บทที่ 162 หยิ่งผยองก้าวร้าว
“หึๆๆ เสด็จอาสะใภ้บอกว่าเขาไม่ป่วย? งั้นเสด็จอาสะใภ้ท่านต้องตรวจให้ชัดเจน” ไม่รอหลานเยาเยาพยักหน้าเห็นด้วย เย่หลีเฉินก็ได้สั่งให้คนนำผ้ามาชิ้นหนึ่งมา
วางผ้าชิ้นนั้นไว้บนมือของชายร่างเตี้ยวัยกลางคน ไหม้เกรียมและละลายด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทันที จากนั้นกลายเป็นผงสีดำ
“ตอนนี้เสด็จอาสะใภ้เห็นชัดเจนแล้วหรือยัง? ผ้าธรรมดาเพียงแค่สัมผัสผิวหนังของเขา ก็จะละลายเป็นผง เป็นขนาดนี้ ท่านยังบอกว่าเขาไม่ได้ป่วยหรือ?”
“ใช่ไง! ไม่ป่วยไง!” หลานเยาเยากล่าวอย่างจริงจัง
“ไม่ป่วย?” เย่หลีเฉินหัวเราะด้วยความโกรธทันที “งั้นเสด็จอาสะใภ้ท่านเคยรู้หรือไม่ ใครก็ตามที่เพียงแค่สัมผัสผิวหนังของเขาจะติดโรคประหลาดของเขา”
“รู้สิ!”
“รู้ ท่านยังบอกว่าเขาไม่ป่วย? เสด็จอาสะใภ้ หากไม่มีหมุดแข็งอันใช้เจาะทองก็อย่าทำงานโดยไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นรักษาชื่อเสียงไว้ไม่ได้ไม่ว่า ยังอาจจะเสี่ยงชีวิตถึงตายได้”
ขณะที่พูดประโยคนี้ เย่หลีเฉินราวกับเห็นสภาพของหลานเยาเยาที่รักษาชื่อเสียงไว้ไม่ได้ ถูกอ๋องเย่ทอดทิ้ง คุกเข่าอ้อนวอนตรงหน้าเขาแล้ว
ใครเล่าจะรู้……
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ดังนั้นนั่นเป็นเหตุผลที่ตัดเศษผ้าจากบนตัวเขา จับชีพจรผ่านผ้าที่กั้นไง!”
“อะ อะไรนะ?”
เย่หลีเฉินรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
เหมือนเมื่อครู่หลานเยาเยาจับชีพจรโดยขั้นด้วยเศษผ้าจริงๆ และผ้าชิ้นนั้น ก็ยังตัดออกจากตัวชายร่างเตี้ยวัยกลางคนผู้นั้นด้วย
เข้ารู้ว่า เสื้อผ้าของชายร่างเตี้ยวัยกลางคนผู้นั้นที่ได้รับพิษสั่งทำเป็นพิเศษ หลังจากใส่แล้วจะไม่ถูกสารพิษบนผิวหนังทำลาย
หรือว่าหลานเยาเยาจะรู้จริงๆ?
แต่ทำไมนางยังพูดว่าไม่ป่วย?
ความสงสัยในใจเขายังไม่ปะติดปะต่อจนจบสิ้น หลานเยาเยาก็ชี้นิ้วไปยังชายร่างเตี้ยวัยกลางคน จากนั้นเสียงที่ดังกังวานและชัดเจนดังขึ้น:
“เขา ได้รับพิษแปลกชนิดหนึ่ง รุนแรงและแปลก เลือดจะออกจากทวารทั้งเจ็ดถึงแก่ความตายหลังจากได้รับพิษสามวัน หลังจากตายไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม กระดูกก็จะสูญหายไป
พิษนี้จะไม่เข้าสู่อวัยวะภายในในเวลาอันสั้น จะติดเฉพาะบนผิวหนังของมนุษย์ ผู้ที่สัมผัสผิวหนังทุกคนจะติดพิษนี้
แต่เมื่อสารพิษเข้าสู่อวัยวะภายใน แม้ว่าจะมียาแก้พิษแต่ก็ไม่ช่วยอะไร
แต่!
