ตอนที่ 500 ค้นบ้าน
มู่หยางหลบอยู่ที่หน้าต่าง เห็นทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีความสุข รอยยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ น้องสาวกลับมาดีจริงๆ ตั้งแต่น้องสาวกลับมา ตระกูลมู่ก็มีรอยยิ้มมากขึ้น เมื่อก่อนฮูหยินมู่จะวิตกตลอด ไม่มีความสุข และส่งผลต่อทุกคน
เขามองดูอยู่ ในใจรู้สึกอิ่มเอม อยากให้เรื่องนี้พ้นไปให้เร็วๆ
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ปิงซินซึ่งเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้าน จู่ๆ ก็เดินรุดเข้ามา กระซิบข้างหูซูจิ่วซือ รายงานเบาๆ “คุณหนู แย่แล้ว ข้างนอกมีนายทหารหลายคนจะตรวจค้นจวนตระกูลมู่”
ซูจิ่วซือสีหน้าเครียด แต่ชั่วพริบตาก็กลับเป็นปกติ ทำท่าบอกให้ปิงซินออกไป
“ซือซือ เกิดอะไรขึ้น?”
ฮูหยินมู่สังเกตเห็นซูจิ่วซือสีหน้าเปลี่ยนไป จึงรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้น
“ท่านไม่ไม่ต้องเป็นห่วง องค์รัชทายาทกับกู้จื่อหยวนทะเลาะกันอีกแล้ว ท่านแม่ ข้าจะออกไปดู ท่านแม่กลับไปพักที่ห้องเถอะ! สองคนนี้เคยเป็นพี่น้องกัน ข้าไม่อยากให้เป็นอย่างนี้อีก”
“แม่ได้ยินว่าตอนเจ้าอยู่แคว้นเว่ยเคยหมั้นหมายกับกู้จื่อหยวน เรื่องนี้ยุ่งยากจริงๆ ซือซือ ไม่ต้องใจร้อน มีอะไรจะให้ช่วยก็ไปหาท่านพ่อกับพี่ใหญ่ พวกเขาต้องช่วยเจ้าแน่”
ฮูหยินมู่เป็นห่วงซูจิ่วซือ รีบพูดปลอบ
ซูจิ่วซือยิ้มพลางพยักหน้า “ข้าไม่เป็นไร จะจำคำของท่านแม่ไว้ ป้าจาง พาท่านแม่กลับไป”
ป้าจางรู้เหตุการณ์ทั้งหมด นางรู้ว่าข้างนอกคงเกิดเรื่องแน่ จึงรีบประคองฮูหยินมู่ “ฮูหยิน ฮูหยินบอกว่าจะปักถุงเครื่องหอมให้คุณหนูไม่ใช่หรือ ตอนเช้าฮูหยินน้อยบอกว่าบ่ายนี้จะมาปักถุงเครื่องหอมกับฮูหยิน เวลานี้ไม่รู้ว่ามาหรือยัง เรากับไปกันเถอะ!”
“ใช่ ใช่ ข้าเกือบลืมเรื่องนี้ ซือซือ รีบกลับมาเร็วหน่อย ข้ากลับก่อนละ พี่สะใภ้เจ้าจะได้ไม่รอ”
“ข้าทำตามท่านแม่บอก”
ซูจิ่วซือสะกดใจเดินไปส่งฮูหยินมู่ พอฮูหยินมู่ไปแล้ว ซูจิ่วซือก็รีบหันหลังกลับมาที่ห้อง ขณะที่เข้าไปในห้องก็ชนถูกมู่หยางที่เตรียมจะออกมา
“ข้างนอกเกิดเรื่องหรือ?”
