หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 115 ผู้หญิง

  บทที่115 ผู้หญิง

หลานเยาเยากระตือรือร้นในใจคิดถึงแต่อาหารอร่อยที่พ่อครัวหมายเลข1บอกว่าจะทำให้นางชุดใหญ่! 

แต่ทว่าตอนที่นางกำลังจะหมุนตัว 

“คุณชายโปรดรอก่อน!” 

คุณอาวัยกลางคนเรียกนางไว้แต่นางกลับหันไปมองพ่อครัวหมายเลข1 

“ข้าจะไปรอเจ้าอยู่ที่ร้านอาหารชั้นสูงสุดข้างทะเลสาบ” พ่อครัวหมายเลข1เข้าใจแววตาของนักกินรูปงามนั่น ให้เขากินยาสงบจิตสงบใจหน่อยจากนั้นก็ค่อยขยับเขยื้อนต่อไปได้

คุณอาวัยกลางคนสั่งให้คนเอาติ่มซำสองจานที่เหลืออยู่บนโต๊ะออกไป จากนั้นก็สั่งให้ถือติ่มซำสามจานมา 

“คุณชาย ติ่มซำสามจานนี้คืออันที่พ่อครัวหมายเลข1ได้ทำไว้ ยาพิษจะถูกเติมลงไปโดยข้า ถ้าท่านเดาถูกว่าติ่มซำจานไหนไม่มีพิษ เงินห้าร้อยตำลึงจะคืนให้ท่าน” 

พูดจบ! 

คุณอาวัยกลางคนก็เอาตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงวางไว้บนโต๊ะ 

หลานเยาเยามองตั๋วเงินนั้นด้วยใจที่เต้นแรงแต่ภายนอกก็แสร้งทำเป็นนิ่งๆ 

“ถ้าเพิ่มว่าเจ้าทำอาหารให้ข้าด้วยตนเองหนึ่งจาน งั้นก็จะตกลง!” 

“คุณชาย การทำอาหารของข้าไม่ดีนัก ทำออกมาไม่ใช่จะขายหน้าเอาหรือ? เอาอย่างงี้ละกัน!” คุณอาวัยกลางคนหยิบเอาตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงมาวางไว้บนโต๊ะอีก “หนึ่งพันตำลึงถือว่าตกลงรึยัง?” 

“งั้นก็หนึ่งพันตำลึงบวกกับอาหารชุดนึงที่เจ้าทำ!” 

หลานเยาเยาขึ้นราคาอย่างรื่นเริง 

“……”คุณอาวัยกลางคนยกมุมปาก 

เมื่อเห็นว่าจะไม่เป็นผลหลานเยาเยาก็มองไปที่ตั๋วเงินแล้วก็หันไปมองที่ติ่มซำ แล้วก็ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดที่เหมือนมีดปักลงมา จากนั้นก็ยืดตัวขึ้นเตรียมจะจากไป

ทันใดนั้น! 

คุณอาวัยกลางคนก็ตบโต๊ะ ดูเหมือนว่าจะตัดสินใจได้แล้วยังไงอย่างงั้น 

“งั้นก็ห้าร้อยตำลึงพร้อมกับอาหารหนึ่งจาน!” 

“เมื่อกี้เจ้าเพิ่งพูดว่าหนึ่งพันตำลึงจู่ๆมาลดเหลือห้าร้อยตำลึง ข้าก็ไม่ค่อยคุ้นนะ” นางไม่ค่อยพอใจ

ตอนนี้คุณอาวัยกลางคนก็คิดอยู่นานสุดท้ายก็พยักหน้า 

“ก็ได้!” เขาอยากจะตบปากตัวเองจริงๆ 

เป็นเพราะปากเหม็นๆของตนเองแท้ๆ! 

เสนอเงินอะไรเนี่ย? 

ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าหนีไม่พ้นการทำอาหารให้เขา งั้นเขาก็ทำอาหารไปจะไปเสนอเงินทำไมนะ! 

แน่นอน 

คุณอาวัยกลางคนไม่ใช่คนที่ยอมเสียเปรียบ เขาก็แค่ทำข้าวผัดไข่ธรรมดาๆ เจียวไข่ ผัดข้าวดูเหมือนขั้นตอนทั้งหมดจะสบายๆ 

แต่ตอนสุดท้ายที่ตักข้าวผัด หลานเยาเยาก็ได้กลิ่มหอมนัยน์ตาก็เป็นประกาย แทบจะรอไม่ไหวที่จะได้กิน

นี่สิถึงจะเป็นเซียนของจริง! 