ไม่เป็นไร ตัวเขาเองก็เป็นหมออยู่แล้ว ใช้พิษนี้มาทดสอบข้า จะต้องมียาแก้พิษพกติดตัวแน่นอน
ไม่เช่นนั้น หากไม่ระวังทำให้สารพิษล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะภายใน งั้นก็ได้ไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไป ดังนั้นข้าจึงบอกว่าเขาไม่ได้ป่วยและไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด”
เสียงของหลานเยาเยา เข้าหูของทุกคนทีละคำละคำ ช่วยไม่ได้ที่ทุกคนจะถูกดึงดูด
นางในเวลานี้ สีหน้าท่าทางเอาจริงเอาจัง สายตาที่เฉียบคม บุคลิกที่มองไม่เห็นอย่างหนึ่งแสดงออกมาทันที ราวกับว่าสามารถฉุดลมหายใจของผู้คนได้
สิ้นสุดคำพูด!
หลานเยาเยาเลียริมฝีปาก
รู้สึกกระหายน้ำแล้วสิ!
และแล้ว นางยกน้ำชาอุ่นขึ้น จิบเบาเบาคำหนึ่ง จากนั้นทำปากดัง “จ๊วบ ๆ”
“เจ้า ไม่ได้ป่วย แต่จงใจกินยาพิษ ทั้งที่รู้ว่าผิวหนังสัมผัสคนไม่ได้ แต่ไม่ได้รับการเตือนเมื่อข้ากำลังจับชีพจรให้เจ้า หากไม่ใช่เพราะข้ามีวิชาการรักษาที่ยอดเยี่ยม ก็จะต้องถูกเจ้าฆ่าตายหลังจากนี้สามวัน เจ้าควรได้รับโทษอย่างไรกัน?”
หลานเยาเยาจ้องชายร่างเตี้ยวัยกลางคนกล่าว ไม่ได้เสียงดัง แต่กลับทำให้ชายร่างเตี้ยวัยกลางคนมีคราบเหงื่อบนหน้าผาก “ติ๋งๆ ” หยดลงกับพื้นด้วยความตกใจ
จากนั้น……
คุกเข่าลงดัง “พรึบ”
“ข้าน้อยผิดไปแล้ว ได้โปรดพระชายาเย่ไว้ชีวิต! ข้าน้อยได้เตรียมยาถอนพิษไว้จำนวนมาก ลอบสังหารพระชายา เป็นเพียงแค่เกิดจากการคิดทดสอบ ได้โปรดพระชายาเย่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยข้อรับ!”
ชายร่างเตี้ยวัยกลางคนไม่โง่
ในขณะที่หลานเยาเยาจับชีพจรให้เขาผ่านแถบผ้า เขาสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ แต่เขาเป็นแค่คนรากหญ้า ต่ำต้อยคำพูดย่อมไม่มีน้ำหนัก ไม่กล้าที่จะพูดออกไป
ตอนนี้เรื่องราวถูกเปิดเผย ทำได้เพียงแค่คุกเข่าคำนับขอความเมตตาเท่านั้น
เย่หลีเฉินที่ตื่นจากอาการช็อก ดวงตามองหลานเยาเยาลึกลงไป ในใจรู้สึกสับสน
เขาจ้องมองไปที่ชายร่างเตี้ยวัยกลางคนที่คุกเข่าคำนับจนหัวมีเลือดไหล กล่าวขึ้นช้าๆ : “เจ้าไม่จำเป็นต้องทำให้เขาลำบากใจ ข้าให้เขาทำเช่นนั้นเอง”
โห!
ดูไม่ออกเลย เศษสวะนี่ยังมีความรับผิดชอบอีกด้วย
หึ แล้วยังไง?
ผู้ที่คิดไม่ดีต่อนาง นางจะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร?
“ดีมาก เจ้าเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ ให้คนวางยาพิษเสด็จอาสะใภ้ของตนเอง เมื่อฮ่องเต้ทราบเรื่องนี้แล้ว ตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทของเจ้า เกรงว่าคงต้องเปลี่ยนเจ้าของแล้วล่ะ?”
“เจ้าต้องการทำอะไร?”
เย่หลีเฉินมองไปที่ทุกคน
เขาคิดไม่ถึง ว่าหลานเยาเยาจะไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่นิด พูดคำเหล่านี้ออกมาต่อหน้าสาธารณชนในห้องท้องพระโรง แต่เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผย เขาจึงทำได้เพียงยอมถอย
“ความชอบของข้ามีไม่มากนัก แต่กับเรื่องตั๋วเงิน สิ่งของอร่อยและวัตถุดิบยาเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก ก็ดูว่าเจ้าจะให้อย่างไรละกัน!
แต่ข้าขอเตือนเจ้าคำหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ใช้เพื่อรักษาตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทของเจ้า ให้น้อยคงไม่ดีนะ!”
