บทที่ 180 ถูกเอาเปรียบ
เพียงแต่……
ตาบ้า คนเฮงซวย เย่แจ๋หยิ่ง ข้าจะโถลกหนังของท่าน
ไม่เพียงแต่หลงกลของท่านชายหยิ่ง ยังจะถูกเย่แจ๋หยิ่งหักหลังอีก
จนตอนนี้หลานเยาเยาโมโหจนปอดแทบจะระเบิดออกมาแล้ว แต่ไม่ว่าจะโมโหยังไง นางต้องเปลี่ยนความเศร้าโศกและแรงโกรธ ไว้ต่อสู้กับผู้คุมที่กำลังพุ่งเข้ามาดีกว่า
เดิมทีนางไม่อยากจะลงมือฆ่าผู้ใด แต่คนเหล่านั้นกลับฟันมีดเข้ามาหวังจะปลิดชีวิตนาง นางจึงต้องหยิบกริชออกมาแล้วแทงไปยังจุดสำคัญของพวกเขา
แม้จะไม่สามารถตายลงได้ในการแทงครั้งเดียว
เพียงแค่ถูกกริชแทง พิษก็จะแพร่ไปยังภายในอย่างรวดเร็ว ไม่เกินสามวินาที พวกเขาก็จะล้มลงกับพื้นแล้วตายในที่สุด
แน่นอน!
ว่าคนที่นางสามารถฆ่าให้ตายในไม่กี่วิ นั้นเป็นเพียงผู้คุมที่มีวรยุทธ์ขั้นต่ำของเรือแห่งความสิ้นหวัง ถึงแม้วรยุทธ์ของพวกเขาจะอ่อน แต่หากขึ้นไปประลองบนเวที ก็สามารถฆ่าคนได้จำนวนไม่น้อยเช่นกัน
และสิ่งที่สำคัญก็คือพวกเขามีจำนวนเยอะ จึงยากต่อการรับมือ
แล้วเหตุใดหลานเยาเยาถึงฆ่าพวกเขาได้ในไม่กี่วิเล่า?
นี่ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วของนาง การลงมือรุนแรง และยาพิษที่มีประสิทธิภาพ
เพียงพริบตาเดียวก็สามารถฆ่าได้ห้าหกคน ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บก็ตกอยู่ในสภาพอันตราย แต่นางรู้ว่าตัวเองไม่สามารถต่อสู้ไปเรื่อยๆ มิเช่นนั้นหากไปดึงดูดผู้ที่เก่งกาจเข้ามา นางจะสู้ไม่ไหว
ในตอนนี้เรือแห่งความสิ้นหวังอยู่ห่างจากชายฝั่งไม่เกินสองร้อยเมตรแล้ว หลานเยาเยากำลังลังเลว่าจะกระโดดหรือไม่กระโดดลงทะเลอยู่นั้น ก็มองเห็นป่ายเม่ยเซิง ซาหมั่นเฉิงและหมุ่นชายชุดเขียวปรากฏตัวเข้ามาในห้องอย่างกระทันหัน
ยังต้องลังเลอะไรอีก?
กระโดดลงทะเลเลย
“บุ้ม……”
หลานเยาเยากระโดดลงไปในทะเล ทั้งสามที่เห็นเช่นนั้นก็วิ่งมายังหน้าต่าง
ป่ายเม่ยเซิงหรี่ตาลง ไม่พูดสิ่งใดก็กระโดดลงไปในทะเลทันที หมุ่นชายชุดเขียวเองก็ก้าวไปที่หน้าต่างทันที กำลังเตรียมตัวจะกระโดดลงไป แตากลับถูกซาหมั่นเฉิงที่กำลังหน้านิ่งห้ามเอาไว้ก่อน
“ท่านจะทำอะไร?”
“แค่ป่ายเม่ยเซิงก็พอแล้ว เจ้าจะไปทำไม?”ซาหมั่นเฉิงเหล่ตามองเขา
“เขา?ก็เขาเป็นหนถ่มเจ้าสำราญ หากมิใช่เขาจะร้อนรนถึงเพียงนี้รึ?ไปหลงความงามของพระชายาเย่เจ้า ?ต่อให้จับได้ แล้วถูกนางหว่านล้อม จะไม่ยอมปล่อยไปอย่างว่าง่ายหรือไง?”
สำหรับนิสัยของป่ายเม่ยเซิง หมุ่นชายชุดเขียวก็รู้สึกเย้ยหยัน
ถ้าเกิดว่าให้ป่ายเม่ยเซิงไปตามล่าผู้ชายคนหนึ่ง เขาเชื่อได้เลยว่า ป่ายเม่ยเซิงจะทำมันอย่างรุนแรงและโหดร้ายกว่าผู้ใด อีกทั้งคนที่ถูกจับกลับมารับรองได้เลยเขาจะเหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
แต่เป็นผู้หญิง……
เหอะ!