“พวกนั้นเห็นเจ้าแล้ว พี่รอง เวลานี้จวนตระกูลมู่คงถูกล้อมไว้ ไปไหนก็ไม่พ้น ข้าให้ปิงซินพาเจ้าไปแต่งตัว อยู่รวมกับสาวใช้คงไม่มีใครสังเกต”
มู่หยางพยักหน้า เขานึกไม่ถึงว่าจะมีคนมาหาเร็วอย่างนี้
ซูจิ่วซือให้คนไปเรียกกู้หลียวนมา ทั้งสองนั่งดื่มชาที่ลานบ้านอย่างผ่อนคลาย เรือนของนางมีสาวใช้ทั้งหมดรวมสิบกว่าคน มู่หยางอยู่ปะปนกับสาวใช้ นอกจากตัวสูงกว่าเล็กน้อย อย่างอื่นไม่มีอะไรสะดุดตา ยังดีที่เขาตัวผอม
เผยปิงปิงกับมู่หย่งออกไปตามหามู่หยาง เวลานี้ยังไม่กลับมา พวกเขาไม่รู้ว่ามู่หยางกลับจวนแล้ว เวลามีไม่มาก ซูจิ่วซือไม่ทันบอกคนทั้งสอง
ขณะที่ซูจิ่วซือกับกู้หลียวนกำลังดื่มชาอยู่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังสับสน จากนั้นนายทหารยี่สิบกว่าคนก็เข้ามา
ซูจิ่วซือมองดูชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้า แม้ไม่เคยคบหากันมาก่อน แต่นางจำคนนี้ได้ เคยเห็นในงานเลี้ยงตระกูลมู่
เขาคือเฟิงเยว่ เป็นลูกชายคนโตตระกูลเฟิง
เฟิงเยว่เกิดในตระกูลแม่ทัพ เคยต่อสู้ในสนามรบ ผิวค่อนข้างดำ รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมคาย เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ จึงดูหม่นหมองอย่างชัดเจน
“คุณหนูมู่ ข้าได้รับคำสั่งให้มาจับคนร้าย ต้องตรวจค้นห้องของคุณหนูมู่ หวังว่าคุณหนูมู่จะให้อภัย”
น้ำเสียงของเฟิงเยว่ค่อนข้างเกรงใจ แต่เห็นชัดว่าเขาไม่เห็นซูจิ่วซืออยู่ในสายตาแม้แต่น้อย และเกลียดซูจิ่วซือ
ซูจิ่วซือท่าทางผ่อนคลาย พยักหน้าให้เฟิงเยว่ “แม่ทัพเฟิงปฏิบัติหน้าที่เป็นเรื่องสำคัญ เชิญตามสบาย”
ตอนที่ 501 จงใจตรวจค้นเรือนของซูจิ่วซือ
เฟิงเยว่โบกมือ ทหารข้างหลังรีบกรูเข้าไปรื้อค้นทั่วเรือนของซูจิ่วซือ
กู้หลียวนเห็นคนเหล่านี้ไม่เกรงอกเกรงใจ รื้อค้นไปทั่วก็อดพูดไม่ได้ “แม่ทัพเฟิง นี่เป็นเรือนของผู้หญิง พวกเจ้าเข้ามาไม่ถูกแบบแผน แล้วยังหยาบคาย ตระกูลเฟิงอบรมกันอย่างนี้หรือ?”
“เจ้าเป็นใคร? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมาพูด”
เฟิงเยว่ปรายตามองกู้หลียวนแวบหนึ่ง สายตาดูหมิ่นอย่างชัดเจน
กู้หลียวนไม่พอใจมาก ตระกูลเฟิงเป็นใครกัน
“แม่ทัพเฟิง พี่ใหญ่ของข้าพูดไม่ผิด พวกเจ้าค้นได้ แต่อย่ารื้อข้าวของข้า ในนี้มีเครื่องประดับล้ำค่าไม่น้อย ถ้าหาย จะให้ใครชดใช้?”
