บทที่ 109 จุดเริ่มต้น
ครั้งที่แล้วเพื่ออยากได้ยาที่กินแล้วกลายเป็นสาวโดยเร็ว นางกับฉินหลิงเจียวคนหนึ่งต้องปั้นตัวเองให้เป็นคนดีส่วนอีกคนต้องปั้นตัวเองให้เป็นคนร้าย
สุดท้ายไม่เพียงแต่เงินทองโดนหลอก ยังทำให้นางกับฉินหลิงเจียวกลายเป็นศัตรูกัน ส่วนยานั้นโดนเหยียบจนเละไม่มีชิ้นดี
ในเมื่อยาที่กินแล้วกลายเป็นหญิงงามไม่มีแล้ว นางก็เกลียดหลานเยาเยากข้ากระดูก!
นางไม่ได้แต่งงานกับอ๋องเย่ แถมอ๋องเย่รักและถนอมหลานเยาเยาขนาดนี้ นางยิ่งไม่พอใจเข้าไปอีก
เมื่อกี้ได้ยินที่ถังมู่หวั่นพูดขึ้นว่านางรำที่อยู่ข้างในไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แน่นอนนางต้องพูดออกมา เพื่อจะให้หลานเยาเยาได้ยิน
ทางที่ดีให้หลานเยาเยาแสดงอาการไม่พอใจอ๋องเย่ อ๋องเย่จะได้ไม่ชอบนาง……
“เยาเยา อ๋องเย่รักและถนอมเจ้าขนาดนี้ อีกทั้งหน้าตาของเจ้าก็งดงามหาใครเปรียบไม่ได้ อ๋องเย่ไม่มีทางจะไปมองคนอื่นหรอก?”
หลานจิ่นเอ๋อรีบปลอบใจนาง
“หึหึ ความเจ้าชู้เป็นเรื่องปรกติของผู้ชาย บนโลกนี้ไม่มีหรอกผู้ชายที่รักเดียวใจเดียว อีกทั้งการที่ผู้ชายจะมีภรรยาสามสี่คนก็เป็นเรื่องปรกติ
น่าเสียดาย!
พระชายาเย่เจ้าเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน คิดว่าน่าจะมีนางรำจะเข้ามาร่วมเป็นพี่น้องกับเจ้าแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นเมื่อถึงเวลากลางคืนพระชายาเย่ก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก เพราะว่ามีนางรำที่มีประสบการณ์มากมายสามารถทำหน้าที่ช่วยพระชายาได้
ฉินหลิงเจียวเดินเข้ามาสมทบด้วยอีกคน น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ถึงแม้นางกับหลินเฟยหรันจะไม่ถูกกันแล้ว แต่เมื่อเผชิญกับหลานเยาเยา แน่นอนว่าต้องกำจัดศัตรูด้วยกัน
ยังมีอีกหลายคน เนื่องจากนางมีตำแหน่งเป็นถึงพราชายาเย่ พวกนางเลยไม่กล้าพูดออกมาเหมือนหลินเฟยหรัน
แต่ว่า!
พวกนางเดินเข้ามาสมทบด้วย และหยุดยืนข้างๆหลินเฟยหรัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน
หลานเยาเยาเงยหน้าขึ้นมอง ยิ้มเล็กๆที่มุมปาก นิ้วมือเคาะเสียงดังไม่หยุดบนโต๊ะ
จากนั้นนางมองไปทิศทางอื่นที่อยู่ไม่ไกลนัก ถังมู่หวั่นนั่งจิบชาอยู่ตรงนั้น นางไม่ได้มองมาทางนี้ เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนางเลย
หี!
นางเก่งมากสามารถฆ่าคนโดยไม่ต้องลงมือเอง
เดิมทีนางสนใจแค่อาหารบนเรือลำใหญ่ และไม่แม้แต่จะคิดเข้าร่วมศึกกับหว่างผู้หญิงพวกนี้
อย่างไรก็ตาม!
ยังไงสิ่งที่นางทำก็ไม่มีคนชอบอยู่แล้ว!
เหมือนจะมีแต่ปัญหาเข้าหานางตลอด
เมื่อก่อนหน้าตาไม่สวยก็เป็นอย่างนี้ ตอนนี้หน้าตาสวยขึ้นก็ยังเป็นอย่างนี้อีก
ดูจากสถานการณ์แล้วนางต้องจัดการแมลงวันพวกนี้ให้เรียบร้อยก่อน ไม่งั้นนางจะเดินออกจากโรงน้ำชาอย่างไม่มีความสุขแน่นอน
ดังนั้น!
มือของหลานเยาเยาที่เคาะอยู่บนโต๊ะหยุดลงทันที จากนั้นนางกวักมือเรียก พูดกับเจ้าของร้านว่า
“เถ้าแก่ ร้านของเจ้ามีกระดาษกับพู่กันไหม?”