ช่างเถอะ!
“นางเป็นหญิงมีสามีแล้ว”ซาหมั่นเฉิงกล่าวขึ้น
“เขาจะยังสนใจสิ่งนี้งั้นรึ?”
เรื่องนี้หมุ่นชายชุดเขียวไม่รู้เรื่องจริงๆ จึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่เคยกระโดดทะเลมาก่อน
แล้วดวงตาของซาหมั่นเฉิงก็ปรากฎรอยยิ้มที่ไม่ทราบความหมายออกมา
และในตอนนี้หลานเยาเยาที่อยู่ในน้ำ ในขณะที่ลอยตัวอยู่ในท้องทะเลก็ถูกปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็น แต่นางไม่สามารถที่จะหยุดลงได้ แล้วพยายามว่ายน้ำไปยังชายฝั่งด้วยความเร็ว
เพราะนางรู้แล้วว่ามีคนกระโดดน้ำลงมาเพื่อจับนาง
คนของท่านชายหยิ่งที่ใช้ชีวิตอยู่บนเรือตลอดทั้งปี ก็คงจะคุ้นชินกับน้ำมากแล้ว นางจะประมาทไม่ได้
เพียงแต่ว่า……
ว่ายไปๆ นางก็ขึ้นมาสูดอากาศก่อนจะเข้าดิ่งลงน้ำอีกครั้ง
นางก็ถึงกับตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทันที
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ป่ายเม่ยเซิงมาปรากฏตัวอยู่มาข้างล่างของนาง แล้วยังจะทำเป็นหน้านิ่งสงบประจันหน้ากับนาง ก่อนที่มุมปากจะยิ้มขึ้นมา สีหน้านั้นให้พูดว่าสุดยอดแค่ไหนก็จะสุดยอดแบบนั้น
หากไม่รู้ก็คงคิดว่าเขามาว่ายน้ำเป็นเพื่อนนางแล้ว !
และแล้ว!
นางก็เร่งความเร็วอีกครั้ง……
น่าเสียดายที่นางใช้พลังจนหมดแรงแล้ว สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเจ้าคนทะลึ่งนั่น
หมดหนทางแล้ว ใครใช้ให้เขาคุ้นชินกับน้ำมากกว่านางเล่า!
เพียงว่ายไปว่ายมา เจ้าทะลึ่งนั่นก็อยู่ไม่สุข จากที่เดิมทีก็ยังผ่อนคลายอยู่ คนช่างเปิดเผยอย่างเขาก็ถอดเสื้อผ้าออก
แล้วยังจะเข้าใกล้นางมากขึ้นอีก ทั้งลูบหน้าและเอวของนางราวกับว่าอยากจะฉีกเสื้อผ้านางทิ้งเสีย
ทันใดนั้นหลานเยาเยาก็เดือดขึ้นมาทันที
หากจะสู้ก็สู้กันในน้ำนี้สักตั้ง จะมารังแกที่นางด้อยเรื่องน้ำ จ้องแต่จะเอาเปรียบ ในสมองของเจ้าทะลึ่งนี่มีแต่หนังรักโรแมนติกหรือไงกัน?
อย่าให้นางขึ้นฝั่งได้ มิเช่นนั้นจะโถลกหนังเขาออกมาไม่เป็นชิ้นดีแน่
ราวกับว่าป่ายเม่ยเซิงจะรู้ถึงความคิดของนาง จึงเอื้อมมือไปจับเท้าของนางเอาไว้ แล้วดึงเข้ามาก่อนจะกอดแผ่นหลังนางเอาไว้
ทั้งยังจับมือของนางเอาไว้แน่น ไม่ว่านางจะดิ้นรนอย่างไรเขาก็ไม่ยอมปล่อยมือ แล้วทั้งสองก็ค่อยๆจมลงไปแบบนี้…..
นี่เขาอยากไปตายกับนางหรือไงกันนะ?
หัวของเขาได้รับการกระแทกแล้วมั้ง!
ในตอนที่นางระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้อีกต่อไป ป่ายเม่ยเซิงก็ดึงนางหันเข้ามา พร้อมกับจับมือและขาของนางไว้แน่น เขาก็มุ่ยคิ้วและยิ้มออกมา
ราวกับกำลังจะพูดว่า
มาจูบข้าสิ แล้วข้าจะมอบอากาศให้กับเจ้า
ดูแล้ว!
ความเจ้าเล่ห์ก็ประกายวับในแววตาของหลานเยาเยา จากนางก็เบะปากก่อนที่จะพุ่งเข้าไปจูบป่ายเม่ยเซิง
เพียงแต่ยังไม่ทันได้สัมผัสกับริมฝีปากของเขา นางก็ใช้หัวกระแทกเข้าไปยังหัวของเขา ป่ายเม่ยเซิงที่ถูกกระแทกจนหน้าบิดเข้าหากัน แต่เขากลับไม่โกรธเลยสักนิด อีกทั้งยังรู้สึกว่ามันช่างน่าสนใจมากขึ้นอีก
ในขณะที่แรงของป่ายเม่ยเซิงผ่อนลง หลานเยาเยาก็ผลักตัวออกจากอ้อมแขนของเขา แต่นางก็สำลักน้ำทะเลไปหลายอึก จึงทำให้ว่ายน้ำมาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ เท้าก็ถูกเจ้าทะลึ่งนั่นจับเอาไว้อีกครั้ง
ดวงตาของหลานเยาเยาก็เป็นแหลมคมขึ้นมาทันที มีดอาบยาพิษที่ถูกเก็บไว้ในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บก็ปรากฏขึ้นมาในมือของนาง นางหันหลังอย่างไม่ลังเล แล้วแทงไปยังป่ายเม่ยเซิงโดยตรง
ป่ายเม่ยเซิงถึงกับตกใจ
รอยยิ้มบนใบหน้าจางหายไปทันที แต่จะชักมือกลับก็คงไม่ทันแล้ว เพราะหลังมือโดนบาดเข้าไปแผลหนึ่ง
เมื่อรู้สาเหตุการตายของเหล่าผู้คุมบนเรือ เขาก็หยิบยาถอนพิษออกมาจากเข็มขัดรัดเอวออกมาแล้วกลืนลงไป
แอบโชคดี โชคดีที่เขาไม่ได้ถอดกางเกงด้วย
ไม่เช่นนั้นวันนี้ก็คงจะถูกฝังลงทะเลแน่นอน
ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นว่านางหายตัวไปแล้ว ทันใดนั้นก็รู้สึกเสียดายทันที
อีกนิดเดียวก็จะได้จูบแล้ว น่าเสียดาย……
……
“แม้ข้าจะเป็นหญิงงามดั่งดอกไม้ แต่ก็ใช่ว่าเจ้าอยากได้แล้วจะได้ ”
“เจ้าคนทะลึ่ง อย่าให้ข้าเห็นเจ้าอีก ไม่เช่นนั่นข้าจะใช้ยาพิษกับเจ้า ต่อให้ตายก็ไม่ปล่อย”
หลานเยาเยาที่ขึ้นมายังฝั่ง เมื่อเห็นว่ากริชอาบยาพิษลอยหายไปในทะเล ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวสาปแช่ง
“ผู้ใดเอาเปรียบเจ้าแล้ว?”
เสียงทุ้มแต่เย็นชาดังแทรกขึ้นมา หลานเยาเยาไม่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองก็รู้ว่าเสียงนี้เป็นของผู้ใด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมากลอกตาใส่เย่แจ๋หยิ่ง
แต่ไม่พูดสิ่งใดเลยสักคำ เอาแต่บิดเสื้อผ้าที่เปียกปอน พลางเดินหลีกออกจากเขา ค่อยๆเดินไปข้างหน้า
“เป็นผู้ใดกันแน่?”
เสียงที่โมโหเล็กน้อยของเย่แจ๋หยิ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“เขาคงน่าจะยังอยู่ในน้ำ อยากรู้ท่านก็ลงไปหาเอง!”
หลานเยาเยายักไหล พูดไปด้วยความอารมณ์เสีย เหอะ! ก็พวกเดียวกัน
นางไม่เชื่อว่าเย่แจ๋หยิ่งจะลงไปหาในทะเล
ฮื้ม ใช้ประโยชน์จากนางแล้ว ยังจะมาแสร้งเป็นหึงหวงอีก
นางไม่มีทางหลงกลหรอก
ใครจะรู้ว่า……
เพียงได้เสียง “บุ่ม” ในขณะที่หลานเยาเยาหันหลังกลับไป ก็ไม่เห็นร่างของเย่แจ๋หยิ่งแล้ว มองเห็นเพียงคลื่นในทะเลขยับเป็นวง
เอ่อ!
กระโดดลงน้ำจรหรอเนี่ย?
ไม่หรอกมั้ง!นางก็แค่พูดไปแค่นั้น ไม่ได้อยากให้เขาลงไปหาในทะเลเสียหน่อย
หมอนี่……
ต่อมา!
ป่ายเม่ยเซิงที่ยังอยู่ในน้ำ ก็กลับขึ้นไปยังเรือแห่งความสิ้นหวัง แต่กลับรับรู้ถึงแรงกดดันอันมหาศาล ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ถูกรุมกระทืบเสียแล้ว