เฟิงเยว่ยิ้มหยัน “คุณหนูมู่วางใจ ตระกูลมู่วินัยกองทัพเข้มงวดขึ้นชื่อลือเลื่อง คนใต้บัญชาของข้าซื่อสัตย์ ถ้ามีของหาย ข้าชดใช้ให้คุณหนูมู่เอง”
ซูจิ่วซือไม่ได้พูดอะไร นั่งลงตามสบาย ยังดีที่ไม่ได้ให้มู่หยางหลบอยู่ในห้อง ไม่เช่นนั้นถ้ารื้อค้นอย่างนี้ คงเจอแน่ คนที่เฟิงเยว่พามาไม่ใช่ทหารรักษาการณ์ธรรมดา แต่เป็นคนที่ติดตามเขาในสนามรบ
ครู่หนึ่ง ทหารทั้งหมดก็ออกมา มีทหารคนหนึ่งวิ่งไปหาเฟิงเยว่ รายงาน “แม่ทัพ ค้นทั่วเรือนแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติ”
ไม่รู้ว่าทำไม เฟิงเยว่ไม่ค่อยเชื่อซูจิ่วซือ เฟิงชิงสุ่ยเคยพูดถึงซูจิ่วซือบ่อยๆ ว่าเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยม ความคิดล้ำลึก เรือนของนาง เขาต้องตรวจค้นอย่างละเอียด
“ค้นดีแล้วหรือ?”
“เรียนแม่ทัพ ไม่มีลอดสายตา”
เฟิงเยว่มองดูซูจิ่วซือ แต่ซูจิ่วซือไม่แสดงพิรุธแม้แต่น้อย นางประสานสายตากับเฟิงเยว่อย่างสงบ “ไม่รู้ว่าแม่ทัพเฟิงยังมีอะไรจะสั่งสอนหรือไม่?”
“เรือนนี้ไม่มีปัญหา ไม่เท่ากับว่าคนในเรือนไม่มีปัญหา ถ้าเกิดปะปนอยู่กับคนรับใช้ ซูจิ่วซือโปรดให้ทุกคนมาร่วมกันที่ลานบ้าน อย่าให้ขาดแม้แต่คนเดียว”
“ปิงซิน เรียกทุกคนในเรือนออกมาให้หมด”
ซูจิ่วซือออกคำสั่ง ปิงซินจึงลงไปเรียก
ไม่นานสาวใช้และคนงานในเรือนทั้งหมดก็ออกมาหมด ยืนสองแถวแยกชายหญิง คนในเรือนของนางนับว่ามีจำนวนมาก รวมทั้งหมดยี่สิบกว่าคน
เฟิงเยว่นึกไม่ถึงว่าเรือนซูจิ่วซือจะเลี้ยงคนมากปานนี้ ตระกูลมู่ดูแลลูกสาวคนนี้อย่างดี มีเรือนโอ่โถง มีสาวใช้จำนวนมาก เทียบเท่ากับพระสนมในวัง
เฟิงเยว่รู้จักมู่หยาง เขาเดินไปตรวจดูสาวใช้เบื้องหน้า
พอถึงตอนนี้ในใจซูจิ่วซือเริ่มตึงเครียด กู้หลียวนรู้ว่ามู่หยางปะปนอยู่กับสาวใช้ เขาเองก็เครียดกลัวว่าเฟิงเยว่จะดูออกว่าเป็นมู่หยาง
นึกไม่ถึงว่าเฟิงเยว่จะดึงดันอย่างนี้ ถ้าเป็นที่ทำการเมืองมาค้น คงจะค้นพอผ่านๆ แต่เฟิงเยว่ไม่ใช่เช่นนี้ เขาไม่ใช่คนโง่ และไม่ใช่คนที่จะหลอกง่ายๆ
ซูจิ่วซือรู้สึกเครียด สีหน้ากลับไม่แสดงออก มือที่ซ่อนในแขนเสื้อกำหมัดแน่น
มู่หยางเองก็เครียด เขายืนเป็นคนสุดท้ายในแถว เนื่องจากรูปร่างสูง เฟิงเยว่จึงสนใจทันที “คุณหนูมู่มีสาวใช้ร่างสูงปานนี้”
“พ่อกับแม่ของนางตัวสูง แม่นางคนนี้จึงสูงมาก แม่ทัพเฟิงไม่ชอบคนตัวสูงหรือ?”
กู้หลียวนเห็นเฟิงเยว่สนใจมู่หยาง จึงสะกดใจถามขึ้น
“เจ้าพูดมากจริงๆ ข้าถามเจ้าหรือ?” เฟิงเยว่ปรายตามองกู้หลียวนแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ เข้าไปยืนข้างหน้ามู่หยาง ออกคำสั่งเสียงเฉียบขาด “เงยหน้าขึ้น”