของฟู่เฉินหรง ฟู่เยว่อี้ให้คนที่รูปร่างใกล้เคียงกับกู้จื่อหยวนเปลี่ยนชุดเป็นกู้จื่อหยวนเดินทางกลับโรงเตี๊ยม
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาจึงตามคนรับใช้ของจวนซิ่นอ๋องออกไปจากจวนซิ่นอ๋อง และเดินทางมาที่เรือนหลังนี้อย่างเงียบๆ รอให้ฟู่เยว่อี้พาเผยปิงปิงมาส่ง
ต้องชมว่าฟู่เยว่อี้ฉลาดมาก ฉลาดกว่าที่เขาคิด การร่วมงานกับคนอย่างนี้ได้ผลดีมาก เผยปิงปิงจึงถูกส่งมาอย่างไร้สุ้มเสียง
ก้าวสำคัญต่อไป เขามีแผนไว้แล้ว เพียงแต่ยังลังเลไม่อาจตัดสินใจเด็ดขาด
เขาแค้นซูจิ่วซือ แต่ยังไม่สามารถตัดใจได้ ไม่อยากลงมือกับซูจิ่วซืออย่างนี้ หลังจากลังเลอยู่ระยะหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ เมื่อนึกถึงการตายของกู้เฝิ่นไต้
เรื่องนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขากับซูจิ่วซือแตกแยกกัน และเป็นเรื่องที่เขาไม่อาจให้อภัยได้
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เขาก็ไม่ควรใจอ่อนต่อไป นี่เป็นหนี้แค้นที่ซูจิ่วซือต้องจ่ายคืน
“เฝิงชิง ไปหยิบกระดาษพู่กันมาให้ข้า”
เฝิงชิงพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปเอา”
ครู่หนึ่งเฝิงชิงก็หยิบกระดาษพู่กันมา กู้จื่อหยวนบิดพู่กัน ลังเลครู่หนึ่ง มีหมึกหยดลงบนกระดาษ สุดท้ายเขาก็กำพู่กันแน่น เขียนจดหมายฉบับหนึ่ง
หลังจากเขียนจดหมายเสร็จ เขากับซูจิ่วซือก็ตัดขาดกันอย่างสิ้นเชิง
เมื่อก่อนเพียงแต่พูดออกมา แต่จดหมายฉบับนี้ จะทำให้เขากับนางกลายเป็นคู่แค้นที่ไม่อาจร่วมโลกกันได้
ขณะที่ซูจิ่วซือกำลังรอข่าวจากฟู่เฉินหรงกับมู่หยางอยู่ที่จวนตระกูลมู่ จู่ๆ ปิงซินก็ถือจดหมายเดินเข้ามา ซูจิ่วซือวางหนังสือในมือลง รับจดหมาย พออ่านจดหมายจบ สีหน้าของซูจิ่วซือก็เปลี่ยนทันที กำจดหมายในมือแน่น
ปิงซินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นสีหน้าของซูจิ่วซือไม่ดีแต่ไม่กล้าถาม จู่ๆ ซูจิ่วซือก็ผุดลุกขึ้น “ปิงซิน ช่วยเตรียมรถม้า ข้าจะออกไปข้างนอก”
“คุณหนู จะไปไหนเจ้าคะ?”
“ไปเตรียมรถม้า”
ซูจิ่วซือไม่ได้บอกอะไรปิงซิน เพียงแต่ออกคำสั่ง
ปิงซินเองก็ไม่กล้าถาม รีบไปเตรียมรถม้า ซูจิ่วซือเรียกองครักษ์สองคนที่ซ่อนอยู่ในที่ลับเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ นางต้องพาพวกเขาไปด้วย
นางหวีผมคร่าวๆ แล้วออกไปจากห้องทันที ปิงซินเตรียมรถม้าแล้ว นางไม่ได้พาปิงซินไปด้วย ขึ้นรถม้าแล้วจากไป
ปิงซินมองตามหลังซูจิ่วซือ ในใจรู้สึกเป็นห่วงมาก กำจดหมายที่ซูจิ่วซือให้ไว้เมื่อกี้และบอกนางเอาให้ฟู่เฉินหรงเมื่อเขากลับมา
ไม่รู้ทำไม ขณะมองตามหลังซูจิ่วซือ ปิงซินรู้สึกกังวลอยู่ลึกๆ
ซูจิ่วซือนั่งรถม้ามุ่งหน้าไป ไม่นานก็มาถึงตรอกแห่งหนึ่งทางทิศใต้ของเมือง ตรอกนี้แคบมาก พอให้รถม้าเข้าไปได้เพียงคันเดียว ซูจิ่วซือนั่งข้างหน้า เปิดม่านออกมา แถวนี้เป็นที่อยู่ของชาวบ้าน บ้านเรือนค่อนข้างเก่า ไม่สะดุดตา กู้จื่อหยวนมาซื้อบ้านที่นี่ตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครรู้
ข้างหน้าตรอกแคบเกินไป รถม้าเข้าไม่ได้ ซูจิ่วซือจึงลงจากรถม้า ให้คนขับรอ เพราะระยะทางไม่ไกล นางเดินเข้าไปเองได้
พอมาถึงหน้าเรือน ซูจิ่วซือยืนเคาะที่หน้าประตู คนที่เปิดประตูเป็นชายแก่สูงอายุ พอเห็นซูจิ่วซือมาคนเดียว จึงถามซูจิ่วซือว่าแซ่ซูใช่หรือไม่ พอซูจิ่วซือพยักหน้า ก็หลีกทางให้ซูจิ่วซือเข้าไป