เอาวัตถุดิบธรรมดาๆทำเป็นอาหารอร่อยมากๆ 

นางกินข้าวผัดถ้วยนั้นจนหมด โดยไม่ต้องรอให้คุณอาวัยกลางคนกระตุ้นอะไรหลานเยาเยาก็หยิบติ่มซำจานที่1ขึ้นมากินหนึ่งชิ้น “ง่ำง่ำ”   

ตอนนี้อิ่มจริงๆแล้ว! 

จนกินติ่มซำชิ้นนั้นเสร็จนางก็รีบหยิบเงินหนึ่งพันตำลึงยัดใส่แขนเสื้อทันที 

จากนั้นก็ลุกขึ้นโบกมือให้คุณอาวัยกลางคน แล้วหมุนตัวไปเดินไปทางประตู

คุณอาวัยกลางคนมองติ่มซำจานที่หลานเยาเยาหยิบ สายตาก็อดไม่ได้ที่จะมองลึกลงไปด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ 

เขาวางยาพิษ เขาก็รู้ว่าติ่มซำจานไหนไม่มีพิษ 

เพื่อหลอกพ่อครัวบางพวกที่มีทักษะทางการแพทย์ดังนั้นยาพิษจึงได้รับการจัดการเป็นพิเศษ แม้ว่าจะเป็นหมอที่มีทักษะทางการแพทย์สูงมากๆก็ไม่สามารถแยกด้วยตาเปล่าได้อย่างรวดเร็ว 

คุณชายรูปงามที่อยู่ตรงหน้านี้ได้มองแค่ไม่กี่ทีก็กลับแยกออกแล้ว 

เห็นได้ว่าทักษะทางการแพทย์เขานั้น…… 

ทันใดนั้น! 

ทางประตูก็มีเสียงแปลกๆของคุณชายรูปงามดังขึ้นมา: 

“อ้าว นี่ไม่ใช่พี่ชายสุดหล่อที่ต้อนรับเรือหรอกหรือ? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” 

หลานเยาเยามองร่างคนที่มาขวางทางนางไว้ 

พี่ชายต้อนรับเรือที่สวมหน้ากากก็ยังคงเปิดแผงอกอยู่ ตอนนี้เดินเข้ามาทีละก้าวๆ

เมื่อเผชิญหน้ากับแผงอกแข็งแกร่งสีเหมือนข้าวสาลี ที่เข้าใกล้นางมาหน่อยหลานเยาเยาก็เลือกถอยเข้าไปในห้องหรูหลีกทางให้เขา 

ในใจก็ครุ่นคิดว่าพวกเขาคิดจะทำอะไร?

เป็นอย่างที่คาดไว้! 

ประตูห้องหรูถูกปิด นางก็ต้องหาที่นั่ง ‘ดีสุด’เพื่อนั่งลงอย่างเลี่ยงไม่ได้

ใครจะรู้…… 

ผู้นั้นมาอยู่ตรงหน้านางแล้วโน้มตัวลงมาเล็กน้อยและยื่นมือมาจัดผมนาง 

“ผู้หญิงคนหนึ่งกล้าวิ่งไปทั่ว ความกล้ามิใช่น้อยๆ รู้กฎบนเรือหรือไม่? ว่าห้ามผู้หญิงเข้า เจ้าทำผิดกฎคิดว่าจะสามารถจากไปเหมือนเดิมได้เหรอ?”

เมื่อได้ยินว่าเป็นผู้หญิง 

คุณอาวัยกลางคนที่ยังคิดอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองทันที แล้วถามอย่างสงสัยว่า: 

“ในเมื่อรู้ว่านางเป็นผู้หญิงแล้วจะให้นางเข้ามาทำไม ไม่ใช่ว่ากินอิ่มไม่มีอะไรทำแล้วหาเรื่องเหรอ?”

“อะแฮ่ม!” 

เมื่อโดนเปิดโปง ชายที่เปิดแผงอกก็อดไม่ได้ที่จะไอขึ้นมาเบาๆ 

“ไม่ใช่เพราะดูนางมีรูปร่างหน้าตาสวย ถ้าใส่เสื้อผ้าโปร่งๆจะต้องเป็นคนสวยที่หาได้ยากบนโลก ดูหน้าเล็กๆละอ่อนของนางสิ ยังต้องเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่แน่ๆ”

พูดจบ! 

