บทที่112 ปล่อยวัยรุ่นนั่นไป
อย่างไรก็ตาม!
หลังจากตอนที่สายตาแวววาวของหญิงสาวบนเตียงมาหยุดอยู่ที่นางนั้น นางก็แฉลบตัวไปยังประตูทันทีจากนั้นก็เปิดประตูออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
ทำให้ผู้ชายที่อยู่ในห้องหรูหัวเราะกราว!
ล้อเล่นอะไรกัน!
การดูหนังต่อสู้รักใคร่ฟรีๆอย่างงี้นางรู้สึกไม่มีอะไร ถ้ามาถึงคราวนางก็ต้องขอโทษด้วย ไปหล่ะ!
ข้าก็เป็นหญิงแท้
เมื่อออกไปตรงประตูหลานเยาเยาก็เพิ่งพบว่าบนประตูห้องหรูนี้มีป้ายแขวนอยู่ เขียนตัวอักษรใหญ่ๆไว้สองสามตัวว่า: การต่อสู้ศิลปะบนเตียง
วะฮ่าฮ่า
เรื่องแบบนี้เขียนได้อารมณ์การต่อสู้ขนาดนี้……
“โครกโครก……”
ไม่ได้ไม่ได้ ท้องหิวมากแล้ว! อาหารเลิศรสอยู่ไหนนะ?
เพื่อไปหาอาหารเลิศรสหลานเยาเยาแทบจะหาห้องหรูไปทีละห้องๆ
แน่นอน!
ครั้งนี้นางก็แค่มองป้ายที่แขวนอยู่หน้าห้องหรูไม่ต้องเข้าไปให้วุ่นวาย
ถึงอย่างไร!
นางก็ยังกลัว ตอนที่นางเข้าไปนางยังไม่คุ้นเคยอีกทั้งยังมีพวกถ้าไม่แข่งขันไม่อนุญาตให้ออกจากห้องหรู
ก็แค่เท่านั้น
ตอนที่ใกล้จะถึงหัวเรือ สุดท้ายก็เห็นป้ายที่เกี่ยวกับของกิน!
นางก็ไม่ได้ตรงเข้าไปทันทีแต่อ่านตัวอักษรเล็กๆสองสามบรรทัดที่อยู่ด้านล่างก่อน เพราะตัวอักษรเล็กๆสองสามบรรทัดนั้นบอกถึงกฎเอาไว้
พอมองหลานเยาเยาก็ต้องตกใจอ้าปากค้าง
วันนี้มีพ่อครัวระดับปรมาจารย์มาแข่งขันทำอาหาร
ฝ่ายชนะต้องทำอาหารเลิศรสสามอย่างให้ฝ่ายแพ้กิน
ถ้าเจ้ารู้สึกว่าฝ่ายแพ้เพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสของฝ่ายชนะนั่นก็จะเป็นการผิดมหันต์
เพราะว่า!
ในอาหารเลิศรสสามอย่างนั้นจะมีสองอย่างที่ใส่ยาพิษไร้สีไร้กลิ่นไป แบบแรกทำให้คนกึ่งเป็นกึ่งตาย อีกแบบคือแค่กินเข้าไปก็สิ้นชีวิตทันที
ที่จริงก็คือการเดิมพันอย่างหนึ่ง!
แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจที่สุดก็คือคนที่จะเข้าไปดูในฐานะผู้ชิมทุกๆคนต้องจ่ายเหรียญเงินห้าร้อยตำลึงก่อนการแข่ง
เพราะหลังจากที่ผู้ชิมลองชิมแล้วจะต้องลงคะแนนให้พ่อครัว!
หลังจากที่เคยดูหนังต่อสู้รักใคร่สุดตะลึงมาแล้ว หลานเยาเยาก็เชื่อว่าการแข่งขันทุกอย่างนั้นจริง
ดังนั้น!
พวกพ่อครัวระดับปรมาจารย์ ฝีมือการทำอาหารของพวกเขาต้องดีมากแน่ๆ
แต่ว่า……
เหรียญเงินห้าร้อยตำลึงหล่ะ!
แม้ตอนนี้นางจะมีเงินทองเพชรพลอยกองใหญ่อีกทั้งตั๋วเงินก็ซ้อนเป็นกองๆอยู่ในระบบ ห้าร้อยตำลึงสำหรับนางแล้วนั้นก็แค่เศษผม
แต่เศษผมนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายนางก็ยากที่จะตัดใจ!
อาหารเลิศรสกับเหรียญเงินห้าร้อยตำลึงต้องเลือกเพียงอย่างเดียว
อื้อ เป็นสิ่งที่นางรักที่สุดหมดเลย เลือกยากมากๆ!
ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้จู่ๆก็มีเสียงดึงดูดเย้ายวนดังขึ้นมาจากที่ไม่ไกล
แย่ละ!
เสียงดึงดูดนี้มีเอกลักษณ์มากซึ่งยากที่จะไม่รู้ว่าเป็นใคร
นอกจากเย่แจ๋หยิ่งยังมีใครอีก?
ก่อนหน้าเย่แจ๋หยิ่งไม่ให้นางมาที่นี่ตอนนี้นางก็แอบออกมาอาหารเลิศรสก็ยังไม่ได้กินถ้าถูกเขาเจอเข้ามันจะได้ได้ยังไง?
ดังนั้น!
หลานเยาเยาจึงไม่พูดอะไร เปิดประตูและเดินเข้าไป
หลังจากเปิดประตูนางก็รีบกันประตูไว้แล้วมองลอดไปตรงช่องของประตู ด้านนอกมีเสียงพูดคุยอีกทั้งยิ่งใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ……
นางได้ยินเสียงที่น่าดึงดูดดังอืมเบาๆบางครั้งจนกระทั่งเสียงนั้นหยุดลงตรงที่หน้าห้องหรู หลานเยาเยาอกสั่นขวัญแขวน
ไม่หรอกมั้ง!
บังเอิญขนาดนั้นเชียว?
ห้ามเข้ามาเด็ดขาดนะ!
อามิตตาพุทธ อามิตตาพุทธ อามิตตาพุทธ ขอพระเจ้าคุ้มครองเถิด!
พระเจ้าน่าจะได้ยินคำวิงวอนของนาง คนข้างนอกก็ยืนอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็เดินไป ใจที่กังวลของหลานเยาเยาก็คลายลง
หลังจากที่แน่ใจว่าพวกเขาไปแล้ว หลานเยาเยาก็หัวเราะฮิฮิ
นึกถึงอาหารเลิศรสในที่สุดก็มาถึงแล้ว!
ตอนที่จะหมุนตัว……
หลานเยาเยาก็ตะลึงจากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเอาตนเองกดแน่นเข้าไปกับประตู!
ด้านหน้าของนางล้อมไปด้วยกลุ่มคนอีกทั้งยังเป็นกลุ่มผู้ชายมองมาที่นางอย่างแปลกๆ
“พวกเจ้าคิดจะทำอะไร?”
นางรีบป้องกันตัว
ทุกคน: “……”
เขาทำอะไร?
การแข่งขันทำอาหารระดับปรมาจารย์ระดับสูงจะเริ่มแล้ว พวกเขากำลังดุเดือดเลย! จู่ๆก็มีคนถลาเข้ามาแล้วยังเป็นวัยรุ่นที่ดูหล่อมากๆ
เขาถลาเข้ามาก็ช่างปะไร ยังไงที่สามารถเข้ามาในห้องหรูนี้ได้ก็เป็นนักกินระดับสูงๆทั้งนั้น แต่ที่แปลกก็แปลกตรงที่พอเขาเข้ามาก็ขวางอยู่ตรงประตูจากนั้นก็คว่ำหน้าไปที่ประตูไม่ขยับ
นี่ทำอะไรหน่ะ?
ประตูห้องมันเป็นข้าวกินได้หรอ?หรือคิดมิดีมิร้ายกับประตูห้อง?
ทันใดนั้น!
“ปล่อยวัยรุ่นนั่นไป ให้ข้าเอง!” เสียงของพี่ชายวัยกลางคนดังขึ้นมา
ทุกคนทยอยถอยไป เห็นเพียงแต่ผู้ชายคนหนึ่งมุ่งมายังหน้าหลานเยาเยา เท้าข้างนึงยันไว้บนประตูห้องแล้วกดนางเข้ากับกำแพงให้ไม่มีทางหนีได้
จากนั้นก็เห็นชายผู้นั้นยื่นมือมาจัดผมตนเองที่คิดว่าหล่อแล้วยังขยิบตาให้นาง
สถานการณ์ขนาดนี้หลานเยาเยายังมีกะจิตกะใจร่าเริง!
โสดมาหลายปีขนาดนี้ในที่สุดก็มีคนมาสารภาพรักแล้วเหรอ?
แม้อีกฝ่ายจะเป็นคุณอาวัยกลางคนก็เถอะ
แต่ก็ยังมีความตื่นเต้นเล็กๆนะ!
ใครจะรู้……
“เอาเหรียญเงินมา!”
“อะไร?” ไม่ต้องตรงขนาดนี้ได้ไหมเนี่ย! สารภาพรักก่อนมันจะตายหรอ!