เถ้าแก่เดินมาด้วยความเร็ว ก้มพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“มีอยู่ พระชายาเย่ ข้าน้อยจะรีบไปเอามาให้เดี๋ยวนี้”
ที่นี่ถึงจะเป็นโรงน้ำชา แต่มีนักเขียนวรรณกรรมมากมายชอบมาที่นี่ บางครั้งเกิดอยากแต่งกวีนิพนธ์ขึ้นมา ก็ขอกระดาษและภู่กันกับทางร้าน เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ทางร้านมีการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว
“อืม!”
ไม่นานนักเจ้าของร้านก็นำสิ่งที่นางขอมาให้อย่างเร็วไว
หลานเยาเยาหันไปหาหลานจิ่นเอ๋อ น้ำเสียงไม่หนักไม่เบาพูดขึ้นว่า “
พี่สามสนใจที่จะช่วยข้าบดหมึกหรือไม่?”
“สนใจแน่นอน!”
หลานจิ่นเอ๋อไม่รู้ว่าหลานเยาเยาจะทำอะไร และไม่ได้จะถาม เพีบงแต่หยิบหมึกขึ้นมาทำการช่วยบด
“พระชายาเย่ เจ้าจะทำอะไรเหรอ?”หลินเฟยหรันถามขึ้น
ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ตาม ถ้าได้ยินสิ่งที่พวกนางพูดเมื่อกี้ ต้องรู้สึกเสียใจแน่นอน ใจหนึ่งก็คิดว่าสามีของตัวเองจะพาผู้หญิงกลับจวนไหม อีกใจหนึ่งก็คิดว่าต้องได้สู้รบตบมือกับพวกนางรำแน่นอน
แต่ว่า!
หลานเยาเยาไม่ได้คิดเช่นนั้น
นางใจเย็นผิดปรกติ แถมยังยิ้มออกมาได้ ตอนนี้นางยังขอกระดาษหมึกและภู่กันด้วย ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่?
“ไม่ได้จะทำอะไร?แค่จะจดบันทึกไว้”
นางพูดขึ้นอย่างใจเย็น ทำให้ถังมู่หวั่นหันกลับมามองทันที
“จดบันทึก?จดบันทึกอะไรเหรอ?”ฉินหลิงเจียวรีบถามขึ้นมาทันที
หลานเยาเยายิ้มออกมาทันที
สายตาหันไปมองที่ฉินหลิงเจียว หลังจากที่ทั้งสองคนสบตากันแล้ว หลานเยาเยาหรี่ตาลอง มีกลิ่นอายอันตรายแผ่ออกมาจากสายตาคู่นั้น
“ในเมื่อเจ้าใจร้อนกว่าคนอื่น งั้นเริ่มต้นที่เจ้าก่อนแล้วกัน!”
พูดจบ
หลานเยาเยานำภู่กันจุ่มหมึก แล้วเริ่มต้นเขียนขึ้นมา พูดไปด้วยเขียนไปด้วยว่า
“ปฏิทินก่วงส้า ปีที่ยี่สิบ ฉินหลิงเจียว ลูกสาวของสิงปู้ช่างชู ในโรงน้ำชาที่อยู่ข้างโขดหินของทะแลสาบระหว่างโรงที่สามกับโรงที่สี่ ยืนอยู่ตรงหน้าพระชายาเย่พูดขึ้นว่า
“ความเจ้าชู้เป็นเรื่องปรกติของผู้ชาย บนโลกนี้ไม่มีหรอกผู้ชายที่รักเดียวใจเดียว อีกทั้งการที่ผู้ชายจะมีภรรยาสามสี่คนก็เป็นพระชายาเย่เจ้าเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน คิดว่าน่าจะมีนางรำจะเข้ามาร่วมเป็นพี่น้องกับเจ้าแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นเมื่อถึงเวลากลางคืนพระชายาเย่ก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก เพราะว่ามีนางรำที่มีประสบการณ์มากมายสามารถทำหน้าที่ช่วยพระชายาได้
ยังกล้าทำตัวหยิ่งยโสใส่พระชายาเย่ถามโน่นถามนิ่ ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าฐานะของตัวเองนั้นเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งในจวนเท่านั้น นึกว่ามีหน้าที่มาสอบถามพระชายาเย่
ฉะนั้นข้าจำเป็นต้องเขียนบันทึกไว้ แล้วจะพิมพ์ออกมาเป็นพันฉบับหมื่นฉบับ และจะทำการแจกจ่ายไปยังตลาดต่างๆ พร้อมทั้งจะเป็นคนสั่งให้ส่งบันทึกนี้ไปที่จวนสิงปู้ช่างชูด้วย”
หลานเยาเยาไม่ได้วางภู่กันลงหลังจากเขียนเสร็จแล้ว แต่ถือมันไว้ในมือ
จากนั้นมองไปที่ฉินหลิงเจียว ยิ้มจางจางแล้วพูดว่า “ความจำของข้าใช้ได้ใช่ไหม?”