สายตาของเขาก็กวาดมองไปบนตัวของหลานเยาเยาอย่างอดไม่ได้ดูราวกับรอไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรส 

“ป่ายเม่ยเซิง ถ้าไม่อยากตายก็อย่าทำผิดกฎของเรือ!” 

สำหรับเรื่องของคุณชายรูปงามคือผู้หญิง คุณอาวัยกลางคนก็รู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง 

ตลอดชีวิตเขาเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการทำอาหาร ไม่เหมือนกับป่ายเม่ยเซิงที่หมกมุ่นอยู่แต่กับเพศหญิงเท่านั้น 

แต่ว่า! 

แม้ป่ายเม่ยเซิงจะชอบเป็นแบบนี้อีกทั้งยังปากเสียแต่ก็ไม่เคยยุ่งวุ่นวาย ข้อนี้เขารู้

“ก็สาวงามผู้นี้ทำผิดกฎของเรือก่อนข้าก็แค่เจาะเข้าไปในช่องว่างก็เท่านั้น ซาหมั่นเฉิง ข้าจะเตือนเจ้านะว่าอย่ามาขัดเรื่องของข้า!”

ดวงตาของป่ายเม่ยเซิงเย็นชา เหมือนว่าซาหมั่นเฉิงอยู่ที่นี่ขวางตาเขา สาวงามรอเขาปรนนิบัติอยู่นะ!

แต่ว่าเขาก็ไม่สนใจ: “ห้องหรูนี่เป็นที่ของข้า ถ้าเจ้าจะไปก็ไปที่อื่น” 

“ชิ! ข้าป่ายเม่ยเซิงจะอยู่ผูกมิตรกับสาวงามที่ของเจ้านี้!” 

หลานเยาเยามองพวกเขาต่างคนต่างพูด 

อยากจะเอาติ่มซำจานนั้นขึ้นมากินไปมองพวกเขาคุยกันไปจริงๆ 

ที่จริงนางก็ทำแล้ว 

นางลุกขึ้นทันทีผลักป่ายเม่ยเซิงไปข้างๆจากนั้นก็ไปที่คุณอาวัยกลางคนแล้วหยิบติ่มซำที่ไม่มีพิษมากิน 

ป่ายเม่ยเซิงที่ถูกผลักออกไปเล็กน้อย ดวงตาเขาก็ยิ่งประหลาดใจ 

ชอบสาวงามที่มีบุคลิกอย่างงี้อีกทั้งยังสวยอีก…… 

จากนั้นก็เดินมาอยู่ข้างหลานเยาเยาอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าหลานเยาเยาอยู่ค่อนข้างใกล้กับซาหมั่นเฉิงก็รีบผลักเขา 

“ซาหมั่นเฉิงเจ้าไป……” 

ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกหลานเยาเยาหยิบอาวุธที่คล้ายกับกริชมากดไว้ที่ท้องทำให้บรรยากาศในห้องห้องหรูสับสนขึ้นทันที 

ซาหมั่นเฉิงหันไปมองพวกเขาจากนั้นก็หัวเราะออกมายกใหญ่ 

“ทีนี้แพ้แล้วใช่ไหมหล่ะ!” 

อาจจะกระทบกับเขาคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเขาจึงรีบแฉลบตัวออกมาอีกฝั่ง 

ป่ายเม่ยเซิงมองซาหมั่นเฉิงที่ไม่มีสัจจะ จากนั้นก็ถอยไปข้างหลังทั้งตัวสามารถนั่งลงบนโต๊ะได้พอดี เขาก็เลยถือโอกาสนั่งลงไปเลย 

เมื่อเห็นกริชยิ่งเข้าใกล้ท้อง เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายและพูดยั่วเย้าออกมาว่า: 

“ช่างเป็นสาวงามที่มีเสน่ห์จริงๆ แถมยังมีความเผ็ดร้อนจากของคมๆอีก ยิ่งทำให้ข้าหลงเจ้าเข้าไปใหญ่”

เขาไม่สนใจต่ออันตรายที่เข้ามาได้ทุกเมื่อเลย

แต่! 

ก็ไม่กล้ารีบเข้าไปใกล้ 

“ข้าไปได้หรือยัง?” หลานเยาเยาเก็บมีดทหารกลับมา

“แต่ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้!” 

ชิ! 

เกินไป! 

แต่ก่อนรู้สึกว่าเขาไม่ลามกได้ยังไงกันนะ?

 

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset