ตอนที่ 616 พิธีแต่งงาน
เหตุการณ์หลังจากนั้นเฟิงชิงสุ่ยถูกกักบริเวณ ทางด้านซิ่นอ๋องก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ บอกว่าป่วย จวนซิ่นอ๋องปิดประตูแน่นหนา เหมือนแยกตัวออกจากโลกภายนอก
จวนตระกูลมู่เตรียมจัดงานแต่งงานซูจิ่วซือ วังตะวันออกก็เช่นกัน
สิบวันหลังจากนั้น พิธีแต่งงานก็เริ่มขึ้น
จัดว่าเป็นงานใหญ่อันดับต้นของตูเฉิง ขบวนรับเจ้าสาวเรียงแถวเป็นแนวคดโค้งยาวเหยียด รอบข้างเป็นชาวเมืองที่มามุงดู เพื่อป้องกันเหตุร้าย ผู้บัญชาการทหารราชองครักษ์นำทหารมารักษาการณ์อย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้ชาวเมืองเข้าใกล้เกินไป
ซูจิ่วซือตื่นขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง นั่งตัวตรงอยู่หน้ากระจก ให้หมัวมัวกับสาวใช้แต่งผม ฮูหยินมู่ดูอยู่ข้างๆ เห็นซูจิ่วซือใส่ชุดแต่งงานสีแดง ขอบตาก็รื้นน้ำตาขึ้นมาทันที
แม้จะอาวรณ์ซูจิ่วซือที่แต่งงานออกไปเร็ว แต่นางก็รู้ดีว่าฟู่เฉินหรงดูแลซูจิ่วซือดีมาก นางวางใจที่มอบซูจิ่วซือให้ฟู่เฉินหรง
“ซือซือ วันนี้สวยจริงๆ”
ฮูหยินมู่เช็ดน้ำตาอย่างเงียบๆ แล้วเอ่ยปากชม
พอเห็นฮูหยินมู่น้ำตาไหล ซูจิ่วซือก็เอียงหน้ามาหา ยื่นมือมาจับมือฮูหยินมู่ “ท่านแม่ วันหลังข้าจะกลับมาหาท่านแม่บ่อยๆ วังตะวันออกอยู่ไม่ไกลจากจวนตระกูลมู่”
“เด็กโง่ ลูกสาวแต่งงานแล้วจะกลับมาหาแม่บ่อยๆ ได้อย่างไร คนอื่นเห็นเข้าจะว่าเอาได้
ยิ่งเจ้าเป็นพระชายารัชทายาท มีสายตาตั้งมากมายจ้องอยู่ ถึงองค์รัชทายาทรักเจ้า เจ้าก็ไม่ควรทำให้องค์รัชทายาทลำบากใจ เจ้ามีใจนึกถึงแม่ก็ดีแล้ว คนเป็นแม่คิดแต่จะให้ลูกมีความสุข”
“ท่านแม่ ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าสบายดี”
ฮูหยินมู่ยิ้มออก นางรับหวีจากสาวใช้ มาหวีผมให้ซูจิ่วซือกับมือ หวีพลางพูดขึ้น “ซือซือ วันหลังไปวังตะวันออก เจ้าก็เป็นคนของราชตระกูล มีฐานะเป็นพระชายารัชทายาท เจ้าต้องดูแลงานในวังตะวันออก ไม่ให้องค์รัชทายาทคอยพะวง
มีอะไรให้ตระกูลมู่ช่วยก็บอก จำไว้เสมอ ไม่ว่าเวลาใด ตระกูลมู่ค้ำจุนเจ้าและเป็นครอบครัวเจ้าเสมอ”
ซูจิ่วซืออยากร้องไห้ จู่ๆ ก็นึกถึงตอนแต่งงานกับกู้เหยี่ยน แม่ของนางก็กำชับอย่างนี้ เวลาผ่านไปหลายปี นึกไม่ถึงว่านางจะได้แต่งงานอีก และยังพบแม่ที่รักนางส่งตัวนางแต่งงาน
สวรรค์ช่างเมตตาจริงๆ นางซาบซึ้งในความเมตตาของสวรรค์
“ท่านแม่ ข้า…”
ซูจิ่วซือแทบไม่เคยร้องไห้ วันนี้กลับรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมา ขอบตาแดงเรื่อ
“คุณหนู วันนี้เป็นวันมงคล เจ้าสาวต้องไม่ร้องไห้” ป้าจางซึ่งยืนอยู่ข้างหลังฮูหยินมู่พอเห็นซูจิ่วซือขอบตาแดง ก็รีบห้าม ขืนร้องไห้ เครื่องสำอางที่แต่งไว้จะเป็นลาย
“ป้าจางพูดถูก วันนี้เป็นวันมงคล ห้ามร้องไห้”
ซูจิ่วซือปากแข็ง “มีผงเข้าตา”
ทุกคนที่นั่นหัวเราะ ขณะนี้หลิ่วเหวินฉือเดินเข้ามาโดยมีสาวใช้ช่วยประคอง นางพักรักษาตัวอยู่ครึ่งเดือน เวลานี้ฟื้นฟูเกือบเป็นปกติแล้ว แต่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก ยังดูหม่นหมอง
วันนี้เป็นวันมงคลของซูจิ่วซือ หลิ่วเหวินฉือก็แต่งหน้าทาแป้ง ดูสดใสกว่าเดิมมาก
“วันนี้ซือซือสวยจริงๆ”
พอมาถึงหน้าประตู หลิ่วเหวินฉือก็พูดยิ้มๆ
ซูจิ่วซือได้ยินเสียงหลิ่วเหวินฉือ รีบหันหน้ามา “พี่สะใภ้ ยังไม่ค่อยแข็งแรง ทำไมออกมา”
“ดีขึ้นมากแล้ว นอนทั้งวันก็ไม่ไหว วันนี้เป็นวันมงคลของเจ้า ข้าต้องมาดู” หลิ่วเหวินฉือสบายใจขึ้นมาก นางพิจดูซูจิ่วซือซึ่งนั่งอยู่หน้ากระจก
ตอนที่ 617 เรามาถึงบ้านของเราแล้ว
“ออกมาเดินบ้างก็ดี นี่เจ้า ยกม้านั่งให้ฮูหยินน้อยด้วย”
ฮูหยินมู่ก็เป็นห่วงสุขภาพของลูกสะใภ้ รีบสั่งให้สาวใช้ยกม้านั่งให้หลิ่วเหวินฉือ
หลิ่วเหวินฉือนั่งข้างซูจิ่วซือ มองดูฮูหยินมู่หวีผมให้ซูจิ่วซือ พูดคุยกับซูจิ่วซือตลอดเวลา บรรยากาศสดใสขึ้นมาทันที
ผ่านไปครู่ใหญ่ ข้างนอกจู่ๆ ก็มีเสียงของหมัวมัวดังขึ้น “ได้ฤกษ์แล้ว เจ้าสาวขึ้นเกี้ยว”
ฮูหยินมู่เอาผ้าแดงคลุมหัวให้ซูจิ่วซือ หญิงคนดูแลงานพิธีประคองซูจิ่วซือออกจากจวน ฮูหยินมู่กับหลิ่วเหวินฉือเดินตามหลัง
ฟู่เฉินหรงมาถึงหน้าประตูจวนตระกูลมู่ มู่อวิ๋นชางกับมู่หย่งรออยู่ก่อนแล้ว ทุกคนต่างพูดคุยยิ้มแย้ม บรรยากาศครึกครื้น
ฟู่เฉินหรงขี่ม้าสีดำ สวมชุดแต่งงานสีแดง ลำตัวตั้งตรง หลังกลับจากสนามรบเขาดูสง่าขึ้นมาก ท่าทางองอาจผึ่งผาย
พอเห็นซูจิ่วซือออกมา ฟู่เฉินหรงก็ลงจากม้า รับซูจิ่วซือจากมือหญิงคนดูแลงานพิธี
หญิงคนดูแลงานพิธีจะห้ามฟู่เฉินหรง แต่ไม่ทันเสียแล้ว ฟู่เฉินหรงจับมือซูจิ่วซือเดินไปข้างหน้า ทะนุถนอมราวกับของล้ำค่า ประคองนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวอย่างระมัดระวัง
จากนั้นก็มีเสียงประทัดและเสียงพลุดังขึ้น ส่งขบวนรับเจ้าสาวไปวังตะวันออกอย่างครึกครื้น