“เหรียญเงินของการชิม ห้าร้อยตำลึง เอามา” ชิ เจ้าหน้าขาวนี่ไม่มองป้ายประตูรึไง?
“ให้เจ้าให้เจ้า”
เซ็งสุดๆ หลานเยาเยาหยิบตั๋วเงินมาห้าร้อยตำลึงยัดใส่มือเขา
หลังจากให้เงินไป คนนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่ดูหยิ่งๆเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นคุณอาที่อัธยาศัยดีมีเมตตา
“โอ้ คุณชายมาที่นี่ครั้งแรกหล่ะสิ! เห็นหน้าหล่ออ่อนต่อโลกของท่านนี้เมื่อเห็นว่าท่านมาที่นี่ครั้งแรกข้าก็ตั้งใจเตรียมที่นั่งที่ดีที่สุดไว้ให้ มามามา ตามข้ามา”
หลานเยาเยากระตุกมุมปากอย่างอดไม่ได้
แม่เจ้า!
ทำไมรู้สึกเหมือนแม่เล้าในซ่องอี๋หงกำลังต้อนรับแขกหล่ะ?
ทุกคนเหมือนไม่รู้สึกแปลกกับท่าทีกะล่อนของคุณอาวัยกลางคน ตอนที่เขาดึงหลานเยาเยาไปยังที่นั่งที่ดีที่สุดทุกคนก็พากันตามา
หลังจากนั้น!
คำว่าที่นั่งที่ดีที่สุดของคุณอาวัยกลางคนก็คือบนที่นั่งเขียนตัวอักษรไว้สองตัวว่า ‘ดีสุด’
ต้องการหลอกอย่างงี้?
อีกอย่างนางก็ยังพบว่าบนที่นั่งของคนชิมทุกคนมีตัวอักษรนี้เขียนอยู่เช่นกัน เมื่อเห็นท่าทางเหมือนเห็นผีของหลานเยาเยา
“ที่นั่งของท่านก็คือดีสุด” คุณอาวัยกลางคนรีบพูดปลอบ
ก็ได้!
ยังไงก็คือ‘ดีสุด’
ที่นั่งของคนชิมทั้งหมดล้อมกันเป็นวงกลมใหญ่ๆ ตรงกลางก็เป็นสนามแข่งทำอาหารของสองพ่อครัวระดับสูง วัตถุดิบทุกอย่างมีในสนามหมด
พ่อครัวทั้งสองที่อยู่ตรงกลางอดไม่ได้ที่จะมองมาทางหลานเยาเยา
พวกเขาเป็นพ่อครัวระดับต้นๆ เดินไปที่ไหนก็ได้รับการจับจ้องจากคนนับหมื่น ดังนั้นพวกเขาจึงคุ้นเคยกับการยกยออย่างสูง
เมื่อกี้จู่ๆสนามก็เงียบสนิทอีกทั้ง ต่างพากันหันไปมองหน้าขาวๆนั่นหมด มันน่าอายจริง!
แต่ว่า!
บรรยากาศก็ถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
สองพ่อครัวก็เริ่มทำอาหารจานแรก
หลานเยาเยามองวัตถุดิบบนโต๊ะตาไม่กะพริบ
หิวจัง!
จะเสร็จเมื่อไหร่นะ นางรอไม่ไหวแล้ว
สุดท้ายก็เป็นไปตามที่นางหวัง อาหารจานแรกทำเสร็จแล้ว
บนโต๊ะของคนชิมทุกคนก็จะมีจานวางไว้จากนั้นคุณอาวัยกลางคนก็ตักวางอาหารของพ่อครัวหมายเลข1
แบ่งให้แต่ละคนนิดเดียวสุดท้ายในหม้อก็ยังเหลืออีกเยอะ
หลานเยาเยามองอาหารน้อยๆที่อยู่บนจานก็อดไม่ได้ที่จะกินไปทั้งหมดภายในคำเดียว
ว้าว!
อร่อยมาก!
แน่นอนว่ามีระดับมากกว่าอาหารของถนนของกินอีก
“อร่อยอร่อย”
หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้กับพ่อครัวหมายเลข1
แต่พ่อครัวหมายเลข1เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยให้กับคำชมของนาง อย่างไรคนที่พูดแบบนี้เขาต้องเคยได้มาเยอะมากๆอยู่แล้ว
ใครจะรู้……
“ยังมีอีกไหม?”หลานเยาเยาเอ่ยอีกครั้ง
พูดถามแต่ที่จริงนางเล็งเห็นแล้วในหม้อยังเหลืออีกเยอะ……