สำหรับผู้ที่ต้องการทำให้นางไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้อีกตลอดไปแล้วนั้น นางไม่เคยใจอ่อน
แต่!
เย่หลีเฉินผู้นี้ ตอนนี้นางทำอะไรเขาไม่ได้
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้นกับฮองเฮา ไม่สามารถทำอะไรกับตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทของเย่หลีเฉินได้ ข้อหาความผิดฐานพยายามฆ่าเสด็จอาสะใภ้ยังไม่ได้รับการกำหนดขึ้น จะทำให้เขาสูญเสียตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทได้อย่างไร?
ในเมื่อไม่สามารถทำอะไรกับตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทของเข้าได้ งั้นก็ขุดเลือดเนื้อเขาให้มากดีกว่า
สำหรับนางที่อยู่ต่อหน้าสาธารณะในท้องพระโรง ขอผลประโยชน์จากองค์ชายรัชทายาท ต่อหน้าทุกคน องค์ชายรัชทายาทก็คงเป็นเพียงราวกับคนใบ้กินอึ่งโน้ยขมแต่พูดไม่ออก
และเมื่อสัญญาออกจากปาก ก็ต้องทำตามที่พูด
แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ก็คงต้องทำเช่นนี้
“ได้!” คำนี้ แทบจะเลดลอดออกมาจากช่องระหว่างฟัน
เมื่อเย่หลีเฉินพูดว่าว่าได้ออกมา หลานเยาเยาก็หันไปมองชายร่างเตี้ยวัยกลางคนทันที สายตาดูเป็นมิตรมากขึ้น
“เรื่องระหว่างข้ากับองค์ชายรัชทายาทถือว่าจัดการเสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้ถึงตาพวกเจ้าแล้ว”
“พระชายาเย่เชิญพูด ขอแค่สิ่งที่ข้าน้อยสามารถทำได้ก็จะทำให้อย่างแน่นอนขอรับ” ชายร่างเตี้ยวัยกลางคนมองเห็นชีวิตมีความหวังอยู่ร่ำไร ขอแค่ไม่ตายก็พอ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไรแล้ว เจ้าเป็นหมอ ข้าก็เป็นหมอ เจ้าใช้พิษทดสอบข้า ข้าก็ใช้ยาทดสอบเจ้าด้วยเช่นกัน”
เมื่อพูดออกไป!
ชายร่างเตี้ยวัยกลางคนที่เพิ่งมีสีหน้าเลือดฝาดเมื่อครู่ กลับซีดอีกครั้งในชั่วขณะเดียว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มั่นใจในตัวเอง แต่เขารู้อย่างลึกซึ้ง วิชาการรักษาของพระชายาเย่สูงกว่าเขามาก หากนางใช้พิษขึ้นมา เขายังมีโอกาสรอดอีกหรือ?
ดูเหมือนจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เสียงของหลานเยาเยาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“กลัวอะไร? ข้าไปใช้พิษทำให้เจ้าตายหรอก อย่างมากก็แค่ทำให้เจ้าเป็นอัมพาตครึ่งซีกเท่านั้น”
มุมปากของทุกคนยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
นี่ไม่ได้คือสิ่งที่เรียกว่าควรอยู่เพื่อทนทุกข์หรือ?
ชายร่างเตี้ยวัยกลางคนก็ทำอะไรไม่ได้ เหลือบมองไปที่หานแสซึ่งนั่งอยู่ด้านหนึ่งและทำเมิน จึงทำได้เพียงก้มหน้าผงกศีรษะอย่างผิดหวัง
“เสี่ยวฮัว นำของที่ข้าให้เจ้าเตรียมมาได้แล้ว?”
“เอามาแล้ว คุณหนู!”
สิ่งนี้เตรียมเสร็จนานแล้ว เมื่อวานไม่ได้เอาออกมาใช้ วันนี้ได้นำออกมาใช้ประโยชน์แล้ว
ฮัวหยู่อันหยิบยาผงขวดเล็กๆ ออกมาโรยไปที่ชายร่างเตี้ยวัยกลางคน
ไม่นานยาผงก็ออกฤทธิ์
เห็นเพียงชายร่างเตี้ยวัยกลางคนเกาตรงนี้ เกาตรงนั้น ราวกับว่ามียุงบนตัวนับไม่ถ้วน กำลังกัดต่อยผิวของเขา
“คัน……ฮ่าๆ …….คันเหลือเกิน! คือผงคัน ฮ่าๆๆ ……ก็คือผงคัน……”