ฮูหยินมู่ยืนข้างมู่อวิ๋นชาง มองเกี้ยวเจ้าสาวเคลื่อนห่างออกไปแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้ มู่อวิ๋นชางลูบไหล่ฮูหยินมู่ “ฮูหยิน ลูกโตแล้วก็ต้องแต่งออกไป ซือซืออยู่ที่ตูเฉิง วันหลังอยากไปเยี่ยมเมื่อไรก็ไปได้”
“องค์รัชทายาทช่างใส่ใจจริงๆ ต้นไม้ระหว่างทางมีผ้าแพรสีแดงผูก สองข้างทางโรยกลีบดอกไม้แดง ไปจนถึงวังตะวันออก พิธีแต่งงานยิ่งใหญ่อย่างนี้เพิ่งมีครั้งแรกในตูเฉิง”
แม้แต่มู่เจี๋ยก็ยังอดถอนหายใจไม่ได้ เป็นพิธีแต่งงานที่จัดอย่างใส่ใจจริงๆ คงจะเป็นที่เล่าขานกันในหมู่ชาวบ้านแน่
“ตั้งแต่โบราณฮ่องเต้ส่วนใหญ่ไม่รู้จักความรัก หวังว่าองค์รัชทายาทจะรักซือซือตลอดไป” มู่หย่งรู้ว่าองค์รัชทายาทมีความจริงใจ แต่วันข้างหน้าเขาไม่กล้ารับประกัน
“ขึ้นอยู่กับวาสนาของซือซือ เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยได้” มู่เจี๋ยพูดเสริม
“วันนี้เป็นวันมงคลของซือซือ อย่าพูดจาเหลวไหล” ฮูหยินมู่ทำตาขวางใส่ลูกชายทั้งสอง นางทนฟังคำพูดอย่างนี้ไม่ได้
มู่หย่งกับมู่เจี๋ยมองหน้ากัน หยุดพูดทันที
“ฮูหยิน ข้างนอกลมแรง ข้าพาเจ้ากลับห้อง”
มู่อวิ๋นชางเป็นห่วงสุขภาพของฮูหยินมู่ อยากพาฮูหยินมู่กลับไป
พอเห็นว่าขบวนรับเจ้าสาวไปไกลแล้ว ฮูหยินมู่ก็พยักหน้า แล้วตามมู่อวิ๋นชางเข้าไป
มู่หย่งจับมือหลิ่วเหวินฉือ ถามเบาๆ “เหนื่อยหรือไม่”
“ไม่เหนื่อย ข้าดีใจที่เห็นซือซือแต่งงาน”
“เป็นงานมงคลของจวนตระกูลมู่ เหวินฉือ ข้าพาเจ้ากลับ หมอบอกว่า เจ้าต้องพักผ่อนให้มาก”
หลิ่วเหวินฉือพยักหน้า ทั้งสองเข้าไปในจวน
มู่เจี๋ยยืนอยู่หน้าประตูจวนตามลำพัง เวลานี้มีแต่เขาที่อยู่ตัวคนเดียว มองดูพี่น้องแต่ละคนสมหวังในความรัก เขาก็เกิดความคิดอยากแต่งงาน ผู้หญิงใกล้ชิดที่เขารักก็เป็นคนดีมาก
คืนนั้นพวกเขาต้องไปงานเลี้ยงที่วังตะวันออก
พอเกี้ยวเจ้าสาวไปถึงวังตะวันออก ฟู่เฉินหรงก็จูงมือซูจิ่วซือลงจากเกี้ยวด้วยตัวเอง กระซิบบอกซูจิ่วซือ “จิ่วซือ เรามาถึงบ้านของเราแล้ว”
ซูจิ่วซือไม่ได้ตอบ แต่มุมปากมีรอยยิ้ม ใช่สิ ต่อไปนี้ที่นี่ก็คือบ้านของนาง เป็นบ้านของนางกับฟู่เฉินหรง
พิธีแต่งงานของราชตระกูลไม่เหมือนชาวบ้าน มีพิธีกรรมสลับซับซ้อน ซูจิ่วซือถูกพาไปทำพิธีคารวะ เครื่องประดับผมที่หนักอึ้งทำให้นางปวดคอ พอจบพิธีทั้งหมด ซูจิ่วซือก็เหนื่อยมาก