“หลานเยาเยา เจ้ากล้าเขียนแบบนี้ได้ยังไง เจ้าไม่กลัวว่าจะทำให้พ่อข้าไม่พอใจเหรอ?”
ฉินหลิงเจียวเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่อันตรายนี้ เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา ทำให้นางรู้สึกโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
ถ้าหลานเยาเยาเขียนบันทึกแบบนี้แล้วให้อ๋องเย่หรือพ่อนางเห็นเข้า อันดับแรก ตำแหน่งของพ่อต้องถูกปลดออกแน่นอน ส่วนอันดับที่สองพ่อนางต้องตีนางให้ถึงตายเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่านางจะเกลียดหลานเยาเยาเข้ากระดูก!
แต่หลานเยาเยายังไงก็เป็นถึงพระชายาเย่ ถ้านางไม่เคารพหลานเยาเยา ก็เหมือนนางไม่เคารพอ๋องเย่ด้วย
แค่คิดถึงผลที่จะตามมา ฉินหลิงเจียวก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
ใครจะรู้……
ทันใดนั้นหลานเยาเยาพูดขึ้นมาว่า
“ออ ใช่แล้ว ข้ายังเขียนไม่จบเลย!”
จากนั้นก็เริ่มเขียนต่อเขียนไปด้วยพูดไปด้วยว่า “ข้ายังไม่ได้วางภู่กันลง คุณหนูของจวนสิงปู้ช่างชู
จูฉินหลิงเจียว ก็ได้ตะโกนเสียงดังดุข้า แถมยังขู่ข้าว่า ‘หลานเยาเยา เจ้ากล้าเขียนแบบนี้ได้ยังไง เจ้าไม่กลัวว่าจะทำให้พ่อข้าที่เป็นสิงปู้ช่างชูไม่พอใจเหรอ?’
นับตั้งแต่เป็นพระชายาเย่ ข้าเพิ่งรู้ การทีข้าเป็นพระชายาเย่นั้นยังต้องดูสีหน้าของสิงปู้ช่างชู ข้าเพิ่งจะรับรู้ก็ตอนนี้แหล่ะ”
น้ำเสียงของนางที่พูดออกมาไม่ดังมาก แต่ก็ดังพอที่จะให้คนที่อยู่ในโรงน้ำชาได้ยินกันหมด
ครั้งนี้หลังจากที่เขียนเสร็จ นางรีบว่างภู่กันลงทันที!
เนื้อหาแค่นี้ก็พอใช้แล้ว พอที่จะใหสิงปู้ช่างชูได้รับโทษข้อหาไม่ได้สอนลูกสาวดีๆ ชื่อเสียงด้านลบของฉินหลิงเจียวก็จะเสื่ยมเสียไปในชั่วพริบตา
“เจ้าเจ้า……พระชายาเย่ ขอร้องท่านอย่าทำแบบนี้ ได้หรือไม่?”
ฉินหลิงเจียวยิ่งอยู่ยิ่งกลัว น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่ว่า!
จะให้นางคุกเข่าขอร้องหลานเยาเยา นางทำไม่ได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้นางก็ยอมพูดจาอ่อนลง สิ่งที่หลานเยาเยาต้องการแค่อยากให้นางขอโทษไม่ใช่เหรอ?
ถ้าอย่างงั้นนางขอโทษน่าจะเพียงพอแล้ว!
ทันใดนั้น!
หลานเยาเยาลุกขึ้นยืน น้ำเสียงแผร่กระจายออกมาอย่างน่ากลัว นางจับถ้วยชาที่ดื่มเมื่อกี้ไว้ในมือ จากนั้นโยนแก้วน้ำชาไว้ตรงหน้าของฉินหลิงเจียว
เสียวดัง!“โป้ง”
แก้วชาแตกร้าว กระจายไปทั่วทิศทาง
“พวกเจ้านึกว่าข้ากำลังล้อเล่นเหรอ?วันนี้ข้าขอพูดไว้ตรงนี้เลย ข้าจะให้พวกเจ้าจำขึ้นใจ ว่าอะไรที่เขาเรียกว่าปัญหามักออกจากคำพูดที่ไม่เหมาะสม ?”
พูดจบ
นางถอนหายใจออกมา พร้อมกับตะโกนเสียงดังในโรงน้ำชาว่า “องครักษ์ลับอยู่ไหน?”